ตอนที่ 2 สามพยัคฆ์แดนมังกร/2

2451 Words
สนามบินนานาชาติต้าชิง บริเวณผู้โดยสารขาออก สนามบินปักกิ่ง ต้าซิง (Beijing Daxing International Airport) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 700,000 ตารางเมตร หรือเทียบเท่าสนามฟุตบอลมาตรฐานโอลิมปิก เกือบ 100 สนาม มีรันเวย์ทั้งหมด 7 รันเวย์ ช่วยรองรับปริมาณเครื่องบินได้ 620,000 เที่ยว ต่อปี สนามบินแห่งใหม่นี้ ถูกออกแบบตามท่าทางสยายปีกของนกฟีนิกซ์ จากฝีมือสถาปนิกหญิงผู้ล่วงลับอย่าง Zaha Hadid แต่ด้วยรูปทรงอาคาร 5 แฉก คล้ายปลาดาว สื่อจีนจึงเรียกขานกันว่า “สนามบินปลาดาว” ส่วนภายในอาคารผู้โดยสารนั้น มีการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น การเช็คอินด้วยตนเอง การเช็คอินสัมภาระด้วยตนเอง การใช้ระบบสแกนใบหน้า เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย รวมถึงอุปกรณ์ระบุตัวตนด้วยคลื่นวิทยุ เพื่อติดตามสัมภาระของผู้โดยสารได้อย่างเรียลไทม์ผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ นั่นหมายความว่า ผู้โดยสารไม่ต้องใช้เอกสารใด ๆ ตลอดกระบวนการ ตั้งแต่เช็คอินไปจนถึงขึ้นเครื่อง และผู้โดยสารสามารถเดินทางจากใจกลางนครหลวงปักกิ่ง สู่ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ต้าซิง ด้วยรถไฟความเร็วสูง (Daxing Airport Express) ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยความเร็วรถไฟ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นการย่นระยะเวลาการเดินทางอันยาวนานเหลือเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น ร่างระหงของไป๋หลันฮวาบุตรสาวของหัวหน้าแก๊งมาเฟียไป๋โหย่งอี้ เจ้าพ่อใหญ่คุมแก๊งสามพยัคฆ์แดนมังกรหรืออีกชื่อในทางสากลนั่นก็คือ Chinese Triad เป็นองค์กรมาเฟียลับอยู่ในญี่ปุ่น ฮ่องกงและจีน เป็นหนึ่งในแก๊งมาเฟียใหญ่ซึ่งทางการสหรัฐขึ้นบัญชีเอาไว้ ด้วยแก๊งมาเฟียนี้รับจ้างพาคนผิดกฎหมายเดินทางเข้าสหรัฐ ไม่ต่ำกว่าปีละ 1 แสนคน นอกจากนี้ มาเฟียจีนแก๊งนี้ยังถนัดการพิมพ์ธนบัตรปลอมอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลงานการก๊อปเกรดเออันลือชื่อแนบเนียนและยากที่จะจับได้ จึงทำให้ธนบัตรปลอมระบาดเข้าประเทศสหรัฐเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังค้ายาเสพติด ฟอกเงิน ลอบวางเพลิง ฆาตกรรมและการค้ามนุษย์ ร่างระหงดังกล่าวกำลังเดินออกมาจากประตูขาออกของผู้โดยสาร ใบหน้ารูปไข่สวมแว่นกันแดดสีดำทะมึนรับกับชุดสูทสากลสีดำสนิทเข้ารูปและกางเกงยีนสีดำสวมรองเท้าบูทสั้นสีดำ กำลังเดินตรงมาหาชายฉกรรจ์ร่างสันทัดซึ่งสวมสูทสากลสุดเนี๊ยบมายืนรอเธออยู่ในขณะนี้ และทันทีที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายคนดังกล่าวนามว่าหวังเหล่ย “มาเร็วกว่าที่คิดไว้อีกนะแก ไม่คาดคิดว่าจะมีเที่ยวบินมาจากญี่ปุ่นช่วงเช้าเพราะเท่าที่เช็คดูแล้วที่นั่งเต็มทุกไฟท์เลยทีเดียวไม่ใช่เหรอ” ใบหน้าภายใต้แว่นกันแดดยกยิ้มออกมาเล็กน้อยครั้นได้ยินเช่นนั้น “ก็ไม่มีอะไรมากแค่ให้พรรคพวกหาตั๋วเครื่องบินมาปักกิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ มีเพื่อนดีก็แบบนี้แหละ แล้วพ่อเป็นอย่างไงบ้างเตรียมงานไปถึงไหนแล้ว” “งานศพของนายใหญ่จัดเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว เสียแต่ว่าคุณนายรองแม่เลี้ยงของแกเข้ามาวุ่นวายตลอด มิหนำซ้ำยังอ้างสิทธิในการเป็นภรรยาเข้ามาก้าวก่ายทุกอย่าง แม่นั่นอ้างว่าในฐานะภรรยาและแม่ของคุณชายใหญ่เริ่นเจินที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าของแก๊งสามพยัคฆ์ต่อไป”หวังเหล่ยรีบฟ้องทันที หญิงสาวแสยะยิ้มเหยียดตรงมุมปากออกมาทันใดครั้นได้ยินเช่นนั้น “มันก็น่าจะทำให้คนแบบเยี่ยนหรานคิดเช่นนั้นอยู่หรอก ก็พ่อเล่นไม่ยอมบอกว่าใครจะขึ้นมาคุมแก๊งต่อไป เป็นใครก็ต้องคิดว่าไป๋เริ่นเจินลูกชายเพียงคนเดียวของไป๋โหย่งอี้ หัวหน้าแก๊งสามพยัคฆ์จะต้องขึ้นคุมแทน” “อั่ยยะหลันฮวา ไอ้คนขี้โรคแบบนั้นสามวันดีสี่วันไข้จะขึ้นมาคุมแก๊งของเราที่มีคนมากมายตั้งหลายหมื่นคนแบบนั้นได้อย่างไง มันไม่ใช่เฉพาะในญี่ปุ่นและฮ่องกงแต่ยังในจีนอีกที่เป็นสมาชิกในแก๊ง ลำพังในญี่ปุ่นและฮ่องกงสนับสนุนแกให้ขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง จะต้องไปกลัวทางเซี่ยงไฮ้ทำไมกันวะ”หวังเหล่ยเอ่ยแย้งขึ้นมา “แล้วนายคิดว่าสมาชิกในแก๊งของทางเซี่ยงไฮ้จะยอมรับฉันอย่างนั้นเหรอ อย่าลืมสิว่าฉันเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ แสนจะบอบบางในสายตาของสมาชิกแก๊งทางนั้น พวกเขาไม่ได้คิดว่าฉันเป็นลูกสาวแท้ๆ ของพ่อเลยนะ”เธอตอบกลับไปพลางก้าวเดินนำหน้าออกไปจากบริเวณดังกล่าว “แต่ทุกวันนี้แกก็คุมแก๊งให้นายใหญ่ทางญี่ปุ่นมาโดยตลอด ไม่ว่าอะไรก็จัดการแทนหมดทุกอย่างนับตั้งแต่บินไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นมิหนำซ้ำตั้งแต่ไปอยู่ที่นั่นนอกจากจะคอยดูแลแก๊งทางนั้นให้แล้ว จากรายได้ที่ต่ำสุดกลับมาอยู่ในอันดับสูงสุดขนาดในฮ่องกงหรือแม้แต่ทางเซี่ยงไฮ้ยังสู้ไม่ได้เลย เพียงเท่านี้ไม่สามารถยืนยันได้อีกอย่างนั้นเหรอว่าแกมีคุณสมบัติเหมาะที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง” “ก็นั่นเป็นความคิดของนายเองเท่านั้น แก๊งทางเซี่ยงไฮ้จะคิดแบบนั้นด้วยหรือเปล่าเล่า! อีกอย่างที่รายได้ทางญี่ปุ่นสูงสุดกว่าฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้เพราะฉันมีนโยบายประนีประนอมกับคู่ค้าด้วยกัน นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบความรุนแรง อีกอย่างความคิดที่จะมาเป็นหัวหน้าแก๊งไม่เคยมีอยู่ในหัวฉันเลยนะเว้ย”หญิงสาวตอบกลับไปเสียงสูงพร้อมหันไปจ้องใบหน้าลูกน้องคนสนิทของพ่อเธอเขม็ง จนทำให้อีกฝ่ายต้องสงบปากสงบคำลงโดยพลัน “มีแต่แกนั้นแหละที่รู้สึกแบบนั้น นี่ถ้าเริ่นเจินมันรู้ละก็คงดีใจตายชัก ที่หมดคู่แข่งไม่มีใครมาแย่งตำแหน่งหัวหน้าใหญ่สามพยัคฆ์แดนมังกร”หวังเหล่ยบ่นพึมพำออกมาทันที “จะมาเป็นทุกข์เป็นร้อนแทนฉันทำไมกัน นี่ก็คิดเอาไว้ว่าวันที่จะประกาศแต่งตั้งหัวหน้าคุมแก๊งสามพยัคฆ์ฉันจะขอถอนตัวไม่เข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มาจากทางญี่ปุ่น คราวนี้ก็เหลือแค่นายกับเริ่นเจินที่สมาชิกพรรคต้องตัดสินใจ” “แต่คนที่ฉันยอมก้มหัวให้เป็นหัวหน้าใหญ่แก๊งสามพยัคฆ์มีแต่แกเท่านั้นนะเสี่ยวหลันฮวา ในเมื่อเป็นลูกสาวแท้ๆ ของหัวหน้าทำไมไม่สืบทอดเจตนารมณ์ต่อไป แกจะยอมให้เริ่นเจินที่ไม่ได้มีสายเลือดของหัวหน้าขึ้นมาคุมแก๊งแทนอย่างนั้นเหรอวะ” และนั่นทำให้ไป๋หลันฮวาถึงกับยืนนิ่งงันไปชั่วขณะทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เฮ้อ!!! เธอถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง “ฉันไม่อยากเดินตามรอยพ่อ! ไม่อยากเป็นมาเฟียหรือยากูซ่าหรือจะเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่อะไรทั้งนั้น! อยากเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยู่อย่างสงบๆ ไม่ต้องคอยถูกทางการตามล่าหมายหัวหรือถูกออกประกาศหมายจับไปทั่วโลก นายเห็นชีวิตของพ่อฉันไหม ต้องเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ตลอดเวลาถ้าไม่ใช่คู่อริตรงกันข้ามก็เป็นคนของรัฐบาลเชิญตัวไปกว่าจะกลับออกมาได้ บอกตรงๆ ไม่อยากเป็นแบบนั้นวะ”หญิงสาวพูดออกไปตามความรู้สึกของเธอ ถ้อยเจรจาดังกล่าวทำให้หวังเหล่ยหัวหน้าแก๊งทางฮ่องกงยืนนิ่งฟังอย่างเงียบๆ เมื่อสิ่งที่เธอพูดล้วนเป็นความจริงทุกอย่าง ก่อนจะได้ยินเสียงไป๋หลันฮวาเอ่ยขึ้นมาอีกครา “เอาเป็นว่าเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ ค่อยว่ากันตามสถานการณ์ต่อไปเพราะยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นและเรารออยู่” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันทีครั้นได้ยินเพื่อนร่วมแก๊งกล่าวออกมาเช่นนั้น “หมายความว่าอย่างไง แกคิดว่าเริ่นเจินจะเล่นไม่ซื่อเหรอ”ชายหนุ่มถามกลับไป “นายเชื่อเถอะว่าฉันจะต้องถูกไอ้พี่ใหญ่บ้าอำนาจนั้นรับน้องแน่ๆ ทันทีที่เหยียบถึงเซี่ยงไฮ้ ท่าทีขี้โรคแต่เนื้อแท้ไม่ใช่ขี้ๆ เลยนะจะบอกให้ คุณชายใหญ่ที่เคยขี้โรคไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้แล้ว ถึงฉันจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องการสืบทอดตำแหน่งต่อจากพ่อแต่ก็สอดรู้สอดเห็นจนรู้ความเคลื่อนไหวทุกเรื่องนะเว้ย และฉันก็เชื่อว่าที่พ่อจากไปกะทันหันมันไม่ใช่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างสุดวิสัย”หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ ห๊ะ! เสียงลูกน้องคนสนิทของอดีตหัวหน้าแก๊งเอ่ยออกมา “นี่แกกำลังหมายความว่า อุบัติเหตุรถคว่ำจนทำให้นายใหญ่เสียชีวิตไม่ใช่เหตุสุดวิสัยอย่างนั้นเหรอ”หวังเหล่ยถามกลับไปเพื่อความมั่นใจ “นายติดตามพ่อฉันมานานแล้วไม่ใช่เหรอ ย่อมรู้ดีกว่าใครเพื่อนว่าพ่อรอบคอบมากแค่ไหนเวลาขับขี่รถบนท้องถนน และคนที่ชอบความเร็วถึงขนาดนั้นไม่เคยมีประวัติขับรถชนสักครั้งเดียว แต่จู่ๆ กลับหลับในจนรถพลิกคว่ำทำให้ตัวเองตาย! มันไม่ใช่แน่นอน!ไม่ใช่แน่ๆ”หญิงสาวกล่าวลอดไรฟันออกมา และนั่นทำให้ลูกน้องคนสนิทของอดีตหัวหน้าแก๊งที่กำลังครุ่นคิดตามถึงกับตาสว่างขึ้นมาทันที “แกกำลังจะบอกว่าเริ่นเจินอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของนายใหญ่อย่างนั้นใช่ไหม” แทนการตอบรับมาเฟียสาวคนสวยพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกัน “ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่คือสิ่งที่ไป๋เริ่นเจินต้องการมากที่สุด แต่เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นลูกติดท้องไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อย่อมไม่มีสิทธิที่จะขึ้นมาคุมแก๊งนี้ได้ ถ้าอยากเป็นใหญ่ต้องกำจัดใครก่อนละถึงจะได้สิ่งที่ตัวเองหวัง”หญิงสาวกล่าวออกไป และนั่นทำให้ลูกน้องคนสนิทของอดีตหัวหน้าแก๊งยืนนิ่งงันไปชั่วขณะครั้นได้ยินเช่นนั้น “นี่แกรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าแท้จริงแล้วเริ่นเจินไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของนายใหญ่”หวังเหล่ยเอ่ยถามกลับไป “แล้วนายคิดว่าเริ่นเจินจะรู้หรือเปล่าว่านายรู้ความลับของเขา”หญิงสาวกล่าวพร้อมใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าอกลูกน้องคนสนิทของพ่อเธอ “คิดว่าไม่นะเพราะฉันอยู่ดูแลแก๊งทางฮ่องกง ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับแก๊งทางเซี่ยงไฮ้แต่ก็แปลกใจที่นายใหญ่กลับบอกเรื่องความลับนี้ให้ฟังเมื่อสองปีที่แล้ว” และนั่นทำให้หญิงสาวยิ้มออกมาบางๆ ครั้นได้ยินเช่นนั้น “ฉันก็ได้ยินจากปากของพ่อบอกเรื่องนี้เมื่อสองปีก่อนตอนฉันจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นเช่นกัน และพ่อให้เหตุผลว่าที่เอ่ยความลับนี้ให้รู้เพราะถ้าหากพ่อจากไปอย่างกะทันหัน คนที่คุมแก๊งทั้งสามประเทศจะต้องล่วงรู้ดีว่าสมควรให้ใครขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งแทน ตามคุณสมบัติของการสืบทอดทางสายเลือด หรือคุณสมบัติที่มาจากการยอมรับจากสมาชิกในแก๊ง” “และนี้คือสาเหตุว่าทำไมช่วงสามปีหลังนายใหญ่จึงไปคุมแก๊งที่เซี่ยงไฮ้ด้วยตัวเอง แล้วปล่อยให้พวกเราสองคนคุมแก๊งที่ฮ่องกงและญี่ปุ่น นั่นเป็นเพราะเจ้าเริ่นเจินต้องการฮุบแก๊งทางเซี่ยงไฮ้เอาไว้ทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ”เสียงของลูกน้องคนสนิทเอ่ยแทรกขึ้น ไป๋หลันฮวายิ้มออกมาบางๆ เมื่อลูกน้องเก่าของพ่อเธอคาดการณ์ออกมาได้ดั่งที่เธอคิด พลางเชิดหน้าขึ้นสูงพร้อมสูดลมหายใจเข้าปอดจนลึก “รีบเดินทางต่อกันเถอะ ต้องนั่งเครื่องไปลงที่เซี่ยงไฮ้อีกป่านนี้พี่ใหญ่กำมะลอและแม่ของเขากำลังรอฉันให้ไปเคารพศพพ่ออย่างใจจดใจจ่อจะแย่แล้ว”หญิงสาวกล่าวพร้อมเดินนำหน้าไปยังทิศทางซึ่งจะต้องเข้าไปยังเกตเพื่อนั่งเครื่องไปลงที่เมืองเซี่ยงไฮ้ “ดะ..เดี๋ยว..เดี๋ยวหลันฮวา!ถ้าพวกเราไปที่เซี่ยงไฮ้แบบนี้จะไม่เข้าแผนของเริ่นเจินอย่างนั้นเหรอ”หวังเหล่ยเอ่ยถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “แน่นอน!”เธอกล่าวพร้อมหยักไหล่ไหวไปมาพร้อมเอ่ยตอบกลับไป “เฮ้ย! ทำไมแกพูดแบบนั้นละวะ”หวังเหล่ยโวยวายออกมาทันใด “ถ้านายกลัวตายมากก็ไม่ต้องไป!ฉันไปเองเว้ย!”หญิงสาวพูดตัดบทพร้อมเดินนำหน้าอาดๆ ไปแต่เพียงลำพัง ท่ามกลางเสียงร้องเรียกคนทางด้านหลัง “โธ่...หลันฮวานี่จริงจังนะ!กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน!จะบินไปทั้งๆ ที่ไม่เตรียมรับมืออะไรเลยอย่างนั้นเหรอ ในเมื่อหัวหน้าแก๊งของญี่ปุ่นและฮ่องกงเดินทางมาถึงเซี่ยงไฮ้พร้อมกันแบบนี้ เท่ากับว่าไปติดกับเริ่นเจินที่กำลังขุดล่อเอาไว้ชัดๆ ตายนะเว้ยตาย! เข้าใจคำว่าตายไหมวะ!!!” “เออ!เข้าใจว่าไปแล้วถ้าไม่ตายก็รอดมีแค่สองอย่างเท่านั้นละ..จะโวยวายไปทำไมก็รู้ทั้งรู้อยู่เต็มอก”เธอตอบกลับไปอย่างไม่ยี่หระเลยสักนิด “เอ้า!นี่ตอบง่ายๆ แบบนี้นะเหรอ..ถามจริงเถอะ ใจลึกๆ กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”หวังเหล่ยคาดคั้นเอาคำตอบด้วยความสงสัยในท่าทีดังกล่าวของหญิงสาว “ฉันก็แค่อยากจะรู้ว่าเริ่นเจินจะใช้แผนอะไรกำจัดเราสองคนที่เป็นหัวหน้าแก๊งคุมฮ่องกงกับญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้นะสิ เล่นตามน้ำไปก่อน แต่ใครจะบ้าจี้ตายตามแผนของมันกันเล่า ส่วนจะวางแผนซ้อนอย่างไงต่อไปเดี๋ยวจะบอก แต่ตอนนี้นายสั่งลูกน้องในฮ่องกงและไต้หวันเดินทางไปที่เซี่ยงไฮ้แล้วใช่ไหม หวังเหล่ยพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันพร้อมเอ่ยตอบกลับไป “อือ! ลูกน้องเพียบ!อุ่นใจได้เลย” ไป๋หลันฮวายกยิ้มออกมาบางๆ ด้วยความพอใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ถ้าเช่นนั้นเราก็ไปต่อกันได้แล้ว”หญิงสาวกล่าวพร้อมเดินนำหน้าออกไป ทันใดนั้นเอง โครม!!!! จู่ๆ ประหนึ่งราวกับว่ามีสิ่งใดพุ่งชนร่างระหงของหญิงสาวเข้าให้อย่างจัง จนเธอล้มลงไปกับพื้นพร้อมกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ด้านหลังกระเด็นออกไปไกล ท่ามกลางสายตาของเพื่อนสนิท “หลันฮวา!!!”หวังเหล่ยร้องเรียกชื่อเพื่อนสาวออกมาทันใด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD