ตัดมาที่ปารดีที่วันนี้เธอมาตรวจคนไข้ตามปกติ ระหว่างที่เธอตรวจเสร็จกำลังเดินจากผู้ป่วยนอกเพื่อลงมารอคนพี่ข้างล่างของตึกรู้สึกว่ามีคนมองแต่พอหันไปก็ไม่เห็นใครแต่รู้สึกแปลกคล้ายมีคนตาม จึงนึกถึงสิ่งที่ผู้ใหญ่คุยกันเรื่องความปลอดภัยอะไรสักอย่าง คิดระแวดระวังไว้สักหน่อยก็ดี เธอจึงแกล้งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดกล้องคล้ายกำลังใช้โทรศัพท์จึงเห็นว่ามีคนตามเธออยู่จริงจึงแกล้งเดินแวะอีกห้องหนึ่ง
อีกด้าน หายไปไหนแล้วนะ นี่ไม่ใช่ห้องตรวจนิ่ จึงหันหลังทำท่าจะเดินกลับไปอีกทาง แต่ต้องชะงักเท้าทันควัน…..
"คุณลุงตามหนูอยู่หรือคะ คุณลุงมีอะไรหรือเปล่าคะ" ปารดีกล่าวอย่างราบเรียบแต่ยังคงรักษามารยาท
"เอ่อ ลุงมาเยี่ยมญาติที่เป็นผู้ป่วยนอนน่ะครับ อยู่อายุรกรรมชายเค้าบอกว่าตึกนี้ พอดีเพิ่งมาจากบ้านนอกไม่รู้ทิศไมไรู้ทางก็เลยไม่รู้จะถามใครดี เห็นหนูแต่งตัวน่าจะเป็นหมอหรือเจ้าหน้าที่อะไรสักอย่างก็เลยจะมาถามทางนะครับ ถ้าทำให้คุณหมอเข้าใจผิดลุงต้องขอโทษด้วยลุงมองไม่เห็นใครแล้วจริง ๆ" ชายแปลกหน้าตอบไปด้วยหน้าสลดทำให้อีกคนถึงกับรู้สึกผิด
"อ๋อ อายุรกรรมชายน่าจะชั้น 6 ค่ะ ลองไปถามชื่อที่จุดประชาสัมพันธ์หน้าหวอดดูนะคะ แต่..ช่วงเวลานี้เป็นเวลาดูแลคนไข้ในหวอดค่ะ คงไม่อนุญาตให้เยี่ยม อีกสักชั่วโมงน่าจะให้เยี่ยมได้ ยังไงคุณลุงไปหาทานอะไรก่อนดีกว่ามั๊ยคะ เดินลงบันไดไป หนึ่งชั้นทางขวามือจะมีร้านสะดวกซื้อสวัสดิการของโรงพยาบาลมีอาหารง่าย ๆ พวกข้าวราดแกงขายด้วยค่ะ แล้วก็มีห้องน้ำใกล้ ๆ อยู่แถวนั้นค่ะ หรือจะออกไปนั่งสูดอากาศข้างนอกที่สวนหย่อมข้างนอกอาคารก็ได้นะคะ หนูยังเคยไปนั่งบ่อย ๆ เลยช่วงที่เรียนยังไม่จบน่ะค่ะบรรยากาศดีร่มรื่นอยู่นะคะ แฮร่.." ปารดีพูดแล้วยิ้มหัวร่ออย่างน่ารัก
"เหรอครับ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ นี่คุณหมอออกเวรแล้วหรือครับ" ชายแปลกหน้าถามต่อ
"อ๋อค่ะ วันนี้ปลอดเวรจะกลับบ้านไปกินข้าวที่บ้านคุณตาคุณยายค่ะ ไปก่อนนะคะคุณลุง สวัสดีค่ะ" ปารดีตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับยกมือไหว้แล้วเดินจากไป แต่ตราตรึงในหัวอกและสายตาคนมอง
..........................................................
อีกด้าน--(ต่อไปนี้เป็นบทสนทนาในความลับของพ่อ ๆ ค่ะ)
{เมื่อไรจะบอกความจริงกับทุกคนล่ะ ลูกนายน่ารักมากเลยนะ จบหมอมาเกือบปีแล้ว กำลังทำงานใช้ทุน/ อือ ใกล้แล้วหละ แต่ขอสะสางปัญหาของตัวเองก่อน ไหนจะแม่ของลูกอีก คิดถึงจะตายชักอยู่แล้วไม่ได้เจอกันมาเท่าอายุลูกเลยไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง เก็บตัวเองเงียบดีจริง ๆ/ หึหึ ก็นายทำเค้าเจ็บนี่หว่า../อือ…/ว่าแต่นายเถอะ..ถ้าความจริงมันปรากฎไม่กลัวจะโดนยำสามัคคีตี_เหรอ / เออ…ผมก็จะเอาคุณนี่แหละครับเป็นโล่ เจ้าความคิดดีนัก..ยังไม่รู้เลยว่าจะโดนอะไรบ้าง/ ขอบใจว่ะเพื่อน/ อือ..เพื่อนกันอยู่แล้ว อีกอย่างฉั๊นอยากเห็นหนูปริมมีความสุข ยิ้มจากข้างในเสียที /อืม…ขอบใจมากเพื่อน}
ด้านปารดีหลังจากลงมาถึงใต้อาคารก็พบพิทยาที่ยิ้มหล่อ ๆ อย่างเก๊ก ๆ รออยู่ก่อนแล้ว จึงรีบสับเท้าเข้าไปหา
"มารอนานหรือยังคะ ความจริงปริมเรียกพี่วินกลับก็ได้ ยังไม่ค่ำเท่าไร" ปารดีเอ่ยอย่างเกรงใจ
"แน่ะ เคยบอกแล้วไงว่าอย่าเกรงใจ บอกว่าจะมารับก็มารับซิ ทำไมต้องเกรงใจด้วยนะก็คนมันอยากมา ก็รัก ก็ห่วงมาไม่ได้รึไง” พิทยาบ่นอย่างพลั้งเผลอ
"พี่พิทคะ เอาแบบนี้เลยเหรอคะ" ปารดียิ้มแหย ๆ กับคำบอกรักที่ดูจะไม่โรแมนติกเอาเสียเลย
"พอดีจริงใจน่ะครับ ไม่ต้องมีโมเม้นอะไรทั้งนั้นแหละบอกมาหลายปีล๊ะ ขอกับแม่ก็ขอแล้ว จะบอกอย่างนี้เรื่อย ๆ แหละเราล่ะว่าไงหืม.." พิทยาพูดพร้อมกับยื่นมือไปช้อนมือคนตัวเล็กมากุมไว้แล้วโน้มนำให้เดินไปด้วยกันอย่างยิ้ม ๆ (ความจริงแอบเขินจนตัวแตกแหละ ก็มันลืมตัวไง)
"แต่พี่พิทไม่เคยบอกหนูสักครั้งเลยนะคะ ครั้งนี้ครั้งแรกค่ะแล้วก็ที่โรงพยาบาลมีคนป่วยแล้วก็ญาติผู้ป่วยเต็มไปหมดเลยค่ะ หึหึ" ปารดีเอ่ยอย่างแซว ๆ
"เหรอ บอกซิ พี่บอกเราหลายครั้งแล้วแต่เราไม่รู้ละซิ ไม่เชื่อถามแม่ซิ ไหน ๆ ก็บอกแล้วก็จะบอกแบบนี้เรื่อย ๆ แหละ ปะ รีบเดินจะได้ถึงรถซ๊ะที ป่านนี้คุณพ่อคุณแม่ตั้งโต๊ะอาหารรอแล้วมั๊ง" พิทยาแกล้งบ่นกลบเกลื่อนที่จริงก็เขินแหละ
"จริงด้วย วันนี้คุณตาคุณยายทำเมนูอะไรเหรอคะ"
"คุณพ่อคุณแม่ เรียกใหม่ซิ๊"
"ม่ายอ่ะ ไม่ชิน เรียกเหมือนเดิมแหละดีแล้ว ดีเท่าไรแล้วที่หนูไม่เรียกพี่พิทว่าน้าพิท” คนตัวเล็กแกล้งเย้า
"เดี๋ยวเถอะ แต่งงานเสียก่อนเถอะ เดี๋ยวจะทำให้ลืมคำว่าน้าเลย"
"แน่ะ ไม่สุภาพกับหลานอีกล๊ะ จะฟ้องคุณตาคุณยาย"
"หึหึ กลัวตายล่ะ" สองคนเดินจูงมือกันไปพูดจากระเซ้าเหย้าแหย่กันไปโดยไม่รู้เลยว่ามีอีกคนคอยเก็บข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว
คนในความลับพาร์ท
….นายเป็นใครกันนะ จริงใจกับลูกสาวของฉั๊นขนาดไหนเหรอถึงกล้าจูงมือลูกสาวฉั๊นขนาดนี้ แถมยัยหนูก็ดูจะไว้ใจนายอีกต่างหาก นี่ฉั๊นพลาดโอกาสที่จะคัดกรองคู่ชีวิตของลูกเลยเหรอนี่ เฮ๊อ….(เสียงบ่นพึมพำอย่างนึกเสียใจอยู่ลึก ๆ ของชายวัยกลางคน)
........................................
ปึ่บ…(เสียงตบบ่าหนัก ๆ จากเพื่อนรักของชายวัยกลางคน) "อย่าคิดมากน่า เค้าน่าจะเป็นคนดีอยู่นา แต่คุ้น ๆ อยู่นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ระหว่างที่นายคนนี้เดินมาก็เห็นป้า ๆ พยาบาล และแพทย์รุ่นพี่ต่างก็พากันทักทายนายคนนี้กันทุกคนเลย น่าจะไปมาหาสู่จนคุ้นเคยกับคนแถวนี้หมดแล้วหล่ะ อย่างน้อยก็เป็นข้อบ่งบอกได้ว่าสองคนนี้คบกันอย่างเปิดเผย อย่าคิดมาก เรายังมีเรื่องข้างหน้าที่ต้องเคลียร์ให้จบนะ"
"อืม...ไปกันเถอะ เพราะมีเรื่องอะไรบางอย่างอยากทำอยู่เหมือนกัน งั้นแยกกันตรงนี้เลยนะ เดีี๋ยวจะมีคนสงสัย"
...........................................
→ด้านเขตแดนที่ได้รับข้อมูลจากแสงรุ้งว่าสามีเธอเปลี่ยนไป ดูมีลับลมคมในตั้งแต่ลูกสาวแต่งงานไป เผลอไม่ได้ชอบแอบออกไปนอกบ้าน ชอบนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียว จึงแอบสะกดรอยตามพ่อตาของลูกชายและรักเหมือนน้องชายอย่างเงียบ ๆ …กุว่าแล้ว ทำไมมึงถึงแปลก ๆ กระดูกสักโกฐกุก็ไม่เคยเห็น ที่แท้มึงก็ยังไม่ตายนี่เองไอ้เวรเอ๊ย ต้มกุซ๊ะเปื่อยเลยนะมึง ได้น้องเวร ไอ้คนรักเพื่อน ถ้ามึงไม่ใช่พ่อของลูกสะใภ้กูละมึงเอ๊ย กุจะเตะให้หัวทิ่มเลยมึง..น่าโมโหชะมัด…เขตแดนได้แต่สบถในใจ ????