ทั้งสองคนขับรถวิบากกลับมาพร้อมกันจนมาถึงทางที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาก็แยกย้ายกันกลับคนละทาง สารวัตรภาคินกลับมาในสภาพมอมแมมเป็นอย่างมากเมื่อมาถึงหน้าบ้านพักก็เจอแก๊งกินเหล้าคนเดิมจึงเอ่ยทักทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“สวัสดีจ๊ะพี่ดำ พี่แดง ดื่มกันดึกนะจ้ะยังไม่นอนกันอีก”
“พวกข้าดื่มกันแบบนี้ประจำ ว่าแต่เอ็งเถอะไปไหนมา นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเอ็งไปทำอะไรมาถึงได้เนื้อตัวมอมแมมขนาดนั้น”
พวกดำมองสารวัตรภาคินอย่างสงสัย เขายิ้มกว้างออกมาก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“คืองี้จ้ะฉันไปอยู่เวรที่อุทยานมา ก่อนกลับไปเดินลาดตระเวนดูตกหลุมโคลนเฉย สภาพดูไม่ได้เลนจ้ะตอนนี้งั้นฉันขอไปอาบน้ำนอนก่อนนะง่วงมากเลย เอาไว้จะมาดื่มด้วยนะลูกพี่”
“เออๆเอ็งไปอาบน้ำนอนเถอะท่าทางจะเหนื่อย เอาไว้วันหยุดค่อยมาดื่มกัน”
“ได้จ้ะพี่ ขอบใจนะจ้ะเจอกันๆ”
เขายกมือไหว้ทุกคนก่อนจะรีบวิ่งเข้าบ้านทันที ตอนนี้ต้องอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเพราะมันทั้งร้อนและสกปรกมาก แล้วไปตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตอนนี้ดึกดื่นไม่รู้ว่าคุณหมอคนสวยของเขาจะนอนหรือยัง
สารวัตรภาคินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะกดไปอ่านข้อความของหญิงสาวที่ส่งมาและเขาไม่ได้ตอบ
‘ทำไมพี่ภาคินไม่โทรมาคะ’
ชายหนุ่มรีบส่งข้อความไปง้องอนทันทีเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่ให้ความสำคัญกับเธอหรือมีความลับอะไรทำไมถึงหายไปแบบนั้น
‘เข้าป่าลาดตระเวนค่ะสัญญาณไม่มีเลย พรุ่งนี้กลางวันพี่ไปรับทานข้าวนะคนสวย ฝันดีครับ’
ชายหนุ่มส่งข้อความกลับไปก่อนจะยิ้มออกมาอย่างชื่นอกชื่นใจ แค่ได้คุยกับเธอเขาก็มีความสุขมากแล้วทำงานกลับมาเหนื่อยพอนึกถึงคุณหมอแสนดีมันก็มีแรงสู้ต่อซะงั้น ท่าทางเขาจะหลงเธอหนักมากเหมือนกันเอาเรื่องอยู่ จากนั้นก็มานอนหลับเพราะวันนี้เหนื่อยมาก
ลูกน้องของนายผันวิ่งหนีออกมาจากป่าพวกเขาไปขอความช่วยเหลือจากนายยกตาลเพราะตอนนี้ไม่มีที่ไปแล้ว
“นายครับเกิดเรื่องแล้วครับ”
ลูกน้องคนสนิทของนายกตาลวิ่งมาเคาะประตูหน้าห้องนอนเสียงดังลั่น เขาสะดุ้งตื่นอย่างตกใจก่อนจะเดินออกมาด้วยอารมณ์เสียสุดๆ
“อะไรของเอ็งวะ”
“เกิดเรื่องแล้วจ้ะนายกตาล ตำรวจจับไม้พะยูงได้และที่สำคัญที่สุดเลยคือพี่ผันโดนตำรวจจับไปจ้ะ”
“อะไรนะ!”
เขาเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะรีบกดโทรศัพท์ไปหาผู้ที่ใหญ่โตกว่าและก็ได้คำตอบมาว่าให้ฆ่าปิดปากซะก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมา
นายกตาลวางโทรศัพท์ลงก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า เขาไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะนายผันเป็นลูกน้องที่อยู่กับเขามานานแต่ด้วยความจำเป็นจึงไม่รู้จะได้ช่วยยังไงแล้ว
“อโหสิกรรมให้ฉันด้วยนะไอ้ผัน มันจำเป็นจริงๆ”
เขาหันไปมองหน้าลูกน้องคนอื่นก่อนจะสั่งให้เอาข้าวใส่ยาพิษไปส่งให้ที่สถานีตำรวจโดยให้เมียของนายผันเป็นคนเอาไปให้เองตำรวจจะได้ไม่สงสัยอะไรอีก จากนั้นทุกคนก็ไปทำตามแผนที่วางเอาไว้โดยจะไม่กระโตกกระตากเป็นอันขาด…
เช้าวันต่อมา…
เมียของนายผันร้องห่มร้องไห้เข้ามาในสถานีตำรวจดอนไม้หวาน เธอเอาข้าวกล่องพร้อมกับน้ำโอเลี้ยงที่นายผันชอบติดมือมาด้วย
“คุณตำรวจจ้ะผัวฉันเป็นยังไงบ้าง มันไม่รู้เรื่องอะไรหรอกต้องโดนคนอื่นสั่งมาแน่นอนเลย ช่วยให้ความเป็นธรรมกับมันด้วยนะจ้ะ ฮือออ”
“นายผันเป็นคนส่งไม้เถื่อนด้วยตัวเอง หลักฐานมัดแน่นขนาดนี้จะบอกว่ามันไม่รู้เรื่องก็คงไม่ใช่”
จ่ากิตเอ่ยออกมาเสียงเรียบ เขาเจอแบบนี้มาตลอดในชีวิตลูกฉัน พ่อแม่ฉัน ผัวฉันเป็นคนดี เป็นแบบนี้มาตลอดซึ่งถ้าหลักฐานไม่หนักแน่นพอไม่มีใครจับมาได้หรอก
“ฮึก! งั้นขอเยี่ยมหน่อยได้มั้ยจ๊ะ”
“ผู้กำกับสั่งห้ามเยี่ยมนะ เอ็งกลับไปก่อนเถอะค่อยมาใหม่แล้วกัน”
“ถ้างั้นฉันฝากเอาของกินไปให้หน่อยนะจ่า มันคงยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืนฉันฝากหน่อยแล้วบอกผัวฉันทีว่าจะไปตามคนมาช่วย”
จ่ากิตรับกล่องข้าวมาไว้ในมือก่อนจะพยักหน้าตอบรับคำของเมียนายผัน เธอร้องไห้ออกมาก่อนจะเดินคอตกกลับออกไป จ่าเดินถือข้าวกล่องเข้าไปในห้องขังมองหน้านายผันที่ตอนนี้นั่งเงียบไม่ยอมปริปากพูดอะไรทั้งนั้น
“เมียเอ็งมาหาแต่ผู้กำกับสั่งไว้ว่าไม่ให้เยี่ยม อ่ะนี่มันฝากข้าวมาให้เอ็งกินไปก่อน”
จ่ากิตวางกล่องข้าวให้นายผันตรงหน้าก่อนจะเดินออกมาข้างนอกตามเดิมเพราะพูดอะไรไปมันก็ไม่ตอบโต้ทั้งนั้น ผู้กองแสนรักตื่นมาแต่เช้าเข้ามายังสถานีตำรวจเพื่อดูแลคดีของนายผันโดยเฉพาะ
“นายผันเป็นยังไงบ้างจ่า”
“ไม่พูดอะไรเลยจ้ะผู้กอง เอาแต่เงียบตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว อ่อ เมื่อกี้เมียนายผันมาเยี่ยมแต่ผู้กำกับสั่งไว้ไม่ให้ใครเข้าเยี่ยมก็เลยรับข้าวกล่องมากับน้ำโอเลี้ยงเท่านั้น แต่ผมให้มันแล้วนะผู้กองไม่รู้ว่าจะกินรึเปล่า”
เขานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะนึกถึงคำของสารวัตรภาคินว่าให้ดูแลพยานให้ดีที่สุดเพราะตัวการจะต้องไม่ปล่อยเขาไว้แน่นอน เมื่อเขาเข้ามาถึงในห้องขังก็เจอนายผันกำมือตัวเองแน่นพยายามที่จะอาเจียนออกมา ผู้กองตาโตอย่างตกใจก่อนจะสั่งจ่ากิตให้เปิดห้องขังและเอาไข่ดิบมาให้เยอะที่สุด
“ไปเอาไข่ดิบมาให้ผมหลายๆฟองเลยนะ นายผันน่าจะโดนวางยาฆ่าปิดปาก”
“ได้ครับผู้กอง”
เขาเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะพยายามช่วยให้นายผันอาเจียนออกมาให้มากที่สุด จากนั้นก็เร่งเอาไปส่งโรงพยาบาลซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทันเวลารึเปล่า ผู้กองแสนรักหยิบโทรศัพท์กดส่งข้อความไปหาสารวัตรภาคินทันที
‘แย่แล้วสารวัตร นายผันโดนวางยาฆ่าปิดปาก’
ผู้กองกดส่งข้อความเสร็จก็รีบเอาไข่ที่จ่าไปหยิบมาตอกใส่ปากของนายผันด้วยความร้อนรน จากนั้นก็เรียกให้ตำรวจนายอื่นเอารถออกเพื่อที่จะพานายผันไปส่งที่โรงพยาบาล
“เอารถออกผมจะพานายผันไปโรงพยาบาล”
นายผันชักดิ้นชักงออยู่ในตักของผู้กองแสนรักอย่างทรมานอาเจียนออกมาเพราะแสนรักเอาไข่ดิบใส่เข้าไปเยอะมาก ทุกคนช่วยกันอุ้มเขาไปส่งโรงพยาบาลภาวนาขอให้ไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา…
เวลาต่อมาจ่ากิตเดินทางไปหาภรรยาของนายผัน เขาตะโกนเรียกดังลั่นบ้านไม่นานเธอก็ออกมา
“ดาเอ็งอยู่มั้ยวะ”
“ว่าไงจ้ะจ่ากิต มีอะไรรึเปล่า”
“ทำใจดีๆนะยัยดา ผัวเอ็งกินยาพิษลงไปตอนนี้.. ตอนนี้…”
ดาเบิกตากว้างอย่างตกใจ สามีของเธอไปกินยาพิษตอนไหน เขาอยู่ในคุกไม่ใช่เหรอ.. ทำไมถึง
“เกิดอะไรขึ้นจ่า”
“ผัวเอ็งมันเสียแล้ว.. ข้าเสียใจด้วย”
“ไม่จริง! ไม่จริ้งงงงง”
ดาทรุดลงกับพื้นก่อนจะร้องไห้ออกมาแทบจะขาดใจ ลูกน้องของนายตาลที่หลบอยู่มุมต้นไม้หยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาเจ้านายทันที
“นายครับไอ้ผันมันตายแล้วครับ!”
(ดีมาก เอ็งหลบไปอยู่ที่อื่นสักพักก่อน)