Chapter 3

1468 Words
ทับทิมมองออกไปข้างนอกอย่างใคร่รู้ เธอหยิบโทรศัพท์มากดูเวลานี่ก็ใกล้จะเริ่มงานแล้วด้วยไม่รู้ว่าจะไปทันรึเปล่า รวีมองหญิงสาวก่อนจะเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ดูนาฬิกาแล้วรนไปหมดสงสัยกลัวงานจะเริ่มแล้วจะไปไม่ทันล่ะมั่ง “เป็นอะไรทำไมดูรีบ” “กลัวไปไม่ทันงานค่ะ” “ก็ช่างสิ” เขาเอ่ยออกมาอย่างไม่แคร์ ไปทันหรือไม่ทันเขาก็ไม่ซีเรียสหรอกเอาเวลาที่มีไปแกล้งดวงใจของแม่เลี้ยงดีกว่าน่าสนุกกว่าเยอะเลย เขายื่นมือไปโอบเอวเธอเอาไว้ก่อนจะเริ่มลวมลามอย่างเปิดเผย หญิงสาวตาโตก่อนจะดันตัวเขาให้ออกห่างแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์ “อยู่นิ่งๆสิคะจะถึงแล้ว” “ไม่เอาอยากให้ฉันไปงานแต่งงานก็ต้องตามใจสิ ว่าแต่เธอเป็นนักแสดงนี่มีสังกัดหรือยัง” เขาเอ่ยถามประวัติส่วนตัวของหญิงสาว ดูท่าทางน่าจะไม่มีผู้จัดการส่วนตัวและไม่มีงานเยอะมากถึงขั้นจะโด่งดังได้ ล่าสุดที่เจอน่าจะเป็นบทตัวประกอบมากกว่าเป็นนักแสดงชั้นนำ “ไม่มีค่ะ หนูเพิ่งเข้าวงการได้ไม่นานไม่มีคนดูแลแล้วก็งานไม่ค่อยมีค่ะ” “งั้นเหรอ… เดียร์พรุ่งนี้ทำสัญญาให้ทับทิมเข้าสังกัด แล้วก็ป้อนงานให้หน่อยเอาเรื่องที่นำมารีเมคก็ได้ขาดบทไหน” รวีหันไปมองสบตากับผู้ช่วยผ่านกระจกสั่งให้เขาทำตามที่บอกทุกอย่างที่ต้องการ หญิงสาวมองทั้งสองคนสลับกันอย่างสงสัยนี่พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่เธอเดาใจไม่ถูก “วางตัวละครไว้แล้วครับยกเว้นนางร้ายที่กำลังคิดว่าอาจจะเปิดแคสบทละครดู” “ไม่ต้องใส่ชื่อทับทิมเข้าไปเลย” เดียร์พยักหน้าตอบรับอย่างรับทราบ ท่านประธานมีสิทธิ์ที่จะให้ใครแสดงบทบาทไหนก็ได้เค้าเรียกว่ามีคำสั่งชี้เป็นชี้ตายคนในวงการนี้ “ทำแบบนี้จะดีเหรอคะ ถ้าเกิดว่าใคร…” “ไม่ต้องสนใจใครนี่เป็นคำสั่งของฉันเอง จัดการตามนี้แกละ อ่อ แล้วก็หาผู้จัดการส่วนตัวให้เธอด้วย” “ครับนาย” เขาหันไปมองสบตากับหญิงสาวก่อนจะบีบแก้มนวลเล่นอย่างหยอกล้อ ทับทิมเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยภายในใจคิดไม่ตกว่าชายหนุ่มกำลังคิดจะทำอะไร หรือว่าเขาจะญาติดีกับเธอและคุณน้าถ้าเป็นแบบนี้จริงก็ดีไปขออย่าให้เขาร้ายทีหลังเลยนะเธอคงรับไม่ไหว และไม่นานก็มาถึงที่โรงแรมสถานที่จัดการแต่งงานของท่านทวีและคุณเรย์ อาจจะค้านสายตาใครไปบ้างแต่ทุกคนที่สนิทกับท่านจะรู้ว่าเขาเจ้าชู้ขนาดไหน แต่ท่านก็ยกย่องภรรยาคนเดียวมาตลอดจนเสียชีวิตนี่คงเป็นอีกคนที่ท่านจัดงานแต่งงานตามประเพณี คนรวยเค้าก็แบบนี้แหละ… “ไปเถอะค่ะงานเริ่มแล้ว” ทั้งสองคนเดินเข้าไปในงานด้วยกันโดยมีเดียร์เดินตามหลังอยู่ไม่ห่าง เขาล่ะกลัวใจเจ้านายจริงๆไม่รู้ว่าจะมาพังงานพ่อตัวเองรึเปล่าดีนะที่วันนี้นักข่าวไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่นี่งานแต่งงานจึงเป็นส่วนตัวที่สุด “หนูทับทิมไปไหนมาลูกน้าตามหาซะทั่วเลย” ทับทิมวิ่งเข้าไปหาคุณน้าก่อนจะสวมกอด ท่านทวีเห็นหน้าลูกชายก็ยิ้มกว้างออกมาทันที ในที่สุดเขาก็ยอมมางานแต่งงานสักที “รวีพ่อนึกว่าแกจะไม่มาซะอีก” “ก็ว่าจะไม่มาแต่ว่าบังเอิญมีสาวสวยไปรับถึงบริษัทก็เลยใจอ่อนยอมมาสักแป๊บหนึ่ง” เขามองไปยังทับทิมอย่างเปิดเผย คุณน้าเรย์มองสายตาของลูกเลี้ยงที่มองหลานสาวของเธออย่างไม่ปิดบังความรู้สึกก็เอะใจอะไรบางอย่าง เธอดึงทับทิมไปซ่อนด้านหลังก่อนจะเอ่ยทักทายเขา “สวัสดีค่ะคุณรวี ฉันเรย์ค่ะ” “สวัสดีครับแม่เลี้ยง สวยนะเนี่ยไม่แปลกใจว่าทำไมหลานสาวถึงสวยขนาดนี้ ทับทิมมาอยู่กับฉันสิไม่อย่างนั้นฉันจะกลับแล้วนะ” เขาเอ่ยออกมาเสียงข่มขู่ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ทับทิมได้ยินแบบนั้นก็ตาโตก่อนจะหันไปมองคุณน้าของเธอทันที “แขกมากันแล้วคุณน้ากับคุณลุงรับแขกเถอะค่ะ ส่วนคุณรวีเดี๋ยวหนูดูแลให้เอง” “น้าว่าหนูอย่าไปใกล้เขาเลย เขาดูอันตรายเกินไป” คุณน้าเรย์มองหลานสาวอย่างห่วงใย เธอรักทับทิมมากและอยากให้เธอมีชีวิตที่สุขสบายที่สุด และที่เธอยอมแต่งงานกับท่านทวีก็เพราะว่าเขาสามารถดูแลเราสองคนได้ แต่ตอนนี้เธอชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่ามันจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเราสองคน “ไม่เป็นไรหรอกค่ะหนูโอเค วันนี้เป็นวันสำคัญของคุณน้ากับคุณลุง ยิ้มเข้าไว้ค่ะอย่ากังวลอะไรที่เหลือหนูจัดการเอง” เธอกุมมือคุณน้าเอาไว้ก่อนจะเดินไปยืนเคียงข้างคุณรวี เขายิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะกุมมือหญิงสาวเอาไว้แน่น น้าเรย์เริ่มอยู่ไม่สุขเพราะไม่ชอบใจเลยที่คุณรวีแตะเนื้อต้องตัวหลานสาวของเธออย่างออกนอกหน้า “ไปเถอะคุณไปถ่ายรูปกับแขกกัน” “ค่ะ” ทั้งสองคนพากันเดินไปรับแขกหน้างาน ส่วนรวีทำท่าทางเหมือนคนอยากอาหารเพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ทับทิมสังเกตเห็นท่าทีของชายหนุ่มก็เอ่ยถามทันที “หิวเหรอคะ ทานอะไรมั้ย” “มีอะไรให้กินรึเปล่าล่ะ งานก็ตั้งหรูหราน่าจะมีอะไรให้กินบ้างนะ” “งั้นเดี๋ยวหนูไปหาอะไรให้ทานนะคะ” เธอเสนอตัวเอาอกเอาใจชายหนุ่ม กลัวว่าเขาจะพังงานแต่งานของพ่อตัวเองเธอจึงต้องตามประกบเขาทุกฝีก้าว “เอาสิ งั้นฉันไปนั่งเล่นข้างในดีกว่า” เขาเดินเข้าไปในงานอย่างอารมณ์ดีเอ่ยทักทายแขกที่พอคุ้นหน้าและรู้จักกันดีอย่างเป็นมิตร ในระหว่างที่ทับทิมกำลังตักอาหารให้เขารวีก็เดินไปจิ้มเค้กแต่งงานของคุณพ่อ ทับทิมเห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งมาห้าม เค้กยังไม่ได้ตัดเลยเขาจะทำพังซะแล้ว “เค้กนี่ไม่ได้นะคะมันเป็นเค้กแต่งงาน” “อ่าวเหรอ… อร่อยดีนะแบ่งมากินได้ป่ะ” เขาเอ่ยออกมาอย่างกวนประสาท ทับทิมรีบไปบอกพนักงานให้ย้ายไปที่อื่นเพราะไม่อย่างนั้นไม่มีใครได้ตัดเค้กในงานนี้แน่นอน “คุณไปนั่งดีกว่านะคะเดี๋ยวหนูเอาอาหารไปให้” เธอดึงชายหนุ่มไปนั่งลงบนโต๊ะก่อนจะรีบวิ่งไปเอาจานอาหารมาวางให้ชายหนุ่มตรงหน้า เขานั่งทานอย่างเอร็ดอร่อยชี้นิ้วสั่งให้เธอไปหยิบนั่นนี่ให้เขาไม่หยุด ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ต้องยอมเพราะไม่อย่างนั้นเขาจะต้องไปวุ่นวายกับของทุกอย่างในงานและเดี๋ยวจะซวยกันหมด เดียร์ที่เห็นเจ้านายกวนประสาทหญิงสาวก็อดขำไม่ได้ แต่แปลกที่เขายอมมาดีๆทั้งที่บอกไว้แล้วว่าจะไม่มา กลัวใจเหลือเกินว่ากำลังคิดแผนร้ายอะไรอยู่ “น้ำส้มค่ะ” “เอาน้ำแข็งด้วยดิอยากกินแบบเย็นๆ” “ได้ค่ะงั้นรอสักครู่นะคะ” ทับทิมรีบวิ่งไปเติมน้ำแข็งให้ชายหนุ่มก่อนจะรีบกลับมาให้เขาอย่างเหนื่อยหอบ รวีรับแก้วน้ำมาดื่มอย่างชื่นใจก่อนจะหันไปมองดอกไม้ภายในงาน “ดอกไม้สวยอ่ะฉันเอาไปใส่แจกันที่ห้องทำงานดีกว่า เดียร์ให้คนมายกดอกไม้พวกนี้กลับออฟฟิศเลยเอาหมดเลยนะ” “ไม่ได้นะคะงานยังไม่เลิกเลยคุณจะเอาของออกไปไม่ได้นะคะ” ทับทิมตาโตอย่างตกใจก่อนจะรีบร้องห้าม รวียักไหล่เล็กน้อยก่อนจะตักสลัดกินต่อ “อะไรก็ไม่ได้ไม่สนุกเลย กินเสร็จจะกลับแล้วนะ” “คุณต้องอยู่จนจบงานนะคะ” เธอเอ่ยออกมาเสียงเด็ดขาด ยังไงเขาจะต้องอยู่แสดงความยินดีกับผู้ใหญ่ทั้งสองคนจนจบงาน รัวพยักหน้าช้าๆก่อนจะมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “อยู่ต่อก็ได้แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ” “แลกเปลี่ยนอะไรคะ…”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD