Ep4(จบบท) : ล่าตัวแสบ By...kanokrot

3609 Words
“โอ้!นนท์คะ ลมอะไรหอบนนท์มาหาพิต้าได้ล่ะคะวันนี้ ไม่เห็นโทรบอกก่อนเลย” ร่างอวบในชุดรัดรูปสีดำเกาะอก ดูเหมือนเป็นชุดประจำของหญิงสาว ซึ่งจงใจเปิดเปลือยโชว์ร่างกายอวบอัดขาวลออให้ประจักษ์แก่สายตาคนมอง เจ้าตัวฉีกยิ้มกว้างสุดพลัง พร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน โฉบเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ของหนุ่มที่เธอหมายปอง “คงลมคิดถึงมั้งครับพิต้า...” อานนท์พ่นลมหายใจเบื่อหน่ายตอนพูดจบ เขาจำใจฝืนเย็นตอบรับหญิงสาว เมื่อร่างอวบชนิดเนื้อนมไข่ปราดเข้าหาเขา เจ้าหล่อนเขย่งปากเท้าขึ้นสูง ยื่นปลายจมูกเล็กขึ้นมาสัมผัสแก้มสากของเขาทั้งสองข้าง ใจจริงส่วนลึกเขาอยากจะผลักร่างนี้ออกห่างด้วยรู้สึกรำคาญมากกว่ายินดี แต่เพราะวันนี้เขามีจุดประสงค์สำคัญเพื่อมาขอความช่วยเหลือจากหญิงสาว เขาจึงต้องระงับอารมณ์หงุดหงิดนั้นเอาไว้ ยอมปล่อยให้ร่างกายถูกลวนลามไปโดยปริยาย “ปากหวานจริงนะคะวันนี้ แต่พิต้าก็คิดถึงนนท์เหลือเกินเหมือนกัน ขนาดเราเพิ่งห่างกันไม่กี่ชั่วโมงนี้เองด้วยซ้ำ” หญิงสาวเจ้าของสถานที่ช้อนสายตาหยาดเยิ้มขึ้นมองใบหน้าขาวสะอาด เธอคิดถึงเขาทุกลมหายใจไม่ได้โกหก เธอตกหลุมรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ทว่าตอนนี้สถานะนั้นเป็นได้เพียงเพื่อน แต่คนในสังคมภายนอกเธอจงใจให้เชื่อไปอีกแบบ เธอจงใจสร้างข่าวว่าเป็นคนรักของเขา ซึ่งอานนท์ไม่ได้ปฏิเสธ เธอจึงคิดโมเมเอาตามนั้น พิชยายั่วยวนชายหนุ่มด้วยการลูบไล้มือไปยังหน้าอกหนันแน่นแผ่วเบา หวังให้เขาเกิดอารมณ์พิศวาสในตัวเธอบ้าง หลังจากพักหลังๆมานี้ เขาไม่เคยว่างมาหาเธอเลยสักครั้ง พอเธอโทรหา เขากลับบ่ายเบี่ยงติดงานตลอดเวลา แม้กระทั่งเมื่อคืน เขาลุกเดินหนีเธอกลับบ้านโดยไม่ล่ำลาเธอเลยสักคำ ยิ่งนานวันอานนท์ยิ่งทำตัวเหินห่างกับเธอมากขึ้นทุกที “พิต้าไม่คิดว่านนท์จะมาหาวันนี้ เลยไม่ได้แต่งตัวสวยๆไว้รอเลย” เธอขยับริมฝีปากสีแดงสดเอื้อนเอ่ยวาจาเสนาะหู พลางตวัดลำแขนเสลาขึ้นโอบรอบลำคอหนา ทิ้งสายตายั่วยวนเพื่อสื่อความหมายบางอย่างให้แก่ชายหนุ่ม พร้อมกับจงใจเบียดหน้าอกอวบล้นทะลักของตนเข้าหาร่างกายกำยำ อวดความอุดมสมบูรณ์ให้เขาได้เห็น อานนท์หรี่สายตามองหญิงสาวช่างยั่วด้วยนัยน์ตาราบเรียบ ไม่บ่งบอกอารมณ์พิศวาสใดออกมาทั้งนั้น เพียงแค่วาดมือโอบร่างอวบตอบรับกลายๆ พร้อมพาเจ้าหล่อนเดินไปนั่งลงบนโซฟารับแขก จะได้เริ่มประเด็นที่เขาต้องท่อสังขารมาให้แม่นี่ลวนลามเสียที พิชยากำลังจะนั่งลงบนตักของชายหนุ่ม แต่อานนท์ยั้งไว้ได้ทันกาลเสียก่อน โดยการรีบยกขาขึ้นมานั่งไขว่ห้าง แสร้งทำเป็นดันร่างอวบนั้นออกห่างเล็กน้อย จนเจ้าของสถานที่เม้มริมฝีปากอิ่มเข้าหากัน ใบหน้าสวยคมเครียดตึงขึ้นมา ก่อนตัดสินใจกระแทกก้นนั่งลงเบียดด้านข้างชายหนุ่มแทนก็ได้ พร้อมสะบัดค้อนให้เขาด้วยความหมั่นไส้... ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หวงตัวชะมัด แถมยังรู้ทันเธอเสียอีก... “ผมมีเรื่องสำคัญจะขอร้องให้พิต้าช่วยสักเรื่องหนึ่งนะ...” อานนท์เริ่มเปิดประเด็นทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งลงด้านข้าง ใบหน้าสวยนั้นงอหงิกเพราะถูกเขาขัดใจ แต่ยังเงยหน้าขึ้นมองตอนเขาขอให้ช่วย... “ช่วย!” พิชยาย่นหัวคิ้วสวยย่นยู่นึกสงสัยครามครัน ร้อยวันพันปีอานนท์ไม่เคยขอร้องให้เธอช่วยเหลืออะไรสักที แต่วันนี้เขาลงทุนมาหาเธอถึงที่ร้านอาหารด้วยตัวเอง มันคงต้องเป็นเรื่องสำคัญมากๆสินะ เธอชักอยากจะรู้แล้วสิ ไอ้เรื่องสำคัญของเขาที่ว่านั้น มันเกี่ยวข้องอะไรกับเธอด้วยหรือเปล่า “นี่นนท์จะให้พิต้าช่วยเรื่องอะไรหรือคะ...” ริมฝีปากอิ่มยิ้มระรื่นเพื่อรอฟังเขาบอก ด้วยแอบหวังเรื่องสำคัญนั้น ต้องเกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน หากเพียงเสี้ยวนาทีต่อมา ความกระหยิ่มในใจมาพร้อมกับรอยยิ้มระรื่นมีอันต้องหุบสนิท เมื่อภาพวาดในมือของอานนท์ ถูกส่งมาตรงหน้าเธอ มันเป็นภาพของหญิงสาวคนอื่น ที่ไม่มีเกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิดเดียว... “ผู้หญิงคนนี้ทำงานอยู่ที่ร้านคุณหรือเปล่า” เขาถามพร้อมกับดันเอารูปวาดที่เขาลงทุนจ้างช่างฝีมือดี ให้สเก็ตซ์ร่างแบบตามที่เขาบอก รูปออกมาชัดเจน เมื่อสมองเขาจดจำใบหน้าเรียวเล็ก เครื่องเครากระจุ๋มกระจิ๋มน่าเอ็นดูได้อย่างขึ้นใจ แถมยังขาวเหมือนไข่ปอกเสียด้วยสิ ยิ่งดวงตากลมโตๆของแม่นั่นประกอบเข้ากับรูปปากกระจับอิ่มเต็มจนน่าจับมาจูบเสียให้ขาดใจตาย เขายิ่งจดจำไม่มีวันลืม พิชยาถึงกับตาลุกเป็นเปลวเพลิงก็ว่าได้ หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะหยิบกระชากเอารูปวาดเสมือนจริงนั้นขึ้นมาพิศดู แม้ในใจนั้นลุกเป็นไฟริษยา นึกไม่พอใจจนอยากจะฉีกรูปนี้ทิ้งแล้วจุดไฟเผาก็ตาม แต่เธอทำได้เพียงแค่คิดในใจเท่านั้น ขืนเธอทำจริงอย่างที่แอบคิด อานนท์ได้เอาเธอถึงตายนะสิไม่ว่า ใครหลายคนต่างรู้จักนิสัยของเขาดี ถ้าไม่อยากมีปัญหาในการดำรงชีวิต อย่าคิดเอาตัวเองเข้าไปขัดขวางทางเดินของเขาจะดีกว่า... แต่มันเจ็บใจอยู่ใช่เล่น มีอย่างที่ไหน เขาดันเอารูปภาพผู้หญิงอื่นมาถามหากับเธอ ทั้งที่เขานั้นรู้อยู่เต็มอก เธอคิดอย่างไรกับเขา เธอไม่เคยปกปิดความรู้สึกนี้ อยากได้เขามาก เธอก็แสดงออกตรงๆ อานนท์ไม่เคยปฏิเสธแต่ในทางเดียวกันเขาก็ไม่เคยตอบรับเธอเช่นกัน ถึงแม้ตัวเธอเองนั้นจะมีผู้ชายเอาไว้สับเปลี่ยนเพื่อคลายเหงาข้างกายหลายคน แต่คนเดียวที่พิเศษสุดในหัวใจของเธอมาเสมอ คนที่เธอยอมยกให้เขาทั้งชีวิตได้ นั่นก็คืออานนท์ บูรณกำจรคนนี้เท่านั้น เขาคือที่สุดของหัวใจ คือคนที่เธอปรารถนาอยากได้มาเป็นคู่ชีวิตในอนาคต “พิต้าจำไม่ได้หรอกค่ะนนท์ พนักงานร้านพิต้ามีตั้งเยอะแยะ ถ้านนท์อยากรู้จริงๆคงต้องรอสักวันสองวัน เดี๋ยวพิต้าจะให้ลูกน้องจัดการสืบให้ก็ได้ แต่พิต้ามีข้อแลกเปลี่ยนนะคะ” เธอส่ายหน้าพร้อมวางแผ่นกระดาษลงกลับที่เดิม รู้สึกร้อนใจขึ้นมาอย่างประหลาด หากสมองยังสั่งการให้พิชยารีบเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสงามสำหรับตนเอง เธอ เพียงหวังให้เขาอยู่กับเธอในค่ำคืนนี้ทั้งคืน หญิงสาวหรี่ตามองชายหนุ่มเป็นการหยั่งเชิง อานนท์เลิกคิ้วเข้มพลางยกไหล่ “คุณจะให้ผมทำอะไรเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนก็ลองว่ามาแล้วกัน ถ้าผมโอเคร ก็ตกลง แต่ถ้าไม่ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ ผมไม่ชอบทำอะไรฝืนใจตัวเอง” อานนท์บอกเสียงดุ เนื่องจากตนเองนั้นไม่ชอบให้ใครมาต่อรองทำทีอยู่เหนือกว่า ถ้าไม่เต็มใจช่วยใช่ว่าเขาต้องง้อเสียเมื่อไหร่ อานนท์ยกมือขึ้นกอดอกเพื่อรอฟัง พิชยาทำปากยื่นพร้อมส่งค้อนชายหนุ่มผู้มีนิสัยใจร้อน พิชยาถือเป็นผู้หญิงสวยจัดคนหนึ่ง เขาคบค้ากับเธอในฐานะเพื่อนมานาน แต่ความสวยของเจ้าหล่อนนั้นอาบด้วยยาพิษ เขาไม่เคยหลงใหลตามจริตมารยาภายนอก เพราะรู้เช่นเห็นชาติกันดีมาโดยตลอด เจ้าหล่อนมีผู้ชายหลายคนสลับสับเปลี่ยน เท่าที่เขายังคงให้ความสนิทสนมอยู่นี้ นั่นเป็นเพราะเขายังเห็นแก่บิดาของหญิงสาวมากกว่าความสนิทเสน่หาทางชู้สาว ด้วยบิดาของเขา คือ เจ้าสัวนาท กับบิดาของพิชยานั้นเป็นเพื่อนสนิทในก๊วนเดียวกันมาตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่ม พวกท่านคอยให้คำปรึกษาชั้นเชิงในด้านธุรกิจกันมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทแต่ละคนใหม่ๆจนถึงทุกวันนี้ เขาจึงให้ความเคารพและเกรงใจท่านตามไปด้วย ในส่วนของความสัมพันธ์เขากับพิชยา ว่ากันตามเนื้อผ้า เป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น แม้จะมีหลายครั้งที่พิชยาแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง เจ้าหล่อนต้องการอะไรจากเขาที่มากกว่าคำว่าเพื่อนก็ตาม “แหม่!นนท์ก็อย่าเพิ่งทำเสียงดุใส่พิต้านักสิคะ ลองฟังข้อเสนอของพิต้าดูเสียก่อนเถอะนะ อาจจะถูกใจนนท์มากๆก็ได้นะ เพราะพิต้ามีของดีอยากนำเสนอ...” ของดีที่ว่านั้นถูกเบียดกระแซะเข้าหาลำแขนกำยำ หญิงสาวจงใจรั้งขอบกระโปรงเดรสสั้นขึ้นมาจนแลเห็นเรียวขาเสลา อีกเพียงนิดคงได้เห็นเครื่องใน อานนท์รีบเบือนสายตาหนีทันที ด้วยกลัวว่าคืนนี้จะกลับไปนอนฝันร้ายเหลือเกิน “ถ้าเป็นข้อต่อรองแบบนี้ นนท์จะตกลงไหมเอ่ย?” ดูแล้วเจ้าหล่อนไม่เพียงแต่ถามด้วยปากเท่านั้น หากทว่านิ้วเรียวยาวของหญิงสาวยังกรีดกรายลงบนหน้าอกภายใต้ชุดสูท แล้วจัดการสอดแนบเข้าไปในกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดแรก เขี่ยมันเล่นเบาๆเพื่อเพิ่มความซ่านสยิวให้กับเจ้าของใบหน้าบูดบึ้ง พร้อมด้วยช้อนสายตาอ่อนหวานขึ้นมอง เธอกัดริมฝีปากเข้าหากัน เพื่อสื่อความต้องการบอกให้เขารู้ความนัย ตอนนี้เธอต้องการเขาเหลือเกินแล้ว... อานนท์ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าของเขาเริ่มเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออารมณ์ภายในชักเริ่มระอุ เขารู้สึกรำคาญใจเสียมากกว่าคล้อยตาม ถ้าพิชยาลองสังเกตดูดีๆ ป่านนี้เจ้าหล่อนคงหยุดการกระทำสุ่มเสี่ยงนั้นไปนานแล้ว ชายหนุ่มพยายามฝืนใจข่มความรู้สึกหงุดหงิด ไม่รู้สิ ทำไมเขาถึงไม่เคยมีความรู้สึกพิศวาสอะไรกับผู้หญิงคนนี้เลยก็ไม่รู้ ไม่ใช่เพียงแค่พิชยาเท่านั้น เพราะแม้แต่ผู้หญิงคนอื่น เขาก็ไม่ได้รู้สึกกระตือรือร้นอยากจะควงออกเดตแก้เบื่อเหมือนเช่นเคยทำมาสมัยก่อนเลย ตอนนี้ใจเขาต้องการอยากเห็นหน้าแม่นี่เพียงคนเดียวเท่านั้น เขากำลังแค้นเจ้าหล่อนอยู่ ไม่สิ...จะบอกว่าเขาแค้นอย่างเดียวก็ไม่น่าจะใช่นัก เมื่อความรู้สึกบางอย่างมันทับซ้อนกันอยู่ เขาก็ไม่รู้แน่ชัดว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เขาอยากเจอยันหนูหริ่งตัวน้อยนี้เท่านั้นพอ “คุณก็รู้ ผมไม่ชอบคนเรื่องเยอะ ถ้าไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร ผมให้คนของผมสืบเองก็ได้ แต่มันอาจทำให้ร้านของคุณวุ่นวายไปบ้างก็เท่านั้น...” อานนท์ปัดนิ้วเรียวยาวที่เคลือบเล็บสีร้อนแรงทิ้งอย่างไร้เยื้อไย เขาเตรียมลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกมือปลาหมึกจับยึดไว้แน่น เขามันพวกไม่ชอบตกเป็นรองใคร โดยเฉพาะกับพวกผู้หญิง คนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาง้อ พิชยาใจหายวาบ ไม่คิดว่าอานนท์จะไม่แคร์เธอถึงขนาดนี้ นี่เธอยั่วเขาจนแทบจะแก้ผ้าโชว์ เขายังใจแข็งไม่สนใจเธอเลยสักนิดหรือนี่ “อย่าเพิ่งใจร้อนนักสิคะนนท์ คุณจะรีบไปไหน อยู่ทานข้าวเที่ยงกับพิต้าก่อนก็ยังดี ไหนๆนนท์ก็มาหาพิต้าถึงที่แล้ว นะคะ” เธอฉุดรั้งเขาไว้ทั้งมือทั้งปาก อ้อนวอนขอให้เขาอยู่ทานอาหารเที่ยงด้วยกัน ยิ่งพอปรายตามองเห็นรูปภาพวาดของหญิงสาวบนโต๊ะกระจก คิ้วโก่งสวยยิ่งขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ใจนั้นเริ่มรู้สึกร้อนรน มันเป็นใครกัน ทำไมอานนท์ถึงต้องตามหามันด้วย “เห็นทีจะไม่ได้” อานนท์ตอบปฏิเสธเพียงสั้นๆ และนั่นทำให้อารมณ์ของลูกสาวเจ้าของธนาคารดังถึงกับฟิวส์ขาด “นนท์จะไปตามหาอีนี่ต่อใช่ไหมล่ะ ถึงไม่ยอมอยู่ทานข้าวกับพิต้า อยากรู้นักว่ามันเป็นใคร แล้วมีความสำคัญอะไรกับนนท์นักหนา...” ด้วยความเป็นคนอารมณ์ร้อนพอๆกัน ทำให้เจ้าของร้านอาหารสาวตวาดถามเสียงขุ่นเขียว ใบหน้าโกรธจัด เพราะในสังคมตอนนี้ ต่างก็พูดในทำนองเดียวกันหมด เธอกับอานนท์กำลังคบหาดูใจกันอยู่ เขาไม่เคยออกมาปฏิเสธข่าวคราวเหล่านั้นสักครั้ง มันเลยทำให้เธอนึกลำพองใจ ปักใจเชื่อว่าอานนท์นั้นมีใจตรงกับเธอ ตราบใดที่เขายังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน และยังไม่ออกมาปฏิเสธความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ เธอจะถือว่าเขาคือคนรักของเธอ ก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอ อานนท์ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ เขาชอบวางตัวเฉยเมยกับหญิงสาวรอบข้าง ตั้งแต่เธอรู้จักกับเขามานานหลายปี เธอยังไม่เห็นเขามีคนรักสักคน เห็นมีแต่ฝ่ายหญิงเท่านั้นที่มักวิ่งเข้าใส่เขาตลอดเวลา และเธอก็คือหนึ่งในนั้นด้วย เพราะผู้ชายอย่างอานนท์ บูรณกำจน ไม่ได้มีดีแค่เพียงความโสดเท่านั้น หากเขายังเต็มไปด้วยเสน่ห์ของบุรุษเพศ ร้อนแรงเพียงแค่เขาส่งตายตามาให้ ผู้หญิงทั้งหลายก็พร้อมใจเปลื้องผ้าให้เขาพาไปไหนต่อไหนได้ตามแต่เขาต้องการ แต่อานนท์ไม่เคยต้องการ เขาไม่มั่วและไม่นอนกับผู้หญิงคนไหนเท่าที่เธอสังเกตมา... อานนท์ตวัดสายตาแข็งกร้าวตอบโต้ เขายืนตัวตรง ก่อนเอ่ยเสียงกระด้าง “เรื่องนั้นผมขอเป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องบอกให้คุณรู้ ผมขอตัวก่อนแล้วกัน” อานนท์เอ่ยลาเสียงขรึม สะบัดร่างอวบออกห่าง เมื่อเธอไม่คิดจะช่วยเขาก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาจัดการเองได้ เอาไว้คืนนี้เขาจะส่งคนคอยปิดทางเข้าออกร้านนี้ทุกทาง ตรวจดูอย่างละเอียด แม่หนูหริ่งตัวเล็กแค่นั้น จะหนีเขารอดพ้นก็ให้มันรู้กันไป พิชยาอ้าปากเหวอ กำมือเข้าหากันแน่น ความต้องการก่อนหน้าหายวับไปทันตา เมื่อร่างสูงใหญ่ในชุดราคาแพงกำลังเดินห่างออกไปทุกที... “ซี๊ด!อ๊ะ...อ๊ะ...” เพราะความคับแค้นใจอย่างสุดแสน ทำให้ร่างอวบอัดเต็มไม้เต็มมือ โยกโยนตัวเอง กลายร่างเป็นจ๊อกกี้สาวควบขับม้าหนุ่มจนหัวสั่นหัวคลอน ม้าหนุ่มอนุเคราะห์โดยการรวบดึงผมยาวไว้ด้านหลังให้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้จ๊อกกี้สาวบดขยี้ส่วนไวต่อความรู้สึกเข้าหาความใหญ่โตของบุรุษเพศจนถึงใจ เสียงดังสวบสาบ จนพงหญ้าสีดำเสียดสีกันจนไม่รู้ของใครเป็นของใครแล้วตอนนี้ พิชยากัดริมฝีปากอิ่มแน่น เมื่อเธอทิ้งกายสาวกระแทกกระทั้นเข้าหาความอลังการของม้าหนุ่ม เพื่อระบายอารมณ์แค้นเคืองใจ อารมณ์พิศวาสที่เธออุตส่าห์สะกิดบอกให้อานนท์รับรู้ แต่เขากลับปัดมันทิ้งอย่างไม่ไยดี จนสุดท้ายเธอต้องโทรหาคู่ขา นัดให้ออกมาเจอกันที่คอนโดของตัวเอง “อืม!ซี๊ด...เยี่ยมมาก” พิชยาห่อปากจู๋ เมื่อถูกชายหนุ่มด้านล่างกระแทกสวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ แรงจนทำให้ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านถึงใจ เธอวางฝ่ามือลูบไล้หน้าอกแกร่งของเขาเล่น โน้มร่างงามเข้าหาก่อนที่ริมฝีปากร้อนชื้นจะครอบครองเม็ดจะงอยสีคล้ำ ขบเม้มมันอยู่ในปากร้อนพร้อมตวัดมันเล่นด้วยปลายลิ้น ยิ่งเรียกเสียงครางความกระสันอยากของคนใต้ร่างให้ดังหนักขึ้นอีกเท่าตัว “โอ้!พระเจ้า ยาหยีคุณสุดยอดจริงๆ ผมชักจะทนไม่ไหวแล้วนะครับ ผมอยากกระแทกคุณแรงๆเสียจริง” โรเบิตร้องขอ เขาเป็นหนุ่มเลือดร้อนที่ต้องการความหฤหรรษ์ในเรื่องเซ็กส์แบบโลดโพน “แล้วจะทนอยู่ทำไมล่ะคะโรเบิต คุณอยากทำอะไรกับร่างกายพิต้าก็ได้ พิต้าต้องการค่ะ ต้องการแรงๆอย่างที่คุณต้องการเหมือนกันเลย...” จ๊อกกี้สาวขยิบตาส่งสัญญาณ พร้อมกับกระแทกตัวตนเข้าหาความใหญ่โตที่เธอชื่นชอบ หนุ่มโรเบิตยิ้มกริ่ม ไม่คิดว่าสาวไทยแสนสวยจะรองรับอารมณ์ดิบของเขาได้ถึงพริกถึงขิง ชายหนุ่มตะปบฝ่ามือเข้าหาทรวงสล้าง ที่มันกำลังสั่นไหวไปตามแรงกระแทก เคล้นคลึงมันจนล้นง่ามนิ้วเกิดเป็นรอยแดง ก่อนโฉบใบหน้าหล่อเหล่าของตนกัดกินหัวสีชีชมพูเข้ม ดึงมันจนติดปากลงมา พิชยาทั้งเจ็บทั้งเสียว แต่เธอชอบ สุขใจเหลือคณา ชอบความหลากหลายทางด้านอารมณ์ ซึ่งไม่ต่างจาการเสพสมเหมือนสัตว์เปลี่ยวที่มันสมสู่กัน เสียงร้องครวญครางดังประสานส่งเสียงลั่นไปทั่วทั้งห้องชุดในคอนโดมิเนียม ยาวนานกว่าสามชั่วโมง ไม่อาจแยกได้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร ทั้งสองพากันร่วมรักแทบทุกที่ในบริเวณห้องชุด ไม่ว่าจะเป็นบนโซฟารับแขก เคาน์เตอร์ห้องครัว ในห้องน้ำ หรือแม้แต่นอกระเบียง ทั้งสองก็ไม่เกรงกลัวต่อสายตาของผู้พบเห็น จนสุดท้ายมาจบลงบนเตียงนอนใหญ่ขนาดคิงไซส์ ตอนนี้เจ้าของห้องสาวยังไม่อาจหยุดยั้งความต้องการทะยานอยากราคีคาวลงได้ พิชยามีความต้องการสูงมาก แต่ไม่ถึงกับหยุดยั้งไม่ได้ สำหรับเธอถ้าเกิดความต้องการอยากมีเซ็กส์ขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าห้ารอบ ชายหนุ่มส่วนใหญ่จึงต้องมีความอึด ดังนั้นเธอจึงมีชายหนุ่มสลับสับเปลี่ยนมาให้ความสุขไม่เว้นว่าง บางครั้งหนึ่งคน บางครั้งถึงสามคนเธอก็เคย พิชยาไม่ยอมรับตัวเองกำลังมีความผิดปกติ เธอปัดให้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ “โอ้ว! คุณร้อนแรงมากที่รัก” คู่ขาหนุ่มรายล่าสุดเอ่ยปากชมเปาะ ตีมือลงบนสะโพกเปลือยเปล่าเสียงดังเพี้ยะ พิชยาส่งยิ้มหวานให้พร้อมกับรวบหน้าอกใหญ่ล้นมือของตนป้อนเข้าปากเพื่อเป็นรางวัลคนปากหวาน จนคู่ขาหนุ่มซึ่งมีดีกรีเป็นถึงสจ๊วตหนุ่มลูกครึ่ง ส่งเสียงครางซีดซาดยิ่งกว่ากินพริกไปสิบเม็ดเสียอีก ดูดกลืนความนุ่มของสองเต้าอะร้าอร่ามจนแก้มซูบตอบ “พิต้าเสียวเหลือเกินค่ะโรเบิต อ๊า!” เธอพ่นลมหายใจ เชิดใบหน้าขึ้นเมื่อถูกกัดยอดอกจนเสียวแป๊ลบ บางครั้งในห้วงแห่งอารมณ์พิศวาสเธอต้องจิตนาการถึงใบหน้าของอานนท์ก็มี แน่นอนคู่นอนหน้าโง่เธอไม่มีทางรู้ หนุ่มลูกครึ่งยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาสะกิดปลายหัวจะงอยสีชมพูเข้มอีกข้าง สัมผัสมันโดยไม่เกรงใจเจ้าของจะเจ็บหรือไม่ พิชยาร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงควบม้าหนุ่มถี่กระชั้น เกร็งร่างงามตอดรัดเมื่อตัวเองเดินไปถึงจุดสุดยอด หากทว่าพอปรับอารมณ์ได้ เธอรีบขยับร่างควบขับมันอีกครั้ง เพื่อนำพาม้าหนุ่มให้ไปถึงเส้นชัยพร้อมกันกับเธอ “โอ้ว!แรงอีกนิดครับยาหยี ผมกำลังเสียวได้ที่” ฝ่ามือหยาบขยำสะโพกหนั่นแน่นของเจ้าหล่อนเพื่อระบายอารมณ์สยิวสุดขั้วหัวใจ เมื่อถูกกระแทกเข้าหาไม่เบาแรงตามคำขอ จนชายหนุ่มตาน้ำข้าวร้องครางลั่น เพียงพริบตาเดียวเมื่อเส้นเสียวกระสันใกล้ถึงฝั่ง ร่างหนาจับร่างเล็กกว่านอนคว่ำลงบนเตียง ดันสะโพกกลมกลึงขึ้นโด่งชี้ พร้อมกับเสยความอลังการเข้าหาทีเดียวจนมิดทั้งด้าม ริมฝีปากร้อนซุกไซร้ซี่โครงทุกซี่ ลากปลายลิ้นเลียชิมรสชาติหวานหอมของมันเพื่อเพิ่มความกระสันให้เจ้าของร่างงาม “อ๊า!” พิชยาหลับตาปี๋ หลุดเสียงครวญครางแผ่วเบา ก่อนจะดังขึ้นเรื่อยๆตามแรงกระแทกตัวตนใหญ่โตที่ส่งมาทางเบื้องหลัง อีกทั้งยังถูกบีบขยำเนื้อนุ่มตรงสะโพกอย่างหนักหน่วง สองร่างเปลือยเปล่าช่วยกันลุกช่วยกันรับจนพากันไปถึงสวรรค์รอบที่สี่ ร่างหนาที่ประกอบไปด้วยซิกหลายรอน นอนแผ่หลาหมดสภาพข้างร่างอวบอิ่มที่นอนหลับตาด้วยความอิ่มเอมใจ กลิ่นคาวของน้ำรักคละคลุ้งไปทั้งห้องชุด ถุงยางอนามัยสีสันต่างๆ ตกกระจายเกลื่อนเต็มรอบเตียงนอน “ขอบคุณนะครับที่รัก ที่เรียกใช้บริการจากผม” เมื่อปรับลมหายใจจนเป็นปกติดี โรเบิตจึงหันไปคว้าเอาร่างเปลือยอวบอัดมากอดรัดไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตหน้าผากมนเพื่อเป็นการขอบคุณ เมื่อพิชยายื่นเช็คจำนวนหลายหลักให้เขาเป็นการตอบแทนค่าน้ำกับค่าเหงื่อ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มพอใจเมื่อเห็นตัวเลขบนกระดาษ “อีกสักรอบไหมคะ พิต้ายังไม่หายอยากเลย” เธอไม่ได้ชวนเปล่า หากทว่าร่างอวบเบียดเต้าใหญ่เสียดสีไปกับร่างหนา พร้อมกลับควานมือลงไปใต้ผืนผ้า บีบรัดความอวบใหญ่เอาไว้เต็มมือ รูดขึ้นรูดลงก่อนที่เธอจะมุดหายเข้าไปใต้ผืนผ้านั้น จัดการดูดกินไอ้ติมแท่งโตด้วยความเอร็ดอร่อย “โอ้ว!ที่รัก” เจ้าของไอ้ติมแท่งใหญ่ได้แต่ตาค้าง ซูดปากเสียงลั่นเมื่อถูกความเสียวสะท้านเล่นงานอีกครา... -------------------------------------------
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD