เมื่อไหร่จะจบ

1606 Words
ตอนที่ 6 เมื่อไหร่จะจบ เสียงลมหายใจของนับดาวดังขึ้นอีกครั้งด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ เมื่อดึงตัวเองให้หลุดพ้นจากอดีตที่เป็นจุดเริ่มต้นสัมพันธ์ลับหลังแบบนี้ แค่อาร์ชี่แกล้งทำสวีตหวานหรือ จงใจมีอะไรกับเพลินตาให้เธอรับรู้นั่น มันก็ชวนเจ็บมากพอดูอยู่แล้ว หากแต่เขาก็ยังตอกย้ำความเจ็บของเธอเข้าไปอีก ด้วยการแอบมามีอะไรกันกับหญิงสาวทุกครั้งที่มีโอกาส และเธอก็ยอมเขาทุกครั้งไปเพราะต้านแรงราคะในกายไม่ได้เลยสักครั้ง "เมื่อไหร่ไอ้วงจรบ้าๆ นี่มันจะจบสักทีว่ะ เมื่อไหร่มึงจะปล่อยกูไปสักที" คนงามพึมพำคนเดียวแบบนั้น พร้อมกับดวงตากลมโตที่ค่อยๆ หลุบหลับลง เมื่อความอ่อนล้าดึงเอาคนทรงโตเข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมกับลมหายใจที่สม่ำเสมอ “ตื่นแล้วหรอนับ ตื่นสายนะมึงอ่ะ” เสียงหวานของผู้หญิงตัวเล็กที่มีดวงตากลมโตเกินใบหน้าเอ่ยทักขึ้น ความสดใสของเธอเปล่งออร่ามาตั้งแต่เช้าขนาดนี้เลยหรือไงนะ นับดาวได้แต่คิดในใจแล้วยิ้มแห้ง “อืม เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับอ่ะมึง” เธอตอบไปด้วยความงัวเงีย และสีหน้าเหมือนคนไม่เต็มใจตื่นเท่าไหร่ ดวงตาฉ่ำเยิ้มปรือมองดูแล้วช่างยั่วเย้านัก แล้วท่าเกาหัวนั่นอีก มันยิ่งทำเอาคนตัวใหญ่ที่อยู่ข้างกายเพลินตารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก คนเอาแต่ใจเริ่มมองคนมาใหม่แล้วเลียไปที่ริมฝีปากช้าๆ ต่างจากเพลินตาซึ่งไม่ได้รู้สึกอะไรกับภาพตรงหน้าอยู่แล้วเพราะเป็นผู้หญิงด้วยกัน “ขอโทษนะมึงที่ลากมา กูรู้ว่ามึงไม่ค่อยชอบอะไรแบบนี้” เพลินตาพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้ารู้สึกผิด เพราะเธอเป็นคนลากทั้งคู่มาเที่ยวแบบนี้ด้วยความเอาแต่ใจตัวเอง “ไม่เป็นไรมึง กูโอเค แค่ง่วง เดี๋ยวกูไปหากาแฟกินก่อน” พูดจบนับดาวก็เดินออกไปเลย ทิ้งคู่รักให้ยืนอยู่ตรงนั้น “อาร์ทอยากกินมั้ยคะ” เพลินตาเอ่ยถามอาร์ชี่ซึ่งกำลังมองตามหลังนับดาวไป คนตัวเล็กไม่ได้สังเกตเลยสักนิด ว่าสายตาของแฟนหนุ่มในตอนนี้ เหมือนอยากจะจับเพื่อนผู้เดินหายไปกินให้ได้ตรงนั้น นับดาวกับเสื้อตัวโคร่งกางเกงขาสั้นและมีผ้าห่มคลุมไหล่ยิ่งมอง ยิ่งทำให้ชายหนุ่มพลุ่งพล่านขึ้นไปอีก อาร์ชี่พยายาสลัดภาพนั้นทิ้งไป แล้วหันมาคุยกับคนตัวเล็กกว่ามากอย่างเรียบเฉย “ไม่เป็นไรค่ะ เพลินกินเถอะ” เขาตอบแบบสงวนคำพูดเหมือนทุกที อาร์ชี่มักจะพูดน้อยเสมอเวลาอยู่กับเพลินตา นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่คนร่างเล็กจับสังเกตไม่ได้ หากแต่บางครั้งสาวเจ้าก็อดน้อยใจไม่ได้ เพราะอาร์ชี่กับนับดาวสนิทกันมากชนิดว่าถึงขนาดพูดกูมึงกันได้ ตรงนี้มันเหมือนโลกอีกใบที่เธอไม่สามารถเข้าถึงได้เลย 'แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะยังไงอาร์ชี่ก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเธอ' คนตัวเล็กสลัดความคิดนั้นทิ้งก่อนจะเขย่งตัวขึ้นไปหอมแก้มคนรัก ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานออกไป “งั้นเพลินไปหาอะไรทานก่อนนะคะ” ทั้งสามเที่ยวเล่นกันจนเริ่มเหนื่อยที่จริงคนที่เหนื่อยสุดเห็นจะเป็นเพลินตา เพราะเธอดูมีความสุขกว่าใครทั้งนั้น พวกเขาตัดสินใจกันว่าวันนี้ไม่นอนเต็นท์อีกแล้ว เพราะมันค่อนข้างลำบาก โฮมสเตย์แถวนั้นจึงเป็นตัวเลือกใหม่ของคนทั้งกลุ่ม ทว่าปัญหาตอนนี้คือมันมีแค่ห้องนอนเดียวที่ว่างอยู่ “กูว่าไม่ต้องนอนก็ได้มั้ย มึงขับกลับเลยไม่เกินสามชั่วโมงก็ถึง ถ้าอาร์ทมันขับไม่ไหวก็ผลัดกันกับกู” นับดาวพยายามเอ่ยเสียงเรียบปกปิดความกังวลในใจ เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าพวกเขาตัดสินใจนอนพักห้องเดียวกันทั้งหมดทุกคน นั่นมันจะทำให้เธอลำบากใจสุดๆ ด้วยรู้ดีว่าอาร์ชี่ต้องคิดทำอะไรแกล้งเธออีกแน่ “แต่นี่มันเย็นมากแล้วนะมึง แล้วก็เราก็เพลียกันมาก อาร์ทขับไม่ไหวแล้วแหละ” เพลินตาเป็นห่วงแฟน และคาดคะเนไปว่าเขาจะขับไม่ไหวแน่ๆ ผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีและไม่เคยคิดมากเรื่องต่างๆ ใบหน้าและดวงตาฉายแววความไร้เดียงสาออกมาอย่างเห็นได้ชัด “กูขับเอง” นับดาวพูดเสียงแข็ง ยังไงเธอก็จะไม่ยอมนอนกับพวกเขาแน่ๆ ยิ่งอาร์ชี่เป็นประเภทเอาแต่ใจพูดไม่รู้เรื่องแล้วด้วย สถานการณ์สุ่มเสี่ยงแบบนี้เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้น “อะไรของมึงนักหนานับ ก็นอนๆ ไปเถอะ พรุ่งนี้ค่อยกลับ” นั่นไง สายตาที่เขามองมาที่นับดาว เหมือนอยากจะจับกินเสียตรงนี้ คนงามกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่แล้วขมวดคิ้วเป็นปมใส่ผู้ชายคนเดียว ฝ่ายนั้นยกยิ้มกลับมาอย่างสะใจ แล้วส่งสายตาที่มีแค่พวกเขารู้กันแค่สองคน 'มึงไม่รอดแน่นับดาว' นั่นแหละสายตาที่คนตัวโตต้องการจะสื่อ “นั่นไงสองต่อหนึ่งเสียง เสียงข้างมากชนะทุกอย่าง” คนตัวเล็กที่สุด แสดงท่าทางดีใจและพูดขึ้นอย่างไร้เดียงสา นั่นทำให้นับดาวปฏิเสธไม่ได้จึงต้องปล่อยเลยตามเลยไป คนงามได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วยอมรับชะตากรรม “งั้นเค้าไปอาบน้ำก่อนนะอาร์ท เหนียวตัวมาก” คนตัวเล็กสุดเอ่ยขึ้นมาขณะที่ทุกคนอยู่กันในห้อง นับดาวนั้นนั่งอยู่บนโต๊ะแล้วเปิดโน๊ตบุ๊คเพื่อที่จะทำงาน ส่วนอาร์ชี่นั่งเล่นมือถืออยู่บนเตียงตรงข้ามกัน ห้องที่พวกเขาพักมันคือเตียงเดี่ยวทว่ามีสองหลัง หญิงสาวจึงเบาใจขึ้นมาหน่อย เมื่อรู้ว่าไม่ต้องนอนเบียดกันสามคน “ค่ะ อาบก่อนเลย” อาร์ชี่พูดขึ้นมาโดยที่ไม่เงยหน้ามองแฟนตัวเอง เขาเอนตัวพิงกับหัวเตียงแล้วเหยียดเท้ายาวเหมือนไม่สนใจสิ่งรอบตัวไปมากกว่ามือถือของตน ทว่าทุกอย่างกลับเป็นเหมือนอย่างนับดาวคาดคิด เพราะเมื่อเพลินตาออกไปยังไม่ทันถึงห้องน้ำนอกตัวบ้านดีด้วยซ้ำ อาร์ชี่ก็รีบลุกขึ้นไปหานับดาวทันที ชายหนุ่มฝั่งจมูกโด่งๆ เข้าไปยังลำคอระหง แล้วสูดดมเข้าไปเต็มปอด แค่กลิ่นน้ำหอมของเธอก็ทำเอาเขาคลั่งไคล้จนปลุกความเป็นชายในตัวให้ลุกฮือขึ้นมาได้ ช่างน่าอัศจรรย์ “อาร์ท อย่ารุ่มร่าม” เธอเอียงคอหนีเล็กน้อยแล้วบอกปัด ใบหน้าเห่อร้อนแดงฉ่า แล้วหัวใจก็เต้นแรง "มึงทำกูอยากตลอดเวลาเลยนะนับ" เขากระซิบข้างหูเธอแล้วพูดเหมือนกับว่ามันเป็นความผิดของเธอ ช่างเอาแต่ใจตัวเองเหลือเกิน “กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย…อุ๊บ” นับดาวหันหน้าเงยขึ้นไปเถียงแต่กับโดนคนตัวโตกว่าจูบปิดปาก รสร้อนแรงของเขาทำเอากายสาววาบหวามอย่างสุดห้าม อุ้งมือหนาช้อนหลังคอของคนงามขึ้นเพื่อเน้นกลีบปากลงไปได้ถนัดกว่าเก่า และอนึ่งเพื่อไม่ให้เธอผละเขาออกได้ ลิ้นเรียวเกี่ยวตวัดพันกันยุ่งเหยิง เสียงเฉอะแฉะจากน้ำลายยังดักก้องทั่วห้องเล็กๆ เมื่ออาร์ชี่ผละออกจากจูบ ปลายลิ้นของพวกเขายังโผล่ออกมาตวัดเลียกันด้านนอกปากช่างดูลามกนัก เหนือสิ่งอื่นใดคือมันปลุกเร้าพวกเขาอย่างรุนแรง มือใหญ่ตะปบไปแรงๆ ตรงหน้าอกของนับดาว หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่เกินตัวทำเอาคนตัวโตมันเขี้ยวจนเผลอบีบแรงๆ นอกเสื้อ อาร์ชี่แสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการสัมผัสเรือนร่างของเธอแค่นอกเสื้อ เมื่อเขายกตัวคนงามขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วเลิกถลกชายเสื้อขึ้นไปกองไว้บนเนินอกใหญ่พร้อมกับบราสีดำสนิทนั่นพร้อมกัน ทันทีที่อกเปลือยเปล่าเด่นหราต่อหน้า เขาจึงไม่รอช้าจะสะกิดเล่นไปมาที่ปลายยอดถันชมพูระเรื่อ อีกข้างก็ใช้ปากประกบดูดกลืนลงไปอย่างหิวกระหาย เสียงหยาบโลนลอยเข้าหูของหนุ่มสาวชวนให้มีอารมณ์คล้อยตามนัก “อื้ออ อาร์ท อย่า” เสียงร้องหามยังกับลูกสัตว์ตัวน้อยๆ มันคนไม่เป็นผล ยิ่งคนเอาแต่ใจแบบสุดโต่งอย่างอาร์ชี่ยิ่งแล้วใหญ่ เขาไม่มีวันฟังอยู่แล้ว “อึก อาร์ท…อ๊ะส์∼” เสียงครางหวานดังเล็ดลอดออกมาจากปากของหญิงสาว แต่ไม่นานนักทุกคนก็ต้องหยุดกิจกรรมลงเมื่อเสียงฝีเท้าเดินขึ้นมาจากบันไดของบ้านไม้มันเริ่มชัดเจนและดังขึ้นเรื่อย อาร์ชี่ผละปากออกจากอกของนับดาวอย่างเสียดาย แล้วก้มกระซิบข้างหูเสียงกระเส่า “คืนนี้มึงไม่รอดแน่นับ” ไม่พูดเปล่าเขายังจงใจขบเลียไปยังใบหูเธอ อย่างลามกแล้วรีบรุดมานั่งเล่นมือถือต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าแกนกายจะเริ่มปวดหนึบขึ้นมาก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD