EP 1 ยัยเด็กใจแตก

1218 Words
อิสรภาพหันมามองผู้ใหญ่ทั้งสองเหลอหลา ก่อนลุกเดินมาซุกตัวนั่งข้างบิดาราวกับหวาดกลัวว่าอาจถูกพรากจากบุพการีที่เหลือเพียงคนเดียวไปจริงๆ “คุณแม่ครับ...” พันธนาการถอนหายใจยาว ก่อนหันมองลูกชายตัวน้อยและวางมือลงบนศีรษะเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยเรือนผมอ่อนนุ่มสีดำสนิทอย่างแสนรัก เขาทราบดีว่าหากเพ็ญพรบังคับจะพรากลูกชายไป เขาเองก็คงไม่มีกำลังจะไปต่อกรกับผู้มีพระคุณที่เขาเคารพรักได้ ทุกวันนี้ที่ท่านอนุญาตให้อิสรภาพอยู่ในความดูแลของเขาทั้งที่คุณหญิงเป็นห่วงหลานชายซึ่งสุขภาพอ่อนแอแต่แบเบาะไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ ก็ถือเป็นบุญคุณต่อกันแบบที่เขาไม่อาจตอบแทนได้หมดอยู่แล้ว “หนูมนเป็นคนดี แม่มั่นใจ” คุณหญิงย้ำอีกครั้งอย่างหนักแน่นทั้งสีหน้า แววตา และน้ำเสียง เสียจนพันธนาการได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ดีนักดีหนา... แต่ถ่ายหนังโป๊เนี่ยนะ ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง... เขารู้สึกราวกับว่าลมหายใจของตัวเองอาจจะแห้งเหือดหมดไปในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า หากยังยุติเรื่องบ้าๆ นี่ไม่ได้ อันที่จริงพันธนาการทราบดีว่าถึงเวลาจ้างพยาบาลมาดูแลบุตรชายแล้ว เขาจึงเอ่ยปากชวนพยาบาลเก่าแก่ที่ร่วมงานกันมานานจนรู้ใจไว้หลายคนอยู่เหมือนกัน “ผมรู้จักพยาบาลเก่งๆ หลายคนที่อายุงานมากพอ คุณแม่ก็รู้จักทั้งคุณยาใจ คุณนงลักษณ์ คุณ...” “โอ๊ย! ไม่ไหวหรอกแม่พวกนั้น” คุณหญิงขัดขึ้นพลางสะบัดมือไปมาอย่างหัวเสีย “จะเกษียณกันอยู่แล้วรอมร่อ ให้มาวิ่งไล่จับเด็กก็หมดแรงกันพอดี พันอย่าลืมสิว่าถ้าจะให้ดีเราต้องจ้างคนที่เป็นได้ทั้งพยาบาล พี่เลี้ยง และครูสอนพิเศษ ให้คนแก่มาอยู่ดูแล ตาอิฐของแม่ก็เบื่อตายชัก... ว่าไง ตาอิฐ เราน่ะอยากได้พยาบาลส่วนตัวแบบไหน เอาแบบพยาบาลสาวสวยใจดี หรือพยาบาลแก่ที่เอาแต่บ่นๆ ไม่ให้ดูทีวีกันล่ะ” เพ็ญพรโน้มหน้าลงถามหลานชายด้วยประกายตาแพรวพราวหลุกหลิก ส่งสัญญาณให้หลานคนโปรดรับรู้ว่าจงเข้าข้างตนเดี๋ยวนี้ ยายขอร้อง... “สวยๆ ใจดีๆ แบบพี่มนคับ!” เด็กชายยกมือผอมบางขึ้นสูงเป็นการยืนยันว่าอยากได้พยาบาลคุณสมบัติตามที่บอกด้วยความยินดียิ่งโดยไม่ต้องบังคับเลยสักนิด “รู้ได้ไงว่าเขาใจดี” คนเป็นพ่อเอ่ยถาม คิ้มเข้มขมวดแน่นจนแทบพันกันอย่างหงุดหงิด “ก็ในทีวี” เด็กชายเงยหน้าขึ้นมองบิดาพร้อมกับยิ้มอวดฟันน้ำนมขาวปลอด “พี่มนเป็นคนดี๊คนดี แถมยังโดนคนเลวรังแกอีก น่าสงสารออกคับ!” พันธนาการยกมือขึ้นกุมขมับอย่างปวดตับเหลือจะกล่าว ลืมไปได้อย่างไรว่าลูกชายเขาเพิ่งดูละครเก่าของมนตราจบไป ละครเรื่องนั้นมนตรารับบทบาทเป็นนางเอกผู้น่าสงสาร ถูกกระทำรังแกต่างๆ นานา โดยคนรอบข้าง เขาเองก็นั่งดูกับลูกชายด้วยบางครั้ง ยังอดคิดไม่ได้เลยว่าคนบ้าอะไรจะตกอยู่ในชะตากรรมอเนจอนาถ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดได้ไม่มีหยุดหย่อนปานนั้น “ว่ายังไงพัน” คุณหญิงเริ่มต้นกดดันลูกเขยอีกครั้ง “ลูกเรายังคิดแบบแม่เลย ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ปลูกอู่ตามใจผู้นอน เคยได้ยินไหม” ชายหนุ่มมองสบตาวาววามแกมบังคับของคุณแม่ของภรรยา ก่อนก้มลงมองตาแป๋วๆ ไร้เดียงสาของบุตรชาย แล้วก็เป็นอันต้องยอมจำนนอย่างช่วยไม่ได้ “ครับ... ถ้าคุณแม่ยืนยันแบบนั้น ผมก็ไม่มีอะไรจะขัดแล้วละครับ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกให้จบๆ ไป พร้อมกับกอดไหล่ลูกชายไว้หลวมๆ อย่างเบาใจว่าอย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมาพรากลูกเขาไปจากบ้านหลังนี้ได้ หากแต่ในสมองกำลังครุ่นคิดกังวลถึงหญิงสาวที่จะก้าวเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ ในฐานะพยาบาลส่วนตัวของอิสรภาพ ลูกชายคนเดียวของตน มนตรา... ยัยเด็กใจแตกนั่นจะทำให้ลูกเขาเสียคนไปด้วยหรือเปล่า ก็ไม่รู้ “ดีจริง! ถ้าอย่างนั้นแม่จะโทรบอกคุณมาลินีให้เขาส่งหนูมนมาเย็นนี้เลย” บอกแล้วก็ชะงัก เพราะพันธนาการเลิกคิ้วอย่างสงสัยว่าคนชื่อมาลินีนี่ใครกันอีก “อ้อ คุณมาลินีเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของแม่เอง เป็นคุณแม่ของหนูมนน่ะจ้ะ” มาถึงตรงนี้พันธนาการก็ร้องอ๋ออยู่ในใจ ลูกสาวของเพื่อนคุณหญิงนี่เองเล่า มิน่าถึงไว้อกไว้ใจกันซะจริงทั้งที่มีข่าวเสียหายถึงเพียงนั้น ท่านก็ยังหมายมั่นให้มาดูแลหลานชายสุดรักแบบนี้ “คุณมนเรียนจบพยาบาลมาเหรอครับคุณแม่” ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกอย่างไม่วางใจว่าหญิงสาวที่อยู่ในหัวข้อสนทนาจะเลือกเรียนพยาบาล อาชีพที่ต้องใช้ใจรักและอุทิศตนทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด ทั้งยังต้องรองรับอารมณ์แปรปรวนของคนไข้บางรายอย่างใจเย็นและมีสติ ดาราอื้อฉาวแบบมนตราที่ถูกคนตราหน้าไปทั้งประเทศ จะมีคุณสมบัติรับมือสิ่งเหล่านี้ได้จริงหรือ เขาคนหนึ่งละที่ไม่อยากจะเชื่อ! “ช่าย” คุณหญิงลากเสียงยาวอย่างอารมณ์ดี ขณะยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบ แล้ววางลงที่เก่า “แต่พอดีจับพลัดจับผลูได้เข้าวงการตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยโน่นแน่ะ หนูมนน่ะเขาเก่ง ถึงทำงานในวงการบันเทิงก็เรียนจบพร้อมเพื่อนร่วมรุ่น แถมการันตีได้ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเชียวนะพัน ตอนที่มีข่าว... หนูมนก็เรียนจบพอดีนั่นแหละ และสองปีที่ออกจากวงการมาก็ไปทำงานหลายโรงพยาบาลอยู่นะ แต่อยู่ไม่ยืดสักที่ น่าสงสาร โรงพยาบาลล่าสุดที่เพิ่งลาออกมาก็... โรงพยาบาลวรรณลภย์ละมั้ง” น่าสงสาร... แค่คำเดียวที่หลุดออกมาจากปากคุณหญิงก็บอกทุกสิ่งได้กระจ่าง พันธนาการทราบดีว่าเนื้อแท้ในใจของหญิงสูงวัยผู้นี้บริสุทธิ์ผุดผ่องดั่ง ทองคำ ไม่แผกจากภรรยาที่หายสาบสูญไปของเขาเลยสักนิด... มิเช่นนั้นเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน ท่านจะยอมรับนักศึกษาแพทย์ปีสี่ที่มิได้มีความไฮโซโก้หรูหรือนามสกุลเก่าแก่เช่นเขา ให้คบหาดูใจกับ ‘แพรธารา’ บุตรสาวคนเล็กที่ท่านเลี้ยงดูมาอย่างไข่ในหิน กระทั่งได้แต่งงานและมีโซ่ทองคล้องใจนั่งแอบอิง ซบไหล่เขาอยู่เช่นนี้หรือ แต่บางครั้ง เขาก็มองว่าท่านมองโลกในแง่ดีเกินไป เสียจนอาจถูกหลอกลวงได้โดยง่าย่ “ยังเช้าอยู่เลย” คุณหญิงก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนคว้ากระเป๋าขึ้นคล้องแขนและเงยหน้าขึ้นยิ้มให้พันธนาการอย่างผ่อนคลาย “แม่จะไปรับหนูมนมาที่นี่ด้วยตัวเองแล้วกัน ไปก่อนนะจ๊ะอิฐ แล้วเดี๋ยววันนี้ยายจะกลับมาทานข้าวเย็นด้วยนะลูก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD