อีกด้านหนึ่ง...
-วิลล์-
“มึงมองเขาทำไมวะ ไหนบอกไม่ได้ชอบ” เสียงงัวเงียที่ดังออกมาจากผู้ชายที่ดื่มเหล้าได้แค่สองแก้วแล้วเมาอย่างพี่วาโยดังขึ้น มันทำให้ผมหันขวับมามองด้วยความไม่พอใจ
“แค่มองไม่ได้แปลว่าชอบสักหน่อย เมาแล้วก็นอนไป”
“เหรอ หึ มองนั่นแหละเขาเรียกว่าชอบ”
“ไร้สาระ” ชอบเหรอ เธอไม่ใช่สเป็กผมสักหน่อย ก็แค่มองว่าเธอจะตกเป็นของเฮียพอตลูกพี่ผมหรือเปล่า
“ขอโทรศัพท์หน่อย” ผมถอนหายใจออกมาเมื่อพี่ผมอีกคนที่นั่งเป็นหมาหงอยอยู่เอ่ยขอโทรศัพท์ผม ก่อนที่ผมจะยื่นให้
“ที่นู่นคงเที่ยงคืน พี่ไม่ควรโทรไปหาพายนะ” แม้ผมจะพูดออกไปแบบนั้นแต่พี่เหนือก็ไม่สน ดึงโทรศัพท์ออกจากมือผมแล้วลุกขึ้นเดินหนีไปโทรคุยกับแฟนเก่า
โดยปล่อยให้ผมนั่งกับคนเมาหนึ่งคน พอไม่มีคนคุยด้วยมันก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เฮียพอตเตอร์ที่กำลังนั่งเต๊าะพิ้งค์พราวอยู่ ดูท่าเธอจะชอบและพร้อมพลีกายให้มาก ผมไม่เคยเห็นเฮียพอตพลาดสักครั้ง อีกหน่อยคงควงแขนกันออกไปค้างโรงแรม
แล้วมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม ผมควรหยุดมอง ใช่ มันควรเป็นแบบนั้น คิดได้ดังนั้นผมก็เลยลุกขึ้นเพื่อไปดูดบุหรี่ แปลกใจใช่ไหมที่คนแบบผมจะดูดบุหรี่ด้วย ก็ดูพี่ผมแต่ละคนสิ ดี ๆ ทั้งนั้น
วันนี้เป็นคืนวันเสาร์ ปกติผมไม่มาร้านแบบนี้หรอก แต่เป็นเพราะว่าพี่เหนือกำลังอกหักอย่างหนักทำให้พวกผมต้องพาออกมาข้างนอกแบบนี้บ่อย ๆ ไม่งั้นอาจกลายเป็นซึมเศร้าได้
แต่บังเอิญเหลือเกินที่เจอเธอคนนั้น เห็นหน้าแล้วหงุดหงิด แต่พอพูดถึงทีไรพวกพี่ผมก็แซวว่าผมชอบ อยากจะบ้าตาย ไม่เคยพูดถึงใครเพราะเกลียดหรือไง ผมไม่ถึงขั้นเกลียดหรอก ก็แค่ไม่ชอบ ไม่ชอบที่เธอใช้อภิสิทธิ์ความเป็นดาราไม่มาเรียน และทิ้งงานให้คนอื่นทำคนเดียว มันดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย
ตอนนี้ผมยืนดูดบุหรี่อยู่หลังร้าน ผมเกลียดรสชาติของบุหรี่ แต่มันกลับทำให้ผมเคลิ้มได้ และขณะที่ผมยืนดูดบุหรี่อยู่นั้น
“สวัสดีค่ะ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นมันทำให้ผมดึงแท่งบุหรี่ออกจากปาก และมองเธอ
“มาคนเดียวเหรอคะ”
“_”
“มองขนาดนี้ฉันก็เขินน่ะสิ” ผมหัวเราะออกมาเบา ๆ กับสิ่งที่เธอคนนี้พูดหลังจากที่ผมไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า จริง ๆ มาสถานที่แบบนี้มันเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ที่เราจะเจออะไรแบบนี้
“ขาย?”
“เปล่านะคะ ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น ฉันแต่งตัวเหมือนขายตัวหรือไง!” หลังจากที่ผมพูดจบเธอก็แว้ดเสียงขึ้นมาทันที มันทำให้ผมพยักหน้าเข้าใจเล็กน้อย
“ถ้าไม่ขายก็ไม่ต้องมาคุยกับผม” ผมไม่ชอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนไหน แม้จะเป็นแค่ความสัมพันธ์ฉาบฉวยที่มีแค่ตอนกลางคืน จากนั้นตอนเช้าก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เหอะ หมายความว่าคุณชอบซื้อ?”
“_” ผมไม่ตอบอะไร จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ผิด ผมเห็นมาเยอะผ่านเฮียพอต เฮียพอตแม่งชอบทำเหี้ยเอาความรู้สึกของผู้หญิงมาเล่น หลอกนิดหลอกหน่อยหลอกฟันแล้วก็เสร็จ ส่วนผมชอบความสัมพันธ์เชิงการค้ามากกว่าแม้จะเสี่ยงหน่อย ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะป้องกันไม่ได้
“งั้น...สำหรับฉันให้เท่าไรคะ”
“หึ” ผมแค่นหัวเราะออกมาให้กับคำพูดของเธอ ผมเคยมองคนผิดซะที่ไหน ที่พูดเมื่อกี้คงกำลังเกร็งค่าตัว เธอสวยใช้ได้ แต่เรื่องเงินมันไม่เข้าใครออกใคร จะขายตัวก็ไม่แปลก
“แล้วแต่คุณจะเรียก”
“ว้าว ดีจังค่ะ”
“_”
“แล้วให้ฉัน เอ่อ...ไปรอที่ไหนคะ”
“หน้าร้าน เดี๋ยวผมออกไป” เธอพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ส่วนผมก็ยืนดูดยาให้หมดมวน หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในร้านเหล้าอีกครั้งเพื่อบอกพี่ผม
แต่แล้ว
“บ้าชิบ...” ผมสบถออกมาเมื่อเห็นว่าเฮียพอตกำลังทำอะไร ร่างหนากำลังช้อนร่างบางของพิ้งค์พราวขึ้นแนบอก ซึ่งการกระทำแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกแปลก ๆ ผมไม่ได้ชอบเธอก็จริง แต่เป็นเพราะอะไรไม่รู้มันทำให้ผมก้าวขาออกไปหาเฮียพอต ผมว่าผมไม่ควรให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
พรึ่บ!
ผมเดินไปขวางเฮียพอตไว้เมื่อเฮียกำลังอุ้มพิ้งค์พราวออกจากร้านเหล้า ก่อนที่เฮียจะหยุดเดิน และพูดขึ้น
“ปิดจ๊อบ กูไปละ”
“ทำไมเธอ...ถึงอยู่ในสภาพนี้” ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นใบหน้าของพิ้งค์พราวแดงก่ำเหมือนกำลังเมาอย่างหนัก ร่างของเธอเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง
“ก็เมาไง”
“อย่าบอกนะว่ามอมเหล้า แล้วเฮียจะพาเธอไปไหน”
“ไปเอาไง มึงถามอะไรเนี่ย กูหนัก”
“เฮียไม่เคยมอมเหล้าผู้หญิงไม่ใช่หรือไง”
“ก็มอมอยู่นี่ไง ใครบอกให้แม่งเล่นตัว”
“เหี้ย... เฮียทำแบบนี้มันไม่ผิดเหรอวะ”
“ผิดแล้วไง ใครแคร์”
“_”
“หรือมึงแคร์...” ผมกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเจอคำถามที่ตอบไม่ได้ ผมไม่ได้สนใจเธอก็จริง แต่การทำแบบนี้มันเป็นเรื่องผิด นอกจากชอบเอาความรู้สึกผู้หญิงมาเล่นแล้ว เฮียผมโคตรเหี้ยที่ทำแบบนี้
“ถ้าไม่แคร์มึงก็ขยับไปดิวะ ฝากบวกพวกมันด้วยว่ากูไปก่อน” ผมมองใบหน้าของเธอที่หลับตาพริ้มพร้อมกับใบหน้าที่แนบอยู่กับอกเฮียพอต จริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมเลย ไม่ใช่เลยสักนิด..
“ไอ้เหี้ยวิลล์ มึงไม่ได้ยินที่กูพูดหรือไง ยืนทำหล่ออยู่ได้”
“_” ผมค่อย ๆ ก้าวขาออกไปทางด้านข้างเมื่อน้ำเสียงของเฮียเหมือนคนกำลังจะทนไม่ไหว ผมค่อนข้างเคารพพี่ผมทุกคนนะ เพราะเราโตมาด้วยกัน และพ่อแม่ของพวกเราก็เป็นเพื่อนกันอีก แต่ผม...
“แล้วถ้าบอกว่าผมแคร์ล่ะ...” ผมเอ่ยพูดขึ้นขณะที่เฮียพอตกำลังอุ้มเธอคนนี้เดินผ่านหน้าผมไป
กึก!
“หึ มึงชอบเธอ?”
“เปล่า...” ผมตอบโดยไม่ต้องคิด ใครมันจะไปชอบคนที่เจอกันได้แค่วันเดียว แถมเจอเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก
“ถ้าไม่ชอบมึงก็ไม่จำเป็นต้องแคร์เหี้ยอะไร”
“_” ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเฮียแม่งวกเข้าแต่เรื่องเดิม ๆ เหมือนจะจี้ให้ผมตอบว่าชอบเธอคนนี้ แล้วผมจะตอบออกไปได้ยังไง เพราะผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอคนนี้เลย
“เฮีย...ผมไม่ได้ชอบเธอหรอก แต่อย่าทำแบบนี้จะดีกว่า”
“หึ มึงกำลังขอกู?”
“ก็มันไม่ถูกต้อง”
“มึงเห็นกูเป็นคนดีหรือไง”
“ก็ไม่ใช่ แต่...”
“เออ ๆ กูยอมมึงก็ได้ มึงพูดซะนรกถามหากู มาเอาไปสิ”
“เอาอะไร”
“มึงจะให้เธอนอนอยู่นี่?” ผมขมวดคิ้วให้สิ่งที่ได้ยินก่อนจะมองหน้าพิ้งค์พราวอีกครั้ง ผมควรปล่อยให้เธอนอนที่นี่นั่นแหละถูกแล้ว หรือว่ามันจะแย่กว่าที่เฮียพอตจะเอาไปวะ ผมคิดสับสนอยู่ในใจ แต่แล้ว
“ขยับเข้ามาดิวะ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่สบอารมรณ์ของเฮีย ทำให้ผมเดินเข้าไปช้อนเอาตัวเธอออกจากลำแขนของเฮียพอต
“ไปส่งเธอด้วย...น่ารำคาญเสือกมีน้องเป็นคนดี” ผมไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค้อุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน ขณะที่เฮียพอตก็เดินกลับเข้าไปหาพี่วาโย กับพี่เหนือที่นั่งกอดขวดเหล้าอยู่ ก่อนที่ผมจะก้มหน้าลงมองใบหน้าแดง ๆ ของเธอคนนี้อีกครั้ง พอเห็นแบบนี้แล้วมันก็อดที่จะด่าไม่ได้
“ยัยบ๊อง เกือบถูกฟันแล้วไหมล่ะ”