"ดะ..ดะ.. เดี๋ยวก่อนนะคะ คือเรื่องนี้เราสองคนยัง.." หวานใจกำลังจะหาทางออก บอกผู้ใหญ่ไปก่อนว่าทั้งสองยังไม่ได้คุยเรื่องแต่งงานกันเลย แต่จังหวะเดียวกันนั้นก็มีชายวัยชราคนหนึ่งเดินเข้ามา
"รามิล"
"คุณปู่ครับ"
"มายืนทำอะไรกันตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไปในงาน"
"คุณพ่อมาก็ดีแล้วครับ ตารามิลพาแฟนมาด้วย"
"หนูคนนี้เหรอ" เรวทัตมองไปที่ฝ่ายหญิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ หลานชาย
"สวัสดีครับท่าน" ฉลามเห็นว่าท่านมองมาทางตัวเองด้วย เรวทัตก็เลยพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย "หวานใจเป็นบุตรสาวผมเองครับท่าน"
"อ้าวเหรอ คนกันเองทั้งนั้น" กำลังจะถามอยู่พอดีว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครบ้านอยู่ที่ไหน แต่พอรู้ว่าเป็นบุตรสาวของเสนาธิการ คนเป็นปู่ก็ยิ้มออก
"ใช่ครับพ่อ และผมก็คิดว่าจะจัดงานแต่งให้ทั้งสองต่อจากน้องสาวเลย" รามสูรหมายถึงสโนไวท์ เพราะสโนไวท์มีศักดิ์เป็นน้องสาว แถมยังอายุน้อยกว่ารามิล
ทั้งสองที่อยู่ในประโยคสนทนาของผู้ใหญ่ ได้แต่มองตากันปริบๆ เพราะตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว
"เห็นแบบนี้ปู่ค่อยตายตาหลับหน่อย ถ้าแต่งงานกันแล้วก็ช่วยกันดูแลบริษัทของพ่อต่อนะ"
"ครับ?" ที่ดึงเธอคนนี้เข้ามาเพราะคิดว่าจะกลับไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศได้ แต่พอแต่งแล้วยังจะให้อยู่ดูแลบริษัทอีกเหรอ "คุณปู่ไม่ตายง่ายๆ หรอกครับ"
"รามิล!" สโรชาปรามลูกชายไม่ให้พูดแบบนี้
"เข้าไปในงานกันเถอะ" รามสูรเห็นว่าพ่อยืนนานแล้วก็เลยอยากพาเข้าไปนั่ง
เข้ามาด้านในญาติๆ อีกหลายคนต่างก็เข้ามาทักทาย เพราะรามิลไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว
"เดี๋ยวนะ..คนนี้หนูหวานใจไม่ใช่เหรอ" พอกองทัพทักทายหลานชายเสร็จก็มองไปดูผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน ที่กองทัพจำได้ในทันทีนั้นเพราะหวานใจเป็นลูกสาวของฉลามลูกน้องคนสนิท
"สวัสดีค่ะคุณลุง"
"พวกเรามาด้วยกันเหรอ"
"ไม่ได้แค่มาด้วยกันนะ แต่ทั้งสองเป็นแฟนกัน กำลังจะแต่งงานด้วย" เรวทัตบอกกองทัพลูกเขย
"ห๊า? อะไรนะครับ??" ประโยคนี้หลายคนเลยที่พูดขึ้นมาพร้อมกัน
"เดี๋ยวนะ เราอยู่กันคนละประเทศไม่ใช่เหรอ..หรือว่าอาจำผิด"
ตายห่าแล้วไม่รู้เลยว่าอีกคนอยู่ประเทศไหน "คือที่จริงพวกเรา..พวกเรา.."
"พี่เขาเดินทางมาเที่ยวที่อังกฤษค่ะ เราทั้งสองต่างก็เป็นคนไทยก็เลยเริ่มคุยกันตั้งแต่ตอนนั้น" หวานใจถือโอกาสเอ่ยชื่อประเทศที่ตัวเองไปเรียนให้ฝ่ายชายรู้ว่าเธออยู่ประเทศไหน ปัญหาคือเธอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ประเทศไหน ภาวนาขออย่าเพิ่งให้ผู้ใหญ่ถามเรื่องนี้เลย
"อ๋อเป็นแบบนี้นี่เอง ถ้างั้นเราก็มีข่าวดีคู่ที่สองแล้วสิ"
"เรื่องนี้เดี๋ยวปู่จะเป็นคนหาฤกษ์ให้" เรวทัตดีใจมากที่หลานชายคนโตจะเป็นฝั่งเป็นฝา แถมไม่ได้คว้าสาวแหม่มมาด้วย
รีเซฟชั่นโรงแรม..
พองานแต่งเลิก คนที่ยังไม่มีห้องก็ออกมาเช็คอินก่อน
"เหลือห้องเดียวจริงๆ ค่ะ มีงานเลี้ยงพร้อมกันสองงาน ที่จริงห้องจะไม่ว่างแล้วค่ะ แต่เจ้าของห้องยกเลิก"
ผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานแต่งต่างก็มีห้องกันหมดแล้ว เพราะมาค้างตั้งแต่เมื่อวาน ปัญหาคือตอนนี้หวานใจและรามิลเพิ่งเดินทางมาถึงก็เลยยังไม่ได้เช็คอิน
"คนเป็นแฟนกันพักด้วยกันคงไม่เป็นไรหรอก" เรวทัตที่ยังอยู่ตรงนั้นด้วยเสนอทางออกให้
ผู้ใหญ่ก็เลยไม่มีใครว่าอะไร เพราะถ้าใครแย้งขึ้นมากลัวอีกฝ่ายคิดว่าไม่อยากเกี่ยวดองกัน
____________________________
เรื่องราวของฉลามและแก้วใจอยู่ในเรื่องเมียสวมรอยนะคะ ลงไว้จบแล้วค่ะ^^