พนักงานทุกคนตาโตอย่างตกใจไม่คิดว่าท่านประธานจะปลอมตัวมาตรวจงานด้วยตัวเองแถมยังจัดการขั้นเด็ดขาดอีก แต่อีกใจพวกเขาดีใจมากเลยนะที่หัวหน้าแผนกโดนปลดเพราะจะได้ไม่ต้องทนกับความบ้าอำนาจของเธออีก
“จะดีเหรอครับท่านประธาน นี่ก็ความผิดครั้งแรกจะให้ผมปลดเลยก็เกรงว่า….”
ผู้จัดการสาขามองหน้าท่านประธานอย่างลำบากใจกับการที่จะปลดตำแหน่งใครสักคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องถามความเห็นจากพนักงานด้วยกันจะได้แฟร์กับคนถูกปลดด้วย
“งั้นเอางี้สิครับถามพนักงานทุกคนในแผนกว่าอยากจะเปลี่ยนหัวหน้าแผนกรึเปล่า ถ้าเกิดว่าพวกเขาอยากเปลี่ยนก็ต้องปลดแต่ถ้าไม่ยอมก็อยู่ต่อได้”
เดียร์เสนอความคิดเห็นออกมาและก็ตรงใจใครหลายคนว่าควรจะทำแบบนี้มันจะได้แฟร์กับทุกคน แพตตี้มองหน้าแนนนี่ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“ก็ได้ งั้นเรียกประชุมฝ่ายขายทุกคนตอนนี้ ฉันจะไปรอที่ห้องประชุม แนนนี่ไปกับฉันด้วย”
แพตตี้กุมมือแนนนี่พาเดินไปด้วยกัน เธอรู้สึกเห็นใจผู้หญิงคนนี้มากเพราะถูกดุด่าแต่ก็ยังทนทำงานมาได้นานขนาดนี้แสดงว่าคงลำบากจริงๆ และดูจากการทำงานเธอตั้งใจมากขยันสุดเพราะฉะนั้นคนแบบนี้ควรได้รับโอกาส เดียร์เดินตามหญิงสาวออกไปเพราะคิดว่าเขาคงไม่สืบต่อแล้ว ตอนนี้ต้องจัดการปัญหาภายในให้จบจะได้ไม่ต้องค้างคาอีก
“ท่านประธานคะคือฉันขอโทษที่ล่วงเกินนะคะ”
“ขอโทษอะไรกัน เราเป็นเพื่อนกันนะจริงมั้ย”
แนนนี่ยิ้มแห้งออกมาก่อนจะเดินตามเธอไปจนถึงห้องประชุม เดียร์หยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาคุณพ่อคุยธุระเรื่องที่แพตตี้กำลังจะทำและท่านก็ไม่ว่าอะไรเพราะเธอคือมีท่านประธานคนใหม่มีอำนาจสูงสุดในบริษัทแล้ว
“พนักงานมาพร้อมกันแล้วครับคุณเดียร์ ท่านประธาน”
ผู้จัดการสาขาเดินเข้ามาเรียนเชิญทั้งสองคนที่ห้องประชุมอีกห้อง แพตตี้เดินเข้าไปข้างในก่อนจะเอ่ยทักทายทุกคนเสียงเรียบ
“สวัสดีค่ะทุกคนฉันสรัณรัส อิงนิรันดร์กร หรือจะเรียกว่าแพตตี้ก็ได้ เพิ่งรับตำแหน่งท่านประธานเมื่อไม่กี่วันก่อนและวันนี้ที่มาเป็นพนักงานเพราะต้องการตรวจสอบเมลร้องเรียนที่ส่งมาว่าพนักงานที่นี่ทำงานได้ไม่นานก็ลาออกกันหมด ตอนนี้ฉันรู้เหตุผลแล้วค่ะว่าหัวหน้าแผนกที่นี่บ้าอำนาจ ด่าพนักงานและใช้งานหนักจนแทบไม่ได้พัก ตอนนี้ฉันจะเปิดโอกาสให้ทุกคนโหวตว่าอยากจะได้หัวหน้าแผนกคนเดิมกลับไปหรือว่าจะแต่งตั้งหัวหน้าแผนกคนใหม่ซึ่งฉันเห็นสมควรว่าควรจะเป็นแนนนี่เพราะเธอทำงานดีขยันอดทน”
เธอเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะหันไปสั่งให้ผู้จัดการสาขาแจกกระดาษให้พนักงานเขียนโหวตว่าจะเลือกใคร ทุกคนหันไปมองหน้ากันอย่างลังเลก่อนจะรีบเขียนกระดาษแล้วใส่ไว้ในกล่อง เดียร์ยืนกอดอกมองพนักงานช่วยกันนับคะแนนและไม่มีใครเขียนให้หัวหน้าแผนกเลยสักคนคงเพราะเอือมระอาอย่างเต็มที่แล้ว
“ผลคะแนนเป็นเอกฉันท์มากเลยนะคะ ตอนนี้แนนนี่จะขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกและคุณหัวหน้าแผนกคนเดิมเชิญกลับไปเป็นพนักงานขายนะคะ ส่วนถ้ารับไม่ผิดจะลาออกก็ช่วยไม่ได้ เชิญที่ห้องฝ่ายบุคคลเลยค่ะ”
เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาไม่สนใจเลยว่าตอนนี้สภาพของเธอแทบจะล้มทั้งยืนแล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครช่วยเลยเพราะว่าเธอทำตัวเองทั้งนั้น
“แสดงความยินดีด้วยนะคะคุณแนนนี่ พรุ่งนี้คุณมารับตำแหน่งหัวหน้าแผนกได้เลย ฝากด้วยนะคะผู้จัดการแผนก”
“ได้ค่ะท่านประธาน”
ผู้จัดการแผนกยิ้มกว้างออกมาก่อนจะปล่อยให้คนอื่นๆพูดคุยกันต่อ เดียร์เดินออกมายืนอยู่หน้าห้องประชุมก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“ยังไม่ได้ทักทายทุกคนเลย ผมเดียร์ กิตติกร สมบูรณ์เดชา ผมเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทและผมได้เข้าไปที่คลังสินค้าเกือบครึ่งวันปรากฎว่าสต๊อกตกหล่นเยอะมาก ผมจะให้ฝ่ายขายออกไปก่อนแล้วช่วยเรียกแผนกคลังสินหามาหาผมที”
เขาหันไปมองหน้าผู้จัดการสาขาอย่างขอความร่วมมือ เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะวอเรียกแผนกคลังสินค้ามาประชุมที่ห้องต่อ แพตตี้ดึงมือแนนนี่ให้ออกมาคุยกันก่อนที่เธอจะกลับเพราะคงนานกว่าจะได้เจอกันทีหนึ่ง
“ขอบคุณมากนะคะท่านประธาน ไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลยสำหรับทุกอย่าง”
แนนนี่ยกมือไหว้ขอบคุณท่านประธานอย่างซาบซึ้งใจ การได้ขึ้นตำแหน่งในวันนี้ทำให้เธอไม่ต้องถูกหัวหน้าแผนกด่าเหมือนก่อนแถมยังได้ขึ้นเงินเดือนอีก รู้สึกเหมือนโชคหล่นทับเลย
“ไม่ต้องไหว้หรอกเธออ่ะสมควรได้รับมันนะ ตั้งใจทำงานล่ะแล้วถ้าใครรังแกอีกโทรมาบอกนะฉันจะช่วย นี่นามบัตร”
แพตตี้ส่งนามบัตรของตัวเองไปให้เธออย่างห่วงใย เจอกันไม่นานแต่ดูจากเธอเล่าชีวิตของตัวเองดูจะลำบากน่าดู เห็นแบบนี้คุณพ่อสอนมาว่าไม่ให้แบ่งแยกชนชั้น ทุกคนมีความเป็นคนเท่ากันเธอจึงไม่เคยรังเกียจคนที่ด้อยกว่า
“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ”
“ไปทำงานเถอะขอให้ทำงานมีความสุขในทุกวันนะแนนนี่”
แพตตี้ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั่น แนนนี่มองนามบัตรก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีแบบนี้แถมก่อนหน้านี้ยังได้เจอกับท่านประธานกินข้าวทำงานด้วยกันอีก แค่นี้ก็โชคดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว
หลังจากที่เดียร์คุยกับทางคลังสินค้าเสร็จเขาก็เดินออกมาพร้อมกับสภาพที่เหนื่อยใจ ตรวจงานเฉยๆมันต้องเหนื่อยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย…. แพตตี้เห็นชายหนุ่มก็วิ่งมากระโดดกอดคอทันที
“ตัวเองเหนื่อยมั้ย”
“ไม่เท่าไหร่หรอกแต่ว่าเราอ่ะป่วนมากเลยนะ มีอะไรทำไมถึงไม่เก็บไว้ก่อนแล้วค่อยไปคุยทีเดียว ทำแบบนี้หัวหน้าแผนกคนก่อนเค้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
ชายหนุ่มโอบเอวหญิงสาวเอาไว้หลวมๆก่อนจะเอ่ยตักเตือนเธอให้คุมอารมณ์ตัวเองบ้าง การทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีเท่าไหร่มันเหมือนแขวนประจานมากกว่า
“ก็เอาไว้ที่เดิมไงไม่เห็นจะยากเลย”
เธอเอ่ยออกมาตาใสแป๋วกระพริบตาปริบๆอย่างน่ารักแต่เขามองยังไงก็กวนประสาท… เดียร์กุมขมับตัวเองไว้ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ บอกเลยนะว่าคุณหนูแพตตี้เป็นคนที่ตีหน้ามึนเก่งที่สุดในโลกคนหนึ่งเลย….
“ผมไม่ควรคาดหวังอะไรจากคุณสินะ”
แพตตี้ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะควงแขนเขาแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้น เธอหันไปมองชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยถามสาขาต่อไป
“แล้วไปสาขาไหนต่อ เอาปลอมตัวแบบนี้เลยนะน่าสนุกอ่ะเอาอีกๆ”
“สาขาที่เชียงใหม่มีปัญหาต้องลัดคิวไปที่นั่นก่อน แล้วก็จะไปค้างที่บ้านผมสักสองสามวัน คุณจะไปด้วยกันมั้ย”
แพตตี้เงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะตาโตเมื่อเขาชวนเธอไปเที่ยวที่บ้าน เอาจริงไม่เคยไปบ้านของเขาเลยสักครั้งแต่ว่าเคยเจอครอบครัวของเขาหลายปีก่อน และไม่รู้ว่าจะจำเธอได้มั้ย..
“ไปบ้านนายเหรอ”
“อืม ถ้าจะไปก็จะบอกแม่ให้เตรียมห้องไว้ให้ แต่ถ้าไม่ผมจะจองโรงแรมให้คุณ”
“ไปสิไปนอนค้างที่บ้านนายก็ได้ อยากไป”
เธอยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะคิดว่าตัวเองจะเตรียมของอะไรไปบ้างและจะไปทำความรู้จักกับครอบครัวของเดียร์ยังไงพวกเขาถึงจะถูกใจ เธอกับเดียร์รู้จักกันมาตั้งนานแล้วและเขาก็สนิทกับครอบครัวของเธอมาก เพราะฉะนั้นเธอควรจะสนิทกับครอบครัวของเขาด้วย…