Ep1(1) : งานพิเศษ By...kanokrot
ร่างผอมบางซึ่งประกอบไปด้วยดวงหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรากำลังเร่งมือสวมชุดยูนิฟอร์มของทางร้านมือเป็นระวิง เมื่อเพื่อนสาวเพิ่งนำมันมาให้เธอสวมใส่แทนไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ก่อนเจ้าตัวจะชิ่งหนี กระโดดขึ้นซ้อนรถมอเตอร์ไซค์คนรักเพื่อไปกินเลี้ยงงานวันเกิดกับแฟนหนุ่มอย่างสบายใจเฉิบ ทิ้งไว้เพียงคำขอบอกขอบใจมากมาย ที่เธออุตส่าห์ยอมตกปากรับคำมาทำงานแทนให้ในวันนี้ จะขอลาหยุดไปเลยทางผู้จัดร้านก็ไม่ยอม เนื่องจากวันนี้จะมีลูกค้าวีไอพีเข้ามาใช้บริการ แถมยังสั่งปิดชั้นสองทั้งชั้นให้กับแขกคนสำคัญคนนี้เสียด้วย ทางร้านจึงติดประกาศห้ามลาหยุดไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้แม่เพื่อนสาวเธอเต้นผาง วิ่งแจ้นรีบมาดักรอพบเธออยู่หน้าบ้าน เร้าหรือขอให้เธอนั้นช่วยมาทำงานพิเศษนี้แทนให้ที เพราะใจนั้นอยากหยุดไปฉลองวันเกิดกับคนรักมากกว่าต้องมาทำงานหน้าเป็นมันเยิ้ม
และนี่ก็ไม่ใช่หนแรกที่เธอรับทำงานพิเศษให้กับเพื่อนสาวคนนี้ ยามว่างจากการออกเวรงานประจำ เธอมักมาขอทำงานร้านอาหารกึ่งผับนี้อยู่เนืองๆ เพื่อเป็นการหารายได้เพิ่ม เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวเล็กๆน้อยๆก็ยังดี เธออยากแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้เป็นป้าบ้าง เห็นท่านทำงานไม่หยุดแล้วก็สงสาร เพราะมีเหตุบางประการที่ท่านยังหยุดทำงานไปเลยไม่ได้ในช่วงนี้
มุขธิดายอมรับปากทำงานในวันนี้แทนให้ เมื่อเธอเห็นว่าจะได้เงินหลายบาท พอเอาไว้จ่ายค่าดอกแทนป้าในวันพรุ่งนี้ได้ เจ้าหนี้นอกระบบขาโหดปากร้าย มักเรียกเก็บดอกเบี้ยแพงหูฉีก เรียกได้ว่าขูดเลือดขูดเนื้อกันเห็นๆเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่มีให้มันตามกำหนด มันก็ทำร้ายร่างกาย แม้แต่ผู้หญิงหรือกระทั่งคนแก่มันก็ไม่ละเว้น บางครั้งทำคนยังไม่สาแก่ใจมากพอ มันยังพาลหันกลับมาทำลายข้าวของจนพังย่อยยับไปเลยก็มี
เงินค่าดอกที่ป้าละมัยกู้มาประกันตัวลูกชาย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ พี่โมชถูกโรงงานกล่าวหาเรื่องทุจริต ลักลอบนำอะไหล่รถยนต์ออกมาขาย ความจริงเป็นเช่นไรเธอเองก็ไม่รู้เรื่องมากมายนักหรอก แต่เธอเชื่อว่าพี่โมชไม่มีทางทำแบบนั้นอย่างแน่นอน เธอสงสารพี่ชาย เขาเป็นคนดี คนขยัน ตั้งใจทำงาน แต่คนดีก็ใช่จะมีคนรักเสมอไปซะเมื่อไหร่ มีคนรักย่อมมีคนชังเป็นของคู่กัน
เป็นสัจธรรมข้อหนึ่งที่แม้แต่ตัวเธอเองยังเลี่ยงไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ยิ่งได้ฟังจากปากของพี่โมช เขาบอกถูกทางโรงงานใส่ร้าย เขาไม่ได้ขโมยของพวกนั้นสักชิ้นเดียว เขาถูกยัดเยียดให้กลายเป็นแพะรับผิดแทนญาติของเจ้าของโรงงานที่นั่น หัวขโมยตัวจริง ตอนนี้คดีอยู่ในขั้นตอนสืบพยานหาหลักฐานประกอบ ด้วยน้ำเงินของทางฝั่งนั้น เธอกับป้าคงได้แต่ภาวนา ขอให้สวรรค์มีตา ช่วยเหลือคนดีอย่างพี่ชายเธอให้พ้นผิดด้วยเถิด แต่ก็นั่นแหละ ความดีมักแพ้อำนาจของเงินเสมอ
ตอนนี้พี่โมชตกงานอยู่กับบ้าน ถึงจะออกหางานแต่ก็ยังไม่มีที่ไหนรับ ภาระหลายอย่างจึงตกมาอยู่กับเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลำพังค่าแรงวันละไม่กี่บาทของป้าเธอ ซึ่งท่านออกไปรับจ้างเป็นแม่ครัวตามร้านอาหารตามสั่ง คงไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ หรือแม้กระทั่งให้ค่าดอกรายวันที่แสนโหด เธอจึงต้องลุกขึ้นมาทำงานพิเศษ เพื่อให้ได้เงินมาจุนเจือครอบครัวอีกแรงหนึ่ง
“แต่งตัวเสร็จหรือยังล่ะมุข จะได้ออกมาช่วยพี่ดูแลแขกข้างนอก ตอนนี้แขกเริ่มทยอยเข้ามานั่งดื่มกันหนาตามากแล้วนะ ดูสิเหลือพนักงานช่วยกันข้างล่างอยู่ไม่กี่คนเอง คุณพิต้าเธอเล่นสั่งให้เกณฑ์พนักงานคนอื่นขึ้นไปคอยช่วยบริการแขกวีไอพีชั้นสองซะเกือบหมด เหลือดูแขกข้างล่างไม่กี่คนเท่านั้นแหละ พี่ละเบื่อ”
พลอยชะโงกหน้าเหน็ดเหนื่อยโผล่ออกมาตรงช่องประตู ปากก็บ่นไม่หยุดหย่อน เพราะตัวเองนึกเสียดายที่ไม่ได้ถูกเกณฑ์ให้ขึ้นไปทำงานชั้นสองเหมือนกับคนอื่น แต่กลับถูกสั่งให้ดูแลแขกชั้นล่างแทน
“ใกล้เสร็จแล้วจ้ะพี่พลอย...” มุขธิดาส่งเสียงขานรับ เมื่อเธอสวมใส่รองเท้าส้นสูงขนาดสามนิ้วเรียบร้อยพอดี ส่องดูความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกบานใหญ่อีกครั้ง มีตรงไหนโป๊เกินไปหรือเปล่า จนไม่เห็นความบกพร่องใด ร่างระหงในชุดฟอร์มเชิ้ตสีขาวแขนยาวสวมใส่ในกระโปรงทรงสอบสีดำสั้นเหนือเข่ากับรองเท้าหนังส้นสูงสีเดียวกันกับกระโปรง พอเช็คทุกอย่างเรียบร้อย เธอจึงเดินจ้ำอ้าวตามหลังรุ่นพี่ไปติดๆ
วันนี้เธอไม่มีเวรต้องเฝ้าไข้ที่โรงพยาบาล เลยมีเวลาเหลือพอจะหางานเสริมทำได้ พอเจอเพื่อนสาวมาดักรอถึงหน้าบ้านในตอนเช้าให้มาทำงานในผับกึ่งร้านอาหารแห่งนี้แทน มุขธิดาจึงรีบรับปาก ตอบรับในทันที ขอให้เป็นงานที่ได้เงิน เธอทำได้ทั้งนั้น ไม่คิดเกี่ยงงอนละทิ้งโอกาส ขอเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น งานที่เธอทำต้องเป็นงานสุจริตไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครเป็นพอ..
“ชั้นสองเขามีงานอะไรกันหรือจ๊ะพี่พลอย ทำไมคุณพิต้าเธอถึงได้ให้พนักงานขึ้นไปช่วยงานข้างบนกันเยอะจัง”
เมื่อเดินตามหลังรุ่นพี่ออกมาจนถึงโซนบาร์ ไฟทุกดวงถูกเปิดให้มืดสลัว ช่วยบดบังดวงหน้างดงามไม่ให้เป็นจุดสนใจพอสมควร ถึงเธอจะไม่ได้สวยหมดจดจนคนต้องหันหลังมองซ้ำ แต่ผิวขาวราวหยวกกล้วยของเธอ บางครั้งดันไปสะดุดตาพวกแขกขี้เมาเข้า ทำให้เธอเคยถูกลวนลามจับนู้นแตะนี่ก็มี ดีที่ได้รุ่นพี่ใจดีคอยช่วยพูดให้ เธอจึงรอดพ้นจากชายหนุ่มบ้าตัณหามาได้
มุขธิดามองขึ้นไปยังชั้นสอง ตอนนี้มีพนักงานทางร้านหลายคน พากันเดินขวักไขว่เต็มไปหมด ดูอลหม่านจนเธอตาลาย คิดว่าตัวเองโชคดีแค่ไหน ที่ไม่ถูกเกณฑ์ให้ขึ้นไปทำงานบนนั้น
“ก็คุณนนท์เพื่อนชายคนสนิทของคุณพิต้าเธอน่ะสิ พาลูกค้าจากต่างประเทศมาเลี้ยงรับรองที่นี่ สั่งปิดชั้นสองทั้งแถบเลยนะ พี่ละเสียดายเงินทิปจะตาย คงจะมีแต่พวกเศรษฐีรวยๆทั้งนั้นบนชั้นสองนั่นนะ” พลอยถอนใจนึกเสียดายเงินทิปหนักๆจากแขกบนนั้น หลายครั้งที่แฟนของคุณพิต้าพาลูกค้ามาปิดร้านเลี้ยงที่นี่ แต่ละครั้งพวกเธอที่ถูกแบ่งให้ขึ้นไปช่วยดูแลความเรียบร้อย มักจะได้ทิปกันไม่เบา บางครั้งได้มากกว่าค่าแรงทั้งเดือนก็มี และครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกันนัก ถ้าจะต่างก็ตรงที่เธอไม่ได้ขึ้นไปทำงานตรงส่วนนั้นมากกว่า
“ใช่คุณอานนท์ เที่ยงบูรณกำจรหรือเปล่าจ๊ะพี่...”
ชื่อเสียงของชายหนุ่มเป็นที่เรื่องลือของหมู่พนักงานในร้านอาหารกึ่งผับแห่งนี้ ต่างเล่ากันปากต่อปาก ถึงความเพอเฟคตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของชายหนุ่มคนดัง ดูช่างเหมาะสมกับเจ้านายสาวของพวกตนเสียเหลือเกิน สวยหล่อเหมาะสมกันดีทั้งคู่ เลยสร้างความอิจฉาต่อสาวๆในร้านกันถ้วนหน้าและรวมหมายถึงพลอยด้วยอีกคน รายนี้มักแอบนินทาเจ้านายสาวลับหลังอยู่บ่อยครั้ง ไม่ได้พูดเยินยอเหมือนกับเพื่อนสาวคนอื่นๆในร้าน ส่วนใหญ่มักจะพูดในทางลบเสียมากกว่า
“นั่นละ จะมีใครเสียอีก ทั้งหล่อทั้งรวย คุณพิต้าถึงได้หลงหนักขนาดนี้ไง เห็นคุณนนท์พาลูกค้ามาเลี้ยงรับรองที่นี่ทีไร วุ่นวายกันไปหมดทั้งร้านตลอด” พลอยลงน้ำหนักเสียงยืนยัน รู้สึกอิจฉาเจ้านายสาวสุดๆ
จนกระทั่งทั้งคู่เดินมาหยุดยืนตรงหน้าบาร์เครื่องดื่ม เพื่อรอให้บริการลูกค้า หากความสงสัยของมุขธิดานั้นยังไม่หมดสิ้น นับว่าเป็นความบังเอิญ เมื่อครั้งหนึ่งเธอเคยเจอผู้ชายนิสัยดุร้ายคนนี้มาแล้วที่บ้านสวนของคุณเสือ เธอพอจำเขาได้...
“เขาเป็นแฟนกับคุณพิต้าจริงๆหรือจ๊ะพี่พลอย”
เธอถามขึ้นเพื่อความแน่ใจ แม้ว่าตนเองนั้นจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วก็ตาม ผู้ชายหน้าดุคนนั้นเป็นคนรักของคุณพิต้า เจ้าของผับกึ่งร้านอาหาร backgroundแห่งนี้จริงอย่างที่เธอเคยได้ยินพนักงานพูดถึงกัน บางคนบอกว่าใช่ หลายเสียงแค่บอกอาจจะ แต่ยังไม่มีใครยืนยันถึงความสัมพันธ์ของสองคนนี้ แท้จริงนั้นเป็นคนรักกันหรือแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น
แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ ทำไมโลกถึงได้กลมจังนะ แต่เขาไม่น่าจะจำเธอได้หรอก เพราะผู้หญิงอย่างเธอมันไม่มีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่นี่นา ช่างแตกต่างกับเขานัก ที่เธอยังจำผู้ชายนิสัยโหดคนนั้นได้จำฝังใจ
ความร้ายกาจของเขา ที่พรากคนรักให้ต้องจากกัน...
เขาพาลูกน้องบุกมาบ้านของคนไข้ของเธอ มาถึงก็วางอำนาจใหญ่โต เขายังทำร้ายร่างกายของเธอด้วย ก้นเธอเจ็บร้าวระบบไปตั้งหลายวันกว่าจะหายดี แรงผลักไม่ใช่เบาๆ พอเธอล้มก้นกระแทกพื้น สายตาเขาดูซะใจพิลึก
จำได้ว่าเขาเป็นพี่ชายของคุณนิ่ม ภรรยาสาวคนสวยของคุณเสือ วันนั้นเกิดเรื่องขึ้นตั้งมากมาย ทั้งทะเลาะกัน ชกต่อยกัน สุดท้ายมีน้ำตาเจิ่งนอง เธอคิดจะเข้าไปห้ามก็ทำไม่ได้ เพราะมีแต่คนอารมณ์เดือดกันทั้งสองฝ่าย เธอยืนงงเป็นไก่ตาแตก ได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ที และเรื่องทุกอย่างจบลงด้วยความเศร้าเสียใจของทุกฝ่าย คุณนิ่มทิ้งคุณเสือไปกับพี่ชายจอมโหดของเธอ โดยไม่หันหลังกลับมาบ้านสวนแห่งนี้อีกเลยนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
เธอถูกเลิกจ้างในวันถัดมา เมื่อความจริงแล้ว คุณเสือไม่ได้เป็นอะไร เขาแกล้งป่วย เพื่อเรียกร้องให้ภรรยามาดูแล มารยาชายดูจะเกินร้อยเล่มเกวียน ไม่รู้ระหว่างคุณเสือกับคุณนนท์ ใครจะร้ายกาจกว่ากัน แม้เธอจะรู้สึกสงสารคุณเสือที่ถูกคุณนิ่มทิ้ง แต่คำพูดร้ายกาจในวันนั้นของชายหนุ่ม เธอเองยังรู้สึกเจ็บปวดแทนคุณนิ่มไม่หาย...
หลังจากนั้นเธอจึงกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลตามปรกติ และไม่ได้ยินข่าวคราวของครอบครัวนี้อีกเลย ไม่รู้คุณเสือตามไปง้อคุณนิ่มสำเร็จหรือยัง ยิ่งคุณนิ่มท้องใกล้คลอดอยู่ด้วย กำลังใจจากสามีย่อมสำคัญ เธอได้แต่หวัง ขอให้คุณนิ่มยอมยกโทษให้คุณเสือ ครอบครัวจะได้กลับมาสมบูรณ์แบบเหมือนดั้งเดิมเสียที...
“ได้ข่าวว่าใช่นะ แต่พี่ก็ไม่รู้อะไรมาก เห็นคุณพิต้าเธอควงอยู่หลายคนเหมือนกัน แต่คนนี้น่าจะพิเศษกว่าใครเพื่อน” พลอยลดเสียงให้ต่ำลง เมื่อเอ่ยถึงเจ้านายสาวแสนสวย ตอนนี้คงจะคลุกอยู่กับแขกวีไอพีนั่นแหละ คงไม่ลงมาเดินตรวจงานชั้นหนึ่ง หรือดีไม่ดีคงกลัวรถไฟจะชนกันหลายขบวน ถ้าหากเจ้าตัวลงมาดูแลแขกด้านล่าง
“พี่ไม่อยากจะพูด...” พอได้เริ่มพูดถึงเจ้านายที่ใจรู้สึกอิจฉามาโดยตลอด ปากจึงเริ่มคันยิบๆขึ้นมา พลอยมองซ้ายมองขวา ก่อนจะป้องปากกระซิบพูดข้างหูสวย
“คุณพิต้าเธอมั่วจะตาย” มุขธิดายิ้มแหย ไม่กล้าขยับปากวิพากษ์วิจารณ์ผสมโรงในเรื่องที่ตัวเองไม่รู้จริง เธอรู้สึกอึดอัดใจมากกว่า กับเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย ยิ่งเป็นเรื่องในทำนองนี้ เธอไม่ขอยุ่งด้วยจะดีที่สุด ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง คุณพิต้าจะพลอยเสียชื่อเสียงตามไปด้วย
“เธอควงผู้ชายไม่เคยซ้ำหน้า...” พลอยยังคงพูดต่อเป็นน้ำไหล ส่วนคนรับฟังทำได้เพียงยืนยิ้มอ่อน
หากคนติดพันกับการนินทาเรื่องเจ้านาย กลับถูกเบรกดังเอี๊ยด เมื่อเสียงทุ้มนุ่มของผู้จัดการหนุ่มร้องเตือนอยู่ทางด้านหลังบาร์ ไม่ห่างจากจุดของทั้งสองคนยืนอยู่ สรเพชรส่ายหัวแต่ยังส่งยิ้มบางให้กับพนักงานชั่วคราวอย่างนึกเอ็นดู เขาเป็นหัวหน้าของที่นี่ย่อมรู้จักนิสัยใจคอของลูกน้องในปกครองแต่ละคนของตนเองเป็นอย่างดี ใครมีนิสัยเป็นไรกันบ้าง...
“สาวๆอย่าลืมดูแลลูกค้าโต๊ะนั้นให้พี่ด้วยนะครับ...”
“ค่ะพี่สร...” มุขธิดาขานรับเสียงขันแข็ง พร้อมแอบระบายลมหายใจโล่งอกออกมา เพราะตนเองไม่อยากฟังคำนินทาของใครสักเท่าไหร่ เพราะมันอาจทำให้คนถูกกล่าวถึงเสียหายเอาได้ ในเมื่อเรื่องที่พลอยพูดถึงอยู่นั้น มันออกไปในทางลบมากกว่าในทางบวก
“นั้นมุขไปรับลูกค้าโต๊ะนั้นให้นะคะพี่พลอย” เธอรีบขยับขาขออาสาออกไปรับออเดอร์โต๊ะนั้นเสียเอง พลอยไม่ขัดข้อง ถูกใจเสียอีกเมื่อมีคนขยันมาช่วยทำงาน
“จ้ะ...ไปเลย” พลอยตอบรับพร้อมรอยยิ้ม หันหลังไปหยิบเครื่องมือขนาดเล็กสำหรับจดออเดอร์ส่งให้มุขธิดา รู้สึกชอบใจเหลือเกินกับเพื่อนร่วมงานแบบนี้ ขยัน ไม่เอาเปรียบ แถมยังมีน้ำใจ ถ้ามาแทนแม่ชมพู่บ่อยๆก็น่าจะดีไม่น้อย
*************************************