ตายตอนจบ [ ทิชชู่++ ]

2164 Words
ผมไม่ถนัดเรื่องมัดแต่เพราะอีกฝ่ายให้ความร่วมมือก็เลยผ่านไปด้วยดี “ไงต่อ มัดปากด้วยไหม” ไอ้ไนท์มันถามน้ำเสียงหยอกเย้า ผมเกลียดสายตาเวลามันมองผมเป็นเด็กเมื่อวานซืนจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถ้าผมดีพอให้มันยำเกรงมันก็คงไม่มองผมอย่างที่มองอยู่ตอนนี้หรอก ผมผลักมันนอนลง กดข้อมือที่ถูกมัดของมันเอาไว้เหนือศีรษะโน้มหน้าเข้าไปหาริมฝีปากบางที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูด “มัดทำไมให้เสียของ เสียงมึงเร้าอารมณ์ตั้งเยอะ” ผมกดจูบลงบนมุมปากของไอ้ไนท์ ก่อนเลื่อนมาขบเม้มติ่งหูอ่อนๆ ของมันอย่างมันเขี้ยว “อือ….” ไอ้ไนท์ส่งเสียงลอดลำคอแผ่วเบา เอียงใบหน้าหลบตามสัญชาตญาณ แต่ข้างล่างกลับแหวกออกกว้าง อ้าขาให้ผมโดยไม่สงวนท่าทีแม้แต่น้อย ผมบดเบียดท่อนลำร้อนผ่าวเข้ากับคลองหฤหรรษ์ ผิวอ่อนบางเสียดสีกันสร้างความเสียวซ่านจนต้องระบายผ่านลมหายใจในจังหวะหนักหน่วง คนใต้ร่างถึงขั้นเขย่งปลายเท้า หยัดสะโพกเข้าหาอย่างเผ็ดร้อน นี่ถ้ามือมันไม่ได้ถูกผมกดเอาไว้ละก็มันคงจะลุกขึ้นมาจับแก่นกายผมยัดเข้าไปในช่องทางด้านหลังด้วยตัวเองไปแล้ว “ตะวัน… อือ หยุดเล่นได้แล้ว… อาส์” ผมเลื่อนริมฝีปากลงมาหยอกเย้าตุ่มไตแข็งบนเนินอกแบนราบ มืออีกข้างลากปลายนิ้วไล้ไปตามลำตัวจนมาหยุดอยู่ที่ท้องน้อยซึ่งกำลังยุบพองเป็นจังหวะเร้าอารมณ์ของมัน ลูบวนแกล้งให้มันปั่นป่วนเล่นก่อนจะขยับลงไปกอบกุมท่อนเนื้อชูชันของมันแน่น ไอ้ไนท์ส่งเสียงหวามสะท้าน กัดริมฝีปากพลางเหลือบมองมาด้วยสายตาเว้าวอน “ทนไม่ไหวแล้วเหรอ” ผมสัพยอก “อือ… ไม่…” “ไม่? ไม่อะไร” ผมถามพลางเคล้นคลึงปลายจรวดของมันเล่น “อาส์ สนุกไหม… อื้อ” “หึๆ” “เด็กบ้า” “เฮ้ย” ไนท์มันใช้ขาเกี่ยวรัดเอวผมเข้าไปแนบแน่นทำให้ท่อนเนื้อที่อิงแอบอยู่ตรงจุดอ่อนไหวผลุบหายเข้าไปในช่องทางด้านหลังของมันทันที ผมอุทานเสียงแปร่ง ไม่คิดว่าจะสอดใส่เข้าไปได้ด้วยวิธีนี้ “อือ…” ไอ้ไนท์เพิ่มแรงหนีบเอวผมแน่นขึ้น เสือกไสสะโพกไม่หยุด มองตรงขึ้นมาด้วยแววตาเรียกร้อง ผมดันแก่นกายเข้าไปจนสุด มองร่างที่กำลังหายใจกระเส่าอยู่เบื้องล่างก่อนจะยิ้มให้ “มุมนี้ก็ไม่เลว” “อือ หยุดพูดแล้วขยับสักที” “ไม่ต้องรีบร้อนน่า ยังไงคืนนี้ก็ยาวอยู่แล้ว” “อืออื้อ!~” ผมขยับทันทีที่พูดจบ กระแทกแก่นกายเข้าออกช่องทางด้านหลังของไอ้ไนท์อย่างดุดัน ภายในของมันตอบสนองผมด้วยการบีบรัดที่เร่าร้อนไม่แพ้กัน เสียงครางชวนอ่อนไหวหลุดจากปากคนใต้ร่างไม่หยุด “อ๊ะ… ตะวัน อ่าส์” ผมเกร็งกระตุกทำให้ช่องทางด้านในบีบรัดอย่างรุนแรง ความเสียวกระสันพุ่งขึ้นถึงขีดสุด มือผมที่กำแก่นกายของไอ้ไนท์อยู่รูดรั้งมันเร็วรี่ไปด้วย ทำให้เราเสร็จแทบจะพร้อมกัน ผมระบายลมหายใจร้อนระอุพร้อมกับที่เสียงครางหวามครั้งสุดท้ายดังขึ้น ของเหลวข้นหนืดที่ปลดปล่อยออกไปอย่างเต็มเหนี่ยวไหลย้อนออกมาจากช่องทางด้านหลังโดยที่ยังไม่ได้ถอดออกและมีบางส่วนไหลมาจากท่อนบนของไอ้ไนท์ เมื่อของเหลวสองส่วนผสมกันความรู้สึกประหลาดก็ก่อตัวขึ้นภายในใจ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะไตร่ตรองความคิดของตัวเองโดยละเอียดความสนใจก็ถูกการเคลื่อนไหวของคนตรงหน้าฉกฉวยไป ไอ้ไนท์มันหยัดตัวขึ้นนั่งทำให้แก่นกายที่ทั้งชื้นและลื่นหลุดออกจากช่องทางอันอบอุ่น ข้อมือที่ถูกมัดรวบเอาไว้แทบไม่เป็นอุปสรรคอะไรเลย มันสวมกอดรอบคอผมทั้งอย่างนั้น ขยับขึ้นมานั่งคร่อมบนตักผม ก่อนจะยัดจุมพิตดูดดื่มเข้ามาในปากผมอย่างรวดเร็ว อะไรเนี่ย… ในหัวผมเต็มไปด้วยความตกตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าแม่งจะยังเหลือพลังหื่นตั้งขนาดนี้ ราวกับว่าสองสามครั้งที่ทำไปนั่นแค่การเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ผมรู้สึกปวดไหล่เพราะแรงกดจากท่อนแขนสองข้างของไอ้ไนท์ที่พาดลงมา แต่ใครจะไปรู้ว่าความเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ นั่นกลับเป็นตัวช่วยปลุกเร้าอารมณ์ให้ลุกโหมมากขึ้น ผมจูบตอบไอ้ไนท์อย่างไม่แผ่ว ตวัดเรียวลิ้นนัวเนียกันไปมา ข้างล่างที่ยุบตัวลงไปแล้วพองตัวเหยียดตรงขึ้นมาอีก พร้อมกับที่ความแข็งขืนชื้นหนืดดุนดันอยู่ตรงท้องผม ผมกำหมับเข้ากับแก่นกายของมันอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ รูดรั้งขึ้นลงไม่ต่างจากเวลาช่วยตัวเอง “อาส์… ตะวัน อื้อออ” ไอ้ไนท์คงเสียวมาก มันผละริมฝีปากที่กำลังจูบกับผมออก เปล่งเสียงครวญครางแผ่วไหว ซุกไหล่ผมอย่างต้องการที่พักพิง หอบหายใจกระชั้นถี่ “ข…ข้างใน ใส่เข้ามา อือ~ อู..ว…อาส์” เสียงพึมพำไม่เป็นคำดังติดๆ ขัดๆ ข้างหู ผมเข้าใจว่ามันต้องการอะไร และผมเองก็ไม่คิดถ่วงเวลาอะไรอีก ช้อนแก้มสะโพกไอ้ไนท์ขึ้นแล้วดันให้แผ่นหลังของมันติดกับหัวเตียง ก่อนจับขามันแยกออก จัดท่าจัดทางจนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม สอดแก่นกายหื่นกระหายเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่ยังคงคับแน่นและกระชับเติมเต็มความต้องการของกันและกันอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ตั้บ… ตั้บ… ตับๆๆๆๆๆ เสียงกระทุ้งท่อนลำเข้าออกช่องทางด้านหลังก้องกังวานไปทั่วห้อง เสียงหอบหายใจปะปนกับเสียงร้องครวญครางเหมือนใจจะขาด แต่ใบหน้าคนร้องกลับเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขสมที่ต่อให้ตายจริงๆ ก็ยอม ผมปลดปล่อยอีกรอบ… และก็อีกรอบ จับมันพลิกคว่ำพลิกหงายอุตลุด แต่บางครั้งมันก็เป็นฝ่ายชักนำผมในท่วงท่าแปลกๆ เล่นเอาผมหน้ามืดขาดสติ กระแทกกระทั้นสะโพกแน่นกระชับของไอ้ไนท์อย่างบ้าคลั่งจนแสงแดดอ่อนๆ สาดแยงผ้าม่านเข้ามาในห้อง ผมนอนแผ่หลาอย่างหมดแรง เหม่อมองเพดานในหัวว่างเปล่าไปหมด มีร่างเปลือยนอนหนุนแขนอยู่ เปลือกตาปิดพริ้ม หลังจากทำครั้งล่าสุดเสร็จ ทั้งผมกับไอ้ไนท์ต่างก็นิ่งค้างกันอยู่แบบนี้หลายอึดใจ ภายในห้องเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงเสียงลมหายใจสองสายที่หอบลึกจนค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ “เช้าแล้ว” ผมเอ่ยขึ้น ในน้ำเสียงมีความอิดโรยจางๆ แฝงอยู่ ไนท์มันขยับศีรษะ เงยหน้าขึ้นมองผม แววตาปรือดูคล้ายจะปิดได้ทุกเวลา “เหนื่อยจริงๆ” มันพึมพำ ผมครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับมันด้วยความรู้สึกใส่ใจ “งั้นนอนเถอะ” “ไม่มีเรียนเหรอ” มันถามกลับ ผมเอามือคลึงหว่างคิ้ว ความไม่ได้นอนทำให้สมองล้าไปด้วย แถมพลังงานยังถูกใช้หมดเกลี้ยงอีก “เดี๋ยวบอกเอิร์ธเก็บใบงานไว้ให้” “หืม” อีกฝ่ายแหงนหน้าขึ้นมามองอีกรอบ แววตาคมลึกฉายรอยประหลาดใจ “…?” ผมมองตอบ ไม่รู้ว่ามันงงอะไร “ไม่รีบกลับเหรอ” “ไล่?” ผมย้อนถาม “เปล่า แค่แปลกใจ” ไอ้ไนท์เอาแต่ก้มหน้าลง ขยับศีรษะซุกไซ้ไหล่ผมเหมือนแมวขนปุยที่กำลังคลอเคลียเจ้านาย เห็นแล้วอยากเอามือไปลูบคลำ ผมยกมือขึ้นมาแล้ว มองผมดกดำของมันแววตาสับสน ก่อนจะเอามือลงแล้วกำแน่นระงับความต้องการของตัวเองเอาไว้ ไม่ให้เผลอลูบหัวมัน มีบางอย่างที่ผมรู้สึกว่าไม่ควรก้าวข้ามถึงแม้ผมกับมันจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างลึกซึ้งแต่นั่นก็เป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับความรู้สึก “อยากกลับ แต่ไม่มีแรงขับรถ” “หมดแรงแล้วจริงเหรอ” “เฮ้ย… อย่าซนสิวะ” ผมผวาวาบเมื่อจู่ๆ ไอ้ไนท์ก็ใช้ฝ่ามือลากไล้ผ่านท่อนเนื้อตรงหน้าหว่างขาผมแผ่วเบา อารมณ์สะท้านไหววูบแล่นริ้วไปทั่วร่าง เหลือบมองมันแววตาหวั่นไหว แต่ก็ไม่ได้ปัดมือมันออก กลัวมันจะเสียความรู้สึก… เอ่อ จริงๆ ผมก็ชอบนั่นแหละ มีมือซุกซนมาเล่นด้วยใครบ้างวะจะไม่ฟิน “ท่าทางจะยังมีแรงอยู่นะ” ไอ้ไนท์เอ่ยอย่างเอ็นดูพลางดีดนิ้วเบาๆ กับแก่นกายที่ลุกสู้แดดยามเช้าของผม เฮ้อ… ผมกลอกตามองเพดานครู่หนึ่งก่อนจะพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบางเอาไว้ใต้อาณัติ “รู้หรือเปล่าว่ามันจะไม่จบง่ายๆ ถ้ายังเล่นแบบนี้” “ฮ่าๆ ไหวเหรอ” “คิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร” “งั้นก็แสดงให้ดูหน่อย อยากรู้ว่าจะดุสักแค่ไหน” “อย่าร้องก็แล้วกัน” “อ๊ะ… อื้อ” ผมจับแก่นกายรูดรั้งสองสามทีแล้วยัดพรวดเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มที่บวมแดงของมันอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง ไอ้ไนท์ร้องออกมาเต็มคำก่อนที่ร่างของมันจะสั่นสะท้าน ท้องน้อยยุบพองตามจังหวะหายใจที่กำลังปรับตัวให้เข้ากับท่อนเนื้อแข็งขืนขนาดใหญ่โตที่เบียดบดอยู่ในช่องทางด้านหลัง มันกัดริมฝีปาก ส่งเสียงซี้ดซาบซ่านออกมาแผ่วโหย สีหน้าเหมือนกำลังข่มกลั้นความเจ็บปวด ผมจุมพิตข้างแก้มที่มีคราบเหงื่อของมันพลางกระซิบถามอย่างเป็นห่วง “เจ็บเหรอ พอก่อนดีไหม” ถึงก่อนหน้านี้จะปากดีและหื่นใส่มันแต่สุดท้ายผมก็ไม่อยากฝืนร่างกายมันอยู่ดี “ไม่… เปล่า อ๊า… อย่า… อย่าค้างสิ ขยับหน่อย ไม่ไหวแล้ว อู้วตะวัน อ๊าอ่าส์ แรง… แรงๆ เลย อื้อ ใช่ แบบนี้ แรงอีก อ๊ะอ่าส์ อื้อ อู้วส์” ผมขยับตามที่มันขอ ทั้งกระแทก ทั้งกระทุ้ง ทั้งซอย แต่ละครั้งที่ใส่เข้าไปมันก็จะร้องออกมาอย่างถึงอกถึงใจ ร่างมันเคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะของผมอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งมันร้องดังเท่าไหร่ผมก็ยิ่งใส่ความรุนแรงเข้าไปมากขึ้น “ไหวไหม” ผมสวมกอดไอ้ไนท์จากด้านหลัง จูบซับลำคอที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลของมันอย่างอ่อนโยนหลังจากมรสุมอารมณ์ผ่านพ้น ความดุดันที่ฝากเอาไว้ในช่องทางด้านหลังยังหลงเหลือกลิ่นอายเข้มข้นเอาไว้ อีกฝ่ายหอบหายใจขณะซุกกายเข้าหาผม พึมพำออกมาคล้ายรำคาญ “ทำไมวันนี้พูดมากจัง” “เป็นห่วง ไม่อยากให้มึงฝืน” พอได้ยินผมพูด มันก็เงียบไปก่อนพูดออกมา “เวลาอยู่บนเตียงกับคนที่เข้ากันได้ดี กูก็อยากยืดเวลาให้ตัวเองมีความสุขนานเท่าที่จะนานได้” ผมฟังไอ้ไนท์พูดแล้วรู้สึกแปลกๆ ตรงไหนสักที่… อยู่บนเตียงกับคนที่เข้ากันได้ดีเหรอ เดี๋ยวนะ หมายความว่ายังไงวะ นอกจากผมแล้วยังมีคนอื่นอีกเหรอ แปลว่าเวลาที่มันนอนกับคนอื่นก็จะยั่วยวนอีกฝ่าย อ่อยให้เขาใช้เวลากับมันบนเตียงให้ได้นานที่สุดแบบที่กำลังทำอยู่กับผมตอนนี้งั้นเหรอ ผมไม่ได้อยากเป็นคนพิเศษ หรือคนสำคัญของมันก็จริง แต่พอได้ยินแบบนั้นมันก็อดฉุนไม่ได้ “เวลาที่มึงเอากับคนอื่นมึงก็ทุ่มเทแบบเดียวกับที่ทำกับกูเหรอ” “แน่นอน กูจริงใจกับคู่นอนทุกคน” เวร! ได้ยินแล้วทำไมต้องโมโหด้วยวะ แบบนี้กูก็ไม่ต่างจากคนอื่นน่ะสิ ถึงจะไม่อยากแตกต่างจากผู้ชายที่มันนอนด้วย แต่ไอ้เหี้ย! ความรู้สึกผมตอนนี้แย่ยิ่งกว่าถูกบีบีหักหลังซะอีก ทว่าต่อให้ไม่พอใจยังไงผมก็ไม่ได้แสดงมันออกมา ยังคงกอดไอ้ไนท์เอาไว้ในอ้อมแขนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่ที่เปลี่ยนคือความรู้สึกในใจมันห่อเหี่ยวสุดๆ ผมมองใบหูอ่อนระเรื่อของไอ้ไนท์ด้วยสายตาคลุมเครือ ไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมต้องช็อกกับทัศนคติต่อคู่นอนบนเตียงของอีกฝ่ายขนาดนี้ ทั้งที่ผมเองก็ไม่เคยคิดที่จะผูกพันอะไรกับมันตั้งแต่แรก ยังไงก็แค่คู่ขาชั่วครั้งชั่วคราว… มีอะไรให้ผิดหวังกัน เฮ้อ ผมสลัดความฟุ้งซ่านในหัวทิ้ง ขยับแก่นกายที่ยังฝังอยู่ในช่องทางด้านหลังของมันอีกรอบ ตั้งใจจะให้อารมณ์ทางเพศช่วยชะล้างความรู้สึกที่ค้างๆ คาๆ อยู่ในใจออกไปให้หมด กลิ่นอายความใคร่ที่จืดจางลงชั่วคราวฟุ้งตลบขึ้นมาบนเตียงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่มีความคิดใส่ใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย สนแค่ความต้องการของตัวเองเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD