บทนำ
“แม่จ๋า อย่าขายหนูเลยนะจ๊ะ ฮือๆ ฟ้าไม่อยากไป ฟ้าอยากอยู่กับแม่ ฮือๆ แม่จ๋า ฟ้ากลัว”
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กน้อยวัยเก้าขวบพร่ำอ้อนวอนทั้งน้ำตาขอร้องไม่ให้มารดาเลี้ยงขายตนให้กับมาดามหลี่ สาวใหญ่จากฮ่องกง เจ้าของสถานบริการผับบาร์สุดหรู แหล่งโปรดปรานของนักท่องราตรีที่ต่างดาหน้ากันเข้ามาเพื่อปลดปล่อยความเหนื่อยล้า โดยเฉพาะบรรดาแขกเหรื่อกระเป๋าหนัก ภายใต้ชื่อ ‘ฟังกี้บาร์’ ที่มีสาวสวยหุ่นดีมากหน้าหลายตาจากทั้งจากฮ่องกงและประเทศเพื่อนบ้านสมัครใจมาคอยต้อนรับ โดยที่เบื้องลึกเบื้องหลังของฟังกี้บาร์จะมีคนรู้ก็ต่อเมื่อได้ย่างกรายเข้าไปสัมผัสเองเท่านั้น ถึงจะได้รู้ว่ามันสวรรค์หรือนรกกันแน่
และเป็นประจำทุกครึ่งปีที่มาดามหลี่ต้องเดินทางมาพักผ่อนที่เมืองไทยทว่าจุดประสงค์หลักของสาวใหญ่ คือมองหาเด็กสาวชาวไทยเพื่อเอาไปอุปการะเลี้ยงดู เพราะชื่นชอบความอ่อนหวานและมารยาทดีของหญิงไทย หลังจากมาดามหลี่ได้รับอุปการะเด็กไทยไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน จนโด่งดังและดึงดูดให้นักท่องราตรีเข้าไปใช้บริการฟังกี้บาร์กันแน่นขนัด
มาดามหลี่ยิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กสาววัยเก้าขวบหน้าตาจิ้มลิ้ม ขณะที่หนูน้อยยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดแขนมารดาเลี้ยงไม่ยอมปล่อย เพราะไม่อยากจากคนที่ชุบเลี้ยงตนไป และถึงแม้จะถูกเลี้ยงแบบทิ้งขวางแต่หนูน้อยก็ขออยู่กับมารดาเลี้ยงดีกว่าที่จะไปอยู่กับคนแปลกหน้า ใบหน้ามนเล็กน่ารักเปื้อนคราบน้ำตาส่ายสะบัดศีรษะไปมาอย่างน่าสงสาร มาดามหลี่ชักสีหน้าไม่พอใจไปยังมารดาของหนูน้อย ขณะสองมือเหี่ยวย่นตามกาลเวลาก็ยื่นไปกุมมือเล็กๆ ของ เด็กสาวไว้
“หนู ไปอยู่กับมาดามเถอะนะ รู้ไหมว่าที่ฮ่องกงมีสถานที่สวยๆ เยอะแยะเลยนะ มีอาหารอร่อยๆ แล้วก็มีเพื่อนๆ อีกหลายคนรอหนูอยู่ที่นั่นด้วย หนูไปอยู่กับมาดามนะจ๊ะ เด็กดี”
สาวใหญ่พยายามโน้มน้าวเด็กน้อยที่ร้องไห้กระจองอแงแล้วหันมองมารดาเลี้ยงของเด็กสาวด้วยความไม่ชอบใจและเริ่มเบื่อหน่ายเด็กสาวคนนี้หลังจากเคยจ้างวานสาวไทยวัยกลางคนคนนี้หาเด็กให้ก็ไม่เคยมีปัญหาสักครั้ง แต่ครั้งนี้เด็กกลับดื้อด้านเกินทน ขืนให้พาไปทั้งยังร้องไห้คงได้เกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่
“สุรีย์! ไหนบอกว่าเด็กมันเต็มใจ แล้วทำไม ถึงร้องไห้น่ารำคาญแบบนี้! จะเอายังไง เงินก็เบิกล่วงหน้าไปแล้ว คิดจะหามาใช้คืนได้ไหม”
หลังจากหงุดหงิดเพราะเด็กหญิงน้ำฟ้า ธนบุตร ลูกติดสามีของนางสุรีย์ นายหน้าค้าผู้หญิงที่ติดการพนันอย่างหนักตามเข้ามายังห้องพักได้ มาดามหลี่ก็ตะคอกใส่ด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว
“เอ่อ...คือ มะ...มาดามคะ ฉันขอโทษคะ นังน้ำฟ้า มันยังไม่รู้ตัวเลย ฉันก็ยุ่งๆ อยู่น่ะ เลยยังไม่ได้บอก แต่ว่ามาดามไม่ต้องไปสนใจมันหรอก เอามันไปได้เลย อิฉันก็ขี้เกียจเลี้ยงมันเหมือนกัน” นางสุรีย์รีบบอก เพราะเงินมัดจำที่มาดามหลี่ให้มาสามหมื่นบาทหายวับไปกับวงพนัน
“พูดง่ายดีนี่สุรีย์ ฉันต้องนั่งเครื่องกลับนะ แล้วก็ไม่ได้มีเครื่องบินส่วนตัวด้วย แล้วถ้าเอาเด็กไป เกิดมันร้องไห้แหกปากลั่นคิดบ้างไหมว่าฉันจะทำยังไง
“ฮะ! ” สาวใหญ่หันไปตวาดใส่ เพราะเด็กทุกคนที่ได้ไปต้องเต็มใจเท่านั้น ซึ่งทุกครั้งในการรับเด็กไปเลี้ยง มาดามหลี่ใช้ให้คนทำเอกสารรับอุปการะเด็กซึ่งก็ต้องใช้เงินมากพอควร ในแต่ละครั้งเพื่อป้องกันการถูกตำรวจจับและที่ผ่านๆ มางานก็ง่ายทุกครั้ง ยกเว้นเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้
“ถ้าเช่นนั้น รอให้ฉันเลี้ยงมันให้โตกว่านี้หน่อย แล้วค่อยมารับมันจะได้หรือเปล่าล่ะคะ มาดาม” คนอยากขายลูกเลี้ยงไปให้ไกล ก็ต่อรองเพราะถึงมาดามหลี่ไม่เอา นางก็จะเอาไปขายคนอื่น แถมยังได้เงินมากกว่าเสียอีก
“ฮึ! ” มาดามหลี่ครางลึกในลำคอ หันมองหญิงวัยไม่ต่างกันเท่าไหร่ด้วยหางตา เสียดายเงินที่จ่ายไปแต่ก็ดีกว่าพาเอาไปแล้วเสี่ยงให้ถูกจับได้ คราวนี้คงได้พังพินาศกันทั้งกระบวนการแน่
“งั้นก็ได้ รอให้เด็กอายุครบ 18 ปี ก่อนแล้วฉันจะมารับ แล้วอย่าให้เด็กมีแฟนเด็ดขาด จำเอาไว้เด็กของฉันต้องบริสุทธิ์ผุดผ่องเท่านั้น ไม่งั้นถ้ารู้ว่าเธอหลอกฉัน เธอไม่ได้ตายดีแน่สุรีย์” มาดามหลี่พูดขึ้นแล้วออกปากไล่และมิวายที่จะข่มขู่นางสุรีย์ไปด้วย หากคิดจะขายเด็กคนนี้ให้กับคนอื่น ก่อนหันเรียกให้เด็กหนุ่มให้เข้ามานวดให้ ในระหว่างเด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ กำลังนวดและปลุกเร้าอยู่นั้นสาวใหญ่ก็หวนให้คิดถึงใบหน้าของเด็กสาวที่ชื่อน้ำฟ้า มุมปากเผยยิ้มนิดๆ ด้วยความมั่นใจ หากเด็กคนนั้นโตขึ้งคงสวย และอ่อนหวานมากและหนทางได้เงินเป็นกอบเป็นกำอยู่แค่เอื้อมเท่านั้น หากเด็กคนนี้อายุครบสิบแปดปีตามที่ต้องการ
ภายในซอกซอยสลัมของกรุงเทพฯ นางสุรีย์กำลังใช้ไม้กระหน่ำตีลูกเลี้ยงที่ทำให้ตนต้องมารับภาระเลี้ยงอีกหลายปี เด็กน้อยวัยเก้าขวบนั่งร้องไห้ประนมมืออ้อนวอนทั้งน้ำตาอย่างน่าเวทนา
“แม่จ๋า อย่าตีฟ้าเลยนะ ฟ้าเจ็บแล้วจ้ะแม่ ฮือๆ”
“เจ็บใช่ไหม ฮะ! แล้วทำไมแกไม่ไปอยู่กับอีนังมาดามหลี่โน่นเล่านังน้ำฟ้า แล้วแกรู้ไหมว่า แกทำให้ฉันไม่ได้เงินน่ะ ทีนี่ฉันจะเอาอะไรกินนังน้ำฟ้า น้ำหน้าอย่างแกจะมีปัญญาเลี้ยงฉันได้ไหม ฮะ! นังเด็กเนรคุณ” นางสุรีย์ตะคอกใส่หลังจากกระหน่ำตีลูกเลี้ยงจนเนื้อแตกเป็นริ้วๆ
“ฟ้าไม่อยากไปจ้ะแม่ ฟ้าอยากอยู่กับแม่นี่จ๊ะ” เด็กน้อยพร่ำบอกทั้งน้ำตาปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว
“แต่ฉันไม่อยากให้แกอยู่ด้วย รู้ไหม ฮะ! เพราะแกนั่นแหละที่ทำให้ผัวฉันตาย นังลูกเลี้ยงทรพี”
นางสุรีย์ตวาดใส่ลูกเลี้ยง โดยไม่ได้นึกย้อนไปถึงตัวเองว่าก่อนหน้านั้นฐานะของเด็กน้อยที่น่าสงสารก็ถือว่าพอร่ำรวย แต่เมื่อนายไพโรจน์ซึ่งเป็นบิดาได้แอบไปมีสัมพันธ์กับนักร้องในผับก็คือสุรีย์ แล้วพาเข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้มารดาของน้ำฟ้าตรอมใจจนล้มป่วยและจากไป และสุรีย์ก็เริ่มเข้ามาวางอำนาจและเอาทรัพย์สมบัติไปเผาผลาญปรนเปรอผู้ชายหนุ่มๆ ในผับบาร์จนเกิดปากเสียงกับ นายไพโรจน์และเผลอผลักนายไพโรจน์ตกบันไดเสียชีวิต แค่เพียงไม่นานเงินทองที่เก็บสะสมและบ้านก็หายไปในชั่วพริบตา เพราะสุรีย์หลงมัวเมาเด็กหนุ่มจึงประเคนทุกอย่างให้จนหมดเนื้อหมดตัว เมื่อสิ้นเนื้อประดาก็ระหกระเหินพาลูกเลี้ยงวัยห้าขวบมาอยู่ในสลัม น้ำฟ้ามีโอกาสเข้าโรงเรียนใกล้บ้านแต่ก็ไปๆ ขาดๆ เพราะต้องอยู่ดูแลมารดาเลี้ยงที่ดื่มเหล้าเมามายได้ทุกวัน
“แม่จ๋า แม่ให้ฟ้าอยู่ด้วยนะจ๊ะ” เด็กน้อยวัยเก้าขวบคลานเข้าไปเกาะ แข้งขาของมารดาเลี้ยง เพราะกลัวถูกขาย แต่กลับถูกมารดาเลี้ยงผลักออก เพราะเบื่อและเหนื่อยที่จะต้องทนรับภาระเลี้ยงดูเด็กที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตน แต่ภายในใจลึกๆที่ไม่อยากให้ลูกเลี้ยงอยู่กับตนต่อไปก็เพราะกลัวชีวิตของลูกเลี้ยงต้องตกต่ำลงเรื่อยๆ และคงหนีไม่พ้นถูกไอ้พวกคนเลวในสลัมรังแก แม้จะมีสามัญสำนึกว่าสิ่งที่กระทำอยู่ผิด แต่นางสุรีย์ก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอดของชีวิต จึงจำเป็นต้องผลักไสลูกเลี้ยงออกไปมีชีวิตและครอบครัวใหม่
“ยังไงฉันก็จะขายแกนังน้ำฟ้า อยู่ไปก็เป็นภาระให้ฉันเปล่าๆ” นางสุรีย์ตะคอกใส่ลูกเลี้ยงด้วยน้ำตาคลอ แล้วรีบไปคว้ากระปุกออมสินของเด็กน้อยมาทุบเอาเงินไปซื้อเหล้า
น้ำฟ้าพยายามร้องห้ามเสียงสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร แต่ไม่อาจรั้งมารดาเลี้ยงไว้ได้ เพราะทุกครั้งที่มารดาเลี้ยงเกิดอาการเมามายก็มักเดินออกไปอาละวาดกลางถนน จนเป็นที่เอือมระอาแก่ผู้คนแถวๆนั้น และวันนี้ก็เช่นกันที่น้ำฟ้าวิ่งเข้าไปร้องห้ามมารดาเลี้ยงไม่ให้เดินออกไปกลางถนน แต่ทว่าเด็กน้อยกลับเห็นร่างของมารดาเลี้ยงลอยละลิ่วกลางอากาศแล้วร่วงหล่นอยู่ลงตรงหน้าพร้อมเลือดสีแดงฉานไหลเจิ่งนองริมฟุตบาท เมื่อนางสุรีย์ถูกรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าชน น้ำฟ้ายืนช็อกได้ไม่นานก็สิ้นสติและทรุดลงข้างศพของมารดาเลี้ยง