นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 7
"แล้วเรื่องนั้นได้เรื่องไหมคะ"
"เรื่องอะไร"
"เรื่องของอลิสไงคะ"
ถ้าข้าวปุ้นไม่พูดทรงอัปสรคงลืมไปแล้วเพราะมัวแต่โมโห ..แต่ถ้าพูดพรุ่งนี้เขาจะยอมฟังไหมเล่นงานเขาหนักขนาดนั้น พอคิดถึงเรื่องนั้นก็รู้สึกขยะแขยงอีก ไม่คิดว่าจะต้องมาเสียจูบให้คนที่เธอรังเกียจ
หลังจากที่เห็นว่าคุณหนูปลอดภัยแล้วข้าวปุ้นเลยขอตัวกลับไปทำงาน และไม่ลืมเน้นย้ำว่าคืนนี้ห้ามออกจากห้อง เวลาจะออกจากห้องต้องดูให้ดีด้วยว่าห้องข้างๆ ออกมาพร้อมกันไหม
สายๆ ของวันต่อมา..
ตื่นนอนมาสิ่งแรกที่ทำคือเดินไปดูใบหน้าตัวเองในกระจก เห็นริมฝีปากที่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ทรงอัปสรก็รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาอีกครั้ง
ช่วงกลางวันถ้าไม่ได้ออกไปช้อปปิ้งเธอก็จะหาอะไรทานในห้อง เพราะซื้ออาหารสดมาใส่ตู้เย็นไว้ทำทานเองอยู่ต่างประเทศเธอก็ทำแบบนี้
ค่ำวันนั้นที่ Nreṣ̄wr Club
ทรงอัปสรยืนมองป้ายชื่อที่เพิ่งถูกเปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ถ้ารู้ว่าพี่ชายจะอายุสั้นเธอคงกลับมาอยู่ใกล้ๆ พี่ตั้งแต่เรียนจบแล้ว ถ้าป้ายสถานบันเทิงแห่งนี้กลับมาเป็นชื่อพี่ชายได้อีกครั้งก็คงจะดี
ในเมื่อทุกอย่างมันเอากลับคืนมาไม่ได้ เธอก็คงต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด สิ่งแรกที่เธอต้องทำคือดันอลิสให้ขึ้นเป็นหัวหน้าให้ได้
หญิงสาวหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปด้านใน
"คุณหนูคะ..เอ่อ..คุณอัปสรคะ" เห็นสายตาคุณหนูมองแบบตำหนิข้าวปุ้นเลยเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อ
"ว่าไง"
"คนที่จะรับตำแหน่งหัวหน้ามาแล้วค่ะ"
"ตอนนี้อยู่ไหน"
"ให้รออยู่ในห้องประชุมค่ะ" นอกจากจะเป็นห้องประชุมแล้วยังเป็นห้องรับรองด้วย
"แล้วไอ้บ้านั่นมันมาหรือยัง"
"ไอ้บ้าไหนคะ..อ๋อยังไม่มาเลยค่ะ"
มันยังไม่เข้ามาก็ดีเหมือนกันจะได้จัดการอะไรง่ายๆ หน่อย ทรงอัปสรเดินตรงไปที่ห้องประชุม พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นภาณุกำลังคุยงานกับหัวหน้าคนใหม่อยู่
"คุณอัปสร" ภาณุขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่อเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามา
"คนนี้เหรอที่จะมาเป็นหัวหน้า"
"สวัสดีค่ะ"
"ชื่ออะไร" ทรงอัปสรถามชื่อโดยที่ไม่ได้รับไหว้
"ชื่อรินรดาค่ะ"
"เรียนจบอะไรมา"
"ปริญญาด้านบริหารค่ะ"
"มีประสบการณ์มาหรือยัง"
"เอ่อ..ยังค่ะ"
ได้ยินคำตอบทรงอัปสรก็ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเริ่มแผน
"ฉันเป็นหุ้นส่วนที่นี่ ในเมื่อเธอยังไม่มีประสบการณ์ฉันจะให้เธอฝึกงานเป็นหัวหน้าคู่กับพนักงานอีกคน"
"อะไรนะครับ" ภาณุได้รับคำสั่งให้แนะนำงานกับหัวหน้าคนใหม่ แต่ไม่เห็นเจ้านายพูดเรื่องนี้เลย
"นายของคุณคงยังไม่ได้บอกว่าฉันคุยกับเขาแล้ว"
"คุยแล้วเหรอครับ"
"ว่าแต่ตอนนี้เจ้านายของคุณอยู่ไหน"
"แอดมิดอยู่โรงพยาบาลครับ" พูดไปแล้วถึงนึกได้ว่าถูกกำชับห้ามพูดเรื่องนี้ แต่ทำไมเวลาผู้หญิงคนนี้ถามอะไรเขาถึงชอบเผลอปากพูดออกมาตลอดเลย หรือเพราะความสวยของเธอ
ทรงอัปสรอยากจะขำเพราะเธอพอจะรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงเข้าโรงพยาบาล แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้
ผ่านไปสักพักข้าวปุ้นก็ตามอลิสเข้ามาในห้อง
"รู้จักกันไว้สิคนนี้ชื่ออลิสเป็นพนักงานที่ฉันอยากให้รับตำแหน่งนี้" ทรงอัปสรพูดโดยไม่ปิดบังเผื่ออีกฝ่ายจะได้พิจารณาตัวเอง
"สวัสดีค่ะคุณอลิส ฉันชื่อรินรดาค่ะ หรือว่าจะเรียกรดาก็ได้ค่ะ"
"ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหรอกค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"
ทรงอัปสรแปลกใจในท่าทีของผู้หญิงคนนี้เพราะดูนิ่งมาก แววตาก็ไม่ส่อแววอะไรออกมาให้เห็นเลย
"ฉันจะให้พวกเธอฝึกงานเป็นหัวหน้า 3 เดือน ถ้าใครมีผลงานเป็นที่ต้องตาของผู้บริหาร คนนั้นจะได้รับตำแหน่งหัวหน้า และอีกคนถ้ายังอยากจะทำงานต่อก็จะให้เป็นรองหัวหน้า"
"ค่ะ" รินรดาตอบตกลงโดยที่ไม่ได้ทักท้วงเลย อลิสก็เลยตอบตกลงตาม
หลังจากที่คุยธุระเสร็จทรงอัปสรก็ออกมาจากห้อง ปล่อยให้ภาณุและข้าวปุ้นเป็นคนจัดการต่อ เพราะทั้งสองถือว่าเป็นผู้ช่วยของผู้บริหาร
"เพิ่งเรียนจบงั้นเหรอ อย่าบอกนะว่าเป็นเด็กของมันอีกคน" แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ดูมีมารยาทกว่าผู้หญิงคนเมื่อคืน แถมสวยกว่าด้วย หรือว่าคนนี้จะเป็นคนใหม่ ..แล้วทำไมเราต้องมาคิดเรื่องไอ้บ้านั่นให้ปวดหัวด้วยวะ
"นอนโรงพยาบาลงั้นเหรอ..หึหึสมน้ำหน้า" ขณะที่นึกขำก็รู้สึกขยะแขยงจนเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดเข่าตรงที่เธอใช้กระแทกจุดยุทธศาสตร์ของมัน "ตายๆ ไปได้ยิ่งดี"
ผ่านไปสักพักเรื่องนี้ก็ถึงหูนเรศวรที่แอดมิดอยู่โรงพยาบาล
"เอาไงต่อดีครับนาย"
"จะเอาไงต่อล่ะ รอกูออกจากโรงพยาบาลก่อนเถอะจะเอาคืนให้สาสมเลย"
🖊ชะนีติดมันส์ @มัดหมี