ระหว่างกินข้าวเหนือภูผานั่งคุยกับสายบัวและคุณหญิงอรุณวลี โดยมีอิงนรีนั่งจ้องมองเขาด้วยความหลงใหล ผิวดำจากแดด และร่างกายกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามจากการทำงาน พาให้คนมองรู้สึกสยิวกายเมื่อจินตนาการถึงคืนเข้าหอ
"เดี๋ยวเหนือพาน้องไปเดินเล่นสิลูก ศาลาในสวนมีหิ่งห้อยด้วยนะ หนูอิงอยู่กรุงเทพฯ อาจจะไม่ค่อยได้เห็น ลองพาน้องไปดูหน่อยนะ" สายบัวพูดเปิดทางให้ทั้งสองคนได้มีโอกาสทำความรู้จักกัน เหนือภูผาหันไปมองคนที่ถูกกล่าวถึง ก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร อิงนรีเองก็ยินดีที่จะออกไปคุยกันสองต่อสองเช่นกัน
ทั้งคู่เดินออกมานั่งเล่นที่ศาลาในสวน ที่แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดสนิท แต่ไฟที่ศาลาก็ส่องสว่างจนเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน
"นึกว่าจะมืดกว่านี้ซะอีก" ปากเรียวบ่นพึมพำ
"อะไรนะครับ" คนเดินนำได้ยินหญิงสาวที่เดินตามหลังมาพูดอะไรสักอย่าง แต่เขาฟังไม่ถนัดนัก จึงได้หันไปถาม
"เปล่าค่ะ แค่บอกว่าอากาศดีจัง" อิงนรีรีบเอ่ยปฏิเสธ ก็แน่ละเธอจะปล่อยให้เขารู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ไม่ได้แน่
"อ๋อ...แล้วขออนุญาตถามอายุคุณ.."
"อิงค่ะ"
"ครับ ขออนุญาตถามอายุคุณอิงได้ไหมครับ" เพราะเขาไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนเลย แม้แต่ชื่อก็ยังไม่เคยได้ยิน แต่วันนี้ก็พอจะได้ยินแม่ของเขากล่าวถึงอยู่บ้าง เห็นเรียกแทนอีกฝ่ายว่าน้อง แต่เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเธออายุเท่าไหร่กันแน่
"อ๋อ 32 ค่ะ แล้วคุณเหนือล่ะคะ"
"ผม 34 ครับ"
"ถ้างั้นแบบนี้ อิงควรจะเรียกคุณว่าพี่หรือเปล่าคะ?"
"ไม่เป็นไรครับ ห่างกันแค่สองปีเอง" เหนือภูผาพูดก่อนจะยิ้มให้กับสาวสวยตรงหน้า ใบหน้าคมดุดันของเขาเมื่อมีรอยยิ้มผุดขึ้นมา มันเสริมความหล่อให้กับเขาเสียจนอิงนรีแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่
"แล้วนี่ คุณลำบากใจหรือเปล่าคะ เรื่องที่คุณป้ากับแม่ของคุณ..."
"เรื่องแต่งงานน่ะเหรอครับ ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายถามคุณอิงว่าติดขัดไหม" อิงนรีรู้สึกชอบความสุภาพในรูปลักษณ์ดิบเถื่อนของเหนือภูผาอย่างบอกไม่ถูก 'งานดีขนาดนี้ ใครจะไปติดขัดอะไรกัน' เธอแอบคิดในใจ
"ไม่หรอกค่ะ อิงไม่ได้มีใครอยู่แล้ว"
"สวยแบบคุณอิงน่ะเหรอ ไม่มีแฟน" คำชมของอีกฝ่าย ทำให้อิงนรีคิดว่าเขาเองก็น่าจะพอใจในตัวเธออยู่ไม่น้อย เธอเองก็ไม่ใช่คนขี้เหร่ ตอนอยู่กรุงเทพฯ ก็ถือว่าเป็นสาวฮอตคนหนึ่งทีเดียว
"แล้วคุณเหนือล่ะคะ ไม่มีแฟนหรือว่าไม่มีคนถูกใจเหรอ"
"ก็เพราะไม่มีนี่แหละครับ แม่ถึงได้หาจับผมคลุมถุงชนกับคนนั้นคนนี้" สีหน้าของคนพูดดูจะไม่ยินดีกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่อาจตัดกำลังอิงนรีได้เพราะเธอรู้สึกถูกใจผู้ชายคนนี้เหลือเกิน
"ดูคุณจะอึดอัดจังเลยนะคะ แล้วแบบนี้..."
"ไม่หรอกครับ ผมเป็นห่วงคนที่ต้องมาแต่งงานกับผมมากกว่า ผมทำแต่งานอยู่แต่ในไร่ กว่าจะกลับบ้านก็จนฟ้ามืด ใครจะมาอยู่กับผมก็คงต้องทำใจเรื่องเวลาสักหน่อย" เหนือภูผาอธิบายถึงเหตุผลที่เขายังครองตัวเป็นโสดมาจนวันนี้ แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับอิงนรีอีกเช่นกัน เพราะเธอมั่นใจว่าตัวเองนั้นจะสามารถทำให้เหนือภูผาต้องรีบกลับบ้านก่อนค่ำ เพื่อมาหาเธอได้อย่างแน่นอน
"แล้วนี่คุณอิง ทำงานอะไรเหรอครับ ถ้าแต่งงานแล้วจะไม่มีปัญหาตามมาใช่ไหม"
"อิงเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ค่ะ รับงานพวกรีวิวสินค้า อยู่ที่ไหนก็ทำได้ ยิ่งมาอยู่เหนือแบบนี้ที่ถ่ายรูปน่าจะเยอะ อิงคงทำงานได้สะดวกขึ้นกว่าเดิมอีกค่ะ"
"งั้นก็ดีครับ แล้ว....คุณอิงมั่นใจแล้วใช่ไหมครับ ว่าจะแต่งงานกับผมได้จริงๆ"
"อิงไม่ติดอะไรเลยค่ะ จริงๆ อิงก็อายุมากแล้ว อยากมีตัวเล็กเหมือนกัน กลัวว่าถ้าอายุมากไปกว่านี้ จะยิ่งมีลูกยาก"
"คงไม่หรอกมั้งครับ เพิ่งจะ 32 เอง"
"คุณเหนือไม่อยากมีลูกบ้างเหรอคะ" คำถามของแม่สาวใจกล้า ทำให้กายแกร่งของเหนือภูผาร้อนผ่าว ไม่ใช่เพราะคำถามหรอกแต่เพราะเขาดันไปคิดว่าทำอะไรถึงมีลูก
"เอ่อ...อิง..."
"ผมไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่แม่ผมน่ะ อยากมีหลานมาตั้งนานแล้ว"
"อ๋อ"
"ถ้าเราต้องแต่งงานกันจริงๆ คุณอิงไม่ติดเรื่องนี้ใช่ไหมครับ"
"ค่ะ อิงสะดวก" การทำความรู้จักกันวันนี้ ทำให้เหนือภูผารู้สึกว่าอิงนรีมีความน่าสนใจ เธอดูกล้าพูดกล้าทำแบบสาวสมัยใหม่ แต่อ่อนน้อมอ่อนโยนน่าทะนุถนอม เขาดูไม่ออกเลยว่าภาพสาวอ่อนโยนเป็นเพียงภาพลวงตา ที่อิงนรีร่ายมนตร์สร้างขึ้นมาหลอกเขาเท่านั้น