Heartless พ่ายรักมาเฟีย
ไม่ปล่อยง่ายๆ
Rrrrrrrrrrrrrrr
ผมขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างหงุดหงิดเพราะไอ้เสียงเรียกเข้าที่แสดงถึงว่ามีคนกำลังโทรหาผมไม่หยุด...ผมปรือตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมากดรับสาย...
“ ว่า...” ผมกรอกเสียงไปตามสายพร้อมๆกับหลับตาลงอีกครั้ง
‘ พี่เฮล อาทิตย์หน้าพวกหนูขอไปถ่ายงานที่คอนโดพี่นะ...’
“ ไม่ได้ ห้องเราก็มีไม่ใช่หรอไง ”
‘ ก็วิวไม่ดีเท่าห้องพี่อะ น้าาา ไม่นานหรอก...’
“ บอกว่าไม่ก็คือไม่...” ผมพูดไปอย่างหงุดหงิดบวกกับความง่วงที่ตัวเองมีอยู่ด้วย แล้วไหนจะเสียงแหลมๆ ของน้องสาวที่พูดเซ้าซี้ใส่หูผมไม่หยุด
“ ไม่รู้อะ ฮันน่าจะไป!...”
“ พูดให้มันรู้เรื่องฮันน่า พี่ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายที่ห้อง ” ผมพูดไปตามที่คิด ผมไม่ชอบเวลาที่มีคนมายุ่งวุ่นวายที่ห้องมันคือพื้นที่ส่วนตัวที่ผมหวง ถ้าผมไม่ได้เป็นฝ่ายพามาเองก็อย่าหวังว่าจะได้มายุ่งวุ่นวายกับผมแบบนี้
“ ไม่สน น่าจะไป พี่ก็พาตัวเองออกไปที่อื่นสักครึ่งวันละกัน! ”
“ พี่บอกว่า..” ไม่ทันทีผมจะได้พูดอะไรต่อ ฮันน่าก็รีบวางสายไปทันที...
ให้ตายเถอะ น้องสาวผมมันเอาแต่ใจจริงๆ...ผู้หญิงคนเดียวที่ในชีวิตผมต้องยอมแพ้ให้ก็คือ ฮันน่า น้องสาวคนเดียวของผม
ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะเสยผมตัวเองที่ตกลงมาปรกที่ตาขึ้นไป สายตาผมเหลือบไปมองที่นอนด้านซ้ายของตัวเองที่ไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เอ่ยปากชวนผมให้นอนกับเธอ...จะเหลือก็แต่ร่องรอยผ้าปูที่นอนที่มันยับยู่ยี่ไปหมด...
บอกตามตรงว่าแปลกใจไม่น้อยที่พอตื่นมาผมกับไม่เจอเธอนอนอยู่ข้างๆเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น...คิดจะเล่นตัวให้ตัวเองดูแตกต่างจากคนอื่นหรอไงกัน...
ตลกสิ้นดี...
ผมเหยียดยิ้มที่มุมปากตัวเองนิดๆ พลางคิดไปถึงค่ำคืนที่เร่าร้อนระหว่างผมกับเธอ เสียงครางของเธอ หรือแม้แต่เรือนร่างที่สมส่วนนั้นของเธอ ผมยังคงจดจำมันได้ทุกอย่าง
ใบหน้าสวยที่เห่อแดงไปด้วยความต้องการให้ผมสัมผัส ผมจำมันได้ดีเลยละ...
ผมขยับตัวก้าวลงจากเตียงนอนก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ห้องแต่งตัวมาพันท่อนล่างของตัวเองเอาไว้ แต่แล้วสายตาของผมเองก็ต้องไปสะดุดเข้ากับร่องรอยขีดข่วนที่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งไว้ที่แผงอก ผมค่อยๆ ใช้มือตัวเองลูบไปตามร่องรอยนั้นก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากตัวเองด้วยความพึงพอใจ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกดีที่ผมได้เห็นร่องรอยแบบนี้อยู่บนตัวผม...
ผมเดินออกมาจากห้องแต่งตัวก่อนจะเดินไปหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบตรงระเบียงห้องนอน มุมนี้มันคือมุมโปรดที่สุดของผม ผมได้มองเห็นบรรยากาศรอบๆ และบริเวณพื้นที่ทั้งหมดของเพนท์เฮ้าท์ หรือแม้แต่อนาเขตบริเวณโดยรอบ
ทั้งนั้นมันคืออนาจักรของผม...
ผมสูดมวลบุหรี่เข้าปอดก่อนจะพ่นควันมันออกไปอย่างช้าๆ ให้ตายผมไม่สามารถลืมหน้าผู้หญิงคนนั้นได้เลย...ผมทิ้งมวลบุหรี่ที่ยังสูบไม่ถึงครึ่งมวลทิ้งลงในถาดแก้วก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจัดการบ้างอย่าง
กึก !
แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเท้าของผมไปเตะเข้ากับสิ่งของบางอย่างที่ตกอยู่ที่พื้น ผมก้มลงไปหยิบกระเป๋าตังค์สีดำใบเล็กขึ้นมาก่อนจะถือวิสาสะเปิดดูด้านในทันที
“ ริชาดา...” ผมอ่านชื่อในบัตรประชาชนของผู้หญิงที่ผมมีอะไรด้วยก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏที่มุมปากของผมทันที
“ น้องสาวดารัณงั้นหรอ ” โลกมันน่าจะกลมเกินไปมั้ง ที่ผู้หญิงที่ผมมีอะไรด้วยเมื่อคืนจะเป็นน้องสาวของดารัณ คนรักเก่าของวาโยเพื่อนสนิทผม
ผมเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่เตียงคิงไซส์ของตัวเองอีกครั้งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลูกน้องคนสนิท
“ เช็คประวัติของผู้หญิงที่กูส่งไปในไลน์ให้หน่อย...”
“ กูต้องการรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ภายในวันพรุ่งนี้...” ผมพูดไปแค่นั้นก่อนจะกดตัดสายไปในทันที สำหรับผมคำตอบที่ผมต้องการ มันต้องไม่ใช่คำว่า ไม่ได้
“ เมื่อคืนมันจะไม่ใช่คืนสุดท้ายที่เราได้เจอกันหรอก...”
“ ริชา...” ผมพูดพร้อมกับมองรูปที่ติดอยู่บนบัตรประชาชนด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก เสือร้ายอย่างผมถ้าผมยังไม่อิ่มผมไม่มีทางปล่อยให้กวางน้อยหลุดมือไปได้ง่ายๆ หรอก...
เวลา 12.21 น.
@มหาลัย XP
คณะบริหารธุรกิจ Faculty of Business Administration
“ พวกมึงกูได้ที่ถ่ายงานกลุ่มละ !” ฉันสะดุ้งตัวตกใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองเพื่อนสาวตัวดีของฉันที่พูดโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร
" ที่ไหนอะ ? "
" เพนท์เฮ้าส์พี่ชายกูเองค่า "
“ พี่ชายมึงเขาจะไม่ด่าใช่ไหม...” เมอาถามพร้อมมองหน้าฮันน่า แต่ฮันน่าก็ไหว่ไหล่ตัวเองแบบไม่แคร์ก่อนจะตอบ
“เมื่อกี๊แอบหงุดหงิดอยู่นะ แต่กูไม่สนอะ”
“ แล้วถ้าพี่ชายมึงโมโหให้ลูกน้องมาอุ้มฆ่าพวกกูทำไงอ่า...” เอวาพูดออกไปพร้อมกับมองหน้าฮันน่าเลิ่กลั่ก เอาดีๆหลังจากที่ฉันฟังฉันก็แอบคิดตามที่เอวาพูดไม่ได้เหมือนกัน
เพราะเคยได้ยินว่าพี่ชายของฮันน่าที่พึ่งกลับมาจากอิตาลีค่อนข้างโหดพอสมควร และเขายังพวงตำแหน่งลูกชายคนโตของตระกูลมาเฟียอีกต่างหาก
“ โอ้ยยยย พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก กูคิดว่าเลือดในตัวกูต้องมีความโหดจากตระกูลกูอยู่บ้างแหละ ”
“ เอาดีๆมึง กูยังอยากมีชีวิตอยู่เพื่อแต่งงานนะ ยังไม่อยากโดนพี่ชายมึงฆ่าตาย...” เมอาพูดพร้อมกับแสดงสีหน้าออกชัดว่าแอบกังวล
“ โอ้ยยย พวกมึงคิดกันไปใหญ่ละ พี่ชายกูเขาไม่ใช่คนแบบนั้น เขาโหดแค่ในวงการธุรกิจของเขา...”
“ ซึ่งมึงไม่ได้มีความโหดใดๆ จากพี่ชายมึงเลยอะน่า...” ฉันแอบหลุดขำออกมานิดๆ เมื่อได้ยินเอวามันพูดออกมาแบบนั้น เพราะจริงๆพวกฉันน่ะรู้ว่าฮันน่ามันเป็นลูกสาวมาเฟีย แต่เพื่อนฉันคนนี้ทำตัวไม่ได้มีความเป็นลูกสาวมาเฟียเลยสักนิด
“ จริงๆ กูโหดดด โหดมาก แต่ไม่อยากแสดงออกกับพวกมึงต่างหากละ...”
“ โอเคเชื่อ...” พวกฉันประสานเสียงตอบพร้อมกับนและพอตอบไปแบบนั้นฮันน่าก็เริ่มหน้าบูดขึ้นมาทันที พวกฉันยิ้มขำกันหนักขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นอาการของฮันน่าเป็นแบบนั้น
“ เลิกขำกูแล้วเรามาบีบคอถามริชาตัวดีของเราดีกว่าว่าเมื่อคืนไปเซอร์ไพร์สแฟนหนุ่มมาเป็นไงบ้างจ้ะ ติดต่อไม่ได้เลยน้า ”
“ เออจริง...เมื่อคืนเป็นไงบ้างอะ...”
“ กูว่าวายุมันต้องดีใจแน่นอน มันอุสาอดทนรอริชามาตั้ง 3 ปี ใช่ปะมึง...”
ฉันนิ่งเงียบ เริ่มทำหน้าไม่ถูกเมื่อเพื่อนวกเข้ามาที่เรื่องของฉันจนได้...จริงๆตอนแรกที่มาถึงมหาลัยเพื่อนก็ถามฉันแล้ว แต่ฉันก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่องทำงานกลุ่มก่อน แต่สุดท้ายเพื่อนก็วกกลับมาที่เรื่องฉันจนได้...
“ อะ เงียบ เพื่อนเงียบเลย เขินหรอออ....” ฮันน่ายังคงเอ่ยแซวฉันด้วยน้ำเสียงร่าเริง...ต่างจากฉันที่ไม่รู้จะเริ่มตอบเพื่อนยังไง
“ เดี๋ยวนะริชา มะ มึงเห็นข่าวในเพจบันเทิงมหาลัยยัง...”
“ ข่าวอะไรของมึงวา...” เมอาหันไปมองหน้าเอวาก่อนจะเอ่ยถาม เอวาเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยสีหน้าตกใจ
“ มึงวายุมันนอกใจมึงหรอ !! ”
“ ไอ้เชี้ย ! นี่มันพี่ปันพี่รหัสมึงนิริชา ! ” เพื่อนๆ ต่างพากันถามฉันด้วยสีหน้าแตกตื่น ต่างจากฉันที่นิ่งเงียบไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไปมากนัก ถึงแม้มันจะเจ็บจี๊ดอยู่ภายในใจไม่น้อยก็ตาม
“ กูเห็นแล้ว…แล้วรูปนั้นที่เพจโพสก็มาจากกูแหละ…”
“ มึง มึงเข้าไปเห็นมันกับอีพี่ปันหรอ…” ฮันน่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอึ้งๆ…ฉันพยักหน้าน้อยๆก่อนจะตอบเพื่อน
“ กูเลิกกับวายุแล้วมึง เลิกแล้ว…”
“ ผู้ชายคนนั้นจะไม่กลับเข้ามาในชีวิตกูอีกมึง…”
“ ระหว่างกูกับเขา มันจบ…จบแล้วเลยจริงๆ…ฮึก…” พอพูดมาถึงตรงนี้ น้ำตาที่ฉันพยายามกลั้นมันไว้ก็ไหลออกมาทันที ระยะเวลาที่ฉันมีเขามัน 3 ปีเลยนะ กับคนอื่นอาจจะดูไม่นาน แต่สำหรับฉันในทุกๆวันมันมีวายุมาโดยตลอด…
