ตอนที่ 2

1280 Words
“น้าโพส” หลานชายตัวน้อยวัยแค่ไม่กี่ขวบ ที่พูดไม่ชัด แต่ก็ฟังเข้าใจ ส่งสายตายิ้ม ให้กับผู้เป็นน้า เพราะเคยสนิทชิดเชื้อ เนื่องจากตอนที่ยังอยู่คอนโด ครบทั้งพ่อและแม่ พสวีเคยแวะเวียนไปหา และเล่นเป็นเพื่อนหลานอยู่หลายครั้ง จนแกเองก็ติดน้าอย่างเขา และจำได้เสมอ ชายหนุ่มยิ้มดีใจ รีบรับเอามาอุ้ม “งั้น ผมก็ต้องขอลาก่อนนะครับ คุณขิม” ท้ายประโยค เขาเอ่ยชื่อของหล่อน ที่เขาจำได้ ขิมมพัสตร์ มองร่างสูงโปร่งของเขา ที่กำลังอุ้มหลานชายตัวน้อยของหล่อน กระทั่งลับสายตาไป ได้ยินเสียงสตาร์ทรถ ก่อนจะพุ่งแล่นจากไปอย่างราบเรียบ บนถนนในซอย นี่หรือ น้องชายอดีตพี่สะใภ้ของหล่อน แววตาของขิมมพัสตร์มองอย่างไม่พอใจ และเชิดใส่ แม้ว่าเขาจะจัดว่าเป็นคนที่หน้าตาดีทีเดียว คมคาย นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของหล่อนและผู้ชายคนนี้ สักวันก็คงได้เจอกันอีกแน่ หนึ่งชั่วโมงต่อมา บ้านพัก รังสิตคลองสอง พสวีขับมาหยุดหน้าอพาร์ทเม้นของพี่สาว แวะเวียนมา สามสี่หน จนจำทางได้ ส่วนเขาพักอยู่ย่านชานเมือง แถวถนนศรีนครินทร์ประเวศ เนื่องจากว่าบริษัทที่พสวีทำอยู่แถวนั้น ก่อนจะถึง พสวีได้โทร.บอกพี่สาว ให้ลงมารับ หล่อนยกมือโบกให้ เห็นรถคุ้นเคย พสวีมองเห็น นั่นเป็นพี่สาวของเขา วันนี้หล่อนลาหยุดพักงานครึ่งวัน ก็ เพราะเรื่องลูกชาย “ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั๊ย” ถามกับน้องชาย และชายหนุ่มเอ่ยตอบ “ครับ ไม่มีปัญหา แต่ว่า ผมไม่ได้พบเจอคุณนายบุษยา ย่าของตาหนึ่ง แต่ว่าผมเจอ” กำลังจะบอกกับพี่สาวว่า คนที่เขาได้พบ กลับเป็นหญิงสาว ที่หน้าตาสะสวย แถมท่าทางเย่อหยิ่ง ไว้ตัว แต่แปลกมีน้ำใจพอสมควร หล่อนแต่งตัวทันสมัย รู้แต่ว่าหล่อนสวยระหง แววตาอ่านออกยาก “เอ้อ คงจะเป็นน้องสาวของพี่โมนนะครับ” “อ๋อ คุณขิม” สิดาวันทายออกมา บ้านหลังนั้น มีคุณนายบุษยาหรือย่าตาหนึ่ง อยู่กับลูกสาวคนที่สอง คือ ขิมมพัสตร์ ที่ทำงานในวงการเป็นนางแบบ เรื่องนี้ คุณนายบุษยา ไม่ได้ชื่นชมเห็นดีเห็นงามกับหล่อน เพราะอยากจะนำหลานไปเลี้ยงเองเช่นกัน แต่หล่อนไม่ยอม เพราะหล่อนเป็นแม่ และได้ตกลงกับสามี คือปรไมยดีแล้ว คุณบุษยาไม่มีสิทธิตรงนี้ หล่อนหย่าขาดจากสามี ปรไมย ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีก ชีวิตมันลงเอยอย่างนี้? ต้องดิ้นรนต่อสู้ใหม่ หล่อนยังไม่เข็ดกับชีวิตรัก ถึงลืม แต่มันก็ยังลืมไม่สนิทใจ ร่องรอยความหวานชื่นของคนเคยอยู่ด้วยกัน เกิดเป็นเกลียวผูกพัน และสายใยรักที่ถักทอ เป็นโซ่ทองคล้องใจ มีบุตรด้วยกัน คือ ตาหนึ่ง ปัญหา รักระหว่างวัย ที่แตกต่างกัน โมนอาจจะคิด ในฐานะที่เขารุ่นน้องของหล่อน ถึงสี่ปี นี่ล่ะ ที่ทำให้คุณบุษยา ไม่พอใจในการต้อนรับหล่อนเป็นลูกสะใภ้ของบ้านนี้ เพราะหล่อนก็มาจากตระกูลที่ไม่ได้มีเทือกเถาเหล่ากอ เป็นเพียงสกุลรากหญ้า จากชนบทธรรมดา ทำนาทำไร่ “มาถึงเหนื่อยๆ หิวข้าวมั๊ยล่ะเธอ พี่ผัดกระเพราไก่ทิ้งไว้กับไข่เจียว มีไข่ดาวสองฟองทิ้งไว้” สิวันดาถามน้องชาย คิดว่า พสวีเดินทางมาเหนื่อย คงหิว เขาพยักหน้า “ดีครับ กำลังหิวพอดีเลยล่ะ” นึกหิวพอดี เมื่อ พี่สาวถาม “งั้นพี่จะไปตักใส่จานมาให้ อุ้มตาหนึ่งให้พี่ที” สิดาวันส่งลูกชายคืนไปให้น้องชาย และเขารับมาอุ้ม และเล่นกับแกไปพลาง เย้าหยอกจ๊ะจ๋ากันตามลำพัง ประสาน้าหลานที่สนิทสนม ห้องหับของสิวันดากว้างขวางพอสมควร ช่วงวันหยุดยาว เขาจะค้างที่นี่ อิ่มข้าวกะเพราไก่ของพี่สาวแล้ว ตามด้วยยกแก้วน้ำมาดื่ม ตบท้องตัวเองเบาๆ อิ่มแล้ว มีเรี่ยวแรงตามมา จากนั้นก็นั่งเล่นกับหลานไปพักใหญ่ ส่วนพี่สาว ก็ขอตัวนำจานชามช้อนส้อม ที่เขาเพิ่งทานเสร็จ เอาไปล้างเก็บในครัว เดินออกมาอีกครั้งด้วยใบหน้าที่ยิ้มแป้นเอ่ยถามน้องชาย “เธอจะค้างคืนกับพี่ที่นี่หรือเปล่า พี่จะได้จัดที่หลับที่นอนให้พส” หล่อนถามอย่างเป็นห่วงและเอาใจน้องชาย เขาขมวดคิ้วเข้าหากันสักครู่ ก่อนตอบ “คงไม่หรอกครับ พี่ดา เอาไว้วันหลังดีกว่า พสต้องลุกไปทำงานแต่เช้า ก็กลัวตื่นไม่ทัน เป็นวันหยุดก็จะแวะมาแน่นอนครับ แต่ว่า ใต้ถุนอพาร์ทเม้นของพี่มีที่จอดรถ พอมั๊ยครับ” “มีสิจ้ะ พี่เลือกอพาร์ทเม้นที่มีลานจอดรถกว้างด้วย ก็เผื่อญาติพี่น้องมาหา อย่างเธอมาหาพี่นี่” “แสดงว่า พี่ดาก็รอบคอบพอสมควร” เขาชื่นชมพี่สาว “เออ แล้วพี่ดาจะฝากใครเลี้ยงตาหนึ่ง ตอนที่พี่ดาไปทำงาน” “คนข้างบ้านจ้ะ รู้จักกัน แต่สักพักล่ะ พี่จะเอาแกเข้าโรงเรียนอนุบาล แล้วค่อยมารับแกในตอนเย็น” “ก็ดีครับ” น้องชายสนับสนุนด้วย อยู่คุยต่อกับพี่สาวอีกสองชั่วโมงพสวีก็ขอลาพี่สาวกลับ เพื่อจะกลับไปที่อพาร์ทเม้นของเขาอีกครั้ง และชายหนุ่มเดินเข้ามาหาหลานตัวน้อย พูดกระซิบบอกแก “หนึ่ง น้าพสกลับก่อนนะ วันหลังมีเวลาจะมาเยี่ยม แล้วนอนค้างด้วย อยู่ที่นี่ทำตัวเป็นเด็กดีของแม่นะ คราวหลังน้าพสจะซื้อของเล่นมาฝากด้วย น้าไปก่อนนะ” แกลืมตามองผู้เป็นน้าตาแป๋ว แก้มยุ้ยสีชมพูยิ้มให้พร้อมกับผงกศีรษะรับ จากนั้นผู้เป็นน้าชายของตาหนึ่ง หันมาทางพี่สาวของเขา “พสเห็นจะต้องไปเสียที พี่ดา เดี๋ยวจะดึกมากกว่านี้” เหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ใกล้จะสามทุ่มครึ่งแล้ว “จ้ะ พสขับรถให้ดีล่ะ พี่เองก็ห่วง แถวนี้รถบรรทุกเยอะ ถนนหนทางไม่ค่อยดีนัก” เพราะเป็นย่านชานเมือง แต่มีผู้คนอยู่หนาแน่น และโรงงานอุตสาหกรรม รถขนาดใหญ่อย่าง รถพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ วิ่งเข้าออกตลอดเวลาโดยเฉพาะถนนรังสิตตัดกับทางด่วนเส้นบางปะอิน­-บางนา “ครับพี่ ดา พี่ดาก็รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยแล้วกันนะครับ มีเจ้าตัวเล็กอยู่ด้วย ผมก็ห่วงทั้งหลานห่วงทั้งพี่” พสวีห่วง กลัวพี่สาวจะไม่มีเวลาให้หลาน แต่นี่คือการตัดสินใจของสิดาวัน ที่ต้องการรับเอาลูกมาเลี้ยงเอง กว่าการที่จะยอมปล่อยแก ให้ไปอยู่ในการดูแลของมารดาอดีตสามีหรือเป็นย่าแก เพราะสิดาวัน ต้องการสร้างความคุ้นเคยให้แก่ลูก หล่อนจะกัดฟันอดทนอย่างถึงที่สุด ในเมื่อตาหนึ่งเป็นลูกของหล่อน หล่อนจะเลี้ยงให้ดีที่สุด ปรไมยหรือโมน พ่อของแกหรือ เมื่อเขามีคนใหม่ ภรรยาคนใหม่ของเขา คงตั้งท้อง และกำเนิดทายาทคนใหม่ให้พ่อแม่ของเขา ชื่นชม และอาจจะหลงลืมลูกชายของหล่อน หรือหลานชายคนนี้ไปโดยปริยายก็ได้ พูดตามตรงคือ สิดาวัน ไม่อยากจะให้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD