ไร้หัวใจ ตอนที่ 1

1916 Words
ภายในรถที่แอร์เปิดเย็นฉ่ำ คนนั่งด้านข้างจึงยิ่งหนาวสั่นทวีคูณ เสื้อผ้าของเธอก็เปียกชื้นเพราะโดนละอองฝนตอนที่อยู่ในศาลา ณัฏฐนิชกอดตัวเองตัวสั่นเทาจนผล็อยหลับไปเพราะพิษไข้รุมเร้าหนักขึ้นทุกขณะ เนื้อตัวร้อนผ่าวดั่งไฟลน อคิราห์ขับรถมุ่งตรงลงทางภาคใต้ของประเทศไทยจุดมุ่งหมายคือเกาะสมุยที่ซึ่งอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นั่นเขาทำธุรกิจโรงแรมอยู่แห่งหนึ่งและเป็นสถานที่ที่เขาไม่เคยพาเพียงอัปสรมาเลยเนื่องจากเธอไม่ชอบการเดินทางไปยังที่ไกลๆ จึงเป็นเหตุผลที่พาณัฏฐนิชมายังสถานที่แห่งนี้ เพราะเขาจะไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงคนนี้ย่ำกรายที่ไหนก็ตามที่เพียงอัปสรเคยอยู่หรือเคยไป เธอไม่มีค่าคู่ควรจะได้เทียบซ้ำรอยกับผู้หญิงที่เขารัก ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งจนสุดเพื่อให้ทันเวลาเรือออกเที่ยวแรกคือตอนตีห้า ใช้ทางลัดทุกทางที่เขารู้เพื่อร่นระยะการเดินทาง แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี เขามาถึงท่าเรือที่อำเภอดอนสักก็ปาเข้าไปเกือบๆ แปดโมงเช้าเสียแล้ว ชายหนุ่มนำรถเลี้ยวเข้าท่าเรือและจอดรถรอคิวทันที ดีว่าวันนี้รถมีไม่มากไม่อย่างนั้นคงต้องรอต่อไปอีก เมื่อเรือเทียบท่าผู้โดยสารขาลงก็ทยอยกันลงจากเรือขึ้นบนฝั่งจนหมด รถจากท่าถึงถูกปล่อยให้ลงเรือที่ใช้โดยสาร                          อคิราห์ขับรถเทียบจอดใต้ทองเรือตามที่เจ้าหน้าที่จัดการให้ แล้วดับเครื่องยนต์หวังจะขึ้นไปชั้นบนของตัวเรือเพื่อนอนพักผ่อน เพราะกว่าเรือจะเทียบท่าที่เกาะสมุยก็ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่งคงหลับได้สักพัก ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่นั่งข้างๆ เธอนอนคุดคู้กอดตัวกลมหลับมาตั้งแต่ย่างก้าวขึ้นรถมา พลางคิดในใจว่าณัฏฐนิชเป็นผู้หญิงที่ขี้เซานัก ขนาดหลับมาตั้งแต่หัวค่ำนี่ก็สายมากแล้วยังไม่รู้จักตื่นอีก ชายหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะลดกระจกลงทั้งสองข้างแล้วตัวเองก็เปิดประตูรถเดินขึ้นไปยังชั้นบน ทิ้งหญิงสาวให้นอนจับไข้หนาวสั่นอยู่อย่างนั้น เวลาเก้านาฬิกาครึ่งเรือเฟอร์รี่ลำใหญ่ก็จอดเทียบท่ายังท่าเรือเกาะสมุย อคิราห์ขับรถบึ่งตรงไปยังโรงแรมของตัวเองทันทีเขาต้องการพักผ่อนมากๆ ในตอนนี้เพราะความเหน็ดเหนื่อยในการเดินทางแถมยังไม่ได้หลับนอนมาตลอดคืนด้วย ตอนที่นอนอยู่ในเรือก็ไม่ได้หลับสนิทเสียอีก แต่ดูแม่ภรรยาตัวดีของเขาท่าจะมีความสุขเสียเหลือเกิน มาถึงตอนนี้แล้วเจ้าหล่อนยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น หารู้ไม่ว่า...ณัฏฐนิชนั้นตอนนี้พิษไข้รุมเร้าจนร่างกายแทบรับไม่ไหวแล้ว โรงแรมหรูระดับห้าดาวบริเวณตำบลเฉวงแหล่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ได้มีโอกาสต้อนรับผู้บริหารระดับสูงเป็นครั้งแรกในรอบสามปี ต่างก็แปลกใจกันไม่น้อยเพราะนานแล้วที่เจ้านายหนุ่มไม่มาเยือนที่นี่ คงจะมีแต่ผู้บริหารคนอื่นๆ ที่แวะเวียนกันมาดูแลกิจการ และหากอคิราห์มาเขาก็จะมาด้วยเครื่องบินส่วนตัวเท่านั้น ไม่เคยมีปรากฏการณ์ว่าจะนั่งเรือเฟอร์รี่มาอย่างนี้ ชายหนุ่มให้พนักงานจัดการทำความสะอาดที่พักทันทีก่อนตัวเองจะเลี้ยวรถไปจอดยังรีสอร์ตหลังเล็กที่เลือกเอาไว้                      “ณัฏฐนิช  ณัฏฐนิช ตื่นสิถึงแล้ว” อคิราห์เรียกหญิงสาวอยู่สักพักก็รู้สึกโมโหในความขี้เซาของเธอยิ่งนัก จึงตัดสินใจเอื้อมตัวไปเขย่าร่างบอบบางที่นอนขดอยู่นั้น                                                                           “บ้าชิบ...ไม่สบายเหรอนี่...โธ่โว้ย!!!อะไรจะสำออยขนาดนี้วะ เมื่อวานเห็นยังดีๆ อยู่เลย” ชายหนุ่มบ่นสบถอย่างหัวเสีย เขาทั้งเหนื่อยทั้งเพลียทั้งง่วงแม่นี่ยังมาป่วยอีก อย่าหวังเลยว่าจะให้คนอย่างอคิราห์คนนี้คอยดูแล ว่าแล้วก็เปิดประตูลงจากรถไปเรียกพนักงานที่กำลังช่วยกันทำความสะอาดอยู่ด้านใน “ใครอยู่ข้างในออกมานี่หน่อยสิ” พนักงานต่างรีบวิ่งออกมาตามเสียงด้วยท่าทีลนลานเพราะดูเจ้านายของพวกเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก “ผู้หญิงที่อยู่ในรถเธอไม่สบาย ช่วยดูแลให้ฉันด้วยให้นอนห้องข้างๆ นั่นแหละ แล้วห้ามใครไปปลุกฉันจะพักผ่อน” สั่งการกับพนักงานที่ยืนเรียงแถวตรงหน้าจบ อคิราห์ก็หมุนตัวเดินเข้าห้องพักของตัวเองทันทีปล่อยหญิงสาวในรถที่กำลังไม่สบายให้เป็นหน้าที่ของพนักงานดูแลอย่างไม่คิดแยแส   ณัฏฐนิชลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วดังใกล้ๆ หู เมื่อดวงตาปรับเข้ากับสภาพห้องได้แล้วก็ต้องตกใจลุกพรวดเร็วเท่าความคิด  ไม่รู้ว่าเธอหลับไปนานแค่ไหน... แล้วที่นี่ที่ไหน... อคิราห์ล่ะ...หรือเขาจะเอาเธอมาทิ้งไว้ หญิงสาวใช้ความคิดอย่างสับสน    “ตื่นแล้วเหรอคะคุณ...คุณมีไข้สูงมากค่ะ คุณหมอฉีดยาให้แล้ว เดี๋ยวส้มจะเอาอาหารมาให้นะคะ ทานข้าวแล้วจะได้ทานยาค่ะ” หญิงสาวแต่งตัวเหมือนพนักงานโรงแรมทักทายเธอพร้อมให้คำแนะนำยาวเฟื้อย “เอ่อ...ที่นี่ที่ไหนคะ แล้ว...คุณเป็นใคร คุณอคิราห์ล่ะคะ”              “อ๋อ...ที่นี่เป็นโรงแรมในเครือของตระกูลเลนเบิร์คอยู่ที่เกาะสมุย ฉันเป็นพนักงานของที่นี่มาดูแลคุณค่ะ ส่วนคุณอคิราห์ก็พักอยู่ห้องข้างๆ คุณนั่นล่ะค่ะ” พนักงานหญิงแนะนำตัวกับณัฏฐนิชพร้อมตอบคำถามของเธอ   “คุณหลับไปตั้งแต่ตอนที่มาถึงแล้วค่ะ มีไข้สูงมาก ตอนนี้รู้สึกค่อยยังชั่วแล้วใช่ไหมคะ คุณหมอฉีดวิตามินให้คุณด้วยเพราะร่างกายอ่อนแอ อืม...เดี๋ยวส้มไปเอาอาหารมาให้ดีกว่าคุณจะได้ทานยาซะที รอแป๊บนึงนะคะ” ณัฏฐนิชรับประทานอาหารที่ทางโรงแรมจัดมาให้หลังจากนั้นก็ทานยาตามที่หมอได้สั่ง หญิงสาวเดินออกจากห้องพักก็พบว่าสถานที่ที่ตัวเองพักอยู่เป็นบ้านทรงไทยเล็กๆ กึ่งรีสอร์ตร่วม สมัย แลดูสวยงามแปลกตา แต่แปลกที่ตั้งอยู่เพียงหลังเดียวโด่ๆ เท่านั้น เธอเดินออกจากตัวรีสอร์ตมายังสนามหญ้าด้านหน้า มีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยพุ่มไม้และดอกไม้หลากชนิดหลากสี แต่แล้วเมื่อเดินมาเรื่อยๆ ก็ต้องตกใจ  มันอะไรกันเนี่ย เธอกำลังยืนอยู่บนภูเขาสูงลิบ... โรงแรมเลนเบิร์คแห่งนี้ ไม่ได้ตั้งอยู่ริมทะเลอย่างที่หญิงสาวเข้าใจ แต่กลับอยู่บนเขาสูง เมื่อทอดมองด้านล่างเธอก็เห็นตัวโรงแรมเป็นตึกขนาดใหญ่ถูกประดับประดาตกแต่งอย่างสวยหรู รอบๆ ตัวโรงแรมแวดล้อมไปด้วยรีสอร์ตเล็กๆ เหมือนอย่างที่เธอพักอยู่ราวสักยี่สิบหลังเห็นจะได้ไล่ไต่ระดับขึ้นมาเหมือนขั้นบันได จนถึงจุดที่เธอยืนอยู่คิดว่าคงเป็นหลังสุดท้ายที่อยู่สูงที่สุด  หญิงสาวเดินจนชิดขอบรั้วที่กั้นไว้ทอดมองไปยังเบื้องหน้า มันสวยงามเกินบรรยาย เธอมองเห็นทะเลที่เป็นสีครามกว้างออกไปสุดลูกหูลูกตา มีสถานที่ต่างๆ ผุดขึ้นราวดอกเห็ดทอดยาวเป็นโค้งตามแนวชายหาดที่อยู่เบื้องล่างสวยงามเหลือเกิน ไม่นึกเลยว่าจะมีสถานที่พักผ่อนตั้งอยู่บนเขาได้ด้วย และมองเห็นวิวทิวทัศน์ชัดเจนเมื่อมองจากจุดนี้ “ตอนกลางคืนจะสวยกว่านี้อีกค่ะคุณ” พนักงานสาวคนเดิมเอ่ยขึ้นก่อนจะเอาผ้าผืนสีขาวคลุมไหล่ให้เธอ                                                      “อยู่บนนี้ลมแรงมากค่ะ คุณไม่ชินแถมยังมีไข้อยู่ต้องระวังนะคะ” เธอกล่าวเสริมด้วยความเป็นห่วง                                         “ค่ะสวยมาก...เอ่อ ฉันอยากนอนแล้วล่ะค่ะ ยาคงออกฤทธิ์แล้ว รู้สึกง่วงจัง คุณส้มไปทำงานเถอะ ฉันอยู่ได้ไม่ต้องมาคอยดูแลหรอกจะเสียงานเสียเวลาเปล่าๆ” “ไม่เลยค่ะ...ส้มมีหน้าที่ต้องให้บริการอยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ถ้าคุณจะนอนงั้นส้มขอตัวไปทำงานต่อก็แล้วกัน” พนักงานสาวส่งยิ้มให้ ณัฏฐนิชเองก็ยิ้มละไมตอบไปเช่นกันก่อนที่จะแยกย้ายกันไป หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องนั่งบนเตียงกว้างที่ถูกจัดอย่างสวยงามและสะอาดสะอ้าน พาลคิดไปถึงคนข้างๆ ห้อง เขาพาเธอมาที่นี่ทำไมนะ มีเหตุผลอะไรกันถึงต้องพามาไกลขนาดนี้โดยไม่ได้บอกกล่าวสักคำ เขาคิดอะไรอยู่ในใจกันแน่ ร่างบางทอดกายลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย ในใจนั้นยังอยากรู้นิดๆ ว่าป่านนี้เขาคนนั้นจะทำอะไรอยู่ที่ห้องข้างๆ เขานอนหลับพอไหม กินข้าวหรือยัง แล้วไม่รู้จะติดไข้หวัดจากเธอหรือเปล่า ความคิดส่วนใหญ่ล่องลอยไปหาสามีผู้ไม่เคยไยดีทั้งสิ้นจนหญิงสาวค่อยๆ เคลิ้มหลับไปด้วยฤทธิ์ยา    ท่ามกลางแสงสียามค่ำคืน บริเวณหาดเฉวงที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องราตรีที่จับจองสถานที่ให้บริการในด้านต่างๆ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจเริ่มหลั่งไหลออกมาเดินสำรวจสถานที่ นักท่องเที่ยวที่นี่เป็นชาวต่างชาติมากกว่าจะเป็นคนไทย สถานที่ให้ความบันเทิงมากมายสองฝั่งถนนต่างแข่งขันกันเปิดแสงสีเสียงเพื่อเรียกลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ อคิราห์นั่งถือแก้วเครื่องดื่มมองไปยังถนนเบื้องหน้าที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าจะเป็นคนไทย เขาตื่นขึ้นมาในตอนค่ำของวันนี้หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ดิ่งรถออกจากโรงแรมของตัวเองมานั่งดื่มอยู่คนเดียว                                                                                                    ครั้งที่เพียงอัปสรยังอยู่เขาไม่เคยรู้สึกเหงาเดียวดายอย่างนี้มาก่อน แม้รอบตัวจะรายล้อมด้วยผู้คนมากมาย แต่มันเหมือนโลกใบนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่อาศัยอยู่  คิดถึงเธอเหลือเกิน...เพียงอัปสร เครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถูกกรอกเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่าเหมือนมันเป็นเพียงน้ำเปล่าไร้รสชาติ ในสมองตอนนี้ตื้อตันไปหมดเกี่ยวกับปัญหาชีวิตของตัวเองที่ต้องมาแต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก มิหนำซ้ำเธอยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนรักของเขาต้องจากไปชั่วนิรันดร์ ใจหนึ่งนั้นอยากจะอย่าขาดแล้วไล่ให้ไปไกลๆ จากชีวิตเสีย แต่อีกใจมันค้านว่าถ้าทำอย่างนั้นจริง เพียงอัปสรก็ต้องตายเปล่าส่วนณัฏฐนิชลอยนวลสุขสบายอยู่บนเงินนับสิบล้านที่เป็นสินสอดในวันแต่งงาน มันช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย น้ำเมาถูกกระดกเข้าปากก่อนจะส่งแก้วให้พนักงานเพื่อเติมมันใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD