"คุณหนูคิดจะทำอะไรหรือครับ" ฝ่ายเมฆาเมื่อได้ยินคุณหนูเอ่ยดังนั้นก็เริ่มมีท่าทีหวั่นพรึงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะทั้งเขาและมนัสชัยที่เป็นคนรับใช้สนิทของเธอต่างก็รู้กันดีว่าแท้จริงแล้วคุณหนูชัยรัมภาก็บ้าดีเดือดไม่แพ้เดชเดชาผู้เป็นบิดาของเธอเองเลย
"กูจะปั้นเพลิงให้เป็นราชาแห่งวัวชน"
"คุณหนูครับ คุณหนูก็รู้ว่าเจ้าเพลิงมัน...
"หุบปากเน่าๆ ของมึงไปเลยนะไอ้เม และต่อให้มึงจะยกอีกพันหมื่นผลมาเพื่อให้กูเปลี่ยนใจมันก็จะไม่มีวันได้ผล นอกซะจากว่ามึงจะไปปลุกให้พ่อกูฟื้นขึ้นมาจากโลง ชัดเจนนะ!" ฉันกอดอกและเบ้ปากใส่เมฆาอย่างขัดใจ ก็ทำไมฉันจะไม่รู้เล่าว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ และฉันก็จะไม่มีทางล้มเลิกอุดมการณ์ด้วยเหตุผลที่ว่าเพลิงเป็นวัวลักษณะไม่ดีตามที่ใครๆ เขาพากันครหาเป็นอันขาด และฉันขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่าอีเอยคนนี้จะไม่มีทางยอมเป็นอีขี้ขลาดให้ไอ้สันขวานหน้าไหนมาชี้หน้าด่าว่ามันกระจอกหรอกนะ นั่นมันไม่ใช่ฉัน!
"หน้าที่มึงกับไอ้นัสตอนนี้ก็คือช่วยกูจัดงานศพคุณแค่นั้น เข้าใจตรงกันนะ"
"ครับคุณหนู"
ติ๊ด.
'ว่าไงไอ้นัส'
'จากหลักฐานในภาพกล้องวงจรปิด นายท่านยิงตัวตายเองครับคุณหนู'
'อืม'
'เอ่อคุณหนูครับ ตอนนี้ค่ายวัวชนของนายท่านได้โดนฝั่งโน้นเข้ามายึดครองไปแล้วนะครับ'
'อืม กูรู้แล้ว แล้วเรื่องจ้าวนิลวาโปละ เกิดอะไรขึ้นกับมัน'
'ผลชันสูตรออกมาว่า เอ่อ..จ้าววาโปมันถูกวางยาจนถึงแก่ความตายครับ ผมเองก็ไม่อยากจะมองโลกในแง่ร้ายหรอกนะ แต่การที่วัวหนุ่มน้อยประสบการณ์อย่างจ้าวแดงกวนอูชนะจ้าวนิลวาโปได้ มัน...'
'กูรู้มึงเสียใจ กูเองก็ไม่ต่างกัน'
'คุณหนูยังมีไอ้นัสกับไอ้เมนะเสมอครับ'
'กูก็ดีใจที่ยังมีพวกมึง2คน ขอบใจนะ'
'พูดอะไรอย่างนั้นครับ ไม่มีคุณหนูครอบครัวของพวกผมก็คงจะไม่มีที่ซุกหัวนอนหรอกครับ'
'อืม ไอ้นัส'
'ครับคุณหนู'
'เราจะจัดงานศพพ่อที่นี่แบบเงียบๆ นะ ให้รับรู้ข่าวแค่ญาติพี่น้องของกูก็พอ'
'ครับคุณหนู'
'ฝากมึงจัดการเรื่องเคลื่อนย้ายศพพ่อมาที่นี่ด้วยนะไอ้นัส เดี๋ยวหลังจากที่เสร็จจากงานศพของคุณพ่อแล้ว กูมีเรื่องให้พวกมึงช่วยนิดหน่อย'
'ครับคุณหนู'
'อืม'
ติ๊ด.
"มึงถอยออกไปหน่อยไอ้เม กูจะสุมไฟให้เพลิงมัน" ว่าจบฉันก็ออกแรงดันต้นแขนหนาของเมฆาเบาๆ ให้ออกไปพ้นทาง
"พักผ่อนเถอะนะครับคุณหนู เดี๋ยวผมจัดการให้เองนะครับ อีกอย่างเดี๋ยวมือคุณหนูจะเปื้อนเอานะครับ" ถึงแม้ในแต่ละวันสองคนนี้จะโดนฉันตะแว้ดใส่บ่อยมากแค่ไหน แต่พวกมันก็ไม่เคยคิดจะถือโทษโกรธเคืองฉันแม้แต่น้อย
"มึงนั่นแหละไปนอนไป๊ไอ้เม อีกประเดี๋ยวมึงกับได้นัสก็ยังต้องมาช่วยกูจัดการงานศพคุณพ่ออีก เกิดมึงตายห่าขึ้นมาก็คงจะกลายเป็นกูเองนี่แหละที่จะแย่เอา"
"ขอบคุณครับคุณหนูเอย" ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างให้เจ้านายสาวหนึ่งครั้งก่อนจะก้มคำนับอีกหนึ่งครั้งและค่อยๆ เดินถอยหลังแยกออกไป เพราะเขาและมนัสชัยต่างก็รู้ดีว่าถึงแม้เจ้าหล่อนจะเป็นคนปากร้ายแต่แท้จริงแล้วนั้นจิตใจของเธอนั้นดีเลิศและประเสิรฐเป็นที่สุด
หลังจากจัดแจงสุมไฟให้กับเพลิงเสร็จฉันก็ทิ้งตัวลงนั่งพร้อมกับมันที่ทรุดตัวลงนอนข้างๆ ฉัน
"แกต้องทำได้ ฉันรู้" ฉันเลื่อนมือขึ้นลูบเขาสวยสง่าของเพลิงเบาๆ อันที่จริงฉันอยากให้เพลิงได้ลงไปโลดแล่นในสนามอย่างวัวชนตัวอื่นๆ มาสักระยะหนึ่งแล้วละ แต่พ่อของฉันก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียวเนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าเพลิงเข้าตำราวัวลักษณะไม่ดีกลัวว่าขืนเอาไปวางชนเดิมพันจะมีแต่สร้างความเสื่อมเสียให้กับค่ายวัวชนของพ่อเอาเสียเปล่าๆ
"มอ~" เจ้าเพลิงถูหัวเข้ากับสีข้างของฉันเบาๆ อย่างออดอ้อน
"แกนี่มันช่างขี้อ้อนจริงๆ นะเพลิง ฉันถึงได้รักแกจนหมดหัวใจเลยยังไงละ รู้ตัวบ้างไหมละหืมเพลิง" ฉันพรมจูบลงบนจมูกดำเงาของเจ้าเพลิงเบาๆ
"แกมีชื่อใหม่แล้วนะรู้ตัวบ้างไหมเพลิง จากนาทีนี้เป็นต้นไปฉันขอตั้งชื่อให้แกใหม่ว่า โคนิลเพลิงเพชรพันล้าน นะเพลิง"
"มอ~"
"แกชอบชื่อนี้ใช่ไหมเพลิง ถ้าแกชอบแกจะต้องช่วยฉันหอบเงินหลายร้อยล้านที่ไอ้แดงกวนอูพรากจากเราไปให้เจ้านายของมันคืนมายังมือฉันให้ได้นะเพลิง ทำให้คนที่คิดสบประมาทแกได้รู้ว่าแกนี่แหละคือพญาโค แกเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหมเพลิง"
"มอ~"
"ฉันรักแกที่สุดเลยรู้ไหมเพลิง แกคือสหายแสนรักของฉันนะ" ฉันเลื่อนมือไปลูบเขาของเพลิงและเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้งอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
ฉันมั่นใจจนเกินร้อยว่าเจ้าเพลิงของฉันนั้นจะต้องคว้าชัยให้กลับมาอยู่ในมือของเธอได้อย่างสมเกียรติโดยแน่นอน
แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ สิ่งที่ฉันต้องการมากกว่าเงินเดิมพันในศึกครั้งนี้นั้นจริงๆ แล้วมัรก็คือการได้กอบกู้เกียรติยศของพ่อฉันกลับคืนมาอีกครั้งต่างหากละ
"มอ~"
ฉันทรุดตัวลงนั่งพร้อมๆ กันกับเพลิงที่ทรุดตัวลงนอน มันยื่นหัวของมันเข้ามาเบียดสีข้างของฉันอย่างออดอ้อนให้ฉันลูบหัวของมันอย่างที่ฉันเคยทำมานานหลายปี
"พักผ่อนนะเพลิง เสร็จจากงานคุณพ่อเมื่อไหร่เราจะมาร่วมมือกันทวงสิ่งที่เคยเป็นของพ่อคืนกลับมาให้จงได้ และเมื่อถึงวันนั้นฉันสัญญาว่าจะคอยปรนนิบัติและดูแลแกอย่างสมเกียรติเลยนะเพลิง เราจะช่วยกันกอบกู้ชื่อเสียงของพ่อและล้างตาให้จ้าวนิลวาโปที่จากเราไปในดินแดนแสนไกลไปด้วยกันนะเพลิง แกต้องทำได้ ช่วยฉันสักครั้งนะ แค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะจ้าวเพื่อนยากของฉัน"
เพลิงหลับตาพริ้มอย่างสบายใจเมื่อมันได้รับในสิ่งที่ตัวเองต้องการ และฉันก็ยินดีที่จะนั่งลูบหัวมันอยู่อย่างนั้นไม่ว่ามันจะนานแค่ไหนและทำให้ฉันเมื่อยขบตรงสีข้างมากเท่าไหร่ก็ตาม
ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะทำได้อย่างที่ปากพูดออกไปไหม แต่ฉันก็จะพยายามเต็มที่กับมันถึงแม้ว่ามันจะต้องแลกมากับอะไรก็ตาม...
หลายวันผ่านไปพิธีฌาปนกิจของคุณพ่อก็ผ่านไปได้ด้วยดี และความพยายามของฉันที่จะปิดข่าวการเสียชีวิตของพ่อก็มีอันต้องสูญเปล่าเพราะข่าวการยิงตัวตายของพ่อนั้นมันได้ถูกแพร่กระจายไปทั่วทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชเสียตั้งแต่วันแรกด้วยฝีมือของมนุษย์ป้าข้างบ้านนั่นเอง
น้ำตาของฉันเริ่มไหลออกมาอีกครั้งอย่างเงียบๆ ทั้งๆ ที่พยายามที่จะไม่ร่ำไรเพราะอยากจะให้คุณพ่อไม่สบายอย่างไม่ต้องมีห่วง แต่พอมาคิดว่า18ปีที่ผ่านมาของฉันนั้นมีแค่พ่อเป็นคนเลี้ยงดูและเชิดชูให้ฉันเติบโตขึ้นมา
ก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาเพราะความเสียใจอย่างไม่มีวันที่จะทำใจยอมรับความจริงในข้อนี้ได้...
นานนับชั่วโมงแล้วที่ฉันยืนกุมมือก้มหน้าอยู่ตรงฉากรูปและอัฐิของคุณพ่อ
ชีวิตที่ไม่มีคุณพ่อ...มันทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไป มันทำให้ฉันรู้สึกอยากจะตายตามคุณพ่อไปเสียตั้งแต่ตอนนี้
แต่ฉันจะตายไม่ได้ และฉันจะไม่ยอมตายถ้าหากยังไม่สามารถทวงทุกสิ่งอย่างรวมถึงเกียรติยศกลับมาให้พ่อและจ้าวนิลวาโปที่ล่วงลับให้กลับคืนมาได้!
งานศพของคุณพ่อได้ถูกจัดขึ้นที่วัดของหมู่บ้านเล็กๆในอำเภอท่าศาลาที่ค่อนข้างห่างไกลจากผู้คน แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของฉันที่จะทำให้ข่าวการเสียชีวิตของคุณพ่อไม่ให้เป็นเรื่องที่รับรู้ไปทั่วทั้งจังหวัดก็คงจะไม่เป็นผล
ว่าแต่เพราะอะไรนะเหรอ หนึ่งละก็คือและสองคือพ่อของฉันเป็นเซียนวัวชนที่เป็นถึงเจ้าของค่ายชนโคระดับอำเภอและค่อนข้างที่จะมีอิทธิพลกว้างขวาง การที่จะปิดข่าวเอาไว้ได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นจึงนับว่าเป็นเรื่องยากพอสมควร
ส่วนสองก็คือ 'ป้าข้างบ้าน' ที่เก่งเรื่องทำการเรียกเชิญแขกเข้างานยิ่งกว่าฉันที่เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณพ่อ อันเป็นเหตุให้เพื่อนร่วมหมู่บ้านที่เจ้าภาพอย่างฉันไม่ได้ตั้งใจเชิญมาตั้งแต่แรกเดินทางเข้ามาช่วยงานศพของคุณพ่ออย่างล้นหลาม
คิดๆไป ใจนึงก็โกรธ ใจนึงก็ขำ อีกใจก็นึกขอบคุณที่เขาอุตส่าห์สละเวลาชีวิตมาช่วยฉันเรียกแขกเข้างานศพของคุณพ่อตัวเอง
ขอบคุณนะป้า แต่คราวหน้าคราวหลังไม่เข้ามายุ่งจะขอบคุณมากกว่านี้ สวัสดีค่ะ!
ป้าข้างบ้าน แคร์ทุกคนเสมอ ฮ่าๆๆ