บทที่ 8

1130 Words
นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 8 "มองอะไรเหรอจ๊ะแม่อลิส.. อุ๊ยๆ ฉันลืมไปว่าตอนนี้ปีนป่ายขึ้นจนเป็นว่าที่หัวหน้าแล้ว" ที่จริงอลิสก็ไม่ได้อยากมองหรอกพอเดินผ่านเห็นอีกฝ่ายจ้องมาเธอเลยมองกลับ แต่พอถูกหาเรื่องอลิสเลยทำเป็นไม่สนใจ "วัวลืมตีน" ประโยคนี้น้ำตาลพูดออกมาเพียงแค่เบาๆ "อุ้ยสวัสดีค่ะ" พอมองไปอีกทางหนึ่งก็เห็นคนที่ตัวเองอยากทำความรู้จัก เพราะตอนนี้ข่าวหัวหน้าที่มารับตำแหน่งเป็นที่พูดถึงกันมาก แต่ก็ได้ยินมาอีกว่าต้องชิงตำแหน่งกับอลิสให้ได้ก่อนถึงจะได้เป็นหัวหน้า อลิสได้ยินเสียงน้ำตาลทักใครไม่รู้เลยหันกลับไปมอง "คุณใช่หัวหน้าคนใหม่ไหมคะ" "ใช่ค่ะ" รินรดาเห็นว่ามีคนทักเลยส่งยิ้มให้พร้อมกับเดินเข้าไปคุยด้วย "ฉันชื่อน้ำตาลค่ะ เป็นคนดูแลโต๊ะทั้งหมดที่นี่" "ดูแลโต๊ะเหรอคะ" รินรดาก็แปลกใจมีแบบนี้ด้วยเหรอ เพราะตำแหน่งนี้น่าจะเป็นตำแหน่งของหัวหน้า "ใช่ค่ะก็ไม่แตกต่างจากหัวหน้ามากนักหรอกค่ะ คือเด็กที่นี่เชื่อฟังฉัน เพราะฉันเป็นคนดูแลพวกเขาค่ะ" "อ๋อแบบนั้นเองหรือคะ ฉันชื่อรินรดาค่ะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" "คุณหัวหน้าอย่าพูดแบบนั้นสิคะ ฉันเองต่างหากที่ต้องฝากเนื้อฝากตัว" "ฉันยังไม่ได้เป็นหัวหน้าหรอกค่ะแค่ฝึกงาน ไม่แน่ใจว่าจะได้เป็นหัวหน้าไหม" "ได้เป็นสิคะ ฉันจะช่วยคุณเอง" "คุณจะช่วยฉันหรือคะ?" "คุณอย่าลืมสิคะว่าพนักงานที่นี่เชื่อฟังฉัน" "แล้วทำไมคุณถึงไม่เป็นหัวหน้าเองล่ะคะ" รินรดาถามแบบสงสัย เพราะถ้ามีคนจัดการพนักงานที่นี่ได้แล้วทำไมไม่ให้เป็นหัวหน้าเลยล่ะ "ถ้าไม่มีใครบางคนคอยขัดขาขัดแข้งป่านนี้ฉันคงได้เป็นหัวหน้าแล้วค่ะ" น้ำตาลตีหน้าเศร้าพลางปรายตามองไปทางอลิสที่กำลังยืนดูงานอยู่ "คุณสองคนไม่ค่อยถูกกันเหรอคะ" "ฉันไม่อยากทะเลาะกับใครหรอกค่ะ แต่อีกฝ่ายเหมือนไม่อยากจะคุยกับฉันเลย คงเพราะเป็นเด็กเส้น" "เด็กเส้น?" "ไม่ต้องพูดคุณก็รู้มั้งคะว่าเส้นใหญ่แค่ไหน" อ๋อเป็นแบบนี้นี่เองคนที่ชื่อน้ำตาลถึงไม่ได้เป็นหัวหน้า เพราะอลิสเป็นเด็กของหุ้นส่วนอีกคนนี่เอง อลิสหันกลับไปมองอีกครั้งก็เห็นว่าน้ำตาลยังคุยกับหัวหน้าใหม่อยู่ แถมตอนนี้ดูเหมือนสนิทสนมกันแล้วด้วย "ฉันอยากรู้เรื่องระบบของการทำงานที่นี่ค่ะ" "คุณรดาอยากรู้เรื่องอะไรถามน้ำตาลมาได้ทุกอย่างเลยค่ะ" "ฉันอยากรู้ว่าที่นี่จัดโซนกันยังไงคะ" "ก็แบบที่คุณรดาเห็นนั่นแหละค่ะ พนักงานสองคนจะดูแลสองโต๊ะช่วยกัน" "สองคนดูแลสองโต๊ะ? แล้วทำไมไม่ดูแลคนละโต๊ะไปเลยล่ะคะ" "เผื่อว่าอีกคนไม่อยู่ค่ะ คนที่ดูแลร่วมกันจะได้ดูแลแทนอีกคนค่ะ" "อ๋อแบบนี้เองเหรอคะ" "คุณดูเข้าใจอะไรง่ายจังเลยนะคะ" "ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ ที่นี่ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือกันหรือคะ" "ยังไงคะ" "ก็ถ้าคนหนึ่งไปเข้าห้องน้ำหรือไปทำธุระส่วนตัว สามารถฝากเพื่อนดูแลแทนได้" "ทุกคนต่างก็อยากทำยอดค่ะ" "อยากทำยอดก็ส่วนหนึ่ง น้ำใจในการทำงานก็อีกส่วนหนึ่ง" รินรดารู้แล้วว่าจะจัดการยังไงกับงานแรกของเธอ "ฉันขอตัวก่อนนะคะ" หลังจากที่รินรดาเดินไปแล้วน้ำหวานก็เบะปากมองบน คงคิดว่าตัวเองเก่งนักหนาสิท่า "เป็นยังไงบ้างพี่น้ำตาล" เพื่อนของน้ำตาลที่รอเผือกอยู่ก็รีบเข้ามาถาม "จะเป็นยังไงล่ะ ก็งั้นๆ แหละ ทำงานสู้ฉันก็ไม่ได้" ข้าวปุ้นที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ก็ไม่ชอบใจมากที่พนักงานใหม่เข้าไปคุยกับน้ำตาล เพราะใครก็รู้ว่าแม่นี่แพรวพราวมาก แต่ก็ต้องให้อลิสเอาตัวรอดเองเพราะช่วยมาถึงขนาดนี้แล้ว จนถึงเวลาเลิกงานทุกคนก็ทยอยกลับบ้าน "คุณหนูยังไม่กลับอีกเหรอคะ แล้วนี่คุณหนูมองอะไรอยู่คะ" "เธอเห็นรถคันนั้นไหม" "คันไหนคะ" "คันที่วิ่งออกไป" "รถหรูขนาดนั้นคงเป็นของลูกค้ามั้งคะ" "ไม่ใช่หรอก คนที่ขับคือพนักงานใหม่" "อะไรนะคะ?" และนี่มันก็ยิ่งเป็นการยืนยันสิ่งที่ทรงอัปสรคิดอยู่ ผู้หญิงที่ชื่อรินรดาคงเป็นเด็กของไอ้มาเฟียนั่นแน่ [คอนโด] กลับมาถึงคอนโดทรงอัปสรก็มองไปรอบๆ เผื่อว่าพวกนั้นจะออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว ตอนขึ้นลิฟต์เธอก็ต้องระวัง จนประตูลิฟต์เปิดออกเธอก็ยังคงระวังตัว แต่โชคดีที่รอบข้างเงียบสงัด ก่อนหน้าเธอไม่ต้องระวังตัวแบบนี้ หรือจะหาที่อยู่ใหม่ดี แต่ที่พักใกล้ๆ ก็หายาก ถ้าไม่งั้นเธอคงไม่มาพักคอนโดพี่ชายหรอก เข้าในห้องได้ทรงอัปสรถึงรู้สึกปลอดภัย จะบาปไหมเนี่ยที่แอบบนบานให้ไอ้เลวนั่นนอนโรงพยาบาลนานๆ บ่ายคล้อยของวันนั้น.. นอนหลับยาวเลยมาตื่นอีกทีก็ตอนที่รู้สึกหิวข้าว ถ้าเป็นโรคกระเพาะคงไม่แปลกหรอกกินข้าวไม่เป็นเวลาเอาสะเลย หญิงสาวตื่นมาแล้วก็ไปเปิดตู้เย็นดูว่าพอจะมีอะไรให้ทำทานบ้าง พอเปิดแล้วก็เซ็งๆ การใช้ชีวิตคนเดียวมันน่าเบื่อจริงๆ นะ แต่ถ้าหาผู้ชายดีๆ มาเป็นคู่ครองไม่ได้เธอขออยู่คนเดียวแบบนี้ดีกว่า ทรงอัปสรกลับเข้าไปในห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเตรียมออกไปทำงานเลย คิดว่าจะไปหาอะไรทานระหว่างทางไปทำงานดีกว่า แกร็ก.. จังหวะที่เปิดประตูก็นึกถึงคำพูดของข้าวปุ้นได้ เธอเลยค่อยๆ แง้มประตูออกไปก่อน และมันก็ทำให้ทรงอัปสรตกใจจนรีบปิดประตู กึก! พอเสียงประตูห้องข้างๆ ปิดลงคนที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้องนี้ก็หันไปมอง แต่เขาก็มองเพียงแค่ครู่แล้วก็หันมาเปิดประตูห้องของตัวเอง พอเข้ามาในห้องได้ดวงตาที่ทำเป็นไม่รู้อะไรอยู่เมื่อครู่ก็ฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา.. 🖊ชะนีติดมันส์ @มัดหมี่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD