ภายในห้องประชุม หัวหน้าคนงาน เลขา รวมถึงพนักงานที่เกี่ยวข้องต่างรายงานผลการดำเนินงานอย่างคล่องแคล่ว แต่มีสะดุดบ้างเพราะแอบมองแล้วเหมือนเจ้านายจะไม่สนใจ ‘อาชวิน’ หนุ่มหล่อเจ้าของไร่ส้มสัตยาหรือที่ติดปากเรียกว่าไร่ส้มคอยรักกำลังส่องกระจก เอียงซ้ายบ้างขวาบ้างราวกับจะถามกระจกว่าตนเองหล่อหรือเปล่า จรัสศรีเลขานุการจึงขยับเข้ามากระแอมกระไอเรียกชื่อเตือนสติ เจ้านายถึงเพิ่งรู้ตัวกลับมาสนใจการประชุม คนอื่นหัวเราะครืนแต่ส่งเสียงดังมากไม่ได้ประเดี๋ยวเจ้านายจะส่งสายตาดุมาให้
“คุณอาร์มคะ วันนี้อย่าลืมไปไร่ภูตะวันนะคะ”
จรัสศรีเตือนความจำ ในขณะที่พนักงานในไร่คนอื่นกำลังทยอยแยกย้ายกันไปทำงานตามที่เจ้านายมอบหมายให้
“เกือบลืมไปซะสนิทเลย แล้วเรื่องที่ผมให้คุณช่วยจัดการล่ะ”
“เรียบร้อยดีค่ะ ดิฉันให้คนเอาไปเก็บในรถให้แล้ว วันนี้คุณอาร์มจะกลับออฟฟิศไหมคะ”
“คงไม่ได้เข้ามาอีก ถ้ามีอะไรด่วนโทรหาผมได้เลยนะครับ”
ภูตะวัน เป็นไร่องุ่นของเพื่อนสนิทเขาที่ชื่อ ‘ภวัต’ เป็นประจำทุกปีที่จะมีการจัดการแข่งขันสนุกๆ สำหรับคนไร่คนสวนทั้งหลาย
ตกเย็นก็จะมีการประกวดนางงามขวัญใจชาวไร่ ได้ข่าวมาว่ามันถูกบังคับให้ลงแข่งคู่กับเมียลับๆ ของมัน เขาก็เลยอยากตามไปฮา เอ๊ย! ตามไปให้กำลังใจซะหน่อย สั่งคุณจรัสศรีทำป้ายเชียร์มาใหญ่มาก มันไม่ซึ้งก็ให้รู้กันไป
อาชวินขับรถยนต์คันใหญ่ออกจากไร่ส้มมุ่งตรงขึ้นเหนือไปยังไร่ภูตะวัน ระหว่างทางเขาลดกระจกลงเชยชมธรรมชาติงดงามของจังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดเมืองนอน เกิดมาจนโตป่านนี้เขาแทบไม่ได้ไปจากเชียงใหม่เลย เว้นช่วงเรียนปริญญาโท ที่เลือกไปเรียนในเมืองกรุง หลังเรียนจบก็นำความรู้ความสามารถกลับมาพัฒนาไร่ให้มีรายได้หลายทางมากขึ้น จนตอนนี้ครอบครัวเขากลายเป็นหนึ่งในครอบครัวที่รวยที่สุดในภาคเหนือ กิจการหลักของบ้านคือไร่ส้มกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา
เขาผันตัวมาเป็นผู้บริหารหลักเพราะเป็นพี่ชายคนโตของบ้าน มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อน้องอิน น้องสาวไม่ชอบงานในไร่จึงเลือกเรียนทำอาหาร แล้วเปิดร้านอาหารในตัวเมืองเป็นของตัวเองตั้งอยู่ในตัวเมือง
น้องอินอายุห่างเขาสี่ปี แต่งงานมีสามีมีลูกชายเรียบร้อย เจ้าหนึ่งอยู่ในวัยกำลังซน ส่วนหนูสองอยู่ในท้องกำลังจะออกมาซนตามพี่ชายติดๆ วันหยุดทีไรเจ้าตัวป่วนมากวนเขาตลอด ส่วนพ่อแม่เจ้าหนูน่ะเหรอ หลบไปสวีทกันสองคนประจำ แต่ก็ดีแล้ว อย่ามาสวีทให้เขาอิจฉาเลย เห็นทีไรน้ำตาลในเส้นเลือดขึ้นสูง อิจฉาสระอาร้อยล้านตัวเห็นจะได้
ใช่สิ ก็เขามันเป็นหนุ่มโสดนี่นา โสดทนโสดทานยิ่งกว่าสินค้าโอท็อปหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซะอีก ทั้งที่บรรจุภัณฑ์และสรรพคุณออกจะดีขนาดนี้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงในการเดินทางและสิบนาทีในการหาที่จอดรถ อาชวินก็สามารถพาตัวเองมาถึงลานแข่งขันได้สำเร็จ
เขาเห็นเจ้าเพื่อนยากทำหน้ายุ่งเหยิงถือตะกร้าเดินต้อยๆ เข้าไปประจำโต๊ะของไร่ภูตะวันซึ่งมีพิมพ์ณดายืนเฝ้าอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ขำชะมัด ดูจากหน้ามันก็รู้แล้วว่าถูกเมียบังคับให้ลงแข่ง แล้วเขาก็เป็นเพื่อนที่ดีมาก ขอความช่วยเหลือจากคนในงานนำป้ายเชียร์ขนาดใหญ่ไปตั้ง ได้รับสายตาอาฆาตจากมันจ้องมาในเสี้ยวพริบตา
“หน้าโหดจริงเว้ยเพื่อนกู” เขาหัวเราะเสียงดังมาก ในระหว่างนั้นพิธีกรพูดอะไรเรื่อยเปื่อยสร้างบรรยากาศในงานในสนุกสนาน
ผลจากการชูป้ายไฟเชียร์ไม่ทำให้เสียแรงเปล่า นายภูกับพิมพ์ณดาชนะไปได้สองรอบ ทั้งการกินผลไม้และการทำขนม เหลือการตัดสินเพียงรอบเดียว คือประกวดในยามเย็นซึ่งเขาไม่ได้ไปดู
อาชวินใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำงาน เลี้ยงหลาน เลี้ยงหลาน ทำงาน สลับกันจนกระทั่งเพื่อนรักแต่งงานกับพิมพ์ณดาเขาก็ยังโสดสนิทเหมือนเดิม
สาเหตุเพราะนายภูชิงหนีมีเมียไปก่อนเขาจึงตกที่นั่งลำบาก คุณแม่ คุณย่า ต่างกดดันให้เขาเริ่มต้นเดทสาว ให้เดทสาวเนี่ยนะ! จะให้ทำอย่างนั้นได้ยังไงในเมื่อใจเขาไม่ได้ว่างเปล่า และพวกท่านก็รู้ดีว่าหัวใจเขามีไว้เพื่อใคร
......................................................................................................
รักเกิดในไร่ส้ม
เขียนโดย คณานางค์
ติดตามอผลงานนักเขียนได้ที่แฟนเพจ คณานางค์