Chapter 15

1459 Words
พนักงานทุกคนตาโตอย่างตกใจไม่คิดว่าท่านประธานจะปลอมตัวมาตรวจงานด้วยตัวเองแถมยังจัดการขั้นเด็ดขาดอีก แต่อีกใจพวกเขาดีใจมากเลยนะที่หัวหน้าแผนกโดนปลดเพราะจะได้ไม่ต้องทนกับความบ้าอำนาจของเธออีก “จะดีเหรอครับท่านประธาน นี่ก็ความผิดครั้งแรกจะให้ผมปลดเลยก็เกรงว่า….” ผู้จัดการสาขามองหน้าท่านประธานอย่างลำบากใจกับการที่จะปลดตำแหน่งใครสักคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องถามความเห็นจากพนักงานด้วยกันจะได้แฟร์กับคนถูกปลดด้วย “งั้นเอางี้สิครับถามพนักงานทุกคนในแผนกว่าอยากจะเปลี่ยนหัวหน้าแผนกรึเปล่า ถ้าเกิดว่าพวกเขาอยากเปลี่ยนก็ต้องปลดแต่ถ้าไม่ยอมก็อยู่ต่อได้” เดียร์เสนอความคิดเห็นออกมาและก็ตรงใจใครหลายคนว่าควรจะทำแบบนี้มันจะได้แฟร์กับทุกคน แพตตี้มองหน้าแนนนี่ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา “ก็ได้ งั้นเรียกประชุมฝ่ายขายทุกคนตอนนี้ ฉันจะไปรอที่ห้องประชุม แนนนี่ไปกับฉันด้วย” แพตตี้กุมมือแนนนี่พาเดินไปด้วยกัน เธอรู้สึกเห็นใจผู้หญิงคนนี้มากเพราะถูกดุด่าแต่ก็ยังทนทำงานมาได้นานขนาดนี้แสดงว่าคงลำบากจริงๆ และดูจากการทำงานเธอตั้งใจมากขยันสุดเพราะฉะนั้นคนแบบนี้ควรได้รับโอกาส เดียร์เดินตามหญิงสาวออกไปเพราะคิดว่าเขาคงไม่สืบต่อแล้ว ตอนนี้ต้องจัดการปัญหาภายในให้จบจะได้ไม่ต้องค้างคาอีก “ท่านประธานคะคือฉันขอโทษที่ล่วงเกินนะคะ” “ขอโทษอะไรกัน เราเป็นเพื่อนกันนะจริงมั้ย” แนนนี่ยิ้มแห้งออกมาก่อนจะเดินตามเธอไปจนถึงห้องประชุม เดียร์หยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาคุณพ่อคุยธุระเรื่องที่แพตตี้กำลังจะทำและท่านก็ไม่ว่าอะไรเพราะเธอคือมีท่านประธานคนใหม่มีอำนาจสูงสุดในบริษัทแล้ว “พนักงานมาพร้อมกันแล้วครับคุณเดียร์ ท่านประธาน” ผู้จัดการสาขาเดินเข้ามาเรียนเชิญทั้งสองคนที่ห้องประชุมอีกห้อง แพตตี้เดินเข้าไปข้างในก่อนจะเอ่ยทักทายทุกคนเสียงเรียบ “สวัสดีค่ะทุกคนฉันสรัณรัส อิงนิรันดร์กร หรือจะเรียกว่าแพตตี้ก็ได้ เพิ่งรับตำแหน่งท่านประธานเมื่อไม่กี่วันก่อนและวันนี้ที่มาเป็นพนักงานเพราะต้องการตรวจสอบเมลร้องเรียนที่ส่งมาว่าพนักงานที่นี่ทำงานได้ไม่นานก็ลาออกกันหมด ตอนนี้ฉันรู้เหตุผลแล้วค่ะว่าหัวหน้าแผนกที่นี่บ้าอำนาจ ด่าพนักงานและใช้งานหนักจนแทบไม่ได้พัก ตอนนี้ฉันจะเปิดโอกาสให้ทุกคนโหวตว่าอยากจะได้หัวหน้าแผนกคนเดิมกลับไปหรือว่าจะแต่งตั้งหัวหน้าแผนกคนใหม่ซึ่งฉันเห็นสมควรว่าควรจะเป็นแนนนี่เพราะเธอทำงานดีขยันอดทน” เธอเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะหันไปสั่งให้ผู้จัดการสาขาแจกกระดาษให้พนักงานเขียนโหวตว่าจะเลือกใคร ทุกคนหันไปมองหน้ากันอย่างลังเลก่อนจะรีบเขียนกระดาษแล้วใส่ไว้ในกล่อง เดียร์ยืนกอดอกมองพนักงานช่วยกันนับคะแนนและไม่มีใครเขียนให้หัวหน้าแผนกเลยสักคนคงเพราะเอือมระอาอย่างเต็มที่แล้ว “ผลคะแนนเป็นเอกฉันท์มากเลยนะคะ ตอนนี้แนนนี่จะขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกและคุณหัวหน้าแผนกคนเดิมเชิญกลับไปเป็นพนักงานขายนะคะ ส่วนถ้ารับไม่ผิดจะลาออกก็ช่วยไม่ได้ เชิญที่ห้องฝ่ายบุคคลเลยค่ะ” เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่สนใจเลยว่าตอนนี้สภาพของเธอแทบจะล้มทั้งยืนแล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครช่วยเลยเพราะว่าเธอทำตัวเองทั้งนั้น “แสดงความยินดีด้วยนะคะคุณแนนนี่ พรุ่งนี้คุณมารับตำแหน่งหัวหน้าแผนกได้เลย ฝากด้วยนะคะผู้จัดการแผนก” “ได้ค่ะท่านประธาน” ผู้จัดการแผนกยิ้มกว้างออกมาก่อนจะปล่อยให้คนอื่นๆพูดคุยกันต่อ เดียร์เดินออกมายืนอยู่หน้าห้องประชุมก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “ยังไม่ได้ทักทายทุกคนเลย ผมเดียร์ กิตติกร สมบูรณ์เดชา ผมเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทและผมได้เข้าไปที่คลังสินค้าเกือบครึ่งวันปรากฎว่าสต๊อกตกหล่นเยอะมาก ผมจะให้ฝ่ายขายออกไปก่อนแล้วช่วยเรียกแผนกคลังสินหามาหาผมที” เขาหันไปมองหน้าผู้จัดการสาขาอย่างขอความร่วมมือ เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะวอเรียกแผนกคลังสินค้ามาประชุมที่ห้องต่อ แพตตี้ดึงมือแนนนี่ให้ออกมาคุยกันก่อนที่เธอจะกลับเพราะคงนานกว่าจะได้เจอกันทีหนึ่ง “ขอบคุณมากนะคะท่านประธาน ไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลยสำหรับทุกอย่าง” แนนนี่ยกมือไหว้ขอบคุณท่านประธานอย่างซาบซึ้งใจ การได้ขึ้นตำแหน่งในวันนี้ทำให้เธอไม่ต้องถูกหัวหน้าแผนกด่าเหมือนก่อนแถมยังได้ขึ้นเงินเดือนอีก รู้สึกเหมือนโชคหล่นทับเลย “ไม่ต้องไหว้หรอกเธออ่ะสมควรได้รับมันนะ ตั้งใจทำงานล่ะแล้วถ้าใครรังแกอีกโทรมาบอกนะฉันจะช่วย นี่นามบัตร” แพตตี้ส่งนามบัตรของตัวเองไปให้เธออย่างห่วงใย เจอกันไม่นานแต่ดูจากเธอเล่าชีวิตของตัวเองดูจะลำบากน่าดู เห็นแบบนี้คุณพ่อสอนมาว่าไม่ให้แบ่งแยกชนชั้น ทุกคนมีความเป็นคนเท่ากันเธอจึงไม่เคยรังเกียจคนที่ด้อยกว่า “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ” “ไปทำงานเถอะขอให้ทำงานมีความสุขในทุกวันนะแนนนี่” แพตตี้ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั่น แนนนี่มองนามบัตรก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีแบบนี้แถมก่อนหน้านี้ยังได้เจอกับท่านประธานกินข้าวทำงานด้วยกันอีก แค่นี้ก็โชคดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว หลังจากที่เดียร์คุยกับทางคลังสินค้าเสร็จเขาก็เดินออกมาพร้อมกับสภาพที่เหนื่อยใจ ตรวจงานเฉยๆมันต้องเหนื่อยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย…. แพตตี้เห็นชายหนุ่มก็วิ่งมากระโดดกอดคอทันที “ตัวเองเหนื่อยมั้ย” “ไม่เท่าไหร่หรอกแต่ว่าเราอ่ะป่วนมากเลยนะ มีอะไรทำไมถึงไม่เก็บไว้ก่อนแล้วค่อยไปคุยทีเดียว ทำแบบนี้หัวหน้าแผนกคนก่อนเค้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวเอาไว้หลวมๆก่อนจะเอ่ยตักเตือนเธอให้คุมอารมณ์ตัวเองบ้าง การทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีเท่าไหร่มันเหมือนแขวนประจานมากกว่า “ก็เอาไว้ที่เดิมไงไม่เห็นจะยากเลย” เธอเอ่ยออกมาตาใสแป๋วกระพริบตาปริบๆอย่างน่ารักแต่เขามองยังไงก็กวนประสาท… เดียร์กุมขมับตัวเองไว้ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ บอกเลยนะว่าคุณหนูแพตตี้เป็นคนที่ตีหน้ามึนเก่งที่สุดในโลกคนหนึ่งเลย…. “ผมไม่ควรคาดหวังอะไรจากคุณสินะ” แพตตี้ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะควงแขนเขาแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้น เธอหันไปมองชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยถามสาขาต่อไป “แล้วไปสาขาไหนต่อ เอาปลอมตัวแบบนี้เลยนะน่าสนุกอ่ะเอาอีกๆ” “สาขาที่เชียงใหม่มีปัญหาต้องลัดคิวไปที่นั่นก่อน แล้วก็จะไปค้างที่บ้านผมสักสองสามวัน คุณจะไปด้วยกันมั้ย” แพตตี้เงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะตาโตเมื่อเขาชวนเธอไปเที่ยวที่บ้าน เอาจริงไม่เคยไปบ้านของเขาเลยสักครั้งแต่ว่าเคยเจอครอบครัวของเขาหลายปีก่อน และไม่รู้ว่าจะจำเธอได้มั้ย.. “ไปบ้านนายเหรอ” “อืม ถ้าจะไปก็จะบอกแม่ให้เตรียมห้องไว้ให้ แต่ถ้าไม่ผมจะจองโรงแรมให้คุณ” “ไปสิไปนอนค้างที่บ้านนายก็ได้ อยากไป” เธอยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะคิดว่าตัวเองจะเตรียมของอะไรไปบ้างและจะไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเดียร์ยังไงพวกเขาถึงจะถูกใจ เธอกับเดียร์รู้จักกันมาตั้งนานแล้วและเขาก็สนิทกับครอบครัวของเธอมาก เพราะฉะนั้นเธอควรจะสนิทกับครอบครัวของเขาด้วย…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD