บทที่ ๔ # ท่านแม่ทัพคือสามีของข้า !

2110 Words
        บทที่ ๔ # ท่านแม่ทัพคือสามีของข้า !   ยามเฉิน(07.00-08.59)  ที่เรือนโม่ลี่ของอนุ9           เฟิงหลุนรับสำรับเช้าเสร็จแล้ว กำลังจิบชากลิ่นโม่ลี่อย่างสบายอารมณ์ ชิงชิงบ่าวของตนก็กระหืดกระหอบมารายงานทำให้เขาต้องส่ายหัวไปมา             “อี๋เหนียงเจ้าคะ ท่านจิ้นไห่องครักษ์ของท่านแม่ทัพมาแจ้งว่า บัดนี้ ท่านแม่ทัพได้เรียกฮูหยินรองและอนุทุกลำดับไปที่เรือนอวี้หลิงเจ้าค่ะ” ชิงชิงเอ่ยจบในรอบเดียว           “อื้อ” เฟิงหลุนเองก็รับคำ แต่แล้ว หะ ! เรียกไปที่เรือนอวี้หลิง นั่นมันใหญ่นะ แถมรียกทุกคนด้วย คราวนี้เขาต้องตายแน่ ๆ  คนหลงมิติทำสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก เขาไม่อยากไปเลย             คนเป็นอนุจิตตกอย่างหนัก เขาไม่ไปจะได้หรือเปล่านะ หรือจะจะแกล้งป่วยดีนะ คนยุคโบราณเขาตามไม่ทันมารยาของคนยุคสมัยใหม่หรอก           เฟิงหลุนคิดอย่างร้อนรน หาวิธีจะหลบหลีกคนเป็นผัว เอ๊ย คนเป็นสามีของร่างนี้ แต่ไม่ใช่ผัวเขานี่นา เอ๊ะ หรือว่าใช่วะ ชักงง ๆ           “ลี่จิว เจ้าไปแจ้งแก่ท่านจิ้นไห่ทีสิ ว่าข้าป่วยหนัก ไปเรือนใหญ่ไม่ได้” หาข้ออ้างได้แล้ว เกอผู้มีร่างอรชรเย้ายวน กำลังจะสาวเท้าเข้าห้องของตนเพื่อแกล้งป่วยทันที           ลี่จิวเหงื่อตก เหตุใดผู้เป็นนายถึงหาเรื่องให้บ่าวถูกตัดคอด้วยเจ้าคะ           “อี๋เหนียงเจ้าคะ ปดท่านแม่ทัพมีโทษถึงตัดลิ้นนะเจ้าคะ” ลี่จิวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาด ๆ ส่วนอนุเก้า ชะงักเท้ากึกทันที !            “หะ ตัดลิ้นเชียวเหรอ ตายแล้วว” ตายแน่เฟิงหลุนเอ๋ย ฮือ หม่าม้าเสี่ยวหลุนกลัว           “เจ้าค่ะ ปดท่านแม่ทัพมีโทษตัดลิ้น ถ้ามีปดรอบ ตัดมืออี๋เหนียงอย่าให้บ่าวถูกตัดลิ้นเลยนะเจ้าค่ะ” ลี่จิวมีสีหน้าเหมือนกำลังถูกตัดสินประหารชีวิต กำลังคร่ำครวญอย่างน่าสงสาร            ‘ฮือ ข้าขอโทษลี่จิว’           ข้าจะทำอย่างไรดี เฟิงหลุนจิตตก เขาไม่อยากพบอีตาแม่ทัพนั่น แต่ก็นะ ไม่ไปก็ไม่ได้ งั้นหลับหูหลับตาไปแล้วกัน คงไม่มีอะไรหรอก …มั้ง           ต้องไปเสนอหน้าให้แม่ทัพใหญ่เห็นแล้วจริง ๆ สินะ เฮ้อชีวิตของเสี่ยวหลุน                  เมื่อหนุ่มคนน่ารัก บังคับการแตกตื่นของตัวเองได้บางส่วนแล้ว จึงย่างเท้าเข้าห้องนอนเพื่อให้บ่าวไพร่แต่งเนื้อแต่งตัวให้ เตรียมไปเผชิญหน้ากับสามี แค่ก แค่ก ! สามีของเฟิงหลุนคนเก่าเสียที           ‘ฮืออ มาม่ะ เสี่ยวหลุนไม่อยากไปเลย’ คนหลงยุคคร่ำครวญด้วยความเสียอกเสียใจต่อไป     ณ เรือนใหญ่ เรือนอวี้หลิง (ดอกโมกข์)           เฟิงหลุนเดินตามพ่อบ้านหลิวไปเรื่อย ๆ ตามทางเดินอันกว้างขวาง จนมาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีทั้งผู้หญิง เกอและผู้ชายยืนอยู่หลายคน           ชายหนุ่มจากต่างโลกภายในร่างของเกอ เดินเข้าไปในห้องโถง คนทั้งหมดต่างก็หันมามองเดียว แต่คนหลงมิติไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จนกระทั่งหยุดอยู่ข้างหญิงสาวสุดสวยและเกอคนหนึ่ง ซึ่งมีใบหน้าคมสวย ทว่า สายตาที่มองมาหาเขานั้น มีแต่ความรังเกียจและความสมเพชสังเวชใจ           เฟิงหลุนเห็นแล้วจึงชะงัก ทำไมต้องเกลียดเขาด้วย คิดแล้วจึงหันไปมองรอบ ๆ แล้วนิ่งงันไปอีกรอบ คราวนี้ถึงกับขนหัวลุก เมื่อเจอแววตาอย่างรังเกียจและเกลียดชัง           เขาอ่านแววตานั่นไม่ผิดแน่ สายตาแห่งความสมเพชและสังเวชใจส่งมาให้เขา           “อนุ9 มาถึงแล้วโปรดรอซักครู่นะขอรับ ท่านแม่ทัพกำลังมา” องครักษ์ร่างใหญ่บอกอนุลำดับสุดท้ายของท่านแม่ทัพ           “ขอบคุณท่านมากขอรับ” เฟิงหลุนก้มหัวขอบคุณ ชายหนุ่มจำได้ว่า ในความทรงจำครั้งดวงจิตเขาลอยออกไป เขาได้เจอองครักษ์ผู้นี้อยู่ข้างกายผู้ชายหน้าเข้ม หนวดเครารุงรัง คนที่เขาลูบได้ลูบใบหน้านั้นก็คือ ท่านแม่ทัพผู้เป็นสามีของเขาหรอกเหรอ แค่ก แค่ก !            เมื่อเฟิงหลุนคิดย้อนไปถึง ตอนจมูกของตนชนกันกับเขา ใบหน้าเนียนจึงขึ้นสีชวนมองยิ่งกว่าเดิม           องครักษ์จิ้นไห่แปลกใจเป็นอย่างมาก กาลก่อนเขานั้นเคยพบอนุ9 แต่กลับไม่เคยมีครั้งใดจะมีความรู้สึกถึงความน่าดูและชวนมองสักที เหตุใดครั้งนี้ถึงมีบางอย่างผิดแผกไป ทั้งที่เกอคนงามก็ยังคงเป็นปกติเช่นทุกครั้ง           ความแปลกในใจนี้มันคืออันใดนะ จิ้นไห่สงสัย           “เมื่อวานข้ามาแจ้งข่าวท่านแม่ทัพ แต่อนุ9ไม่ค่อยสบายนัก วันนี้ท่านหายดีแล้วหรือไม่” จิ้นไห่ถามไถ่ตามหน้าที่เพื่อจะนำไปรายงานผู้เป็นเจ้านาย           “ขอบคุณท่าน ข้าสบายดีแล้ว ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอดีแล้ว ย่อมทำให้ร่างกายของข้าฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น” เอ่ยขอบคุณองครักษ์ร่างสูงใหญ่ พร้อมส่งอมยิ้มไปให้ เขาเรียกชื่อไม่ได้ เพราะไม่รู้จัก ทางที่ดีก็เอ่ยเลี่ยง ๆ เอาก็แล้วกัน           องครักษ์จิ้นไห่และซินเทียนต่างมองหน้ากัน อนุของท่านแม่ทัพผู้นี้ให้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม แม้ตนและอนุ9 ไม่ค่อยได้พบกันนัก หากจะได้พบทีก็ตอนผู้เป็นนายเรียกหา หรือท่านแม่ทัพย่ำเท้าเข้าไปในเรือนโม่ลี่เท่านั้น แต่ทุกครั้งเมื่อพบเจอ กลับไม่เคยรู้สึกแปลกเช่นวันนี้เลย                     ซินเทียนเอง เมื่อสบตากับสหายแล้ว ความรู้สึกของตนไม่ได้แตกต่างไปจากจิ้นไห่แม้แต่น้อย เพราะในจิตใจลึก ๆ บอกกับเขาว่า อนุของท่านแม่ทัพมีบางอย่างแปลกไป แต่ไม่แน่ชัดว่าเปลี่ยนไปเพราะเหตุใดกันแน่           การสนทนาของเกอผู้นี้ช่างฉะฉาน ไม่หวาดกลัว และไม่ก้มหน้าก้มตาตอบเหมือนครั้งก่อน            แต่ทว่ากลับเงยหน้าสบตากับเขาอย่างกล้าหาญ ความรู้สึกมันยิ่งพุ่ง ถ้าผู้เป็นนายพบเจออนุผู้ไม่เคยโปรดในรอบนี้ อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ จิ้นไห่และซินเทียนต่างคิดไปเรื่อย ๆ ไม่น่าเชื่อ ว่าทั้งคู่จะคิดเหมือนกันได้           “ท่านแม่ทัพมาแล้ว” องครักษ์ด้านนอกประตูเอ่ยเสียงดังฟังชัด           เฟิงหลุนมองตรงไปยังประตูใหญ่ ก่อนจะเห็นบุรุษผู้หนึ่งซึ่งคุ้นกับความทรงจำเขาเป็นอย่างมาก ใช่สิ ไม่คุ้นได้ยังไง ก็เป็นคน ๆ เดียวกันนี่นา           แม่ทัพหนุ่มมีรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมเข้ม คิ้วเฉียงหนา ส่วนนัยน์ตานั้นคมดุ ทำให้ใบหน้านั้นเรียบนิ่งดุจน้ำแข็ง แต่ดูมีเสน่ห์แห่งบุรุษเพศแฝงออกมา           ใบหน้านั้นมีหนวดเครายาว ทำให้ใจของเฟิงหลุนกระหวัดไปถึงวันที่ดวงจิตได้พบเจอเขา จนเผลอลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลานั้นเข้า เมื่อคิดขึ้นมาเฟิงหลุนก็ใจเต้นแรง หน้าขึ้นสีระเรื่ออย่างไม่อาจห้ามใจได้           เมื่อตื่นเต้นและขวยเขิน ยิ่งทำให้บางอย่างในร่างกายรวยรินออกมา กลิ่นหอมของดอกโม่ลี่ฮวา ทำให้ท่านแม่ทัพสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด           ท่อนขาแข็งแกร่งของท่านแม่ทัพ หยุดชะงักหลังจากก้าวข้ามประตูมาได้เพียงสามก้าว สายตาคมของท่านแม่ทัพกวาดตามองฮูหยินรอง และเหล่าอนุทันที เพื่อสำรวจว่าผู้ใดอบน้ำหอมกลิ่นดอกโม่ลี่มาที่นี่กัน            มองไปรอบ ๆ ก็ไม่พบกับกลิ่นหอมนั้น จึงสาวเท้าเข้ามาจนหยุดอยู่ตรงเก้าอี้ตัวใหญ่หนึ่งตัว ก่อนร่างสูงใหญ่จะนั่งลงเป็นสง่า เหล่าฮูหยินรองและเหล่าอนุต่างก้มหน้าก้มตาอยู่ เมื่อเห็นว่าท่านแม่ทัพนั่งเก้าอี้แล้ว จึงรีบทำความเคารพผู้เป็นเจ้าชีวิตทันที           “คาราวะท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ/ขอรับ” เสียงฮูหยินรองและอนุทั้งแปดเอ่ยออกมาพร้อม ๆ กัน            ยกเว้น อนุคนสุดท้ายเพราะเผลอใช้สายตาไล่สำรวจคนตัวโตอย่างเผลอไผล            ใบหน้าเข้มนี้แหละที่ทำให้เขาเผลอ จนนำจมูกไปชนกับจมูกของอีกคน เป็นคนเดียวกับมือของตนได้ทำการลูบไล้ไปเมื่อวานนั่นเอง             เฟิงหลุนไล่สายตาตามมา ตั้งแต่ลำคอแกร่ง มีลูกกระเดือกสวย เห็นแล้วต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว จากนั้นจึงเผลอมองบ่าอันบึกบึน วงแขนมีกล้ามเป็นมัด ๆ น่าซบน่ากัดเหลือเกิน คนหลงมิติคิดหื่น           แม่ทัพคนนี้มีรูปร่างเขย่าใจเหลือเกิน เฟิงหลุนจ้องมองแม่ทัพหนุ่มไม่วางตาแล้วก็ต้องหน้าแดงเพราะความหื่นพุ่งเข้ามาแบบไม่รู้ตัว ก่อนจะสบตากับท่านแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่นิ่ง จนสะดุ้งสุดตัวเมื่อองครักษ์จิ้นไห่เรียก           “อนุ9 ท่านแม่ทัพมาแล้ว” จิ้นไห่เอ่ยเตือนเบา ๆ เฟิงหลุนสะดุ้งก่อนจะหันไปมององครักษ์ร่างใหญ่ แล้วยิ้มแหย ๆ ส่งไปให้ จึงรีบตั้งสติและทำความเคารพสามีตน เอ่อ สามีของเฟิงหลุนคนเดิมทันที           “คาราวะท่านแม่ทัพขอรับ” เอ่ยเสียงเรียบ           ท่านแม่ทัพเอง ตั้งแต่สาวเท้าเข้ามาเพื่อมองหาว่าเป็นผู้ใดกัน ที่อบน้ำหอมกลิ่นดอกโม่ลี่ เมื่อพบหน้าอนุผู้ไม่เคยโปรดปรานแล้ว            แต่เกอผู้นั้น กลับเอาแต่มองตนตาไม่กระพริบ ไม่ทำความเคารพตนอย่างเช่นเหล่าฮูหยินรองและอนุลำดับอื่นเขาทำกัน ครั้งแรกนั้น หยางอี้อยากจะลงโทษ ที่ไม่เคารพตน แต่พอสายตาคมของท่านแม่ทัพ พบกับในหน้าผุดผ่องนวลเนียน หัวใจพลันร้อนรุ่มขึ้นมา           ท่านแม่ทัพหน้านิ่ง จึงจับจ้องใบหน้างาม และสำรวจตรวจตรากายบางของเกอคนนี้กลับคืนบ้าง           เมื่อได้พินิจพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ความรู้สึกบางอย่างได้พุ่งวาบเข้าสู่หัวใจ ใช่ว่าท่านแม่ทัพจะไม่เคยได้พบปะใบหน้านวลนี้ แต่คืนวสันต์สวาทตนก็เสพสมกันมาแล้ว ร่วมห้าครั้งภายในสองหนาว แต่กลับไม่มีครั้งใด ที่ท่านแม่ทัพจะมีความรู้สึกแปลกในใจอย่างเช่นวันนี้           ความรู้สึกอ่อนหวานหลั่งไหลเข้ามา เพียงแค่มองดูนาสิกโด่งงามของคนตัวเล็ก แล้วบางอย่างก็วูบเข้ามาเหมือนจมูกของตนและเจ้าตัวน้อยเคยได้สัมผัสกันเมื่อวานนี้มาแล้ว           สายตาคมของแม่ทัพหนุ่ม มองไปที่มือนุ่ม ยิ่งมั่นใจเป็นอย่างมาก ว่ามือเรียวเล็กนี้ได้ลูบไล้ใบหน้าของตน แม้จะไม่เห็นหน้าผู้กระทำก็ตามที แต่ใจนั้นบอกว่า อนุผู้นี้คือคนเดียวกันอย่างแน่นอน              “อนุเก้ามองใบหน้าของสามีแล้วพบสิ่งใดหรือไม่” เสียงเข้มนั้นเอ่ยถามขึ้น เฟิงหลุนต้องชะงัก หะ สะ สามีงั้นเหรอ ใบหน้าผุดผาดอีหลักอีเหลื่อเหลือกำลัง           หยางอี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นคนตัวเล็กทำหน้า กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงได้แต่นึกขำในใจ           “เอ่อ เปล่าขอรับ ใบหน้าของท่านแม่ทัพไม่มีสิ่งใดผิดปกติมีแต่ความสง่างามเท่านั้นขอรับ” ชมเสร็จ ก็เกิดริ้วรอยแดง ๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าเจ้าของจวนทันที           แม่ทัพหนุ่มยกมุมปากขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความตกใจขององครักษ์ทั้งสอง เพราะทั้งคู่ไม่เคยเห็นท่านแม่ทัพยิ้มกับผู้ใดสักที            ครานี้ เห็นทีจะดูเบาอนุเก้าไม่ได้เสียแล้วกระมัง แตกต่างจากเหล่าฮูหยินรองและเหล่าอนุทั้งหลาย ต่างมองเฟิงหลุนด้วยสายตารังเกียจ ที่เกอต่ำต้อยผู้นี้พูดคุยกับท่านแม่ทัพอย่างสบาย ๆ             แตกต่างจากพวกตน จะคุยทีต้องก้มหัวลง แต่เกอผู้นี้กลับไม่มีแม้แต่จะชม้อยชม้ายชายตาใส่ท่านแม่ทัพ ทว่า ผู้เป็นเจ้าของจวนกลับพูดคุยด้วย เห็นแล้วก็หมั่นไส้และเกลียดชังยิ่งนัก           “เช่นนั้นหรอกหรือ ข้านึกว่ามีสิ่งใดติดอยู่บนใบหน้าของข้า หรือว่า เจ้าคิดถึงสามีนัก ถึงได้จับจ้องดูมองไม่คลาดสายตาเช่นนี้ หึหึ” สามีแห่งชาติหัวเราะออกมาเบา ๆ           โอ๊ย…มาม่ะ.. ช่วยเสี่ยวหลุนด้วย            ท่านแม่ทัพถูกใจในความ  เลิ่กลั่กของเฟิงหลุน จึงจับจ้องไม่วางตา ยิ่งดูก็ยิ่งน่าพิศวง ทำไมอนุเกอผู้นี้ ถึงดูแปลกไปนักนะ           ‘เจ้าจะรู้ตัวบ้างไหม ว่าหน้าตาตอนนี้ช่างน่ารักน่าหยิก จนข้าเจ็บหัวใจไปหมดแล้ว’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD