รถม้าจากพระราชวังเคลื่อนตัวเข้ามาในคฤหาสน์อาโมรี และเมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของอลาโน ข้าหลวงก็เดินออกมาพร้อมกับถือจดหมายในมือเพื่อส่งมอบให้ท่านแกรนด์ดยุคแห่งอาโมรี
อลาโนมิได้ลุกขึ้นไปรับบัตรเชิญที่ถูกส่งมาจากองค์รัชทายาท เขายกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มเงียบๆ พร้อมกับปรายตามองหน้าของข้าหลวงผู้นั้น
“ท่านแกรนด์ดยุค องค์รัชทายาทมีพระประสงค์ที่จะให้ท่านหญิงอาโมรีเป็นคู่ควงในการเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ตระกูลบาทาซาร์ในวันนี้ครับ”
อลาโลขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำกล่าวของข้าหลวงประจำพระองค์ขององค์รัชทายาท
“เรื่องนั้นข้าไม่ขอตอบตกลงหรือว่าจะรับจดหมายเชิญนั่นไว้ หากนาทาเลียจะไปที่งานเลี้ยงของตระกูลบาทาซาร์จริงๆ มันจะต้องมาจากความต้องการของนางเอง ใครหน้าไหนก็มาบังคับหรือว่าสั่งน้องสาวของข้าไม่ได้อย่างเด็ดขาด"
ข้าหลวงยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมมาที่ใบหน้า เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการทำความเคารพท่านแกรนด์ดยุคอาโมรี มีข่าวลือหนาหูทีเดียวว่าที่ท่านแกรนด์ดยุคยังไม่แต่งงานและยังครองโสดมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเพราะว่าท่านแกรนด์ดยุคทรงรักและหวงน้องสาวเป็นอย่างมาก จึงอยากจะอยู่ตามใจน้องสาวก่อนเพราะเมื่อใดก็ตามที่ท่านแต่งงาน ท่านแกรนด์ดยุคหวาดกลัวว่าจะไม่มีเวลาให้ท่านหญิงนาทาเลีย ดูเหมือนว่าข่าวลือเหล่านั้นจะเป็นเรื่องจริงซะแล้วละสิ
“เช่นนั้น..ท่านแกรนด์ดยุคได้โปรดเมตตาให้ข้าน้อยได้ส่งจดหมายเชิญฉบับนี้ให้แก่ท่านหญิงด้วยเถิด”
อลาโนปรายตามองหน้าของพ่อบ้านแกสทอน
“แกสทอนพาข้าหลวงผู้นี้ไปส่งจดหมายเชิญให้นาทาเลียหน่อยสิ หากว่านางปฏิเสธเจ้าก็ควรจะรามือในทันทีเข้าใจหรือไม่ข้าหลวง?”
ข้าหลวงก้มหน้าลงอีกครั้งเพื่อเป็นการกล่าวขอบคุณ
“รับทราบครับท่านแกรนด์ดยุค”
แกสทอนขยับแว่นตาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหาท่านข้าหลวงที่กำลังยืนเหงื่อแตกอยู่
“เชิญตามข้ามาทางนี้ครับ”
เขาเดินนำข้าหลวงท่านนั้นมายังคฤหาสน์ด้านข้างซึ่งเป็นคฤหาสน์ของท่านนาทาเลีย เขาเองก็ไม่ได้พบหน้าของท่านหญิงมาแรมเดือนแล้ว ท่านหญิงคนงามไม่ก้าวเท้าออกมาจากห้องนอนเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไถ่ถามกับอีฟก็พบว่านางสบายดี ไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหน แค่นางอยากจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองเท่านั้น
คงไม่ใช่เพราะเรื่องในคืนนั้นหรอกใช่ไหม?
“ท่านหญิงครับท่านข้าหลวงนำจดหมายเชิญมาให้ท่าน ให้ข้าเข้าไปด้านในได้หรือไม่..?”
เขาเคาะประตูหน้าคฤหาสน์ของนาทาเลีย แม้แต่ประตูด้านหน้าคฤหาสน์ของนางก็ยังปิดเงียบไม่รับแขก
“ท่านพ่อบ้านรอสักครู่นะคะ ข้าจะไปรายงานท่านหญิงให้”
อีฟแง้มประตูออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้แกสทอน สาวใช้ร่างท้วมยกชายกระโปรงขึ้นมาก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดไปทางด้านบน
“ท่านหญิงคะ ท่านพ่อบ้านมาขอพบ เขาพาข้าหลวงผู้นำจดหมายเชิญไปร่วมงานเลี้ยงมาให้ท่านให้ฐานะคู่ควงขององค์รัชทายาทมาให้ท่านด้วยค่ะ”
นาทาเลียที่กำลังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงถึงกับชะงักในทันทีเมื่ออีฟกล่าวจบ
ว่าไงนะ? องค์รัชทายาทโอเวนที่เกลียดชังนาทาเลียนักหนากลับส่งบัตรเชิญมาให้เธอเพื่อให้เธอเป็นคู่ควงของเขาในคืนนี้อย่างนั้นหรือ?
นี่เธอฝันกลางวันอยู่รึไง หรือว่าหมอนั่นจะมีแผนการอะไรในใจที่จะทำให้เธออับอาย เอาตรงๆ ความสัมพันธ์ของนาทาเลียและโอเวนมันไม่สามารถที่จะญาติดีกันได้หรอก เขาเกลียดเธอแล้วอยู่ๆ กลับส่งจดหมายเพื่อให้เธอไปเป็นคู่ควงของเขา ไม่ว่าจะมองทางไหน ดูอย่างไรมันก็แปลกอยู่ดี
นาทาเลียชั่งใจอยู่พักหนึ่ง
“ไปตามพวกเขาเข้ามา แล้วก็แต่งตัวให้ข้าที”
อีฟเดินไปที่ด้านหน้าประตูห้องนอนของท่านหญิงเพื่อบอกกล่าวสาวใช้ที่ยืนรออยู่ด้านนอกให้ไปเรียนเชิญท่านพ่อบ้านและท่านข้าหลวงเข้ามา ส่วนอีฟ สาวใช้ร่างท้วมจัดการสวมเสื้อผ้าชุดใหม่และแต่งแต้มชาดและแป้งลงไปบนใบหน้างามล้ำของท่านหญิง
“ข้าคิดว่าเจ้าควรจะเร่งมือ..”
การปล่อยให้อีกฝ่ายรอนานไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่ แถมพวกเขายังมานั่งรอเธอที่กำลังแต่งตัวอยู่อีก
“ท่านหญิง..กฎของชนชั้นสูงระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าในยามที่ท่านจะลงไปพบเจอบุรุษหรือว่าใครก็ตามที่เข้ามาหาโดยไม่ส่งบัตรเชิญมาแจ้งล่วงหน้า ท่านจะต้องใช้เวลาในการแต่งตัวราวหนึ่งถึงสองชั่วโมงค่ะ นั่นก็เพื่อทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าการมาหาโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าคือการกระทำที่ไม่สมควรทำ..”
มีกฎอะไรแบบนี้ด้วยเรอะ!! สุดท้ายนาทาเลียก็ยินยอมเงียบเพื่อให้อีฟได้จัดการแต่งแต้มชาดลงไปบนใบหน้าของเธอ
หลังจากรออยู่นาน ประตูห้องชั้นสองก็เปิดออกมา ใบหน้าหวานของโฉมงามที่อยู่ในความฝันของแกสทอนทุกคืนก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็น เขาลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจและเมื่อเห็นพ่อบ้านลุกขึ้นยืนข้าหลวงผู้นั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกันในทันที
“ไม่ว่าจะเห็นสักกี่ครั้ง ความงามที่ล้ำเลิศนั่นยอมไม่อาจทำใจให้ชินได้เลยนะครับท่านพ่อบ้าน”
แกสทอนส่งยิ้มให้กับคำกล่าวของท่านข้าหลวง เขาเห็นด้วยกับคำกล่าวนั้นนะ เพราะถึงแม่ว่าเขาจะเห็นใบหน้านั้นนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็รู้สึกประทับใจในทุกครั้งที่ได้เห็น
“ท่านหญิงอาโมรี นี่คือบัตรเชิญขององค์รัชทายาทครับ เพื่อเรียนเชิญท่านหญิงไปเป็นคู่ควงขององค์รัชทายาทในคืนนี้”
สาบานได้เลยว่าเธอกำลังยิ้มแบบไหนออกไปนาทาเลียเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เพราะเธอยังไม่อาจทำสีหน้าให้ปกติได้ในยามที่พบเจอกับแกสทอน ภาพในวันนั้นยังฉายชัดอยู่ในหัวและในสายตาของเธอถึงแม้ว่าเขาจะยังสวมใส่เสื้อผ้าครบถ้วนทุกชิ้นแต่มันเหมือนกับว่าเธอกำลังเห็นเขายืนแก้ผ้าต่อหน้าของเธอ
นี่มัน..อันตรายเกินไปแล้ว ในหัวของเธอมีแต่เรื่องลามกเช่นนี้รึไงกัน!!
“ขอบอกตามตรงว่าข้าคงจะต้องปฏิเสธ เพราะในคืนนี้ข้ามีนัดไปที่งานเลี้ยงนี้กับผู้อื่นแล้วค่ะ ฝากบอกองค์รัชทายาทด้วยว่าเอาไว้..เจอกันในงานนะคะ”
คำกล่าวของนาทาเลียทำให้ข้าหลวงผู้นั้นแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง วันนี้มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองใกล้จะไปพบท่านเทพแห่งความตายแล้ว ตั้งแต่องค์รัชทายาทผู้ไม่เคยชายตามองท่านหญิงนาทาเลียแต่กลับส่งบัตรเชิญเลือกให้ท่านหญิงไปเป็นคู่ควรในคืนนี้ให้ ส่วนท่านหญิงนาทาเลียที่วิ่งตามองค์รัชทายาทมาโดยตลอด กลับปฏิเสธการเป็นคู่ควงขององค์รัชทายาทซะอย่างนั้น
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?