สองวัน

1505 Words
“ไสหัวไปให้พ้น” เสียงหนาของรัตติเอ่ยไล่พยาบาลคนใหม่ที่เขานั้นเพิ่งจะลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้าของวันนี้ พร้อมกับมองไปอย่างคนเกรี้ยวกราดไม่พอใจนักที่ต้องเป็นคนพิการจนต้องมีคนมาคอยดูแลแบบนี้ “คุณแสงใจเย็นๆก่อนนะคะ” พยาบาลสาวที่ถูกว่าจ้างมาด้วยเงินจำนวนมากพอสมควรพยายามใช้ความอดทนเข้าสู้กับคนป่วยอย่างรัตติ เธอไม่ตอบโต้อะไรออกไปมากนัก นอกจากเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายที่เพิ่งจะตื่นนอนขึ้นมาใจเย็นลง “กูบอกให้ออกไปไง” รัตติตวาดพยาบาลหน้าใหม่ที่เขายังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเหมือนพยาบาลคนก่อนดังลั่นห้องนอน “ไอ้แสงใจเย็นๆก่อน” ภูผาที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณบ้านพักหลังเล็กที่เขายกให้รัตติใช้พักรักษาตัวรีบวิ่งเข้ามาทันที เขารีบเข้าห้ามปรามน้องชายที่ออกปากไล่พยาบาลที่เพิ่งจะมาทำงานได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง “กูไม่ชอบพยาบาลคนนี้ ไล่ออกไปซะ” เมื่อไล่พยาบาลออกเองไม่ได้ผล รัตติก็หันหน้าไปมองพี่ชายของเขาที่เดินเข้ามาพอดี สายตาของเขามองไปยังพี่ชายของตัวเองด้วยแววตาที่ไม่พอใจนัก ที่ตื่นมาแล้วต้องเจอกับพยาบาลคนนี้ “คุณพยาบาลเขาเพิ่งจะมาเมื่อเช้านี้เอง มึงยังไม่รู้ชื่อเขาเลยด้วยซ้ำ มึงจะไม่ชอบเขาแล้วเหรอ” ภูผายังคงใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเกลี้ยกล่อมรัตติผู้เป็นน้องชายของเขา เพื่อให้รัตติยอมให้มีพยาบาลเข้ามาดูแล เพราะเขาต้องทำงานภายในไร่ศีขริน จะมาคอยดูแลน้องชายด้วยตัวเองก็คงไม่ไหว “ไม่ไปใช่ไหม เพล้ง” มือหนาของรัตติคว้าเอาแจกันใบเล็กๆพอดีมือจับขึ้นมาแล้วปาไปที่พยาบาลสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล พยาบาลสาวเบี่ยงตัวหลบได้ทัน แต่ก็ไม่ทั้งหมด แจกันนั้นเฉียดโดนตัวไปนิดแต่ก็ไม่มากไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บอะไร “ไอ้แสง หยุดนะ” ภูผาเข้าห้ามรัตติผู้เป็นน้องชายด้วยความรวดเร็วเมื่อรัตตินั้นคว้าเอาโคมไฟขึ้นมาตั้งท่าจะปาออกไปอีก “เพล้ง” เห็นผู้เป็นพี่ชายจะเข้ามาคว้าโคมไฟในมือ เขาก็รีบปามันลงไปที่พื้นใกล้ๆแทนเพื่อเป็นการทำลายข้าวของให้เกิดความสะใจ “ฉันขอลาออกค่ะ” พยาบาลสาวได้เห็นความเกรี้ยวกราดของคนป่วยที่จะต้องดูแลก็รีบลาออกไปในทันทีโดยที่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน เพราะถ้าขืนทำงานไปเธอได้เลือดตกยางออกทั้งตัวแน่ๆคนป่วยเกรี้ยวกราดได้ขนาดนี้ ถึงขึ้นแทบจะทำบ้านพังได้เลยแม้จะลุกเดินขึ้นมาไม่ได้ เมื่อตัวต้นเหตุสำหรับเขาเดินออกไปแล้ว รัตติก็สงบลงและนอนพักผ่อนอย่างที่ควรจะเป็นต่อไป โดยที่มีภูผาเป็นคนเก็บทำความสะอาดบ้านที่มีแต่ข้าวของแตกหักเต็มพื้นไปหมดนั้น “คุณพยาบาลเขาเข้าใจดีค่ะ พี่หินไม่ต้องกังวลนะคะ” อลิสสาเดินเข้ามาปลอบใจผู้เป็นสามีหลังจากที่เธอเพิ่งจะไปจัดการจ่ายเงินปลอบขวัญให้กับคุณพยาบาลมา และเขาก็เพิ่งจะเดินกลับเข้าบ้านมาหลังจากที่ดูแลรัตติผู้เป็นน้องชายเสร็จเรียบร้อยแล้ว “สองวัน สองคน ไอ้แสงมันชักจะแผลงฤทธิ์มากเกินไปแล้วนะ” ภูผาปรับทุกข์กับผู้เป็นภรรยาของเขาเมื่อรู้สึกจะรับมือไม่ไหวกับน้องชายของตัวเอง “คุณแสงเธอไม่สบาย เดี๋ยวอีกสักพักเธอคนจะดีขึ้น” อลิสสาพยายามให้กำลังใจเขาเหมือนกับในทุกๆครั้งที่เขาต้องเจอกับปัญหา เพื่อที่จะจับมือกันก้าวข้ามปัญหาไปให้ได้ “ถ้าไม่ดีขึ้นล่ะ พี่จะไปจ้างพยาบาลที่ไหนมาดูแล” เขาถามย้อนกลับไปที่ภรรยาเพราะว่าน้องชายของเขาดูเหมือนจะมีอาการทางจิตใจหนักหนาขึ้นทุกวัน จนเขาแทบจะคิดอะไรไม่ออกแล้วที่จะหาทางช่วยน้องชายคนนี้ “ลองเปลี่ยนเป็นผู้ชายบ้างดีไหมคะ” อลิสสาลองเสนอความคิดให้ผู้เป็นสามีฟัง โดยไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่ามันจะได้ผล เพราะรัตติค่อนข้างอาละวาดหนักไม่มีใครเข้าหน้าติดเลย แม้แต่เธอที่เคยพูดคุยกันได้ในยามปกติตอนนี้ยังเข้าไปใกล้แทบจะไม่ได้ “ก็ดีเหมือนกัน” ภูผารับฟังความคิดเห็นนั้นของภรรยา และรีบโทรบอกให้น้องชายอย่างพายัพส่งบุรุษพยาบาลพิเศษเข้ามาดูแลน้องชายของเขาทันที “อาหารเช้าและก็ยาครับ” เช้าวันใหม่ของการต้องมาอยู่รักษาตัวที่ไร่ศีขริน รัตติลืมตาตื่นขึ้นในเวลาปกติ และก็ต้องพบกับคนดูแลคนใหม่ที่เป็นผู้ชาย เขามองดูอยู่สักพักจนมั่นใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้ที่เขามาดูแล พี่ชายเขาเป็นคนจัดหามาให้แน่นอน “กูไม่กิน เพล้ง” มือหนาที่เร็วเท่าความคิดก็ปัดเอาอาหารเช้าและก็ยาที่ใส่อยู่ในถาดเดียวกันและถูกไว้ที่โต๊ะเล็กๆข้างเตียงนอนตกลงไปที่พื้น อาหารเช้าที่เป็นข้าวต้มกับยาสองสามเม็ดกระจายเกลื่อนพื้นในทันที สร้างความสกปรกไปทั่วทั้งห้อง “คุณแสงควรกินอะไรลงท้องบ้างนะครับ” บุรุษพยาบาลที่พอได้ข้อมูลของคนป่วยมาบ้างว่ายังไม่ได้กินอะไรลงท้องเลยมาตั้งแต่เมื่อวานเย็นรีบเอ่ยเตือนคนป่วย เพราะการทำแบบนี้ไม่ส่งผลดีต่ออาการป่วย มีแต่จะทำให้ร่างกายแย่ลงแล้วก็พานจะหายช้าไปอีกด้วย “อยากกินมึงก็เก็บกินเองซิ” สายตาคมแสนดุดันจ้องมองไปยังบุรุษพยาบาลที่กล้ามาออกคำสั่งกับเขาอย่างอยากจะลุกขึ้นไปฉีกบุรุษพยาบาลคนนั้นออกเป็นชิ้น “คุณแสง” บุรุษพยาบาลที่ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันกับคนป่วย เผลอเสียงดังออกไปที่ถูกสั่งแบบกดขี่ข่มเหงแบบนั้น “ขึ้นเสียงเหรอ มึงกล้าเหรอ” รัตติพยายามจะเข้าไปทำร้ายบุรุษพยาบาลที่กล้าขึ้นเสียงใส่เขา จนตัวเองตกลงจากเตียง “โอ๊ย” บุรุษพยาบาลรีบเข้าไปช่วยเพราะเห็นว่าเป็นคนป่วยที่ต้องได้รับการดูแลด้วยความรวดเร็ว แต่กลับถูกรัตติชกเข้าที่ใบหน้าแทน เลยต้องปล่อยมือออกจากการช่วยเหลือและรีบวิ่งออกมาจากภายในห้องนอนนั้น “ผมขอลาออก” บุรุษพยาบาลคนนั้นวิ่งออกมาเจอเข้ากับภูผาผู้เป็นผู้ว่าจ้างเขาด้วยเงินจำนวนมากเพื่อให้มาทำงานที่เลวร้ายนี้ เขาลาออกทันทีอย่างไม่ลังเลพร้อมกับใบหน้าที่มีรอยช้ำที่เกิดขึ้นจากการโดนรัตติทำร้ายมา ภูผาจำต้องให้บุรุษพยาบาลคนนั้นลาออกไปหลังจากทำงานได้ไม่ถึงชั่วโมงอีกตามเคย และนอกจากจ่ายเงินเดือนไปให้หนึ่งเดือน ยังต้องจ่ายค่าเสียขวัญไปอีกด้วยเพื่อไม่ให้ทางนั้นเอาเรื่องออกไปพูดกับคนนอก “ก็ได้ เดี๋ยวกูดูแลมึงเอง” หลังจากเคลียร์ทุกอย่างเสร็จสรรพภูผาก็เดินเข้ามาภายในห้องนอนของนายชาย และตัดสินใจเป็นผู้ดูแลน้องชายด้วยตัวเอง แม้จะมีงานรัดตัวก็ตาม “กูต้องการพยาบาล ไปหามาซิ” รัตติตอบกลับอย่างยียวนทั้งที่ตัวเขาไม่ได้ต้องการใคร เพราะไม่อยากถูกดูแลเหมือนคนพิการคนหนึ่ง “มึงไล่ออกหมด แล้วกูจะไปหามาจากที่ไหน” ภูผาตอบกลับออกไปตามความจริง เพราะไม่ว่าเขาจะจ้างใครมารัตติก็ไล่ออกหมด เขาไม่รู้จะไปเสาะหามาจากไหนอีกแล้ว เพราะไม่ว่าจะดีแค่ไหนก็ไม่ถูกใจคนป่วยอย่างรัตติสักที “ส่งกูกลับกรุงเทพซิวะ” รัตติที่อยากจะเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่อยากเจอใครเพราะใครๆก็คงพากันมองดูว่าเขาก็เป็นแค่คนพิการเอ่ยบอกพี่ชายที่ดูท่ากำลังจะหมดความพยายามในการดูแลเขา เขาอยากจะกลับไปอยู่คนเดียวเพียงลำพัง เพราะนั้นมันคงดีกับเขาที่ทุกอย่างในชีวิตได้พังไปหมดแล้ว ไม่ต้องพบเจอใครเพราะในชิวิตก็ไม่ได้เหลืออะไรนอกจากความพิการ “เฮ้อ” ภูผาถอนหายใจดังลั่นห้องนอนสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนั้นของผู้เป็นน้องชายเพื่อระบายความอึดอัดที่มันเกิดขึ้นภายในใจออกไป และเขาก็เริ่มต้นพยายามใหม่ในการเสาะหาพยาบาลดีๆมาดูแลผู้เป็นน้องชาย เพราะเขาไม่มีวันส่งน้องชายกลับไปอยู่คนเดียวแบบนั้นแน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD