“เป็นอะไรคะพี่จูดี้” ฉันมองคนที่ทำท่าทางนั่งไม่ติดมาเป็นชั่วโมง ทำงานไปก็ชะเง้อคอไป
“ตื่นเต้นค่ะคุณโรสขา~”
“เบา ๆ นะคะ ไปหิวมากเดี๋ยวพระเอกของโรสก็ถอนตัวพอดี” ฉันแกล้งแซวแต่พี่จูดี้ทำตาโตใส่
“อุ้ยตาย! พระเอกของโรส ขออนุญาตหมั่นไส้ค่ะ”
“พระเอกละครค่ะ ไม่มีใครคิดอกุศลอย่างพี่จูดี้หรอกค่ะ ไปดูความเรียบร้อยของน้องเทย่าดีกว่ามั้งคะ น้องฟิตติ้งชุดใกล้เสร็จรึยัง”
“เซ็ตสุดท้ายแล้วค่ะ คุณโรสจะไปดูไหมคะ นี่ยัยมี่มันบอกว่าแดเนียลใกล้ถึงแล้วพี่จูดี้วาจะไปรอต้อนรับค่ะ” เจ้แกดูจะไม่โฟกัสอะไรแล้วค่ะนอกจากรอคอยพระเอกละครของเรา แต่จะว่าไปสาว ๆ ก็ตื่นเต้นกันทั้งนั้น คนดังนี่นะ ซุปเปอร์สตาร์เลยนะคะ
“ใจเย็นค่ะ อย่ากรี๊ดมากเกรงใจผู้จัดการเขา” ฉันกระซิบบอกเบา ๆ พอบอกประโยคนี้เท่านั้นล่ะพี่จูดี้หูผึ่งทันที
“เขาเป็นอะไรกันค่ะ” พี่จูดี้กระซิบถามเหมือนกลัวคนอื่นได้ยินแต่ไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองเลย ท่าทางที่แสดงออกมาใครมองดูก็รู้ว่ากำลังเม้าท์เรื่องอะไรสักอย่าง
“ไม่รู้ค่ะ ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว”
“โห่~ คุณโรสอ่ะ ไม่ได้ใจพี่จูดี้เลยค่ะ รู้งี้พี่จูดี้ไปอังกฤษเองดีกว่า” พี่จูดี้บ่นขมุบขมิบฉันเลยตีหน้าเข้มใส่
“ใครเจ้านายคะ?”
“ก็...คุณโรสขาน่ะสิคะ คุณโรสอยากดื่มลาเต้เย็นสักแก้วไหมคะเดี๋ยวพู่ดี้ไปจัดการให้ หรือคุณโรสอยากไปทำสปาหลังเลิกงานไหมคะพี่จูดี้จะได้โทรจองคิวเอาเลย”
“ประจบ ไปดูเทย่าเลยค่ะ”
“ค่า~ ไปแล้วค่ะคุณผู้จัด อิอิ” พี่จูดี้ลากเสียงแล้วก็เดินไปเลย ไม่ถือหรอกค่ะ ชีวิตคนทำงานกองถ่ายก็แบบนี้แหละ พูดเล่นพูดหยอกกันได้เป็นเรื่องธรรมดา
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...คุณป้า
“สวัสดีค่ะคุณป้า”
“ไงจ้ะลูก งานเป็นไงบ้าง”
“วันนี้ฟิตติ้งค่ะ วันมะรืนก็บวงสรวงแล้ว” ฉันตอบคำถามคุณป้าด้วยความตื่นเต้นทันที ในใจฉันตื่นเต้นกับทุกงานที่เป็นของตัวเอง แต่เวลาที่อยู่ต่อหน้าทีมงานฉันต้องคีพลุคให้ดูเป็นมืออาชีพมีความเป็นผู้นำทั้งที่ในใจอยากจะกรี๊ดมาก เพราะความฝันของฉันคือการได้เป็นผู้จัดละคร และวันนี้ฉันก็ก้าวเข้ามาในสายอาชีพที่ฝันเอาไว้เต็มตัวแล้ว >////////////<
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องเสื้อให้นะคะ ปกติทีมคอสตูมต้องเตรียมเสื้อไว้ แต่วันนี้เกิดปัญหานิดหน่อยเตรียมแต่ไซต์ที่คุณเอลล่าแจ้งไว้” ฉันรีบอธิบายด้วยรีบยิ้มสดใส พยายามคอนโทรลเสียงให้มันไม่สั่นเพราะความตื่นเต้น ฉันต้องเป็น Professional ในสายตาของเขาเพื่อการทำงานที่มีคุณภาพ
“ต้องไปหาเสื้อผ้ามาใหม่ยกชุดไหม?” เสียงเขาไม่ดังเท่าไหร่เพราะอยู่ใกล้กันมาก แต่เสียงดึงดูดชะมัดเลย
“เอ่อ...กางเกงคับไหมคะ” ถ้ากางเกงไม่คับฉันจะแก้ปัญหาด้วยการปลดกระดุมเสื้อแล้วถ่ายสักเซ็ทสองเซ็ทระหว่างที่ถ่ายก็ให้ทีมงานรีบแว๊นไปเอาเสื้อมาใหม่
“คุณว่าไง?” เขาไม่ตอบแต่ถามฉันแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อให้ฉันดูกางเกงที่เขาสวม
“ก็ เอ่อ...” ตุง ๆ ดีนะคะ ไม่หรอก ตุงมากเลยล่ะ ตุงขนาดนี้ไม่รู้ว่าอึดอัดไหม ฮือ~ ฉันมองอะไรกันนี่ แค่เขาถอยหลังให้ดูได้ชัดเจนสายตาฉันก็โฟกัสไปที่ตุง ๆ นูน ๆ ของเขาแล้ว
คุณพระ! นี่เขาจะมาเป็นพระเอกละครหรือนายแบบชุดชั้นในกันแน่นะ =,,=
“คุณว่าไงครับ?” เขาถามซ้ำฉันเลยรีบละสายตาจากเป้า เอ่อ...ไม่ใช่ค่ะ ฉันมองซิปกางเกงต่างหาก ดูว่าตะเข็บผ้าที่บังซิปไว้มันเผยอหรือปริออกมาให้เห็นซิปด้านในไหม ถ้าไม่แสดงว่าไม่คับแต่ถ้าเผยอหรือปริแสดงว่าคับ ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้มองไส้กรอกฉันมองซิปต่างหากล่ะ!
“ก็...ไม่คับมั้งคะ”
“จริงเหรอ ดูดีรึยัง” เขาถามแล้วก็ขยับมาใกล้ฉันเหมือนเดิม จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปมองกางเกงของตัวเองฉันก็เลยมองตามบ้าง
“ผมว่ามันคับนิดหน่อยนะ”
“ระ เหรอคะ” ไม่น่าจะนิดนะคะ ดูรวม ๆ แล้วมัน...ตุ๊ง ตุง -///-
“อื้ม มันอึดอัดนิดหน่อยแต่ก็พอใส่ได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าถ่ายรูปแล้วจะสวยไหม” เขาพูดไปฉันก็มองกางเกงเขาไปด้วย น้ำเสียงทุ้มของเขามันน่าฟังและมันก็ทำให้ฉันเคลิ้มนิดหน่อย
“คุณว่าถ้าใส่ถ่ายรูปจะสวยไหม ถ้าสวยจะได้ไม่ต้องให้ทีมงานวิ่งหาใหม่ ผมไม่อยากให้ทีมงานเหนื่อย” หูย~ หล่อ ล่ำ ตัวหอมแล้วยังมีน้ำใจอีก ไม่เคลิ้มนิดหน่อยแล้วค่ะ เคลิ้มเยอะเลยคราวนี้
“สวยค่ะ ต้องสวยแน่ ๆ มันตุงขนาดนี้”