“ไอ้เบย์ สนใจน้องลูกครึ่งคนนั้นเหรอ กูเห็นมึงยืนคุยกับเขา” ภีมเอ่ย
“เปล่า กูไม่ได้คุยอะไร”
“กูเชื่อ????”
“เรื่องของมึง!”
เบย์ตอบตัดบทไปแบบนั้น ก่อนนั่งดื่มเหล้ากันต่อแล้วจบปาร์ตี้ที่เซ็กส์สุดเร้าร้อนในคืนนั้น และเช่นเคย เบย์นอนที่คลับเหมือนวันที่มีอะไรกับสาวปริศนา
REMII TALK
ฉันตกใจสุดขีดที่เจอหน้าของเขาอีกครั้ง คืนนั้นฉันงงและสับสนไปหมดว่าจู่เขามาทำแบบนั้นกับฉันทำไม หลังจากมีอะไรกับเขา ฉันออกจากห้องนอนก่อนที่เขาจะตื่น ฉันจับไข้ไปเป็นวันสองวัน
“เรมี่ เป็นอะไรหรือเปล่า ยังไม่หายไข้เหรอ” หัวหน้างานของฉันที่คลับเอ่ยเมื่อเห็นฉันวิตกกังวลแปลกๆ
“หะ...หายแล้วค่ะพี่โบว์” ฉันเอ่ย
“ลูกค้าโซนเอหล่อมากเลยเนอะ ไปเสิร์ฟเหล้าเขาเห็นเขาใกล้ๆกันมั้ย” โบว์เอ่ย
“อ่อ หะ...เห็นค่ะ หน้าตาดีค่ะ”
“เขามาดื่มบ่อย มีปาร์ตี้มีเซ็กส์กันประจำ หนุ่มโสดเนอะก็เข้าใจแหละ” โบว์เอ่ย
“อ่อค่ะ”
ฉันคุยกับพี่โบว์เสร็จก็กลับไปทำงาน ฉันทำงานที่นี่ถึงตี3ก็เลิกงาน ห้องโซนเอที่พี่โบว์พูดถึงก็คือห้องของผู้ชายคนนั้นแหละ ฉันเห็นเพื่อนเขาเรียกชื่อว่าเบย์ หน้าจะโตกว่าฉัน เขาหล่อฉันไม่เถียง แต่ดุเหลือเกิน
เช้า
หลังจากเลิกงานเกือบเช้า ช่วงสายๆฉันก็ต้องไปเรียน ที่เลือกทำงานที่คลับเพราะว่าทำช่วงกลางคืน และมันเป็นคลับที่ไม่วุ่นวายเพราะชื่อมันคือคลับแห่งคงามลับ ทุกอย่างดูลึกลับไปหมด
“มี่ แกเรียนรู้เรื่องได้ยังไงเลิกงานดึกๆทุกวัน” นาราเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันเอ่ย
“ชินแล้วไง เลยไหว”
“เก่งจริงๆ ฉันนะ ถ้าเป็นแบบแก คงตายไปแล้ว กลางคืนทำงาน กลางวันเรียน” นาราเอ่ย
“ตัวคนเดียวนิ ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละนารา”
“แกมันก็ดี๊ดีเนอะ หวานจนไม่อยากเชื่อว่าทำงานคลับได้เลย” นาราเอ่ย
“ต้องทำน่ะ อะไรมี่ทำแล้วได้เงินมาเรียนมี่ก็ต้องทำ เลือกงานก็อดน่ะซิ ดูคนที่เขาลำบากกว่าเขายังสู้เลย”
“แม่พระเรมี่ ลูกฝรั่งดอยจริงๆ”
“นาราก็ แซวอยู่เรื่อยเลย”
END REMII TALK
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาตื่นขึ้นจากความเหนื่อยของเซ็กส์เมื่อคืน โดยที่มีหญิงสาวที่เขาร่วมรักด้วยนอนกอดอยู่ข้างๆ
เบย์ผลักหญิงสาวที่หลับไหลออกอย่างไร้เยื่อใยก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วโยนเงินปึกนึงไว้ ก่อนคว้ากุญแจรถออกจากคลับ
((((ครืด ครืด ครืด))))
โทรศัพท์ของชายหนุ่มสั่นและมีสายเข้า เขารับสายนั่นก่อนยิ้มกว้างออกมา
(น้าเบย์ขาาาาาา)
“ว่าไงครับหลานรัก”
(น้าเบย์มารับเลนนี่หน่อยค่ะ เลนนี่จะไปหาคุณตา)
“หม่าม้าไม่สวยไปไหนล่ะครับถึงโทรหาน้า”
(เลนนี่จะฟ้องหม่าม้า)
“น้าล้อเล่นนนนนน เดี๋ยวน้าไปรับนะครับ
(มาเร็วๆนะคะ อย่ามัวรักสาว)
“แสบจริงๆเลยนะเรา เดี๋ยว15นาทีเจอกันครับหลานรัก”
เบย์อมยิ้มก่อนมุ่งหน้าขับรถไปรับหลานสาวสุดที่รักลูกของบลิ๊งผู้เป็นพี่สาว
บ้านธันเดอร์-บลิ๊ง
“น้าเบย์ขาาาาาา”
เสียงเลนนี่เอ่ยเจื้อยแจ้วมาแต่ไกล ก่อนจะวิ่งมากอดเขาโดยที่มีบลิ๊งเดินตามมาติดๆ
“มึงว่าใครไม่สวยไอ้แฝด!!!”
“ใครจะกล้าว่าพี่สาวสุดที่รักครับ” เบย์เอ่ย
“มึงไง แล้ววันนี้พาหลานไปส่งพ่อแล้วอย่าให้เล่นกระเป๋ากูอีกนะแฝด!” บลิ๊งเอ่ย
“คร้าบบบเจ๊บลิ๊ง”
หลังจากไปส่งหลานสาวเพียงคนเดียวเสร็จ ในช่วงบ่ายเบย์อาบน้ำแต่งตัวไปมหาวิทยาลัย แต่เมื่อขับรถมาจนถึงมหาลัยทางผ่านแห่งนึง สายตาของายหนุ่มก็หันไปเห็นใครบางคนเข้า
เธอคือเรมี่ พนักงานเสริฟที่คลับประจำที่เขาและเพื่อนๆชอบไป เธออยู่ในชุดนักศึกษาและดูท่าเหมือนจะเลิกเรียนแล้วด้วย เธอเดินขึ้นรถเมล์ไป ส่วนเบย์ก็ได้แต่ขับรถไปมหาลัยหรูของตัวเอง
“ไอ้เบย์ เมื่อคืนเป็นไง ดีมั้ยว่ะ” ชานนเอ่ย
“ไม่ว่ะ ของไม่ดี” เบย์เอ่ย
“แล้วผู้หญิงวันนั้นล่ะว่ะ ดีกว่าป่ะ” ชานนเอ่ย
“คนไหน???”
“ก็คนที่มึงเอาเขาแต่เสือกจำเขาไม่ได้ไงว่าใคร” ภีมเอ่ย
“วันนั้นเหล้าเหี้ยอะไรโครตแรง กูจำอะไรไม่ค่อยได้เลย แต่ถ้าได้เอาอีก กูว่ากูจำได้แน่” เบย์เอ่ย
“งั้นมึงคงต้องเอาไปเรื่อยๆแล้วแหละไอ้เบย์ ถึงจะเจอ5555”
“คงงั้น”
หลังเลิกเรียน เบย์และเพื่อนๆมีนัดกันในช่วงค่ำเวลาเดิมๆ ที่เดิมๆ ใช้ชีวิตสนุกสนาน บรีสผู้เป็นพ่อตามใจลูกๆทุกคน ถึงแม้ว่าเบย์ และเบสจะเป็นแฝดที่ทำให้เขาปวดหัวอยู่เป็นประจำก็ตามที
“เธอ??”
“เอ่อออ”
เบย์ชะงักเมื่อเขาวนเวียนมาเจอเธออีกครั้ง หญิงสาวใบหน้าหวาน เธอเป็นลูกครึ่ง แต่เธอดูจืดไปนิดสำหรับเขา เขาแวะมาซื้อน้ำเต้าหู้ร้านประจำไปฝากเฌอผู้เป็นแม่
“ทำไมต้องตกใจทุกครั้งที่เจอฉัน? “
“อ่อเปล่าค่ะๆ”
“เจอก็ดี ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ เดี๋ยวฉันไปส่ง ระหว่างทางได้คุยกัน” เบย์เอ่ย
“แต่...”
“เอาเถอะหน่า ฉันแต่อยากคุยกับเธอเฉยๆ”
เบย์เอ่ยจนกระทั่งซื้อน้ำเต้าหู้เสร็จ ระหว่างทาง เรมี่เอาแต่นั่งก้มหน้า จนเบย์เอ่ยขึ้น
“ฉันมีเรื่องจะถามเธอหน่อย” เบย์เอ่ย
“จะถะ...ถามอะไรเหรอค่ะ” เรมี่เอ่ย
“เมื่อวันก่อน นอกจากโซนฉันแล้ว โซนอื่นยังมีแขกอีกมั้ย เมื่อวันจันทร์น่ะ” เบย์เอ่ย
“เอ่อออ..ระ...เรบอกข้อมูลลูกค้าไม่ได้ค่ะ” เรมี่เอ่ย
“แสดงว่ามีซินะ ตอนนี้นอกเวลางานเธอ เธอบอกฉันมาเถอะ”
“ทำไมถึงอยากรู้ล่ะค่ะ”
“วันนั้นฉันมีอะไรกับผู้หญิงคนนึงแล้วฉันจำหน้าไม่ได้ ฉันแต่อยากรู้”
เรมี่ถึงกับชะงักหนักเมื่อเบย์พูดถึงเรื่องในคืนนั้น นี่เธอคิดว่าเขาลืมไปแล้วเสียอีก ทำไมเขายังไม่ลืมมัน แถมยังมาถามหาอีกด้วย
“เรมะ..ไม่รู้ค่ะ”
“แต่คนที่ใช้ห้อง พนักงานอย่างพวกเธอต้องเห็นหมดนิ บอกมาเถอะน่า อย่างกนักเลย” เบย์เอ่ย
“เรไม่ได้งกค่ะ ถ้าข่าวลูกค้ารั่วไหล เรถูกไล่ออกแน่ๆคะ” เรมี่เอ่ย
“ไม่มีใครรู้เธอจะไปถูกไล่ออกได้ยังไง"
เรมี่อึกอักที่จะพูด จะให้เธอพูดยังไงว่าคนวันนั้นคือเธอ เป็นเธอที่มีอะไรกับเขาจนเกือบเช้า เธอพูดมันออกไปไม่ได้แน่ๆ
"วันนั้นโซนอื่นอีกสองโซนก็มีแต่ลูกค้าผู้ชายค่ะ" เรมี่เอ่ย
"งั้นเหรอ แล้วพนักงานล่ะ มีผู้หญิงกี่คน" เบย์เอ่ย
"เรบอกไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นความลับของร้านค่ะ"
"เธอนี่พูดยากจัง ฉันบอกอยู่ว่าไม่มีใครรู้ว่าเธอบอกมันจะเป็นไรไปเล่า" เบย์เอ่ยอย่างหงุดหงิดเล็กๆ
"แล้วพี่หาผู้หญิงคนนั้นอีกทำไมเหรอค่ะ" เรมี่เอ่ย
"ฉันก็อยากจะจ่ายเขาไง ให้ฉันฟาดยันเช้า"
เรมี่สะอึกเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น ถ้าเขาจ่ายเงินเธอ นั่นแปลว่าเธอขายตัวให้เขาแบบนั้นซินะ ทำแบบนั้นไม่ได้ เขารู้ไม่ได้ว่าเป็นเธอ
"มีไม่กี่คนหรอกค่ะ"
"เฮ้อออ งั้นคืนนี้ฉันจะไปลองมันทุกคนเลย" เบย์เอ่ย
"ละ..ลองเหรอค่ะ ลองอะไรค่ะ"
"ลองฟาดไง เธอคนแรกเลยดีมั้ย" เบย์เอ่ย
"ห๊ะ!!"
เบสเอ่ยนิ่งๆก่อนกดยิ้ม เขาขับรถมุ่งหน้าไปส่งเรมี่ตามสถานที่ๆเธอบอก เรมี่ไม่แน่ใจว่าเขาพูดจริงพูดเล่น แต่เธอต้องเตรียมป้องกันตัวเพื่อไม่ให้เขาล่วงเกินเธอได้อีก สาวน้อยร่างบางนั่งกอดกระเป๋าแน่น เธอไม่รู้เลยว่าหากเบย์จะทำแบบนั้นกับเธออีก เธอจะสู้แรงเขาได้หรือไม่ เพราะครั้งก่อนเธอก็สู้ไม่ได้
วันนั้นเรมี่ถูกแขกบังคับให้ดื่มเหล้าแรงๆแก้วนึง จนเธอเอาแต่อาเจียน เพราะมันกลั้นแทบไม่อยู่ เธอจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำของโซนที่เบย์นั่ง จนเกิดเหตุการในคืนนั้นขึ้น
"เธอทำหน้าแบบนั้นทำไม ฉันก็แค่พูดเล่นเอง" เบย์เอ่ย
"งั้นเรขอตัวนะคะ"
เมื่อเบย์จอดรถ เรมี่รีบลงจากรถแล้วเดินตรงขึ้นอพาร์ทเม้นของตัวเองทันที หญิงสาวไร้เดียงสาเกินกว่าจะรู้ทันผู้ชายเจ้าเล่ห์แบบเบย์ เธอควรอยู่ให้ห่างเขาเอาไว้ ถึงแม้หน้าตาหล่อๆของเขามันจะดึงดูดก็ตาม
"ฟู่ววววว เรมี่ใจเย็นๆไว้ แกเป็นอะไรเนี้ย ทำไมใจสั่นจัง"
เรมี่นั่งลงกับเตียงทันทีที่วิ่งขึ้นมาถึงห้อง เธอนั่งกุมหัวใจตัวเองเมื่อมันสั่นผิดผกติ ยิ่งเห็นหน้าเบย์ใหล้ๆใจเธอยิ่งสั่นอย่างบอกไม่ถูกแบบนั้น
"ไม่ได้นะเรมี่ อย่าหวั่นไหวซิ"
เรมี่เอาแต่พร่ำบอกตัวเองว่าอย่าไปหวั่นไหวกับเขา จนกระทั่งถึงเวลาทำงาน เธอกล้าๆกลัวที่จะไปทำงานเพราะกลัวเจอเบย์อีก แต่ในเมื่อเลือกไม่ได้ก็พยายามหลบหน้าเขาหน่อยแล้วกัน
"เป็นอะไรเรมี่ ทำไมทำท่าแบบนั้น??"
โบว์เอ่ยถามเรมี่ที่ดูวิตกกังวลแปลกๆมองซ้ายที มองขวาทีเหมือนกับว่าเธอกลัวใครมาเห็นแบบนั้น
"อ่อ เปล่าค่ะพี่โบว์ งั้นเรขอไปทำงานก่อนนะคะ"
เรมี่รีบเดินออกทันที วันนี้เธอต้องหลีกเลี่ยงห้องของเบย์ตามลำพัง เพราะเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเขาเพิ่งมาถึงพร้อมเพื่อนๆกลุ่มเดิม แต่จนแล้วจนรอด กลับหลีกไม่ทัน เพราะถูกเรียกให้ไปเสิร์ฟเหล้าพร้อมกับพนักงานเสิร์ฟสาวอีกสองคน
"มาเลยจ๊ะสาวๆ วางตรงนี้เลย"
ภีมเอ่ยขึ้นก่อนที่ชานนจะเดินไปล็อคห้อง เรมี่รู้สึกถึงความผิดปกติของทั้งสามในห้องนี้ และดูมีแต่เธอที่ตกใจ เพราะผู้หญิงอีกสองคนไม่ได้ตกใจสักนิด
"กูรู้มึงสนใจคนนั้นไอ้เบย์ เอาไปดิ" ภีมเอ่ย
"มานี่!!"
"อ๊ะ!!"
เบย์คว้าเรมี่มานั่งตัก ก่อนมองเธอไปทั่วทั้งร่างกาย เขาแปลกใจไม่น้อยเมื่อเรมี่ดูจะหุ่นละม้ายคล้ายกับผู้หญิงปริศนาที่เขามีอะไรด้วยซะเหลือเกิน
"เธอนี่มันหุ่นเท่าผู้หญิงที่ฉันเอาวันนั้นเลยนะ" เบย์เอ่ย
"ปะ..ปล่อยก่อนค่ะ" เรมี่เอ่ยและพรางดิ้นยุกยิกๆจะหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเบย์
"ไม่รู้หรือไง ว่านั่งบนตักผู้ชายแล้วทำแบบนี้ มันกำลังจะปลุกมังกรให้ตื่น??"
"ปล่อยเรเถอะค่ะ ระ..เร"
"เธอนี่เตือนไม่ฟังนะ ดิ้นจนฉันแข็งไปหมดแล้ว รับผิดชอบมั้ย???"
"ระ...รับผิดชอบอะไรค่ะ ระ..เรไม่เข้าใจ"
"เธอไร้เดียงสาจริง หรือว่าแกล้ง??? ไม่รู้จริงๆ???" เบย์เอ่ย
"ปล่อยเรเถอะค่ะ เรมีงานต้องทำ"
"ก็ดี งั้นก็ไปทำงานของเธอกัน!!"
"เฮ้ยๆๆไอ้เหี้ยเบย์ เอาจริง เ****นไวนะมึงเนี้ย" ชานนเอ่ยเมื่อเห็นเบย์ลากแขนเรมี่ลุกจากโซฟา
"เรื่องของกู"
"ปล่อยนะ ช่วยเรด้วย ปล่อยนะๆ" เรมี่พยายามดิ้นแต่ดูไม่เป็นผล จนเบย์หงุดหงิดเลยหันกลับมาอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าแล้วเดินออกจากห้องไปที่ห้องนอน