“ ทำไมมึงไม่โทรหาพวกกู ทำไมไม่บอกพวกกูตั้งแต่เมื่อคืน พวกกูจะได้ไปหา…” เมอาพูดพร้อมกับจับมือฉันไว้แน่น…ฉันมองหน้าเพื่อนๆของตัวเองก่อนจะร้องไห้ออกมาแบบสะอึกสะอื้น ฉันกลั้นมันไม่ไหวแล้วจริงๆ
“ มึงร้องออกมาเลย ร้องออกมาให้หมดเลยมึง…”
“ ไม่เป็นไรพวกกูอยู่ตรงนี้ อยู่กับมึงตรงนี้นะ…”
“ ร้องไห้กับพวกกูได้เลยริชา…”
ฉันยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินเพื่อนๆพูดปลอบฉันออกมาแบบนั้น เมอาที่นั่งข้างฉันดึงตัวฉันเข้าไปกอดไว้แน่น มันน้อยครั้งมาเลยที่ฉันจะร้องไห้ให้เพื่อนเห็นแบบนี้
นานหลายนาทีที่ฉันยังคงร้องไห้อยู่แบบนั้นไม่หยุด กว่าจะตั้งสติหยุดร้องได้เล่นเอาตามบวมแดงไปหมดเลย…
“ พระเจ้าท่านถีบคนเหี้ยออกไปจากชีวิตมึงไงริชา แล้วเดี๋ยวเขาจะมอบคนดีๆ มาให้มึง…”
“ เอาให้หล่อรวยแซ่บไปเลยแม่…”
“ เจ้าของธุรกิจหมื่นล้านพันล้านไปเลย ให้มันสมกับความน่ารักของเพื่อนกู…” ฉันหลุดขำออกมาให้กับความซัพพอร์ตเพื่อนของเจ้าสามก้อนพวกนี้ที่โอ๋ฉันกันไม่หยุด…
อย่างน้อยๆ ในวันที่ฉันรู้สึกแย่ ก็มีเพื่อนสามคนนี้อยู่ข้างกายฉันเสมอเลย…
“ แล้วตกลงเมื่อคืนนี้มึงหายไปไหน ได้กลับมานอนห้องหรือเปล่า...” เมอาถามพร้อมกับมองหน้าฉัน...
เป็นอีกครั้งที่ฉันเริ่มอึกอักและทำหน้าไม่ถูก…ฉันต้องตอบเพื่อนว่าไงละ
“ คือว่ากู…”
“ เดี๋ยวนะริชา…คอมึงไปโดนอะไรมาอะ...” เมอาถามพร้อมกับแตะมาที่คอฉันเบาๆ…
บ้าจริง ฉันปิดรอยเขาไม่หมดหรอ…
ฉันรีบยกมือขึ้นมาแตะที่คอตัวเองอย่างลืมตัว…เพื่อนๆ ต่างมองหน้าฉันเป็นตาเดียวกัน…
“ คะ คือกู…”
“ มึงอย่าปิดนี่มันรอยดูดชัดๆอะมึง…” ฮันน่าดึงมือฉันออกก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง…
“ เมื่อคืนมึงไม่ได้อยู่กับไอ้วายุ แล้วรอยดูดมันมาจากไหนอะริชา และอย่าบอกว่ามดกัดมันไม่เนียน !” ฉันรู้สึกว่าตัวเองหน้าหดลงมาเหลืออยู่สองนิ้วได้มั้ง ฉันไม่รู้จะตอบคำถามเพื่อนยังไงเลยจริงๆ…
“ นี่อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนมึง....” เป็นเอวาที่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอึ้งๆ ฉันได้แต่หลบตาเพื่อนทั้งสามคน...ก่อนที่สุดท้ายฉันจะถอนหายใจออกมาพร้อมกับเล่าเรื่องอีกเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนๆ ฟัง…
โดนด่าก็โดนด่าแหละ เพราะยังไงก็ปิดไม่ได้อยู่แล้ว…
“ -0- !! แม่ !”
“ สรุปเมื่อคืนมึงไปนอนกับคนที่มึงไม่รู้จักชื่อหรอ ?!”
ฉันนั่งกุมหัวตัวเองอย่างคิดไม่ตกหลังจากที่ได้ยินเสียงเมอาพูดออกมาอย่างตกใจแบบนั้น...
“ มึงเบาๆ กูอาย…”
“ โอ้ยยย มึงงง กูไม่คิดว่ามึงจะทำอะไรแบบนี้อะ…”
“ ถ้าเป็นฮันน่าก็ว่าไปอย่าง…”
“ อ้าวๆ พูดดีๆไอ้เม เดี๋ยวกูทุบ…”
“ แล้วป้องกันไหม...” เอวาถามฉันด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ฉันรีบพยักหน้าทันทีเพราะเมื่อเช้าฉันเห็นว่ามันมีถุงยางอยู่ในถังขยะหลายชิ้น และฉันก็จัดการตัวเองด้วยการกินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วด้วย
“ ก็ยังดีที่ป้องกัน...เมื่อคืนมึงเมามากเลยหรอ...”
“ ใช่...คือกูภาพตัดไปเลยอะมึง รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว...” จนตอนนี้ฉันก็ยังจำอะไรไม่ได้เลย สมองมันหนักอึ้งไปหมด แม้แต่หน้าเขาคนนั้นฉันก็จำไม่ได้…
“ แล้วแซ่บปะ ?”
“ แซ่บอะไรวะมึง ?” ฉันถามอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ฮันน่ามันถาม
“ แบบผู้ชายอะ งานดีไหม หล่อไหม...”
“ มึงกูจำหน้าเขาไม่ได้ ตื่นมาเขาก็นอนคว่ำหน้าอยู่อะ แล้วกูก็รีบหนีออกมาจากเพนท์เฮ้าส์เขาเลย…”
“ เพนท์เฮ้าส์ ? แสดงว่าคนที่มึงนอนด้วยต้องเป็นคนรวยแน่ๆเลยถูกมั้ย ?…”
“ อ้าวแต่แบบนี้มึงก็ไม่รู้อะดิ ว่าครั้งแรกเป็นไง...”เมอาพูดคล้ายกับว่าเสียดายแทนฉันมากที่ฉันจำอะไรไม่ได้
“ มึงๆ ไม่ใช่เวลา ไม่ต้องเสียดายแทนริชามัน ประเด็นคือเพื่อนเราเมามาก เมาจนไม่มีสติ แล้วไปมีอะไรกับคนอื่นเขาเนี้ย...” เอวารีบพูดแทรกทันที…
“ เออลืม หมดแล้วแม่ชีของพวกกู อุสาหวงเนื้อหวงตัวกับแฟนเก่ามาตั้งนาน ไปพลาดท่าให้หนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้เนี้ย...”
“ มึงแต่ถ้าริชามันให้ไอ้เลวนั่นอะ ก็ไม่ต่างอะไรปะ...” ฮันน่าพูดพร้อมกับมองหน้าเมอากับเอวา
พอพูดถึงแฟนเก่าฉัน พวกเพื่อนๆก็จะมีอารมณ์ขึ้นมาหน่อยๆ
“ ช่างมันเถอะพวกมึง กูไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ถือว่าสนุกๆไปละกัน ก็ได้ลองทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคย.. ”
“ ต่อจากนี้ไปกูจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ จะไม่อ่อนแอแบบนี้ให้พวกมึงต้องเป็นห่วงอีก แล้วก็จะไม่ทำอะไรที่มันสิ้นคิดแบบนี้อีก…”
ฉันพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้กับเพื่อนๆของตัวเอง ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองอ่อนแอแล้วก็เปราะบางแบบนี้อีกแล้ว ฉันจะเข้มแข็งให้มากขึ้นกว่าเดิม
อะไรที่เสียไปแล้วก็ให้มันเสียไป เพราะยังไงฉันก็ทำไปแล้วนิ กลับไปแก้ไขอะไรก็ไม่ได้ จะซ้ำเติมตัวเองไปมันก็เท่านั้น มีแต่จะสร้างบาดแผลทางจิตใจให้ตัวเอง…
ต่อไปก็แค่ระวังตัวไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกก็พอ..