คิดค่าเสียหายเป็นน้ำ
“…อ๊าส์~” เสียงครวญครางด้วยความเสียวซ่านประสานกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อยังดังต่อเนื่อง หลังจากที่เสียงขับเคลื่อนอยู่ภายในห้องชุดหรูนับสองชั่วโมงเต็มเห็นจะได้
ครั้งแรกที่ได้รู้ว่าเจ็บแสบแค่ไหนถูกความเสียวซ่านและความสุขสมเติมเต็มจนยากจะต่อต้าน
ใบหน้างดงามไม่ต่างจากตุ๊กตามีชีวิตเชิดขึ้น ผมยาวสลวยที่อีกคนสัมผัสมาแล้วว่านุ่มและหอมแค่ไหนสยายไปตามลมของไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศและแรงกระทั้นกระแทก กลีบปากเอิบอิ่มเผยอขึ้น จังหวะที่เชิดใบหน้า เห็นชัดว่าบริเวณลำคอระหงมีรอยขบเม้ม เป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าคนทั้งคู่มีความสุขกันมากแค่ไหน
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่สุขสม จนกระทั่งท้องฟ้านอกผนังกระจกกั้นของเพนต์เฮาส์หรูกำลังเปลี่ยนสี เฉกเช่นชีวิตของคนบนเตียงที่กำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
หลายชั่วโมงต่อมา
“…อื้ออ~” ข้าวฟ่างหลุดเสียงครางในลำคออย่างแผ่วเบาเมื่อจังหวะที่เริ่มขยับกาย สัมผัสได้ว่ามันปวดเมื่อยไปหมดจนคิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากัน
สมองกำลังประมวลเหตุการณ์ของค่ำคืนที่ผ่านมา ปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆ ที่อยู่กันเฉพาะกลุ่มเพื่อนเท่านั้น จำได้ลางๆ ว่าดื่มหนักไปหน่อย ไม่แปลกถ้าจะเมา แต่เอ๊ะ! ถึงเมาแค่ไหนมันก็ไม่เคยรู้สึกปวดเมื่อย และเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้นี่นา
เปลือกตาบางค่อยๆ ขยับเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า ตากลมใสกลอกกลิ้งไปมาก่อนที่คิ้วสวยได้รูปจะค่อยๆ ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง
สิ่งที่เห็นเบื้องหน้าไม่คุ้นตา จู่ๆ มือก็เริ่มขยับ พอขยับปุ๊บ ก็แตะโดนเนื้ออุ่นๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นแขนของมนุษย์
แขนที่พาดอยู่บนตัวเธอ บริเวณลำคอเหมือนมีลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดอยู่ใกล้ๆ แค่คิดจังหวะการเต้นของหัวใจก็เริ่มแรงขึ้น
อย่าบอกนะว่า…
คำตอบคือใช่! มันใช่แน่ๆ เพราะตอนที่มือเรียวคว้าหมับที่ท่อนแขนแกร่งและยกขึ้น ผิวขาว แขนใหญ่กว่าแขนเธอมาก ลมหายใจเข้าออกเริ่มแรงขึ้นกว่าเก่าเมื่อเริ่มรู้แล้วว่าเมื่อคืนมีเรื่องผิดพลาด
เจ้าของหัวใจที่เริ่มเต้นแรงสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ ก่อนจะตัดสินใจครั้งเดียวด้วยการปัดแขนนั้นทิ้ง ขยับตัวขึ้นแล้วตวัดสายตาไปมองทันที
“เฮือก!” ตามสัญชาตญาณของคนที่ห่วงภาพลักษณ์ กลัวการเป็นข่าว กลัวการตกอยู่ในสายตาของคนเวลาอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ส่งผลให้มือขาวผ่องยกขึ้นปิดปาก ตากลมเบิกโพลง มองใครบางคนที่นอนอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันด้วยความตกใจสุดขีด
แทบอยากจะกรี้ดออกมาจนสุดเสียง เป็นจังหวะที่อีกฝ่ายเริ่มรู้สึกตัว
“ตื่นแล้วเหรอ” คำทักทายประโยคแรกไม่ต่างจากกำปั้นหนักๆ ที่ทุบลงมากลางใจ
ถามแบบนี้แปลว่าอะไร แปลว่ารู้ทุกอย่าง จำได้ทุกเรื่อง แบบนั้นใช่ไหม!
“ทำไมเราสองคนถึงมาอยู่ตรงนี้ เมื่อคืนนี้เรา…” จะถามตรงๆ ก็กระดากปาก ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยคำนั้น เพราะนี่มันเป็นครั้งแรกของเธอ
ครั้งแรกของข้าวฟ่าง คนที่แจ้งเกิดด้วยการเล่นเอ็มวีเพลง และกำลังมีละครหลายต่อหลายเรื่องที่กำลังถ่ายทำอยู่ในตอนนี้
ก็ไม่ได้โด่งดังอะไรมาก เพราะทุกอย่างมันยังอยู่ในจุดเริ่มต้น แล้วเวรกรรมตั้งแต่ชาติปางไหน ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้
“มีอะไรกันไง เธอจำไม่ได้?”
“ไม่ จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง” ดาราสาวสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมเรือนร่างของตัวเองเอาไว้ก่อนจะรีบหันไปตกลงกับอีกฝ่ายทันที
“ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นซะ ฉันจำมันไม่ได้ ฉันเมามาก”
“แต่ผมจำได้นะ จำได้ทุกอย่าง ยิ่งตอนที่คุณอยู่บนตัวผม…”
“ไม่ๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
“ทำไมล่ะ เมื่อคุณจำมันไม่ได้ ผมก็จะเล่าให้คุณฟังไง”
“ไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ฉันเมามาก เมาแบบที่จำอะไรไม่ได้เลย คุณลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ไปซะ ลืมทุกอย่าง คิดซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย” มุมปากของคนฟังยกยิ้มก่อนที่เขาจะเบือนหน้าออกไปอีกทาง
แปลว่าอะไร แปลว่าไม่อยากลืมเหรอ? หรือเห็นเธอสวยเลยไม่อยากปล่อยเธอไป หรือเพราะจำได้ว่าเธอเป็นใคร รู้ว่าเธอเป็นดาราแบบนั้นใช่ไหม!
“คุณต้องการเท่าไหร่?” ยื่นข้อเสนอออกไปตรงๆ ถึงยังไงซะก็จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด เธอไม่ยอม!
“จ่ายไหวเหรอครับ” ถามกลับพร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วใบหน้า มองตากลมสวยมีเสน่ห์ มองปากเป็นรูปกระจับ มองจมูกเชิดๆ น่ารักน่าชัง มองสรีระบนใบหน้าที่สวยราวกับตุ๊กตามีชีวิต แต่เหมือนจะไม่มีหัวใจ
“คุณอยากได้เท่าไหร่ ฉันจะโอนจ่ายให้คุณเดี๋ยวนี้เลย” ดาราสาวหมุนตัวกลับไปทางเดิม คว้ากระเป๋าสะพายข้างมาล้วงหาโทรศัพท์มือถือและเข้าแอปพลิเคชันธนาคารเตรียมโอนทันที
“คุณอยากได้เท่าไหร่บอกมาเลย แต่คุณต้องรับปากว่าได้เงินแล้วทุกอย่างจะจบ ห้ามพูดเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด สักคนก็ห้าม”
“ผมคิดค่าเสียหายเป็นน้ำละกันนะครับ”
“น้ำ?” ฟังดูทะแม่งๆ ไหนจะคำว่าค่าเสียหายของเขาอีก หน้าตาเขาก็ดี จัดว่าหล่อเลยทีเดียว คำพูดคำจาก็เพราะ แต่ก็เอาล่ะ นี่มันไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาชมเขา เพราะตอนนี้เรากำลังทำข้อตกลงร่วมกัน
“ครับ ผมคิดค่าเสียหายเป็นน้ำ เมื่อคืนเรามีอะไรกันสามครั้ง ผมโดนคุณรีดน้ำสามยก ผมเอาจากคุณสามล้านละกัน”
“สามล้าน!” บ้า! บ้ามาก บ้าบอที่สุด มันเกินไปแล้ว
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ แบบนี้มันเรียกปล้นกันชัดๆ”
“ปล้น? ผมน่ะเหรอปล้นคุณ ที่นี่ห้องผม เพนต์เฮาส์ติดแม่น้ำชั้นสูงสุด วิวดีที่สุด คุณมาค้างห้องผม แค่ค่าห้องที่คุณใช้หลับนอนกับผม คืนเดียวก็ปาไปหลายแสนแล้ว อะไรทำให้คุณคิดว่าคนอย่างผมจะปล้นคุณ”
เพนต์เฮาส์ติดแม่น้ำชั้นสูงสุด? วิวดีที่สุด? เป็นของเขาน่ะเหรอ!
ใครว่าคนอย่างข้าวฟ่างหลอกง่าย แล้วคิดว่าจะหลอกยังไงก็ได้ ไม่มีทาง!
แขนเรียวโอบรัดผ้าห่มหนาคลุมกายก่อนจะก้าวขาลงจากเตียง เจ็บแปล๊บๆ ที่กลางกายแต่ฝืนกัดฟัน ตรงไปยังผนังกระจกกั้น ตากลมถึงกับเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าวิวด้านนอกเป็นแม่น้ำ แม่น้ำที่ใหญ่มากและกว้างมาก เปรียบเสมือนตอนนี้เธออยู่บนสวรรค์ ทุกอย่างมันดีเหลือเกิน
“คุณพร้อมจะโอนเงินให้ผมหรือยังครับ เงินสามล้านที่ผมควรได้ แค่นี้มันยังน้อยไป” หันขวับกลับไปมองทันที
ถอยหลังเกือบไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายลงจากเตียงแล้ว และตอนนี้เขาก็ยืนอยู่ด้านหลังเธอ ช่วงล่างพันผ้าขนหนูพอหมิ่นเหม่ เปลือยอก อวดมัดกล้ามเป็นลอน เปรียบดังหุ่นและผิวของนายแบบหรือดาราดังๆ ไหนจะใบหน้าที่หล่อเหลาราวฟ้าประทาน เกินไปมาก แทบอยากจะนึกว่าตอนนี้เธอกำลังฝันไป
“ที่คุณขออ่ะ มันมากเกินไป”
“แปลว่าคุณจะไม่จ่าย?” ไม่มีจ่ายโว้ย! เงินตั้งสามล้าน จะให้ไปหาที่ไหนมาให้กันล่ะ เธอไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้นนะ
“ฉันให้คุณได้สามหมื่น” ต่อรองพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น ทว่าอีกฝ่ายเค้นเสียงหัวเราะออกมาทันที
“จากสามล้าน หรือสามหมื่น คุณขอลดเยอะเกินไปไหม?”
“ก็ฉัน…”
“ผมไม่ลดให้ ผมเหนื่อยมาก เสียน้ำไปกับคุณก็เยอะ อีกอย่าง… ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่เอาลูกของผมติดท้องคุณไป”
————————-
กรี้ดดดดด แพ้พระเอกพูดครับ 5555555555 คลอดตอนแรกแล้ว ชอบกันไหมคะ ถ้าชอบฝากกดไลก์และคอมเมนต์รัวๆ หน่อยนะคะ อ้อนๆ 🥺