โลกแคบกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

1456 Words
“เอาไป” ผมยื่นถุงของขวัญพร้อมกับบัตรเครดิตคืนให้ไอ้ไนท์แล้วเดินออกมา ก็เสร็จธุระแล้วจะอยู่ต่อทำไมอีก เพียงแต่ไม่คิดว่ามันจะตามผมมา “เดี๋ยวสิ กูยังไม่ได้ขอบใจมึงเลย” ไอ้ไนท์สาวเท้ายาวๆ ขึ้นมาดักหน้าผมเอาไว้ “ไม่เป็นไร” “เอาน่าไม่ต้องเกรงใจ มาเดี๋ยวกูเลี้ยงข้าว” ไม่พูดเปล่าแต่มันดันลากผมไปด้วยเนี่ยสิ ผมจะเอ่ยปากห้ามก็ไม่ทัน ยิ่งต่อต้านก็ยิ่งจะดึงดูดความสนใจคนรอบข้าง สุดท้ายผมก็ไม่กล้าโวยวายมาก ปล่อยให้ไอ้ไนท์ลากจูงไปตามใจชอบ “อยากกินอะไร” มันหันมาถามหลังจากเห็นผมตามมาอย่างว่าง่าย “กูไม่หิว” “หรือว่าอยากไปกินห้องกู” ผมถลึงตาใส่มันทันที “เกรงใจ” “ฮ่าๆ ไม่เป็นไรคนกันเอง” “กันเองกับผีน่ะสิ” ไอ้ไนท์ไม่สนใจผม มันครุ่นคิดครู่หนึ่งก็เดินนำออกไปเหมือนตัดสินใจได้แล้วว่าจะกินอะไร ไม่กี่นาทีต่อมาผมกับมันก็ยืนอยู่หน้าร้านอาหารอิตาเลียนที่ราคาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ บีบีก็เคยขอให้ผมพามากินร้านนี้ แต่ละครั้งที่มาขนหน้าแข้งผมแทบไม่เหลือ เพราะงั้นเลยไม่ค่อยมาบ่อย “มึงแน่ใจเหรอว่าจะพากูมาเลี้ยงที่นี่” ผมถามระหว่างกวาดสายตามองเข้าไปในร้าน “หรือมึงอยากให้กูพาไปเลี้ยงที่อื่น” “....” ผมขมวดคิ้วมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของไอ้ไนท์หน้าตึง คำพูดแม่งแต่ละคำไม่ชวนให้คิดดีเลย ระหว่างที่ผมกับไอ้ไนท์ยืนเขม่นกันอยู่หน้าร้านพนักงานก็เดินออกมาต้อนรับ ทำให้สงครามประสาทลูกเล็กๆ ของผมกับมันยุติลงชั่วคราว “สวัสดีครับลูกค้า มากี่ท่านครับ” “สอง” ไอ้ไนท์ละสายตาจากผมไปคุยกับพนักงาน “สองท่านนะครับ เชิญด้านในเลยครับ” พนักงานเดินนำมาที่โต๊ะสำหรับสองคน ถึงแม้ร้านจะให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกค้าด้วยการจัดโต๊ะห่างกันแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้มีฉากกั้นห้อง มองปราดเดียวก็เห็นทิวทัศน์ภายในร้านทั้งหมด สายตาผมดันสะดุดเข้ากับแผ่นหลังที่คุ้นตาโดยบังเอิญ ...นั่นมันบีบีไม่ใช่เหรอ ผมชะงักฝีเท้า มองเสื้อผ้าและทรงผมของผู้หญิงบนโต๊ะนั่นอย่างสับสน เหมือนกันขนาดนั้นไม่มีทางจำผิดแน่ แล้วผู้ชายที่นั่งอยู่กับบีบีทำไมรู้สึกหน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผมเพ่งสายตามองพลางครุ่นคิดก่อนจะนึกออกว่ามันเป็นคนเดียวกับที่ผมเจอที่ร้านแว่น ก่อนหน้านี้ผมเคยถามแล้วว่าคนคนนี้เป็นใคร บีบีอธิบายกับผมว่าเป็นแค่รุ่นพี่ที่รู้จัก ที่ไปร้านแว่นด้วยกันก็แค่เรื่องบังเอิญ ยืนยันกับผมว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องคิดมากเกินจำเป็น ผมไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอยู่แล้วก็ไม่ได้สืบสาวอะไรต่อ ถ้าบีบีบอกไม่มีอะไรผมก็เชื่อแบบนั้นจริงๆ รอบนี้ผมก็คงไม่คิดมากถ้าบีบีไม่ได้โกหกผมว่าจะกลับแล้ว ตอนอยู่ที่ร้านนาฬิกา บีบีโทรมาบอกผมว่ามีธุระต้องกลับก่อน ผมยังจำน้ำเสียงเร่งรีบที่เหมือนมีเรื่องด่วนต้องจัดการของบีบีได้อยู่เลย แถมยังรีบวางสายไม่เปิดช่องให้ผมได้ถามไถ่อะไรอีก ผมก็ส่งข้อความไปถามด้วยความเป็นห่วง คิดว่าบีบีเสร็จธุระแล้วก็คงตอบ แต่พอเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับมา “คุณลูกค้าครับ... คุณลูกค้า” เสียงเรียกพนักงานทำให้ผมรู้สึกตัว ดึงสายตากลับมามองใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของพนักงาน แต่กลับได้รับสายตาสงสัยแกมเป็นห่วงกลับมาแทน “คุณลูกค้า... เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” สายตาของพนักงานมองผมที มองไอ้ไนท์ที ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคนที่จู่ๆ ก็หยุดเดิน หืม... ผมหันไปมองไอ้ไนท์อย่างสงสัย ผมหยุดเดินน่ะไม่แปลกหรอก แต่ว่าไอ้ไนท์ก็ชะงักฝีเท้าไปด้วยนี่แหละที่แปลก “เปล่า ไม่มีอะไรแค่บังเอิญเจอคนรู้จักน่ะ” ไอ้ไนท์ตอบพนักงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อ่อ” พนักงานคลายสีหน้ากังวลก่อนจะผายมือเชิญเราสองคนไปที่โต๊ะว่างที่ใกล้ที่สุด ผมอดไม่ได้ที่จะมองไปทางโต๊ะบีบีอีกรอบ ผู้ชายที่นั่งอยู่กับบีบีเหลือบมองมาทางนี้พอดี แต่สายตาคู่นั้นมองผ่านผมไปตกอยู่ที่ไอ้ไนท์ และเหมือนไอ้ไนท์จะรู้ตัวมันหันไปสบตากับผู้ชายคนนั้นแวบสั้นๆ ก่อนทิ้งตัวลงนั่งโดยไม่พูดอะไร “มึงรู้จักคนที่โต๊ะนั้นเหรอ” ผมดึงเก้าอี้ออกนั่ง ภายในใจไม่ได้สงบลงเลยแต่ก็ไม่อยากทำอะไรบุ่มบ่าม รอดูท่าทีไปก่อน “น้องกูเอง” ไอ้ไนท์ตอบอย่างไม่ใส่ใจระหว่างดูเมนู “น้อง?” ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย พอเทียบดูแล้วหน้ามันกับผู้ชายที่โต๊ะนั้นก็คล้ายกันอยู่ ถ้าจะบอกว่าเป็นพี่น้องกันก็ไม่แปลก แสดงว่าที่ผมรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนั้นตั้งแต่ที่เจอครั้งแรกก็เพราะหน้าคล้ายไอ้ไนท์นี่เอง พอเข้าใจสาเหตุแล้วก็หัวเราะไม่ออกเลยว่ะ “น้องจริงๆ” ผมถามเพื่อความแน่ใจเพราะท่าทางมันไม่ได้ให้ความสำคัญหรือสนใจน้องตัวเองเป็นพิเศษ ราวกับว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน “อืม” ไอ้ไนท์ส่งเสียงตอบในลำคอขณะเลือกเมนู ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างกังขา ปกติคนเราถ้าเจอพี่น้องตัวเองก็ต้องเข้าไปทักทาย ไม่ใช่ทำเมินเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน หรือว่ามันกับน้องจะมีปัญหาอะไรกัน แต่ช่างแม่งเถอะ ผมจะเก็บมาคิดให้ปวดสมองทำไม ตอนนี้ผมควรสนใจเรื่องบีบีมากกว่า ผมครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนถามหยั่งเชิง “แล้วผู้หญิงที่มากับน้องมึงล่ะ” “หืม” ไอ้ไนท์ที่ก่อนหน้านี้เอาแต่กวาดตาดูเมนูจู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ดวงตาคมเข้มทอประกายคมกริบ ผมเสียวสันหลังวาบอย่างไม่มีสาเหตุ “มีกูอยู่แล้วยังจะไปมองคนอื่นอีก” ผมสตั้น เหมือนโดนคลื่นลมร้อนที่มองไม่เห็นกระทบหน้า “สัส! อย่ามาล้อเล่น” “ฮ่าๆ แหย่ไม่ได้เลย” ไอ้ไนท์มองท่าทางเป็นเดือดเป็นแค้นของผมอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำไมแม่งชอบเล่นกับความรู้สึกคนอื่นนักวะ “กูไม่ขำ!” “เออ ไม่ล้อมึงเล่นแล้วก็ได้” มันบอกอย่างเสียดาย เหมือนการหาเรื่องให้ผมอารมณ์เสียกลายเป็นงานอดิเรกของมันไปแล้ว “คนที่นั่งอยู่นั่นน้องชายกูเอง ส่วนผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันกูไม่แน่ใจ” “ไม่แน่ใจ?” ผมขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าไอ้ไนท์มันตั้งใจปกปิดผมหรือเปล่า ทันทีที่ผมคิดแบบนั้นมันก็พูดออกมาเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ “น้องกูเคยพามากินข้าวด้วยครั้งหนึ่ง ตอนนั้นบอกแค่ว่าเป็นน้องคนหนึ่ง” ‘น้อง’ อีกแล้ว ชอบใช้คำว่าน้องพร่ำเพรื่อจังวะ “ทำไม มึงสนใจผู้หญิงคนนั้นเหรอ หรือว่าเป็นคนรู้จัก” ไอ้ไนท์มองผมอย่างสงสัย แต่สายตาของมันไม่ได้จริงจังอะไรมาก แค่ถามไปอย่างงั้น ผมกระแอมไอ ก่อนหน้าที่จะรู้จักกัน ผมกับบีบีเคยไปเที่ยวที่ร้านมันบ่อยๆ ทั้งแบบไปเป็นโขยงหรือไปแบบสองต่อสอง แต่คิดว่าไอ้ไนท์คงไม่ได้สังเกตเห็น ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เอิร์ธ ตอนนี้เกรงว่าผมกับไอ้ไนท์ก็คงเป็นเพียงคนแปลกหน้ากันเท่านั้น “เปล่า แค่ถามดู เห็นมาด้วยกันนึกว่าแฟน” หัวใจผมเต้นตึกตักเมื่อปล่อยคำพูดที่ทำให้ตัวเองหวาดหวั่นออกไป “เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามึงก็ชอบสนใจเรื่องชาวบ้านเหมือนกัน” เรื่องชาวบ้านงั้นเหรอ ผมโกรธขึ้นมาจริงๆ จ้องอีกฝ่ายนัยน์ตาลุกวาว ความสงบเยือกเย็นที่อุตส่าห์ประคองมาจนถึงตอนนี้กำลังจะพังครืน รอยยิ้มหยอกเย้าเลือนหายไปจากใบหน้าไอ้ไนท์ มันมองสีหน้าถมึงทึงของผมอย่างไม่เข้าใจ “พูดแค่นี้ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยเหรอวะ” ผมไม่ตอบ จ้องหน้ามันนานเท่าไหร่อารมณ์ก็ยิ่งเดือดพล่านรุนแรงขึ้นเท่านั้น ผมลุกขึ้นอย่างทนไม่ไหว “กูไม่กินแล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD