เมื่อข้าหลวงเดินทางออกไปจากคฤหาสน์ของนาทาเลียพร้อมกับจดหมายเชิญในมือของเขาแล้ว ในคฤหาสน์ที่แสนหรูหราของนาทาเลียก็เหลือเพียงแค่เธอและพ่อบ้านแกสทอนที่กำลังนั่งมองหน้ากันอยู่
นาทาเลียคิดว่าบรรยากาศระหว่างเรามันค่อนข้าง..ตึงเครียดไปนิด เพราะอย่างนั้นเธอจึงเลือกที่จะลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน โดยไม่กล่าวคำใดกับแกสทอนเลย
ทว่าเขากลับเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับจับมือของนาทาเลียเอาไว้
“ท่านหญิงจะเดินจากข้าไปเช่นนี้..ไม่ได้นะครับ”
เธอหันหน้ากลับมามองหน้าเขาโดยที่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก
“ทำไมข้าจะเดินจากท่านไปไม่ได้ แกสทอน..ข้าคือท่านหญิงแห่งอาโมรี และคือเจ้านายคนหนึ่งของเจ้าด้วย”
แกสทอนปรายตามองไปรอบๆ คฤหาสน์ของนาทาเลียเมื่อเขาไม่เห็นสาวใช้สักคนเดินผ่านมา แกสทอนก็อุ้มนาทาเลียขึ้นแล้วพาเธอเดินขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของนาทาเลีย
“แกสทอน!!”
เธอเรียกชื่อของเขาด้วยความตกใจ แน่นอนมันคือความไม่ทันได้ตั้งตัวของนาทาเลีย เพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าอุ้มเธอแล้วเดินขึ้นไปยังห้องนอนของเธอเพราะอย่างนั้นนาทาเลียในยามนี้กำลัง..ตกใจจนแทบเสียสติเลย
แกสทอนพาท่านหญิงของเขาเข้ามาในห้องนอนของเธอที่มีอีฟกำลังเก็บชุดของท่านหญิงเข้าตู้เสื้อผ้าที่วางเรียงรายอยู่
“ออกไปก่อนอีฟ ข้ามีเรื่องที่จะพูดคุยกับท่านหญิงเพียงลำพัง”
อีฟยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองก่อนที่นางจะรีบเดินออกจากห้องนี้ไป
“อีฟ อย่าไปนะ!”
อีฟมองหน้าของท่านหญิงที่กำลังแปรเปลี่ยนเป็นสีกุหลาบ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรกับท่านหญิงและท่านพ่อบ้านแต่ทว่าก่อนหน้านี้ท่านหญิงเคยอยากได้ท่านพ่อบ้านแกสทอนมากถึงขนาดยามหลับยังพร่ำเพ้อถึง เพราะอย่างนั้น..ครั้งนี้เธอไม่คิดขัดขวางช่วงเวลาความสุขของเจ้านายหรอกนะ
“พวกเจ้าไปจัดเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้รอได้เลย อีกไม่นานท่านหญิงจะต้องเรียกหาพวกเราเป็นแน่”
สาวใช้ในคฤหาสน์นาทาเลียคุ้นเคยกับเรื่องเช่นนี้เป็นอย่างดีเพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณหัวหน้าสาวใช้อีฟ กล่าวว่าให้จัดเตรียมน้ำอุ่นมันหมายความว่าท่านหญิงกำลังจะ..มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับชายสักคน และมันคือเรื่องธรรมดาของที่นี่
หลังจากสั่งการสาวใช้เสร็จเรียบร้อย อีฟก็จัดเตรียมชุดออกงานที่แสนงดงามและเครื่องประดับมากมายที่เข้าคู่กันกับชุดเอาไว้ให้ท่านหญิง เธอตอบรับบัตรเชิญการเข้าร่วมงานเลี้ยงของตระกูลบาทาซาร์แทนท่านหญิง เพราะเมื่อครู่เธอได้ยินว่าท่านหญิงจะเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้
อีฟรู้สึกดีไม่น้อยที่ท่านหญิงปฏิเสธองค์รัชทายาท อาจจะเพราะว่าก่อนหน้านี้องค์รัชทายาทผู้นั้นชอบทำให้ท่านหญิงของเธอเสียใจ โดนเองซะบ้างก็สมควรแล้ว
............
“เจ้าจะบอกว่านาทาเลียปฏิเสธการเป็นคู่ควงของข้าในคืนนี้อย่างนั้นหรือ?”
ข้าหลวงรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังอายุสั้นลงไปเรื่อยๆ เลย วันนี้เขารับความกดดันมามากมายเหลือเกินทั้งจากท่านแกรนด์ดยุค ท่านหญิงและองค์รัชทายาท
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ท่านหญิงอาโมรีกล่าวว่านางมีคู่ควงแล้วในคืนนี้”
คู่ควงอย่างนั้นหรือ? ด้วยใบหน้าของนาทาเลียมันไม่แปลกหรอกที่นางจะมีคู่ควงแต่ทว่านางรักเขาไม่ใช่รึไง?
โอเวนรู้สึกไม่เข้าใจนาทาเลียในช่วงเวลาที่ผ่านมาเลยจริงๆ นางเปลี่ยนไปตั้งแต่งานเลี้ยงครั้งก่อนที่พระราชวังแล้ว และเริ่มเปลี่ยนไปมากเรื่อยๆ แบบที่เขาเองก็บอกไม่ถูกแต่มันเหมือนกับว่าความสนใจในตัวเขาของนาทาเลีย มันน่าจะลดน้อยลงอย่างบอกไม่ถูก
ทว่านั่นก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง เขาควรจะดีใจสิที่ไม่ต้องมาทนรำคาญสตรีเช่นนั้นอีก มันควรจะรู้สึกดีแต่ทว่าในใจของเขามันกลับรู้สึกหน่วงอย่างบอกไม่ถูก
“ฝ่าบาทจะให้กระหม่อมส่งบัตรเชิญให้เลดี้ท่านใดดีพ่ะย่ะค่ะ”
โอเวนยกมือขึ้นมาเพื่อที่จะบอกกล่าวกับข้าหลวงคนสนิทให้เขาหยุดถามเสียที
“ไม่ต้อง คืนนี้ข้าจะไปที่งานนั่นเพียงผู้เดียว ไม่มีคู่ควงอะไรทั้งนั้น”
เขาจะรอดูสิว่าคู่ควงของนาทาเลียมันคือใครกันแน่? เป็นบุรุษที่ดีกว่าองค์รัชทายาทของจักรวรรดิแห่งนี้อีกอย่างนั้นหรือ?
...................
นาทาเลียขบกัดริมฝีปากเบาๆ เธอช้อนสายตามองหน้าของแกสทอนที่กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าของเธอ และห้องนอนของเธอในยามนี้มันเต็มไปด้วยหนังสือพิมพ์มากมายที่มีข่าวขององค์รัชทายาท
“ที่ท่านเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องไม่ออกไปไหนเพราะว่าท่านหญิงกำลัง..ต้องการหาข่าวเกี่ยวกับเรื่องขององค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือครับ?”
ทำไมกันนะ คำถามที่แกสทอนถามเธอทุกครั้งมันถึงได้เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ตลอดเลย แต่เธอก็พูดไม่ออกหากจะตอบว่า..ใช่แล้ว
มันไม่เหมือนกัน เพราะว่าเธอไม่ได้ติดตามข่าวสารขององค์รัชทายาทโอเว่นเนื่องจากเธอรักเขา แต่ที่ต้องหาข้อมูลของเขามันเป็นเพราะว่าเธอจะต้องไปนอนกับเขาตามภารกิจ แล้วเหตุผลแบบนั้นจะให้เธอบอกกล่าวแก่แกสทอนได้อย่างไรกัน เขาได้มองว่าเธอคือนาทาเลีย คนบ้าตัณหาแห่งอาโมรีคนเดิมอย่างแน่นอน
“ข้า..มีเหตุผล”
“แล้วกับข้าล่ะครับ ที่ท่านทำกับข้ามีเหตุผลด้วยไหม หรือว่าท่านทำไปโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย”
เธอรู้ว่าการที่เธอตีก้นของเขาไปในวันนั้นเขามันเข้าข่ายเรื่องความวิปริต แต่เธอเองก็เลือกไม่ได้นี่
ทว่าเธอก็ไม่อาจละเลยความรู้สึกของเขาเหมือนกัน แกสทอนมีความสามารถในแบบที่เธอเองยังต้องยอมจำนน เขาทำให้เธอมองผ่านเขาไปไม่ได้เลย ทำให้เธอต้องหันกลับมาสนใจเขาและ..ทำให้เธอลืมเขาไม่ลงด้วยให้ตายเถอะ!!
ไม่รู้ว่าเรื่องพวกนั้นมันเป็นเพราะว่าเขามีความสามารถหรือว่าเพราะเขามีใบหน้าที่หล่อเหลาในแบบที่เธอ..ละสายตาไม่ได้กันแน่
“มันมีเหตุผลแกสทอน การกระทำของข้าล้วนแล้วแต่มีเหตุผล”
“เช่นนั้นเหตุผลของท่าน..มันเหมือนกับเหตุผลที่ข้ามาที่นี่รึเปล่าครับท่านหญิง”
แล้วเขามาที่นี่ด้วยเหตุผลแบบไหนกันล่ะ? เหตุผลที่จะสานต่อในเรื่องคืนนั้นแบบเดียวกันกับที่เธอคิดรึเปล่า
แน่นอนหากว่าเธอกล่าวออกไปตามที่ใจตัวเองคิด แต่ว่าเขาไม่ได้คิดเหมือนกันกับเธอ มีหวังเรายิ่งจะมองหน้ากันไม่ติดอย่างแน่นอน
“เราทั้งคู่ต่างไม่มั่นใจในความรู้สึกของอีกฝ่ายเช่นนั้นเรามาพูดพร้อมกันดีไหมครับว่าในยามนี้..ท่านต้องการทำอะไรกับข้าบ้าง ข้าก็จะกล่าวว่าข้าต้องการทำอะไรกับท่าน พูดออกมาพร้อมกันนะครับ”
พูดออกไปได้งั้นเหรอ? จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?
ดะ..เดี๋ยวสิ
“ข้าจะนับ 1 ถึง 3”
“1..2..”
นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอ เอาวะเป็นไงเป็นกัน ไหนๆ เขาก็มาหาเธอขนาดนี้แล้ว
“3 ข้าอยากโอบกอดท่านครับ”
“ข้าอยากถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกให้หมด!!”