37.ผู้ร่วมอุดมการณ์

1190 Words
"ส่วนนาย นายยังมีน้องปริมกับพี่สาวที่รอนายอยู่นะ ไม่ใช่ตัวคนเดียว อีกอย่างเรื่องเมียนาย ผู้หญิงน่ะถ้าไม่รักไม่ครองตัวเป็นโสดมานานขนาดนี้หรอก แล้วไหนจะชื่อลูกก็ปารดี มีพยัญชนะของแม่สักตัวที่ไหน" เขตแดนเตือนสติเพื่อนของผู้ที่รักเสมือนน้องชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพราะกังวลในความห่ามของเขาเหลือเกิน "ครับเฮีย ผมไม่ตายง่าย ๆ หรอกครับ ผมยังไม่ได้อยู่กับเมียกับลูกเลย หึหึ" "ปากดีไปเถอะมึง มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ" เขตแดนสบถบ่นเพราะสองคนนี้ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไร "ครับ ผมรู้ครับ ผมถึงเขียนบทให้ตัวเองตายยังไงครับ" ปราบกล่าวยิ้ม ๆ "ไหน ๆ ก็มาแล้วคุยกันหน่อยซิ พวกนายมั่นใจใช่มั๊ยว่าไม่ถูกตาม" เขตแดนเอ่ยถามขึ้นเพราะไม่ไว้ใจในความเจ้าเล่ห์ของศัตรู "ก็ไม่รู้ซิครับ แต่ผมก็มีแผนของผมเหมือนกัน แล้วเฮียจะบอกพวกผมได้หรือยังว่ามันเป็นใคร" พรมแดนเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่จริงจัง "นั่นนะซิ นี่พวกเราจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศัตรูของเราเลยเหรอ?" ปราบสนับสนุนด้วยอีกคน และเป็นครั้งแรกที่เขาพูดดูการเป็นงานที่สุด "ไม่รู้ซิ แต่ถ้าจะให้เดาก็น่าจะเป็นไอ้ปริญ มันเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฮียเองนี่แหละ" เขตแดนเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย "แล้วเฮียรู้มั๊ยครับว่าเค้าอยู่ที่ไหน หน้าตาเป็นไง มีใครบ้างที่เป็นแขนเป็นขา" ปราบซักอย่างตรงไปตรงมา "หน้าตาน่ะคล้าย ๆ เฮียนี่แหละแต่มองดี ๆ จะไม่เหมือน อะนี่เอาไปดู ส่วนเรื่องใครเป็นแขนเป็นขาให้มันบ้าง เฮียไม่รู้เลย" เขตแดนกล่าวอย่างเหนื่อยหน่าย "เฮียครับ เฮียจำที่นายเชิดพูดได้มั๊ยครับมีคนที่โยนความผิดให้เค้า ผมสงสัยนายภพครับ" พรมแดนเอ่ยขึ้นอย่างนึกอะไรได้ "ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้นล่ะ เพื่อนนายอีกคนไม่ใช่เร๊อะ" เขตแดนพูดยิ้ม ๆ พลางนึกในใจว่าน้องชายของเขาฉลาดขึ้นมาบ้างแล้วจริง ๆ "เฮียรู้อยู่ก่อนแล้วใช่มั๊ยครับ" พรมแดนคาดเดา "เออ" เขตแดนตอบเรียบ ๆ "แล้วทำไมเฮียไม่บอกผมล่ะครับ" พรมแดนคาดคั้น "ก็เพราะเฮียเค้าบอกแล้ว กุจะเป็นคนดีที่น่าสงสารขึ้นมาทันทีไง จริงมั๊ยครับเฮียเขตแดนผู้ยิ่งใหญ่" เป็นปราบที่โพล่งขึ้น "สัด" เขตแดนสบถคำโต เขตแดนได้แต่สบถบ่นในใจ "ว่าแต่เฮียจะเล่าได้หรือยังครับว่ามันมีความเป็นมายังไงถึงได้โกรธกันเอาเป็นเอาตายขนาดนี้น่ะครับ" "อื่อ ถ้าเป็นนายปริญจริงนะ ก็มีอยู่เรื่องนึง แต่มันนานมาแล้วตั้งแต่เฮียยังไม่ได้เป็นเขยของตายายนายแดนนายดามเลย เข้าใจผิดกันน่ะ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝายเข้าใจกัน มีแต่มันที่ยึดมั่นถือมั่นในความคิดของตัวเอง เฮียก็ไม่รู้จะทำไงกับมัน เฮียไม่คิดว่ามันจะแค้นฝังหุ่นขนาดนั้นนะ ถ้าเป็นมันจริง ๆ ก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป เฮียถึงไม่อยากให้พวกนายมาเกี่ยวข้องด้วยไง" เขตแดนกล่าวออกมาจากส่วนลึกข้างใน "มันไม่ทันแล้วมั๊ย หนึ่งคนหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับได้ไม่มีใครเป็นอะไรเลยต่างหาก" ปราบพูดยิ้ม ๆ "สามคนที่ไหนละครับ ยังมีผมอีกคนนึงไง เฮียไปไหน ผมก็ไปด้วยหมดแหละครับ ลืมผมไปได้ไง" เป็นสรที่เอ่ยขึ้นพร้อมการปรากฎตัว "สร เฮียบอกแล้วไงว่าเรื่องนี้เฮียไม่ให้นายยุ่ง ถ้านายเป็นอะไรไปใครจะดูแลแสงดาว ไหนจะเจ้าแฝดที่ติดตายังกะอะไรดี" "ลูกเค้ามีพ่อมีแม่น่าเฮีย ไอ้ผมมันก็แค่ตา เฮียก็เป็นปู่เหมือนกันนิ่" สรเอ่ยยิ้ม ๆ ในขณะที่อีกคนยิ้มไม่ออกเพราะรู้สึกตื้อตันไปหมด "เอาน่ะเฮียผมเอาด้วย ผมก็เคยถูกเป่าเฉียดหัวใจมาแล้วไม่ตายง่าย ๆ หรอก" พรมแดนกล่าวสนับสนุน "ขอบใจมาก ขอบใจพวกนายทุกคน" เขตแดนกล่าวอย่างซึ้งใจ หลังจากได้ข้อสรุปแล้วทั้งสี่จึงได้นั่งปรึกษาหารือเพื่อวางแผนหาทางหนีทีไล่กันต่อ ……………………………………….. ตัดมาที่พิทยาและปารดีที่เตรียมตัวกำลังจะเดินทางกลับเพราะวันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงานปกติ เขาเดินทางมาที่สนามบินโดยการอำนวยความสะดวกของลูกน้องของแดนไตรอีกเช่นเคย และระหว่างนั่งรอที่สนามบินปารดีเอาแต่นิ่งเงียบตลอดทำให้คนพี่นึกห่วงกังวลและอึดอัดอยู่ไม่น้อย @บ้านแก้วตา "น้องปริมครับ ทำไมเงียบจัง คิดอะไรอยู่เหรอ" "ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่พิท ปริมไม่มีอะไรจะพูดเฉย ๆ" "ก็พูดเรื่องของเราก็ได้ พี่รักปริมนะ เราแต่งงานกันดีมั๊ย" "พี่พิทคะ ถ้าเรื่องของปริมมันอันตรายก็อย่ามายุ่งกับปริมเลยค่ะ พี่พิทจะพาลเดือดร้อนไปด้วยเปล่า ๆ อีกอย่างถ้าพี่พิทเป็นอะไรไปใครจะดูและคุณตาคุณยายคะ" ปารดีเอ่ยออกมาจากส่วนลึกข้างใน "ปลาย………" พิทยาเอ่ยชื่อคนตัวเล็กเสียงเบาหวิวอย่างไม่คิดว่าจะได้คำตอบทำนองนี้ "แล้วปลายว่านายตำรวจเก่าอย่างพี่จะปล่อยให้ใครทำอะไรตัวเองหรือครอบครัวได้ง่าย ๆ เหรอปริม" "คือ ปริมเป็นห่วง ปริมว่าทุกอย่างมันไม่ง่าย มันดูแย่ไปหมด ปริมไม่อยากหวัง" "พี่ไม่ยอมปล่อยปริมเองต่างหาก อย่าหวังว่าจะไปจากพี่ได้ ถ้าลองพี่เลือกเธอแล้วเธอก็ไปจากพี่ไม่ได้เหมือนกัน" พิทยาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "พี่พิท หนูกลัว กลัวว่าพี่จะเป็นเหมือนพ่อปราบ กลัวว่าหนูจะต้องเสียพี่พิทไปอีกคนเหมือนแม่ ฮึ่ก" "อย่ากังวลไป พี่ไม่ไปไหน พี่จะอยู่กับปริมไปจนแก่ตายกันไปข้างนึงเลย เราแต่งงานกันนะ" พิทยาพูดยิ้ม ๆ "แต่ปริมอยากเจอพ่อก่อน แค่เจดีย์บรรจุอัฐิก็ยังดี" "น้องปริมจะต้องได้เจอพ่อแน่ ๆ พี่สัญญา แต่ตอนนี้หยุดร้องไห้ก่อนนะครับคนดีของพี่พิท" พิทยาเอ่ยอย่างนุ่มนวลพร้อมกับบรรจงเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD