ตอนที่ 4
เดือนต่อมา
หลังจากนรภัฏ ตัดสินใจลาออกจากงาน ท่ามกลางเสียงห้ามของเพื่อน ๆ เขาใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีบินไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ เขาตั้งใจว่าจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียน เงินเก็บที่มีก็ใช้อย่างประหยัดเพราะฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก
หลังจากเรียนจบโท นรภัฏทำงานต่ออยู่ที่เมืองนอกเกือบหนึ่งปี เมื่อรวมกับเวลาในการเรียนโทแล้วก็สามปีกว่าที่เขามาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เขารู้สึกว่าตนเองมาถึงจุดที่รู้สึกว่าอิ่มตัวในการใช้ชีวิตและทำงานอยู่ที่เมืองนอกแล้ว จึงอยากจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย เพราะมารดาของเขาก็เริ่มอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกอย่างเขาก็อยากมาดูแลมารดาแทนน้องสาวบ้าง เพราะทิ้งให้น้องสาวอยู่กับแม่แค่สองคน
วันนี้น้องสาวเป็นฝ่ายโทร.หานรภัฏ และบอกความจริงว่าเธอกำลังจะแต่งงาน
“แต่งเลยยัยพริม ไม่ต้องรอพี่หรอก ชาตินี้พี่ไม่คิดว่าจะแต่งงานกับใครทั้งนั้น” ภีรดาน้องสาวของนรภัฏ เธอคบหาอยู่กับนักธุรกิจหนุ่มใหญ่มานานหลายปี เธอเคยโทรปรึกษาเรื่องความรักของเธอกับพี่ชายอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งตอนนี้เธอเรียนจบมหาลัยและก็มีหน้าที่การงานที่ดีแล้ว
“ได้แต่พี่ภัฏต้องมางานแต่งพริมนะคะ แล้วพี่ภัฏ จะกลับวันไหนคะ พริมจะได้ไปรับ”
“เร็ว ๆ นี้แหละ แต่น่าจะเป็นปลาย ๆ เดือนหรือไม่ก็ต้นเดือนหน้า พี่จะรีบเคลียร์งานให้เร็วที่สุดนะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่ภัฏ”
“กลับไปพี่ก็มีของขวัญจะเซอร์ไพร์ พริมกับแม่ด้วยนะ”
“ของขวัญอะไรเหรอคะ พี่ภัฏ”
“พี่เฉลยเลยก็ได้ ไม่อยากเก็บไว้ล่ะ กลับไทยรอบนี้ พี่ตั้งจะอยู่ยาวเลย”
“แม่จะต้องดีใจมากเลยค่ะ..พี่ภัฏ พริมไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้เลย” ตั้งแต่ที่นรภัฏตัดสินใจเดินทางมาใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก ในตอนแรกนั้นเขาปิดกั้นตัวเองทุกอย่าง เพื่อนฝูงไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้เลย รวมไปถึงเขาได้ปิดกั้นการสื่อสารในโลกออนไลน์พวกนั้นทุกช่องทางเพราะไม่อยากรับรู้อะไรที่จะเกิดขึ้นทั้งนั้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบสองเดือนกว่า ๆ เขาได้โทร.หามารดา และน้องสาว ก่อนจะบอกว่าตนเองนั้นสบายดี
ในตอนนั้นนรภัฏแจ้งว่าเขาได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่และก็กำลังเรียนต่อปริญาโท เขาบอกว่าเขาเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย มารดาของเขาก็กลุ้มใจและเป็นห่วงบุตรชายอยู่นานหลายเดือน แต่เธอก็เข้าใจบุตรชายเพราะตอนนั้นนรภัฏเสียใจหนักมาก
หนึ่งเดือนต่อมา
นรภัฏกลับมาอยู่เมืองไทย หลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งงานของน้องสาว เขาคิดว่าอีกหน่อยน้องสาวของเขาก็คงย้ายไปอยู่กับสามี และจะไม่มีเวลาดูแลมารดาได้เต็มที่ จึงทำให้นรภัฏตัดสินใจว่าจะนำเงินเก็บทั้งหมดที่ได้จากการทำงานมาเปิดบริษัทเล็ก ๆ ใกล้บ้าน แต่ระหว่างที่กำลังจะเปิดบริษัทขึ้นมา เขาก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้น้องสาวฟัง เธอเองกับสามีจึงตกลงกันว่าจะร่วมหุ้นกับพี่ชายในครั้งนี้ด้วย
“ยัยพริม!!! พี่ไม่เห็นด้วยที่น้องเอาเงินมาลงทุนกับพี่มากมายขนาดนี้ สามีจะไม่ว่าเอาเหรอไง เราน่ะเพิ่งแต่งงานกับคุณอรรนพเค้าเองนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...พี่ภัฏ ก็พี่นพนั่นแหละที่บอกให้พริมเอาเงินมาลงทุนกับพี่”
“งั้นตำแหน่งประธานบริษัทก็คงต้องเป็นของเขาแล้วล่ะ..เงินมากมายซะขนาดนั้น”
“เขาไม่รับหรอกค่ะ เพราะเขาเองก็มีบริษัทของตัวเองที่ต้องดูแลอยู่แล้ว” ภีรดาอธิบายให้พี่ชายฟัง ตั้งแต่ที่พี่ชายเดินทางกลับมาอยู่เมืองไทย น้องสาวและมารดาของนรภัฏก็ดีใจมากแล้ว ภีรดาจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับสามีของเธอ ซึ่งสามีของภีรดาเธอรวยอยู่แล้ว จึงอยากจะช่วยพี่เขย ให้เขาได้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
“งั้นพริมนั่นแหละที่จะต้องมาเป็นประธานบริษัทแทนสามี” นรภัฏพี่ชายยื่นคำขาด จึงทำให้น้องสาวอย่างภีรดาไม่มีทางเลือก เธอจึงยอมมาเป็นประธานบริษัทของพี่ชาย โดยนรภัฏเองเขาไปเป็นรองประธานแทน เพราะถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่ยอมให้น้องสาวและสามีเธอร่วมลงทุนในครั้งนี้ด้วย
ในตอนแรกที่เริ่มก่อตั้งบริษัทนรภัฏฟาร์มาซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้น้องสาวอย่างภีรดาเป็นคนคอยช่วย เธอเป็นสาวเก่ง มีคอนเนคชั่นที่ดี และสามารถดึงลูกค้าได้มากมาย จึงทำให้ บริษัทนรภัฏ ฟาร์มาซูติคอล ที่นำเข้าเครื่องมือแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ ที่ร่วมกันทำกับน้องสาว เติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว
หนึ่งปีต่อมา
“คุณนรภัฏคะ คุณอะเล็กซานดรา เธอจะขอเลื่อนนัดเป็นพรุ่งนี้ช่วงบ่ายค่ะ” วิชชุดา เลขาฯ สาวเดินเข้ามาบอกเจ้านายพร้อมกับถือแฟ้มเอกสารมาให้เขาเซ็นต์ในคราเดียวกัน เธอนั้นทำงานเป็นเลขาฯ ของนรภัฏมาตั้งแต่รุ่นบุกเบิกที่บริษัทนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นมาเลยก็ว่าได้ ในตอนแรกนรภัฏ กับน้องสาว มีพนักงานเพียงไม่กี่คน นรภัฏจึงได้ชวนภานุวัฒน์รุ่นน้องสมัยเรียน ย้ายมาทำงานในตำแหน่งฝ่ายบุคคล และน้องสาวก็ขอให้คนในบริษัทของสามีเธอมาเป็นเลขาฯ ของพี่ชาย และนั่นก็คือวิชชุดา และเธอก็ทำหน้าที่ได้สมกับที่น้องสาวของนรภัฏได้ไว้วางใจ
“ครับเอาตามที่เค้าสะดวกเลย เอ่อ...เดี๋ยวผมจะออกไปทำธุระข้างนอกสักครู่นะ คุณวิยังมีอะไรที่จะให้ผมเซ็นต์เพิ่มอีกรึเปล่า” ชายหนุ่มส่งแฟ้มเอกสาร ที่เพิ่งเซ็นต์เรียบร้อยคืนให้เลขาฯ คนสวยรับไป ช่วงนี้หลายอย่างเขาต้องตัดสินใจแทนน้องสาว เพราะตั้งแต่ที่เธอตั้งท้องจนถึงคลอดลูกคนแรก เธอก็แทบไม่มีเวลามาทำงานเลย