วันพรุ่งนี้ไม่มีเธออีกแล้ว

1555 Words
สนามกีฬาชนโคชัยรัมภา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช "พ่อคะดูสิว่าลูกสาวพ่อกำลังจะได้เข้าเรียนคณะอะ...คุณพ่อคะ!" ร่างเล็กของว่าที่นักศึกษาวิ่งโร่มาหาผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจหลังจากที่เธอทราบผลว่าตัวเองนั้นผ่านการสอบสัมภาษณ์และได้เข้าเรียนในคณะนิติศาสตร์ตามที่บิดาคาดหวังเอาไว้ได้สำเร็จถึงกับเข่าทรุดลงอย่างหมดแรงเมื่อได้พบว่าพ่อของตัวเองนั้นได้ปลิดชีพตัวเองลาโลกใบนี้ไปเสียแล้วด้วยปืนพกกระบอกเดียวกันกับที่พ่อเคยใช้มันสอนเธอยิงปืน "พ่อคะ! พ่อตื่นสิคะ พ่อคะ! ลุกขึ้นมาสิคะเอยสอบเข้าคณะนิติศาสตร์ที่พ่อคาดหวังไว้ได้แล้วนะคะ พ่อ! ไม่จริง ไม่จริง เอยไม่เชื่อ ฮึกฮือ.." สองแก้มกลมหวานบัดนี้ได้แปดเปื้อนไปด้วยหยดน้ำใสแห่งความเสียใจที่หลั่งไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย "คุณหนูครับ ออกมาเถอะครับ" มนัสชัยและเมฆา ซึ่งเป็นสมุนมือซ้ายและขวาของนายเดชเดชาผู้เป็นพ่อของหญิงสาว รีบพากันเข้ามารั้งตัวคุณหนูตัวน้อยของพวกเขาที่กำลังยกปืนดำเมื่อมขึ้นมาจ่อตรงหน้าผากมนหมายจะปลิดชีวิตของตนเองตามผู้เป็นพ่อของเธอไป "อย่ามายุ่งกับกฉันไอ้นัส! แกด้วยไอ้เม! ฉันไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าตัวเองจะต้องอยู่ต่อไปอีกทำไม ก็ในเมื่อในตอนนี้ฉันไม่เหลือใครอีกต่อไปแล้ว!" เสียงหวานตวาดใส่สองลูกน้องหนุ่มดังลั่นและพยายามใช้แรงอันน้อยนิดที่ตัวเองมีเพื่อแย่งปืนในมือของลูกน้องทั้งสองกลับมา "ไอ้เม! ตอนนี้มึงต้องรีบพาตัวคุณหนูออกไปก่อน แล้วอย่าลืมอธิบายทุกๆอย่างให้คุณหนูฟังอย่างละเอียด กูว่าตอนนี้ตำรวจที่เราโทรไปแจ้งไว้ก็คงจะกำลังมาถึงแล้วแหละ" มนัสชัยหันไปสั่งเมฆาที่กำลังถูกเจ้านายสาวข่วนหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อหมายที่จะแย่งปืนคืนมาให้จงได้ "ได้ อั่ก!" ใบหน้าขาวใสของลูกน้องหนุ่มอย่างเมฆาถึงกับเบี้ยวเหยเก เมื่อกรงเล็บพิฆาตของคุณหนูจอมแสบได้จ้วงขวับเข้ากับ2ลูกกะตาของเขาจนมันแทบจะถลนออกมาอยู่ด้านนอก "ปล่อย! ปล่อยกู นะไอ้เม! ปล่อย! กรี๊ด!" "ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณหนูเองนะครับ" แม้จะแสบแก้วหูและใบหน้าขาวผ่องของตัวเองสักเพียงใดแต่กระนั้นแล้วเพื่อความปลอดภัยของคุณหนู ในตอนนี้เขาเลยจำต้องลืมความเจ็บปวดของตัวเองไปเสียก่อน จังหวัดกระบี่ "ที่นี่เป็นคฤหาสน์ที่คุณท่านสร้างเอาไว้เพื่อมอบเป็นรางวัลให้กับคุณหนูเอยที่สอบเข้าคณะนิติศาสต์ตามที่คุณท่านหวังไว้ได้สำเร็จครับ" เมฆาอธิบายให้สาวน้อยที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังฟัง ขณะที่ตนได้ทำการเลี้ยวรถเข้าไปคฤหาสน์ดีไซน์หรูสี่ชั้นที่ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองจังหวัดกระบี่ ซึ่งนายหัวเดชเดชาหรือพ่อของชัยรมภาได้ทำการแอบว่าจ้างทีมช่างฝีมือดีระดับประเทศไทยให้มาก่อเสริมเติมสร้างอยู่นานหลายปีจนท้ายที่สุดก็ได้ออกมาเป็นคฤหาสน์สุดหรูมาเซอร์ไพรส์คุณหนูตัวน้อยๆของพวกเขาอยู่ในตอนนี้ ฉันยังไม่ได้บอกทุกคนเลยนี่เนอะว่าฉันชื่ออะไร ฉันชัยรัมภา หงส์ษาศิโรคุณ หรือทุกคนจะเรียกฉันว่าเจ้าเอยเฉยๆก็ได้นะ ในตอนนี้ฉันพอจะสงบจิตใจตัวเองลงได้บ้างแล้วละ จะมีก็แค่แอบร้องไห้ออกมาคนเดียวอย่างเงียบๆอยู่เป็นระยะแต่ไม่โวยวายราวกับคนขาดสติเหมือนชั่วโมงที่ผ่านมาแล้วก็เท่านั้น และถ้าหากจะให้ฉันไม่เสียใจต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ฉันก็คงจะทำไม่ได้จริงๆ... เมื่อเช้าของวันนี้พ่อยังทำข้าวต้มกุ้งของโปรดของให้ฉันกินก่อนไปสอบสัมภาษณ์อยู่เลย แล้วระหว่างที่ฉันไม่อยู่บ้านในช่วงหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้มันได้มีเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นกับพ่อของฉันกันแน่ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่นะ หลังจากนั่งรวบรวมสติสัมปชัญญะของตัวเองมาครู่ใหญ่ ฉันจึงได้ตัดสินใจส่งคำถามที่ต้องการรู้มากที่สุดไปยังลูกน้องคนสนิทของตัวเองอย่างเมฆาในทันที "เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะไอ้เม" "เมื่อช่วงสายของวันนี้ จ้าวนิลวาโปของนายหัวเดชได้พ่ายแพ้ให้กับจ้าวแดงกวนอูจากค่ายวัวชนที่พึ่งเปิดใหม่แถวอำเภอทุ่งสงครับคุณหนู" เมฆารายงานผู้เป็นนายตามหน้าที่ของตัวเองในแทบจะทันที "..." "นายหัวเดชได้วางเดิมพันไว้ด้วยทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับค่ายและสนามชนวัวอย่างที่เคยทำอยู่บ่อยๆเพราะนายหัวมั่นอกมั่นใจเป็นที่สุดว่าจ้าวนิลวาโปที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาโคชนแห่งภาคใต้นั้นจะไม่มีวันพ่ายแพ้ให้กับจ้าวแดงกวนอูที่พึ่งผ่านการลงสนามมาเพียงไม่กี่ครั้งอย่างแน่นอน" "..." "แต่ครั้งนี้จ้าวนิลวาโปกลับแพ้วัวหนุ่มของทางนั้นเสียจนราบคาบ" "ค่ายและสนามวัวชนของพ่อก็เลยมีอันต้องตกเป็นของทางนั้นทั้งหมดสินะ" ฉันพิงตัวลงบนโซฟาด้วยความหนักอึ้งภายในหัวใจ จะบอกให้ก็ได้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อของฉันใจกล้าบ้าบิ่นเอาค่ายและสนามวัวชนของตังเองลงไปเป็นของเดิมพัน เพียงแค่มันแตกต่างกันไปก็ตรงที่ครั้งนี้พ่อไม่ได้โชคดีที่จะรักษาทุกๆอย่างเอาไว้ได้อย่างเช่นที่ผ่านๆมาเท่านั้นเอง "ครับคุณหนู" "แล้วเพลิงละวะไอ้เม!" ฉันดีดตัวจากที่นั่งด้วยความรู้สึกวูบโหวงจนแทบจะขาดใจเมื่อคิดขึ้นได้ว่าไอ้เพื่อนยากของฉันมันก็อาศัยอยู่ในค่ายที่พึ่งถูกทางนั้นยึดครองไปเหมือนกัน "มันอยู่ด้านหลังนี่เองครับคุณหนู ทางนั้นเขาไม่เอามันครับ" เมฆาว่าและผายมือเชิงเปิดทางให้ฉันเดินออกไปตามทางที่เขาบอก "ไงละแก เพลิง" "มอ~ มอ~" ไม่ต้องบอกฉันก็พอจะรู้ว่าทำไมไอ้เจ้าของค่ายวัวชนใหม่นั่นถึงเลือกที่จะไม่เอาตัวเพลิงไป เพราะเพลิงเป็นวัวชนที่มีสีดำแต่ลำตัวไม่เงางามและมีลิ้นสีแดง ซึ่งตามตำราวัวชนแล้วนั้นท่านได้กล่าวเอาไว้ว่าวัวชนลักษณะนี้นั้นได้ชื่อว่า 'ก่อพระเพลิง' หากมันผู้ใดที่คิดจะเลี้ยงดูไว้แล้วไซร้ชีวิตจะมีแต่วิบัติฉิบหาย แลทั้งเป็นดังมหาอุบาทว์ นับได้ว่าไม่ดีร้ายนักและอัปมงคลเป็นที่ยิ่ง ซ้ำไปกว่านั้นเพลิงยังมีขวันใต้ตาที่ได้ชื่อว่าทูลเพลิงอีกด้วย ซึ่งตามตำราแล้วนั้นท่านได้กล่าวเอาไว้ว่าหากใครที่เลี้ยงวัวชนที่มีขวันในลักษณะนี้เอาไว้นั้นชีวิตของคนผู้นั้นจะเป็นประดุจดั่งเพลิงลามจนวอดวายมลายสิ้น คราที่เพลิงได้กำเนิดออกมาพ่อของฉันที่ได้เห็นว่าเพลิงมีลักษณะดังกล่าวที่บอกไปจึงหมายมั่นที่จะขุดหลุมฝังเพลิงให้ตายทั้งเป็นในแทบจะทันที แต่ฉันซึ่งในตอนนั้นอายุเพียงแค่สิบสามปีก็ได้ทำการกราบกรานอ้อนวอนพ่อว่าขอให้ไว้ชีวิตของเพลิงจะได้ไหมและฉันก็ได้ให้สัญญากับพ่อเอาไว้ว่านับแต่วันนั้นเป็นต้นไปฉันจะเป็นคนเลี้ยงดูเพลิงด้วยตัวของฉันเอง แน่นอนว่าเพราะความเป็นลูกสาวคนเดียวประกอบกับเรามีกันแค่สองคนพ่อลูก พ่อก็ได้ตกลงและทำตามในสิ่งที่ฉันร้องขออย่างไม่มีข้อกังขาในทันที โดยมีข้อแลกเปลี่ยนที่ว่าฉันห้ามเที่ยวไปเอ่ยปากบอกใครว่าทางค่ายของเรานั้นได้เลี้ยงดูปูเสื่อวัวชนลักษณะไม่ดีอย่างเพลิงเอาไว้ ฉันก็เลยได้กลายเป็นเด็กผู้หญิงเลี้ยงวัวชนมานับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา "มอ~" เจ้าวัวที่ใครๆ ก็พากันขนานนามว่ามันนั้นสุดแสนจะอัปมงคลยื่นจมูกมาหยอกเอินกับมือเล็กของนายหญิงตัวน้อยของมันเบาๆ "แกน่ารักขนาดนี้ มาว่าแกอัปมงคลมันก็ดูจะกล่าวหากันมากไปหน่อยแล้ว เนอะเพลิงเนอะ" ฉันเลื่อนมือไปลูบเขาโค้งมนเงาวับของเจ้าเพลิงเบาๆ "ฉันกับแกจะต้องช่วยกันทวงทุกอย่างที่เป็นของพ่อคืนมาให้ได้เลยนะเพลิง" มาจ้า และนี่ก็คือปฐมบทในเรื่องราวความรักระหว่าง พ่อพระเอกดิบเถื่อนอย่างจ้าวฮั่นกับแม่นางเอกบ้าระห่ำอย่างเจ้าเอย มารอดูกันว่าศึกใหญ่ในครานี้ใครกันนะที่จะเป็นผู้คว้าชัยและเกียรติยศไปเสริมสร้างบารมีให้กับตัวเองได้จนสำเร็จ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD