แปะ แปะ แปะ
“เวล~ คัม~”
“...” ฉันเพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในช่องได้กี่ก้าวเองนะ ถึง 5 ก้าวรึยัง ไม่น่าจะยังเพราะจากประตูมาถึงตรงนี้แค่ 2 เมตร อีกอย่างขาฉันยาว ไม่น่าจะต้องก้าวถึง 5 ก้าวหรอก
“ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยนะจ้ะโรส ดีที่เห็นเธอวันนี้ ไม่เจอหน้าหลายวันคิดถึงมาก~”
“Thank. This means a lot to me.” ฉันหันไปตอบกลับด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันและยิ้มตบท้าย
“ได้ข่าวว่าละครคืบหน้า” ยัยคนตรงหน้ายิ้มมุมปากเดินเชิดหน้าเข้ามาหาฉัน
“ประมาณหนึ่ง ทำไมเหรอจ้ะ จะแสดงความยินดีล่วงหน้าเหรอ” ฉันก็ยิ้มตอบ ยิ้มพร้อมกับถามและเอาสองมือปรบประสานกันระดับอก ท่าทางของฉันดู...ตอแหลยิ่งกว่าซะอีก
“ก็อยากอยู่นะ แต่กลัวเสียเวลา”
“ก็ดี...เพราะไม่อยากได้ ไปแล้วนะจ้ะ เสียเวลายิ่งกว่า” ฉันยิ้มหวานให้แล้วก็เดินนวยนาดไปต่อทันที
เหอะ! ว่าแล้วไงทำไมจิ้งจกทักก่อนออกจากบ้าน รู้งี้แวะแก้เคล็ดสะเดาะเคราะห์ทำบุญล้างซวยที่วัดก่อนซะก็ดี
“คุณโรสขา~ คิดถึงที่สุดเลยค่ะ” ฉันเดินจากยัยนั่นมาไม่ทันไรเสียงแหลม ๆ ของพี่จูดี้ก็ดังกระดี้กระด้าเข้ามาทักทาย
“คิดถึงเหมือนกันค่ะ มีของมาฝากด้วยนะคะ”
“อุ้ยตาย! ไม่ผิดจากที่คาดค่ะ ฮิฮิ”
“ค่า~ ขึ้นไปดูของฝากแล้วเตรียมลุยงานใหญ่งานแรกได้แล้วค่ะ” ฉันตอบกลับด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไป ไม่เสียเวลาเซ็งกับยัยคนเมื่อกี้นานหรอกค่ะ เสียดายเวลาชีวิต
“เมื่อกี้พี่จูดี้เห็นคุณแพนดี้แว๊บ ๆ มาก่อกวนคุณโรสรึเปล่าคะ” พี่จูดี้กระซิบถามระหว่างที่เราสองคนกำลังเดินขึ้นไปที่ชั้นบน ชั้นที่คุณลุงยกให้เป็นออฟฟิตชั่วคราวของฉัน
“ประมาณหนึ่งค่ะ แมลงหวี่แมลงวัน”
“แรงส์~”
“ไม่แรงจะอยู่รอดเหรอคะ เดี๋ยวค่อยเม้าท์ไปทำงานกันก่อน งานนี้เคลียร์คิวจัดตารางกันวุ่นแน่นอน” ฉันไม่ค่อยสนใจยัยนั่นเท่าไหร่ ถึงแม้หลายครั้งยัยนั่นจะวุ่นวายกับฉันจนการทำงานของฉันมันป่วนไปหมด แต่เพราะตอนนี้มีอย่างอื่นที่สำคัญมากกว่าที่ฉันต้องรีบทำเลยตั้งแต่วันแรกที่กลับถึงเมืองไทย
แดเนียลเป็นนายแบบดังนะคะ งานเขาเยอะ อีกอย่างงานหลักของเขาอยู่ที่ยุโรป การที่เขาจะบินกลับมาถ่ายละครซึ่งแน่นอนว่ามันกินระยะเวลานานหลายเดือนเป็นอะไรที่ค่อนข้างยากแต่ก็ไม่ยากเกินทีมงานคุณภาพที่มากด้วยประสบการณ์ของฉันหรอก ขอแค่เคลียร์คิวและจัดตารางให้ลงตัวก็ไม่มีปัญหาแล้ว
และแน่นอนว่ามันจะไม่มีปัญหาถ้าเริ่มลงมือทำ และทำด้วยความตั้งใจ ใส่ใจลงไปให้เกินร้อย!
“ตัวจริงหล่อไหมคะคุณโรส”
“คะ?” ฉันเงยหน้าถามพี่จูดี้เพราะเมื่อกี้ไม่ได้ฟัง มัวแต่นั่งจัดการอะไรหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้มีทีมงาน 3 คนที่กำลังนั่งหัวหมุนกับการจัดคิว ฉันได้คิวของแดเนียลมาตั้งแต่เมื่อวันก่อนที่เซ็นต์สัญญาแล้วค่ะ เขาจะบินมาถ่ายละครให้ 2 อาทิตย์แล้วก็ไปทำงานอื่นอีก 2 อาทิตย์สลับกันไป
“ตัวจริงเป็นยังไงบ้างคะ หล่อแซบไหมคะ” พี่จี้ถามพร้อมกับสีหน้าที่โคตรตังหน้าตั้งตารอฟังคำตอบเลย
“ยังไม่เจอค่ะ” ฉันตอบแล้วก้มหน้าสนใจงานต่อ
“อะไรกันคะ ไม่เจอได้ไง คุณโรสกั๊กใช่ไหมคะ” พอบอกไม่เจอเสียงกระเง้ากระงอดก็ดังตามมาทันที
“ไม่ได้กั๊ก แต่ถ้ายังไม่หยุดหิวจะไม่ให้ทำงานกองนี้นะคะ แบบนั้นถึงจะเรียกว่ากั๊ก เอาไหมล่ะ?”
“โธ่~ คุณโรสใจร้าย”
“รีบ ๆ จัดคิวเลยค่ะ เดี๋ยวก็ได้เจอเองนั่นแหละ” ฉันดุนิดหน่อยแต่ไม่ได้คิดจริงจังหรอก นายแบบชื่อดังขนาดนั้นใคร ๆ ก็อยากเจอ ต่อให้เป็นคนที่ทำงานในวงการจะเบื้องหน้าเบื้องหลังการได้เจอคนดังก็ถือเป็นเรื่องตื่นเต้นเหมือนคนทั่วไปอยู่ดี
-หลายวันต่อมา-
“คิดถึงแกมาก~”
“คิดถึงฉันแต่วัน ๆ ขลุกอยู่แต่กับสามีเนี่ยนะ” ฉันเบ้ปากให้ควีนนิดหน่อยแต่ก็แค่หยอกเท่านั้นล่ะค่ะ วันนี้มีนัดกับเพื่อนสนิท ไม่ค่อยได้เจอกันเลยเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
“ชิส์! แกมีบ้างเมื่อไหร่แกจะเข้าใจ”
“ฉันไม่ติดผัวแน่นอนย่ะยัยควีน ไม่คุยแล้วหิวข้าว” ฉันตัดบทสนทนาด้วยการเปิดเมนูอาหาร วันนี้ออกกองทั้งวันเวลาจะกินข้าวแทบไม่มี ทีแรกก็คิดว่าจะมาตามนัดไม่ได้แล้วซะอีก โชคดีที่ยังพอมีบุญกับเขาอยู่บ้าง
“แกดูเหนื่อยนะโรส”
“เหนื่อยสิ นี่แค่ช่วยงานกองอื่นเก็บประสบการณ์นะ ถ้าเปิดกองของฉันเมื่อไหร่คงได้หัวหมุนกว่านี้แน่นอน”
“มันเหนื่อยเพราะไปช่วยงานกองถ่ายของอริด้วยรึเปล่า กองถ่ายที่ฉันตามไปที่เขาใหญ่ก็ดูไม่วุ่นวายเท่าไหร่” ควีนถามอย่างรู้ทันทำให้ฉันกรอกตามองบนทันที
“ก็ใช่แหละ ยัยแพนดี้นี่โคตรแสบเลย”
“เป็นถึงลูกสาวเจ้าของช่องทำไมยอมให้คนมารังแก ไม่เข้าใจแกเลยโรส”
“ไม่อยากใช้อำนาจ อีกอย่างก็ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แค่ลูกบุญธรรม ฉันไม่อยากให้ใครมาว่าคุณลุงคุณป้าได้ว่าฉันกร่างใช้อำนาจพวกท่าน”
“แสนดี~” น้ำเสียงประชดประชันด้วยความหมั่นไส้ดังออกมาจากเพื่อนสนิททำให้ฉันแกล้งทำตาปริบ ๆ
“แต่หาผัวไม่ได้สักที แย่จังเลยค่ะ”
“ฮ่า ๆๆ พระเอกละครเรื่องแรกของแกไง สนใจไหมจ้ะ”
“ไม่ค่ะ ไม่สนคนในวงการ” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธทันทีโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาคิดแม้แต่วินาทีเดียว
“หล่อจะตาย นิสัยดีใช้ได้เลยนะ”
“แต่เคยแอบรักเพื่อนสนิทของฉัน และจนป่านนี้หยุดรักรึยังก็ไม่รู้”
“นั่นมันเรื่องเก่าแล้ว ตอนนี้เป็นพี่น้องกัน”
“ไม่รู้แหละ ฉันเคยบอกแล้วไงว่าอีตานั่นแอบรักแก ฉันบอกแกตั้งแต่ตอน ม. ปลายจำได้ไหม เป็นไงล่ะเถียงฉันดีนัก ระวัง ๆ เอาไว้ ไม่ต้องมาหาฉันที่กองถ่ายบ่อยเดี๋ยวจะมีปัญหากับพี่วายุ”
“ไม่มีหรอกน่า อีกอย่างตอนนี้ก็เป็นพี่น้องกัน ยังจะนัดฉันกับพี่วากินข้าวอยู่เลย”
“ไม่จ้ะเพื่อนรัก เขายังรักแกอยู่เชื่อฉันเถอะ”