ตอนที่ 1 - ไร่ส้มคอยรัก (5) จบ

1378 Words
“พักผ่อนก่อนก็ได้ ไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยมาสมัคร” ไม่ว่าจะวันนี้หรือไหนๆ สำนักงานของเขาก็มีที่ว่างให้อาทิตยาเสมอ จะเรียกเงินเดือนเท่าไหร่เขาก็พร้อมจ่าย เพราะเขาไว้ใจฝีมือการทำงานของน้องเอย “ขอบคุณค่ะ” อาทิตยาถือตะกร้าเดินนำชายหนุ่มไปทางสะพานไม้ กลัวมันจะรับน้ำหนักสองคนไม่ได้ก็หันไปบอกเขาให้ยืนรอไปก่อน เมื่อหล่อนเดินไปถึงอีกฝั่งแล้วก็ถึงได้หันกลับไปเรียกเขาให้เดินตามมา ทั้งสองเดินผ่านเข้ามาทางประตูหลังบ้าน อาทิตยานำผักไปให้มารดาก่อนจะไปยังห้องนอนบิดามารดาค้นชุดของบิดามาให้อาชวินเปลี่ยน “เห็นพี่อาร์มไหมจ๊ะ แล้วนี่หนูหาอะไรอยู่เหรอลูก” แม่ด้ายผ่านมาเห็นพอดีจึงเข้ามาทัก อีกอย่างตนเองมองหาอาชวินแล้วแต่ก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่าลูกสาวคนสวยทำแสบไปพูดจาไล่พี่เขากลับไร่ส้มไปแล้วหรือเปล่า อาหารพร้อมแล้วและทุกคนก็เริ่มหิวกันแล้วด้วย “พี่เขานั่งอยู่หลังบ้านค่ะ พอดีลื่นล้มตัวเลอะโคลน เอยก็เลยหาชุดคุณพ่อไปให้พี่เขาเปลี่ยน” “อ้าว แล้วพี่เขาเจ็บมากไหมลูก” “ไม่มากเท่าไหร่หรอกค่ะ ยังเดินตามเอยไม่หยุดเลย” “เรานี่นะ ไว้พี่เขาไม่ง้อวันไหนแล้วจะรู้สึก” แม่ด้ายมองค้อนลูกสาวคนสวยที่ขยันประชดประชัน จากนั้นจึงก้าวผ่านธรณีประตูเข้ามาช่วยเลือกเสื้อผ้าไซส์เล็กให้ลูกสาว “หนูพาพี่เขาไปล้างเนื้อล้างตัวด้วยนะลูก” อาทิตยารับเสื้อกับกางเกงจากมารดาเดินออกไปทางเดิมส่งชุดไปให้หนุ่มหล่อ เขาบ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้เจอหล่อนทีไรเป็นต้องยิ้มกว้างทุกทีเหมือนมีระบบอัตโนมัติ “พี่อาร์มเข้าไปล้างตัวก่อนค่อยมากินข้าวนะคะ เอยจะเข้าไปช่วยคุณแม่จัดโต๊ะอาหารรอ” “ครับ” ขานรับเสียงอ่อนหวานพลางรับเสื้อผ้าจากมือน้องเอย ใจดีจัง สวย น่ารัก มองยังไงอาทิตยาก็ใช่สำหรับเขา ฟ้ามืดแล้วในบ้านจึงเปิดไฟสว่างทุกดวง อาชวินใช้ความกล้าค่อนข้างมากในการอาบน้ำในห้องน้ำเก่าซึ่งตั้งอยู่นอกบ้าน จิ้งจกเอย ตุ๊กแกเอย เกาะเต็มผนังมองเขาโป๊นานสองนาน ตุ๊กแกบ้าเอ๊ย ไอ้นี่น่ะ เขาอนุญาตให้น้องเอยเห็นคนเดียวเว้ย พวกแกไม่มีสิทธิ์ อาชวินแสนหวงตัวรีบใส่เสื้อผ้าแล้วรีบวิ่งออกมา นำเสื้อผ้าเลอะโคลนไปเก็บไว้ในหลังรถก่อนจะเดินเข้ามาด้านหน้าบ้าน บังเอิญสายตามองไปเห็นร่างเล็กของชายคนหนึ่งที่อายุอานามน่าจะแรกเกิดไม่กี่เดือน นี่น่ะเหรอ… เด็กที่ชาวบ้านเขาลือว่าเป็นลูกน้องเอย พ่อโยนั่งหันหลังให้เขากำลังดูเกมโชว์ทางช่องเจ็ดสี หัวใจอาชวินเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ก้าวขาเข้ามาอีกนิดขยับเข้ามาอีกหน่อยเพื่อชะเง้อคอมองหน้าตาเล็กจิ้มลิ้มของเด็กน้อยว่าแกหน้าเหมือนน้องเอยไหม มองไปมองมาก็คล้ายน้องเอยอยู่นะ หน้ากลม ผิวขาว จมูกโด่งมาแต่ไกลเชียว อาทิตยากำลังจะเข้ามาเรียกบิดาไปกินมื้อค่ำทว่าเห็นปฏิกิริยาของอาชวินเข้าซะก่อนจึงแอบยืนมอง เคยคิดไว้ว่าหากเขาเห็นหล่อนพาเด็กกลับบ้านแล้วอาจจะรังเกียจ แต่สายตาที่เขากำลังใช้มองตาหนูในตอนนี้ทำไมถึงห่างไกลกับคำว่ารังเกียจมากนัก “คุณพ่อ พี่อาร์ม มากินข้าวในครัวค่ะ อาหารพร้อมแล้ว” “โธ่ เกมโชว์กำลังสนุกเลยนะลูก” พ่อผู้ใหญ่ทำหน้าเสียดาย ชี้นิ้วใส่โทรทัศน์ “ไว้ค่อยดูต่อวันหลังค่ะ พี่อาร์มคงจะหิวแย่แล้ว” แอบมองเขาเล็กน้อยก่อนจะเข้ามายกแปลลูกพาไปนอนด้วยกัน “ไปกินข้าวกันเถอะพ่ออาร์ม วันนี้แม่ด้ายเขาทำอาหารชุดใหญ่เลี้ยงน้องเอย อร่อยๆ ทั้งนั้นเลยนะ” “ครับพ่อโย แต่… เด็กคนนี้แกชื่ออะไรเหรอครับ แกน่ารักดี” ลองถามขณะเดินตามหลังเจ้าของบ้านมายังห้องครัว “ชื่อกัปตัน หลานพ่อเอง” ท่านบอกเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่ได้ปิดบังอะไรทำให้คนฟังเกิดความรู้สึกใจหาย ข้างในตัวเขาโหวงๆ ไปหมด เพิ่งจะรู้ซึ้งก็วันนี้ว่าทำไมช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาน้องเอยถึงไม่ค่อยกลับบ้าน เป็นเพราะน้องเอยมีกัปตันนี่เอง อาชวินเป็นผู้ใหญ่และมีมารยาทมากพอจะไม่ถามอะไรที่ดูเป็นการละลาบละล้วง เขาเพียงชวนพ่อโยแม่ด้ายคุยเรื่องงานเกษตรประจำปีเท่านั้น และบอกต่อเรื่องตำแหน่งงานว่างในไร่ส้มทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองสนใจมากยุแยงให้อาทิตยาลองเข้าไปสมัคร หลังจบมื้ออาหาร อาชวินอยู่คุยกับพ่อโยต่ออีกสักพักก่อนจะขอตัวกลับเพราะเริ่มดึกแล้ว เขารู้ว่าอาทิตยาไม่ได้เต็มใจเดินออกมาส่งทว่าไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้เป็นพ่อได้ นอกบ้านอากาศเย็นสบายมีลมอ่อนๆ พัดผ่านมาตลอดเวลา อาชวินหันหน้ากลับไปมองอาทิตยา “ไว้น้องเอยจะเข้าไปในไร่วันไหนโทรมาบอกพี่ได้นะ ขอเบอร์ของพี่จากพ่อโยก็ได้” “ขอบคุณมากนะคะที่ใจดีกับเอยมาตลอด แต่… เอยว่าพี่อาร์มอย่ามาเสียเวลากับเอยเลยนะคะ” อาชวินเงียบไปหลายวินาทีทว่าเขายังยิ้มได้ “แล้วทำไมถึงคิดว่าพี่เสียเวลากับเอยล่ะครับ” “ก็เพราะไม่ว่าพี่อาร์มจะใจดีจะทำดีกับเอยมากแค่ไหน เอยก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะว่าเอยไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่อาร์ม สำหรับเอยพี่อาร์มเป็นมากที่สุดได้แค่พี่ชายที่เอยเคารพ และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความรู้สึกของเอยก็ไม่มีวันเปลี่ยนไปจากนี้” ไม่ใช่แค่คนฟังที่อึ้งและพูดอะไรไม่ออก แต่แม้กระทั่งคนพูดเองยังไม่คิดเลยว่าจะกล้าพูดถึงขนาดนี้ “เอยขอโทษนะคะที่ต้องพูดแบบนี้ เอยหวังดีกับพี่อาร์มจริงๆ ไม่อยากให้พี่อาร์มเสียเวลากับเอยไปมากกว่านี้ พี่อาร์มเป็นคนดีควรจะได้เจอคนดีและเพียบพร้อมมากกว่าเอย อย่างที่พี่อาร์มเห็นว่า… เอยมีลูกแล้ว ยังไงเอยก็รักพ่อของลูกเอยค่ะ” “แล้วเขาหายไปไหนล่ะ ทำไมถึงปล่อยให้น้องเอยกับลูกกลับบ้านมากันแค่สองคน” “เรา… ทะเลาะกันนิดหน่อยค่ะ พี่อาร์มอย่ามาสนใจเลย” “ต้องสนสิเอย ก็พี่รักเอยมาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีแล้ว ถูกปฏิเสธตั้งหลายครั้งแต่พี่ก็ไม่ลืมเอยสักที” เอ่ยจบอาชวินก็หันหลังให้ทันทีไม่ยอมให้อาทิตยาเห็นว่าตอนนี้เขากำลังมีน้ำตา เจ็บหน้าอกชะมัด ทำไมกันนะเขาต้องรักผู้หญิงคนนี้มากขนาดนี้ด้วย อาชวินสตาร์ทรถขับกลับบ้านด้วยความรู้สึกอ้างว้าง ปวดร้าวในหัวใจ ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตาความเจ็บปวดภายในใจก็ยังฝังแน่นไม่เลือนหายไปไหน ‘คืนนี้สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติชวนชมปรากฏการณ์ ฝนดาวตก เริ่มต้นเวลาสองทุ่มครึ่ง พื้นที่ที่เหมาะแก่การชมฝนดาวตกคือสถานที่ที่ไร้แสงไฟรบกวน เช่น บนตึกสูง หรือตามยอดดอย...’ เสียงแว่วๆ จากทีวีในห้องนอนกำลังรายงานข่าว ชายหนุ่มเดินเลื่อนลอยไปยังกรอบหน้าต่างเปิดกระจกแยกออกจากกัน มองขึ้นไปบนฟากฟ้าเห็นเส้นแสงสีขาวกำลังเคลื่อนผ่านหน้าตนเองไป ‘หากจะมีสิทธิ์ขออะไรได้สักอย่าง เขาขอโอกาสดูแลน้องเอยได้ไหม แค่ครั้งเดียวก็ยังดี’  ............ ติดตามตอนต่อไปใน ตอน 2
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD