เธอ..เปรียบเสมือนสินค้าข้างถนน ที่ใครๆ ต่างนำเธอออกมาเร่ขายเพื่อแลกเงิน
เขา..เปรียบเสมือนเทพบุตรแสนดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอให้พ้นขุมนรก
แต่เธอกลับไม่รู้ว่า ‘เขา’ อาจจะเป็นยิ่งกว่าขุมนรกที่เธอกำลังปีนป่ายออกมา
“ถอดเสื้อผ้าออกสิ ผมอยากดูตัวคุณว่ามันมีอะไรที่พอจะคุ้มกับเงินห้าแสนเหรียญที่เสียไปหรือไม่ แล้วที่สำคัญ อย่างคุณนี่ยังมีความสาวหลงเหลืออยู่อีกหรือยาหยี” ชายหนุ่มออกคำสั่ง และวาจาตอนท้ายมันช่างดูแคลนเธออย่าง ร้ายกาจนัก ก่อนจะหันไปคว้าเครื่องดื่มขึ้นดื่มอย่างใจเย็น ทั้งๆ ที่ร่างกายของเขากำลังลุกเป็นไฟ
“ฮึ! ว่าไง ยังมีอยู่จริงมั้ย” เสียงทุ้มห้าวย้ำ
น้ำฟ้าเงยหน้ามองเขาแล้วยิ่งทำให้ตัวเธอสั่น เมื่อสบเข้ากับแววตาเหยียดหยาม ใช่สินะ! ผู้หญิงที่ถูกเอามาเร่ขายอย่างเธอ มันคงไม่มีคุณค่าหลงเหลือให้ใครต่อใครได้เห็นอีกแล้ว
“มีค่ะ” น้ำฟ้าตอบกลับเสียงเย็น ตาหวานหลับพริ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะอันน่าเกลียดจากเขา พร้อมกับคำสั่งให้เธอรีบลงมือถอดเสื้อออก สองมือเล็กค่อยๆ รูดสายเส้นเล็กของชุดราตรีทั้งสองข้างออก แล้วค้างคาไว้บนท่อนแขนเรียวอย่างยากที่จะให้มันหลุดลุ่ยลงมากองที่เอว หรือให้มันหลุดไปกองแทบพื้น
“เร็วสิ!” เขาสั่งเมื่อได้เห็นเนินอกอวบที่โผล่พ้นจากชุดราตรี จางเหวิน กลืนน้ำลายลงคอกับความงดงามและอวบอูมของทรวงอก ที่เพียงแค่ได้เห็นเขาก็รู้ว่ามันยังคงตึงแน่นและคงเต็มไม้เต็มมือหากได้สัมผัส ความร้อนรุ่มในกายเริ่มไหลวนลงสู่กลางร่างมากขึ้น...มากขึ้น อย่างที่ไม่เคยร้อนรุ่มเพราะใครง่ายๆ
“น้ำฟ้า ฉันต้องการเห็นเธอ.....ทั้งหมด” จางเหวินออกคำสั่งเสียงแหบพร่าและเฝ้ารอให้แม่สินค้าเปลือยกายให้เห็นหมดทั้งตัว แล้วเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะต้องได้ค่าตอบแทนให้สมกับเงินที่เสียไปจะแค่ครั้งเดียวหรือไม่นั่น เขาจะเป็นผู้ตัดสินเอง ไม่ใช่เธอ น้ำฟ้า!!
“คะ....คุณ คือ....ฉะ...ฉัน” เพราะความอับอาย ทำให้น้ำฟ้าอยากวอนขอให้เขาปล่อยเธอไปโดยไม่แตะต้องร่างกาย ซึ่งความคาดหวังคงเป็นศูนย์อย่างแน่นอนทว่าเธอก็อยากอ้อนวอนเขาสักครั้ง
“อย่ามาต่อรองอะไรอีกน้ำฟ้า ถอด!” สิ้นคำสั่งของเขา น้ำฟ้าหลับตาพริ้มแล้วรูดชุดราตรีให้หลุดมากองอยู่บนเอวคอดด้วยมือสั่นเทา รู้สึกอากาศที่รายล้อมตัวเธอคล้ายจะหายไปเสียดื้อๆ