6

1211 Words
“ดีใจด้วยนะอ้อ” ‘ขอบใจมาก แล้วก็เลยอยากเชิญมางานด้วย ต้องมานะข้าว งานนี้อ้อบังคับจ้ะ’ “อือ อยากไปนะ แต่ข้าวต้องขอพ่อก่อน” ‘ให้อ้อขอให้ไหม’ “ไม่ต้องหรอก แล้วเดี๋ยวยังไงข้าวโทรบอกอีกทีนะอ้อ” สรุปใจความเรื่องงานแต่งของปลายสายแล้ว สองสาวคุยกันต่อจากนั้นอีกร่วมครึ่งชั่วโมงถึงได้บอกลาวางสายค่อยโทรศัพท์หาธิดารัตน์คุยเรื่องที่ต้นอ้อจะแต่งงานอีกครู่ใหญ่ด้วยหน้าตาครุ่นคิดพักเดียวค่อยจึงไปสมทบกับบิดาและพี่ชายที่ห้องรับประทานอาหาร หลังจากมื้ออาหารนั้นแล้ว ขวัญข้าวนั่งคุยอยู่กับบิดาต่อ ขณะนั่งดูข่าวสารอยู่ด้วยกัน เด็กสาวจึงถือโอกาสขอกับบิดาที่จะไปงานแต่งงานของต้นอ้อ “พ่อขา” ท่านหันมาตอบรับทันที “ฮือม์ ว่าไงลูก” ยิ้มหวานให้แล้วเข้ามานั่งคุกเข่าลงข้างๆ แกล้งทำหน้าทะเล้นแล้วบีบแขนท่านนวดเบาๆอย่างเอาใจ ก่อนแหงนหน้ามองคนเป็นพ่อ อ้อนเสียงนุ่มนวล “ข้าวขอไปงานแต่งเพื่อนได้ไหมคะ” คนเป็นพ่อเย้ากลับทันที “โธ่นึกว่าอะไรที่แท้มาอ้อนไปเที่ยวนี่เอง งานแต่งใครกันล่ะลูก” “ต้นอ้อน่ะค่ะ” ท่านพยักหน้ารับก่อนถาม “งานเขาจัดเมื่อไร” “วันเสาร์หน้านี้แล้วค่ะ” “งานจัดที่ไหน มาประจบแบบนี้ไม่ใช่บ้านเราใช่ไหมเนี่ย” คนเป็นพ่อถามกลับอย่างรู้ทัน “ประจวบฯแน่ะค่ะพ่อ ไกลจังเลยเนอะ แต่พ่อให้ข้าวไปได้ใช่ไหมคะ” “ไกลจริงๆด้วย พ่อไม่อยากให้ไปเลย พ่อเป็นห่วง” นายสงวนแสร้งทำหน้าจริงจัง รู้ว่าบุตรสาวจะมาไม้ไหน เลี้ยงมากับมือจึงเดาทางออก ขวัญข้าวดื้อตาใส บางทีก็กลัวกับความคิดของเด็กไม่ประสาโลกอย่างเจ้าตัวเหมือนกัน “ไกลจริงด้วย” ขวัญข้าวมักใช้ไม้นี้เสมอเวลาที่บิดามีท่าทีเป็นลบกับคำขอของเธอ “แต่นี่ไปกันทั้งแก๊งค์เลยนะคะพ่อ แนน วิม โนต เตย บี ย๊ะก็ไปค่ะ” เสียดายที่เพื่อนซี้อย่างแอลไปไม่ได้ แต่เจ้าตัวไม่ได้เอ่ยปากบอกคนเป็นพ่อให้รู้ กลัวท่านจะไม่อนุญาต ท่านเคยบอกว่าธิดารัตน์หรือแอลนั้นฉลาดกว่าเธอกว่าครึ่งค่อน หากไปไหนที่ท่านไม่ไว้วางใจ ขอแค่ธิดารัตน์ไปด้วย ท่านก็วางใจแล้ว “เอาอย่างงั้นหรือ” สีหน้าท่านยังดูกังวล พอเห็นแววตาของบุตรสาวเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าจะได้ไปก็ถอนหายใจเฮือก บอกเสียงอ่อนโยน “ไปก็ได้ รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยนะลูก โตเป็นสาวแถมยังสวยน่ารักขนาดนี้ พ่อกลัวจะโดนพวกเจ้าชู้มันแทะเอาน่ะสิ” “พ่อพูดอะไรอย่างนั้นล่ะคะ ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ข้าวรับรองว่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด” แล้วนั่งคุยเรื่องอื่นต่อจนถึงเวลาเข้านอน จึงพยุงพาบิดากลับขึ้นห้องด้านบนอย่างทุกที “พ่อบอกแกแล้วนะก้าน แกไม่น่าโง่ให้มันเล่นงานได้แบบนี้เลย พูกกรอกหูอยู่ทุกวันซึมเข้าหัวกลวงๆของแกบ้างไหม ว่าอย่าไปยุ่งกับพวกไร่นั้น แล้วเป็นไง คราวนี้มันกะเอาเข้าคุกเข้าตะรางเลยน่ะ” เสียงบิดาดังลั่นบ้านขณะขวัญข้าวก้าวเข้ามาด้านใน เด็กสาวมองชายสองคนที่มีสายเลือดเดียวกันกับเธอ ก่อนผินหน้าไปทางนายสงวนถามอย่างงงงัน “มีอะไรหรือคะพ่อ” “ก็ไอ้ก้านน่ะซี มันไปติดสาวไร่นั้น ได้กันตั้งนานสองนานแล้ว นังผู้หญิงมาขอเงินมันสามแสน พอบอกมันว่าไม่มี มันเลยงัดคลิปออกมาขู่แจ้งความว่าถูกไอ้ก้านข่มขืน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลย” “สาวที่ไหนกันคะ” ถามเพราะเท่าที่จำได้ ไร่นั้นมีแต่ลูกชาย หรือจะเป็นคนงานหญิงของไร่ แต่ไม่น่าจะกล้าทำถึงขนาดนี้ได้ “ลูกเลี้ยงไอ้ธนา” เสียงบิดาตอบติดฉุน “ที่ชื่อนลินน่ะหรือคะ” “นั่นล่ะ” คราวนี้เป็นก้านเพชรที่ยอมปริปากพูดบ้าง ขวัญข้าวมุ่นคิ้วเข้าหากันนิดๆด้วยความสงสัย เพราะตนเองนั้นพอรู้จักกับหญิงสาวที่ชื่อนลินอยู่บ้างแต่ไม่ได้สนิทกันมากนัก นลินอายุมากกว่าเธอไม่เกินสามปี รายนั้นสวยหวานดูเรียบร้อยผิดจากผู้หญิงของก้านเพชรคนอื่นๆที่มักเปรี้ยวเฉี่ยวจี๊ดจ๊าด แต่แล้วเหตุใดทั้งคู่จึงไปคบหากันได้ ทั้งยังมีเรื่องมีราวแบบที่ว่านั่นอีก นลินนี่หรือจะเรียกร้องเงินจากก้านเพชร “อ้าว แล้วจะทำยังไงล่ะคะ” “ก็ต้องหาเงินไปให้มัน” นายสงวนตอบเสียงแข็งขึ้นมาทันที “พ่อบอกเลยนะว่าพ่อไม่มีให้” “โธ่พ่อ ถือว่าผมขอยืมก่อนก็ได้นะครับ” “ก็พ่อบอกแล้วว่าไม่มี ไปดูบัญชีได้ว่าขาดทุนมานานแค่ไหนแล้ว ข้าวไปยกสมุดบัญชีมาให้มันดู” ท้ายประโยคหันมาสั่งเธอ ก้านเพชรค้านอย่างปลงๆ “ไม่ต้องหรอกข้าว” นายสงวนยังโมโหไม่หาย ว่าต่ออีกอย่างฉุนเฉียว “เงินตั้งสามแสน จะต้องเสียไปเปล่าๆปลี้ๆเพราะความโง่ของแกทีเดียวเลยก้าน” ก้านเพชรนั่งหน้าเครียดขณะที่นายสงวนที่วันนี้นั่งบนรถเข็นหมุนล้อพาตัวเองจากไปจากบริเวณนั้นแล้ว ขวัญข้าวมองตามหลังบิดาที่คงปลีกตัวไปสงบอารมณ์ตรงระเบียงบ้าน จึงหันกลับมามองพี่ชาย นั่งอยู่เป็นเพื่อนโดยไม่เอ่ยปากอะไรให้อีกฝ่ายต้องเครียดไปกว่านี้ ด้วยว่านึกสงสารก้านเพชรอยู่ไม่น้อย แม้จะเสเพลไม่เอาไหน แต่นั่นเป็นพี่ของเธอ “ไม่แน่นะเผลอๆมันอาจสมรู้ร่วมคิดกัน ตลบหลังพี่ก็ได้ มันคงคิดเล่นงานเราทุกทางนะยัยน้องว่าไหม” เวลาคุยกันในบ้านก้านเพชรติดเรียกเธอว่ายัยน้องเสมอ ใบหน้าคมคายครุ่นคิดผูกเรื่องว่าให้ฟังอย่างระแวง ขวัญข้าวไม่มีความเห็นใดได้แต่ฟังผู้เป็นพี่เจริญพรพวกไร่พืชวิวัฒน์พัฒนะการกุลต่ออีกครู่ แล้วจึงถามถึงเรื่องที่คาใจตัวเองอยู่ “แล้วพี่ก้านไปรู้จักกับพี่นลินได้ยังไงกันคะ” ก้านเพชรนิ่งไปครู่คล้ายระลึกถึงเรื่องราวระหว่างตนกับหญิงสาวที่ชื่อนลินก่อนเปิดปากเล่าในที่สุด “ลินไปงานเลี้ยงของเพื่อนเขา พี่ไปกินเหล้าที่ร้านนั้น เลยเจอกัน แล้วคืนนั้น ลินถูกวางยา” “วางยา? ยาอะไรพี่ก้าน” “ก็...พวกยา ยาปลุกเซ็กซ์อะไรพวกนั้นแหละ” เล่าอึกอักคล้ายไม่อยากเล่าสักเท่าไร“พี่เผอิญมองเขาอยู่ ก็เลยช่วยเขาไว้ได้ทัน” คนเป็นน้องซักถามด้วยสีหน้าสงสัย “ช่วยยังไงคะ” “เออน่า ช่วยได้ก็แล้วกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD