ตอนที่ 1 สามพยัคฆ์แดนมังกร/1

3080 Words
            เสียงครึกครื้นของผู้คนเต็มไปด้วยความยินดีกันอย่างถ้วนหน้า กลิ่นหอมโรยรื่นจากมวลดอกไม้นานาพรรณ ส่งกลิ่นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ คบไฟถูกจุดให้มีแสงสว่างไปโดยรอบและภายในประดับด้วยโคมไฟมากมายไปทุกจุดประหนึ่งว่ากำลังมีงานมงคลถูกจัดขึ้นในค่ำคืนนี้            ภายในห้องขนาดใหญ่ประดับด้วยขนมและผลไม้มงคลมากมาย วางอยู่บนโต๊ะ ทั่วห้องข้าวของทุกอย่างล้วนเป็นสีแดงด้วยกันทั้งสิ้น ในขณะที่บนเตียงนอนปรากฏหญิงสาวนางหนึ่งนั่งอยู่เพียงลำพัง โฉมสะคราญสวมชุดเจ้าสาวสีขาวพร้อมถือพัดปิดบังใบหน้าเอาไว้ นางกำลังรอเจ้าบ่าวเข้ามาภายในห้องหอเพื่อร่วมคืนหฤหรรษ์ด้วยกัน            โคมไฟในห้องหอเริ่มหรี่ลงอย่างช้าๆ พร้อมความมืดมิดเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ จนทำให้เจ้าสาวในชุดขาวเริ่มขยับกายไปมาพร้อมวางพัดที่กำลังถืออยู่ในมือลง            “แสงจากโคมไฟกำลังมอดดับลงแล้วหรือนี่ เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดแล้วหนอ”เจ้าสาวรำพึงออกมาเบาๆ พร้อมลุกขึ้นยืนพลางก้าวตรงไปยังโคมไฟที่ถูกจุดเอาไว้ทันที            แท่งเทียนอันใหม่ถูกนำมาจุดแทนที่ของเดิม ทันทีที่เทียนแท่งใหม่ถูกจุดขึ้นกลิ่นหอมจากไฟที่ลุกติดพร้อมให้แสงสว่างไปทั่วห้องกลับคืนมาอีกครั้ง มาพร้อมกลิ่นหอมประหลาดที่พวยพุ่งออกมาจากแท่งเทียนอันนั้น            “หอมจัง! แปลกจริงเชียวทำไมเทียนแท่งนี้จึงมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วห้องแบบนี้นะ”เจ้าสาวโฉมงามรำพึงออกมาเบาๆ พลางหันหลังก้าวเดินกลับไปยังเตียงนอนตามเดิม            แปะ! โลหิตสีแดงฉานหยดลงบนพื้นห้องทันที เป็นเหตุให้ร่างระหงของเจ้าสาวหยุดชะงักงันไปโดยพลัน            “เลือด!เลือดจากที่ไหนจึงได้หยดลงบนพื้นเช่นนี้”เจ้าสาวโฉมสะคราญกล่าวออกมาด้วยความแปลกใจ            แปะ!แปะ! โลหิตหยดลงบนพื้นอีกครั้งและครานี้หยาดโลหิตสีแดงสดตกกระทบตัวชุดเจ้าสาวจนเปรอะเปื้อนไปหมด พร้อมมือเรียวสวยยกขึ้นจับบนใบหน้าเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำไหลออกทางดวงตาของนาง พลางใช้นิ้วเรียวแตะหยาดน้ำดังกล่าวที่กำลังไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายอยู่ในขณะนั้น            “เลือด!”เจ้าสาวโฉมสะคราญกล่าวออกมาด้วยความตกใจสุดขีด            เมื่อหยาดน้ำที่ไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างของเธอในขณะนี้เป็นโลหิตที่ไหลออกจากตัวของนางนั้นเอง และทั่วดวงหน้างามในยามนี้ โลหิตแดงฉานกำลังหลั่งไหลทะลักออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง หู จมูกและปากจนมีแต่เลือดเต็มไปหมด ด้วยผลของพิษร้ายแรงที่ได้รับเข้าไปอย่างไม่รู้ตัวจนเปิดจุดทวารทั้ง 7 ทันที ร่างงามยืนโงนเงนไปมาก่อนจะทรุดฮวบลงไปกับพื้นทันที                ตุบ!!! ร่างเจ้าสาวในชุดขาวล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งยืนขาดใจตายไปโดยพลัน ในสภาพดวงตาเบิกกว้าง ทั่วทั้งดวงหน้างามเต็มไปด้วยหยาดโลหิตไหลนอง นางสิ้นใจตายไปโดยไม่รู้ตัว และมิรู้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใดที่ลงมืออย่างเลือดเย็นกับเจ้าสาวตัวเล็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อย            ทว่ากลับต้องมาสังเวยชีวิตของตนในคืนวันแต่งงานและในขณะที่นางกำลังเข้าหอเสียด้วย โดยที่เจ้าบ่าวก็มิล่วงรู้เลยว่าเจ้าสาวของตนในขณะนี้สิ้นชีพอยู่ภายในห้องหอดังกล่าวไปเสียแล้ว นางจากไปอย่างไม่มีวันกลับและมิอาจหวนคืนมาได้อีกเลย            ภายในห้องหอดังกล่าวมีเพียงร่างอันไร้วิญญาณของเจ้าสาวนอนนิ่งตาเบิกค้างเอาไว้อยู่เช่นนั้น ก่อนจะปรากฏเงาเลือนรางของดวงวิญญาณเจ้าสาวกำลังยืนมองร่างของนางด้วยความงุนงง            “นะ...นี่...นี่ข้า...ข้าตายแล้วอย่างนั้นเหรอ...ไม่จริงใช่ไหม..ไม่จริงใช่ไหม”ดวงวิญญาณกล่าวออกมาด้วยความตกใจสุดขีด            กรี๊ดดดดด!!!! เสียงกรีดร้องของดวงวิญญาณเจ้าสาวผู้อาภัพดังโหยหวนขึ้นมาทันทีในโลกของคนตาย            “ท่านแม่ทัพช่วยข้าด้วย! ท่านพี่ช่วยข้าด้วย! ข้ายังไม่อยากตาย..ข้ายังไม่อยากตาย!!!!            โปรดติดตาม นางครวญรอรักพันปี เล่มจบ เร็วๆ นี้            “อัยยะ! อะไรกันวะเนี่ย...จบแบบนี้อย่างนั้นเหรอ! โอ๊ยตาย! ปัดโธ่เว้ยนึกว่าเล่มเดียวจบ..ใครบอกให้ซื้อมาแค่นี้! ฉันบอกให้พวกแกซื้อมาให้ครบจบทุกภาคและทุกเล่มไม่ใช่เหรอ!!!”เสียงโวยวายอย่างไม่สบอารมณ์ของหญิงสาวนางหนึ่ง พร้อมหันกลับไปมองร่างชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะกวาดสายตาไปหยุดที่คนหัวแถว            “อาหัว!”หญิงสาวเรียกชื่อลูกน้องของเธอดังก้อง            เฮือก!!! ร่างสันทัดสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อเสียงเรียกชื่อของตนดังออกมาจากปากของหญิงสาวนางนั้น            “ฉันให้ไปรับหนังสือที่สั่งซื้อนางครวญรอรักพันปี มาให้หมดทุกเล่มไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมมีแค่ 9 เล่ม เล่มจบหายไปไหน!”เสียงตวาดเอ็ดอึงดังไปทั่วห้อง เล่นเอาคนถูกถามขนลุกขนพองไปตามๆ กัน            “โธ่! หัวหน้า...อาหัวพยายามไปเข้าแถวซื้อนิยายชุดนี้มาให้ตั้งแต่ตี 5 พอร้านเปิดก็รีบเข้าไปรับหนังสือที่สั่งเอาไว้ตามคำสั่งทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย ลูกค้าที่สั่งซื้อจะได้เหมือนหัวหน้าหมดทุกคน เพราะเล่มจบกำลังตีพิมพ์อยู่ยังไม่เสร็จเลยครับ” ลูกน้องนามว่าอาหัวรายงานหัวหน้าของตนซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวนามว่าไป๋หลันฮวาของเจ้าพ่อไป๋โหย่งอี้ เจ้าพ่อใหญ่ผู้ที่มีอิทธิพลสูงสุดคุมแก๊งสามพยัคฆ์แดนมังกรจากแผ่นดินจีน “อะไรนะ! มีแบบนี้ด้ว นิยายเรื่องนี้ทางญี่ปุ่นซื้อลิขสิทธิ์จากหวังอีโหม่วมาขอตีพิมพ์ในประเทศนี้แล้ว อีกอย่างเรื่องนี้ก็เขียนจบแล้วด้วย ทำไมถึงไม่จัดพิมพ์แบบรวดเดียวจบด้วยว้า มันจะขยักเล่มจบเอาไว้หาทำพระแสงดาบคาบแก้วเพื่ออะไรกัน!เดี๋ยวแม่บุกไปยิงทิ้งทั้งสำนักพิมพ์เลยให้ตายสิ!”มาเฟียสาวเจ้าอารมณ์สบถออกมาเป็นการใหญ่ “หัวหน้าก็ใจเย็นหน่อยเถอะครับ..ได้ยินข่าวว่าทางญี่ปุ่นพอได้ลิขสิทธิ์มาก็เร่งตีพิมพ์แบบหามรุ่งหามค่ำกันเลยทีเดียวเห็นว่าตีพิมพ์ทั้งแบบภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่นเลยนะครับ ว่าแต่ทำไมหัวหน้าถึงติดนิยายเรื่องนี้นักละ เรื่องอื่นๆ ไม่เห็นว่าจะติดมากมายถึงขนาดนี้เลย..นี่ถ้าอ่านตำราเรียนได้เหมือนอ่านนิยายหัวหน้าใหญ่ดีใจตายเลย”อาหัวถามกลับไปด้วยความอยากรู้ และจากคำถามดังกล่าวทำให้ดวงตาคู่สวยของเจ้านายสาวซึ่งเพิ่งจะมีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้นถลึงออกมาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าทันที เจ้านายคนสวยคุณหนูไป๋หลันฮวาคนงามของแก๊งสามพยัคฆ์ ลูกสาวสุดรักสุดหวงของเจ้าพ่อจากจีนแผ่นดินใหญ่ถูกส่งมาเรียนต่อในระดับในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เรียนจบชั้นมัธยมจากฮ่องกง และไป๋หลันฮวามีหน้าที่ดูแลควบคุมแก๊งยากูซ่าซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกสามพยัคฆ์ให้กับพ่อของเธอไปพร้อมกัน “เรื่องของฉันเว้ย! จะอยากรู้ไปทำไมกัน...ก็อ่านนิยายแล้วมันสนุกและทำให้ลุ้นทุกตอนเลย ตรงกันข้ามกับตำราเรียนแค่หยิบก็ง่วงแล้ว! อีกอย่างที่อ่านก็เพราะว่าเขียนมาจากตำนานโบราณที่พาดพิงถึงสกุลไป๋ทางแผ่นดินจีนของฉันอย่างไงเล่า” ครั้นลูกน้องคนสนิทได้ยินเช่นนั้นถึงกับบางอ้อขึ้นมาทันใด “อ่อ..ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ทำไมหัวหน้าไม่อ่านตำนานโบราณนี้จากหอสมุดพงศาวดารจีนเลยละครับ มาอ่านแบบนิยายทำไมกัน ตำนานแม่ทัพไร้พ่ายของราชวงศ์โจวในสมัยโบราณ เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาเลยนะครับ มีทั้งด้านเรื่องการกอบกู้บัลลังก์คืนจากคนเป็นอา การสู้รบแย่งชิงเพื่อปกป้องดินแดน รวมไปถึงความรักแปลกประหลาดของแม่ทัพไร้พ่ายผู้นั้นด้วย”อาหัวอธิบายกลับไป และนั้นทำให้ไป๋หลันฮวาถึงกับนั่งมองหน้าลูกน้องคนสนิทเขม็งเลยทีเดียว “เฮ้ย!อาหัวนายก็รู้เรื่องตำนานแม่ทัพไร้พ่ายด้วยเหรอ ทำไมถึงไม่เล่าให้ฉันฟังปล่อยให้เสียเงินซื้อนิยายมานั่งอ่านทำไมตั้ง 9 เล่ม 10 เล่มแบบนี้กันห๊ะ!!!”หญิงสาวโวยวายกลับไปอีกคำรบ “อ๋อย!ก็หัวหน้าไม่ถามอาหัวก็เลยไม่รู้ อันที่จริงรายละเอียดของแม่ทัพผู้นี้ในพงศาวดารจีนเอ่ยถึงพอสมควร แต่จะเป็นเรื่องกลยุทธ์ในการทำศึกสงครามที่แปลกแหวกแนว และการชิงราชบัลลังก์ของพระองค์กลับคืน แต่ถ้าไปอ่านในตำนานโบราณละก็จะมีการกล่าวถึงเรื่องลับๆ ของท่านแม่ทัพหรือถ้าเรียกให้ถูกต้องก็คือ เรื่องนินทาที่คนสมัยนั้นเขาเล่าขานกันต่อๆ มาว่ากันว่าพี่แกจ๊าบมากเลยนะหัวหน้า”กล่าวพลางยกหัวแม่นิ้วโป้งชูขึ้นมาทันที “จ๊าบแบบไหน...เล่าให้ฟังหน่อยดิ”หญิงสาวรบเร้าลูกน้องคนสนิทก่อนจะได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมา “เออ..”จู่ๆ อาหัวก็ยืนนิ่งค้างไปเสียดื้อๆ อย่างมิรู้สาเหตุท่ามกลางความงงงันของนายหญิง “เอ้า! ยืนเซ่ออะไรอยู่เนี่ยไม่รู้หรือไงว่ากำลังตั้งใจฟังอยู่ เป็นอะไรอาหัวแกกวนประสาทฉันใช่ไหม!”เธอถามกลับอย่างเอาเรื่องเลยทีเดียว ในขณะที่อีกฝ่ายได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เออ...ปกติอาหัวจำตำนานเรื่องนี้ได้นะแต่ทำไมจู่ๆ ถึงลืมได้ก็ไม่รู้ นึกไม่ออกเสียขึ้นมาดื้อๆ เลยหัวหน้า”อาหัวตอบกลับไปตามความเป็นจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับตน “หา! อาหัว!แกตั้งใจกวนประสาทฉันนี่หว่า”ไป๋หลันฮวากล่าวพร้อมลุกขึ้นยืนเงื้อฝ่ามือขึ้นทันที ผัวะ!ผัวะ! ฝ่ามือพิฆาตสะบัดลงหัวเหม่งของลูกน้องคนสนิทด้วยความหมั่นไส้ “อมพะนำดีนักตบแม่งสักสองที คราวนี้นึกออกหรือยังห๊ะ!”หญิงสาวคำรามใส่ลูกน้องไม่เลิกรา ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นอยู่นอกห้องเป็นสัญญาณขออนุญาต ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมร่างอวบอิ่มของสตรีสาวนางหนึ่งก้าวเข้ามาภายใน พลางมองชายฉกรรจ์ที่มีถึงห้าคนอยู่ภายในห้องแต่งตัวของนักแสดงนำด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ “มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าคะคุณหลันฮวา เสียงเอะอะดังออกไปถึงข้างนอกเลย พวกเราได้ยินก็เลยรีบเข้ามาดูแล”หญิงสาวคนดังกล่าวเอ่ยถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง และนั้นทำให้แม่มาเฟียสาวต้องแปลงร่างกลายเป็นสตรีสาวทรงเสน่ห์ขึ้นมาโดยพลัน “อ่อ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีว่าผู้จัดการและทีมงานของหลันฮวาเถียงกันเรื่องคิวงานที่รับไว้ก็เท่านั้นเอง ว่าแต่จะลงมือถ่ายทำหรือยังคะ”หญิงสาวถามกลับไปด้วยความอยากรู้ ใบหน้าอวบอิ่มของผู้ช่วยกำกับแย้มยิ้มออกมาครั้นได้ยินเช่นนั้น “กำลังจะเข้ามาบอกเรื่องนี้พอดีเลยค่ะ อีกครึ่งชั่วโมงเตรียมตัวเข้าฉากได้เลยนะคะ ทางกองถ่ายเตรียมพร้อมลงมือถ่ายทำฉากสุดท้ายของเรื่องแล้ว” หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันเมื่อได้รับคำตอบดังกล่าวกลับมา “ถ่ายทำฉากนี้เสร็จก็ปิดกล้องแล้วละสิ หลันฮวาคงคิดถึงพวกคุณแย่เลย ร่วมงานกันตั้งห้าเดือน ไม่ได้เจอกันแล้ว”แม่มาเฟียสาวทรงเสน่ห์กล่าวออกมาเบาๆ “ใครบอกว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกละคะ ซีรีย์เรื่องต่อไปมีชื่อของคุณเป็นนักแสดงนำที่บริษัทฯ เพิ่งซื้อลิขสิทธิ์บทประพันธ์เรื่องดังมาจากคุณหวังอีโหม่ว ถ้าแคสติ้งนักแสดงผ่านก็คงจะลงมือถ่ายทำอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและสถานที่ถ่ายทำคือประเทศจีนทั้งเรื่องเลยละคะ” “จริงเหรอเนี่ย!ซีรีย์เรื่องต่อไปเป็นบทประพันธ์ของอาจารย์หวังอีโหม่ว อย่างนั้นเหรอคะ”หญิงสาวถามกลับไป ในขณะที่อีกฝ่ายพยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันเป็นการยืนยันคำพูดของเธอ ก่อนจะได้ยินแม่มาเฟียสาวในคราบดาราถามกลับมา “แล้วบทประพันธ์อะไรเหรอคะที่บริษัทได้ลิขสิทธิ์จากคุณหวัง”เธอถามกลับไปด้วยความอยากรู้ ผู้ช่วยวัยกลางคนฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นสาวสวยทรงเสน่ห์อยากรู้อยากเห็นเช่นนั้น “บริษัทของเราได้ลิขสิทธิ์บทประพันธ์ของอาจารย์หวัง เรื่องนางครวญรอรักพันปีค่ะ” และนั้นทำให้ไป๋หลันฮวาเบิกดวงตากลมโตขึ้นมาทันใดครั้นได้ยินชื่อบทประพันธ์ดังกล่าว “นางครวญรอรักพันปีอย่างนั้นเหรอคะ!!!”แม่สาวน้อยเอ่ยออกมาทันที ด้วยไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะมีรายชื่อเป็นหนึ่งในนักแสดงนำบทประพันธ์เรื่องดัง ที่มีการแปลหลายภาษาและตีพิมพ์วางขายในหลายประเทศ “ใช่แล้วค่ะ ส่วนจะแคสได้บทไหนไปก็ต้องอยู่ที่ฝีมือของนักแสดงแต่ละคนแล้วละค่ะว่าจะมีความสามารถช่วงชิงบทไหนไปได้”ผู้ช่วยผู้กำกับกล่าวพร้อมเหลือบสายตาไปทางโต๊ะกลางซึ่งมีหนังสือวางตั้งสูงอยู่หลายเล่ม เพียงแค่เห็นหน้าปกก็ล่วงรู้แล้วว่าเรื่องอะไร” “คุณหลันฮวาอ่านบทประพันธ์เรื่องนี้ของคุณหวังเสียด้วยเป็นแฟนหนังสือตัวยงเลยนะเนี่ย” ใบหน้าสวยเซ็กซี่ยกยิ้มออกมาเล็กน้อย “พอดีว่าเรื่องนี้อาจารย์หวังเขียนได้น่าติดตามและสนุกมาก ทิ้งปมทุกตอนอ่านแล้วเพิ่มรอยหยักในสมองให้คิดตามดีค่ะ อีกอย่างผีในเรื่องก็หลอนดีจริงๆ เลย”หญิงสาวตอบกลับไป “อ่อ..แล้วคุณหลันฮวาคิดว่าอยากจะเล่นบทไหนมากที่สุดคะ”ผู้ช่วยคนดังกล่าวถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “ก็ต้องเป็นผีฮูหยินท่านแม่ทัพสิคะ! ออกมาทุกฉากทุกตอน ทั้งดุทั้งเฮี้ยนตัวเดินเรื่องเลยนะนั่น”ไป๋หลันฮวาตอบกลับไปโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย “เข้าใจเลือกบทเด่นเสียด้วย คุณเลือกเล่นบทผีฮูหยินท่านแม่ทัพไร้พ่ายแทนที่จะเลือกบทนางเอกของเรื่อง ตาถึงมากเลยทีเดียว”ผู้ช่วยกำกับกล่าวชมตรงไปตรงมา “ก็...ก็คิดว่าตัวละครนี้มีสีสันและแสดงอารมณ์เยอะกว่าใคร ไม่ได้ตาถึงอะไรหรอกค่ะ” ใบหน้าอวบอิ่มยิ้มออกมาบางๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น “เอาละค่ะคุณหลันฮวาเตรียมตัวด้วยนะคะใกล้จะถึงเวลา เดี๋ยวพี่ขอตัวไปดูนักแสดงคนอื่นๆ ก่อน”กล่าวพร้อมส่งยิ้มให้พลางหันหลังกลับก้าวเดินออกจากห้องแต่งตัวของแม่มาเฟียสาวโดยมีสายตาของลูกน้องหนุ่มวัยฉกรรจ์ทั้งห้าในคราบทีมงานผู้จัดการส่วนตัวของหัวหน้าแก๊งของตน “โอโห่หัวหน้าตกลงจะรับเล่นซีรีย์เรื่องยาวจริงๆ อย่างนั้นเหรอครับ มันจะไม่เบียดบังเวลาในการทำงานของแก๊งเราไปจนหมดอย่างนั้นเหรอ”อาหัวแสดงความคิดเห็นของตนออกมาทันใด โป๊ก!!! หญิงสาวเขกศีรษะมันวาวลูกน้องคนสนิทลงไปอย่างแรง “เจ้าโง่เอ๊ย!”หญิงสาวเอ็ดลูกน้องของเธอกลับไปเสียงขรมเล่นเอาลูกน้องที่เหลือต่างพากันก้มหน้านิ่งทันที “วันๆ ฉันทำอะไรบ้างในแก๊ง นอกจากนั่งนับเงินที่ส่งมาแล้วก็หลบตำรวจ อีกอย่างอาชีพนี้ทำให้ฉันไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของพวกตำรวจสากล ไม่เคยมีใครล่วงรู้ว่าหัวหน้าแก๊งสามพยัคฆ์คุมญี่ปุ่นคือฉัน! รู้แต่ว่าเป็นผู้หญิงก็พอแล้ว จะได้ไปไหนมาไหนไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แต่กลายเป็นคนดังเข้ามาแทนที่มีแต่คนล้อมหน้าล้อมหลังแบบนี้สิหัวหน้าแกก็ปลอดภัยไม่ถูกพวกตำรวจก่อกวน ทีนี้เข้าใจกันหรือยัง!!!”หญิงสาวเอ็ดบรรดาลูกน้องลอดไรฟันออกมาเบาๆ ทันใดนั้นเอง “หัวหน้า!หัวหน้าครับหัวหน้า!!!”เสียงของลูกน้องวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาภายในห้องแต่งตัวของหญิงสาว “มีอะไร! โหวกเหวกโวยวายมาตั้งแต่หน้าประตูทำอย่างกับว่ามีใครตายอย่างนั้นแหละ!เบาๆ หน่อยไม่ได้หรือไงเดี๋ยวคนอื่นก็รู้หรอกว่าฉันเป็นอะไร!”เธอคำรามเสียงต่ำในลำคอกลับไป            คำกล่าวของหัวหน้าแก๊งสาววัยแรกรุ่น ทำให้ลูกน้องที่เพิ่งวิ่งมาบอกข่าวนั้นต้องรีบก้มหน้ามองพื้นทันใด พร้อมชี้ไปที่มือถือส่วนตัวของเธอ            “หัวหน้าปิดเครื่องอย่างนั้นเหรอครับ ตอนนี้มีข่าวด่วนจากทางเซี่ยงไฮ้ ทางนั้นติดต่อหัวหน้าไม่ได้ก็เลยโทรเข้ามาที่เบอร์ของผม รีบเปิดเครื่องเถอะครับเกิดเรื่องกับหัวหน้าใหญ่แล้ว”ลูกน้องคนดังกล่าวบอกกลับไป            “อะไรนะ!”หญิงสาวกล่าวออกมาได้เพียงแค่นั้นเธอหมุนตัวคว้างอย่างรวดเร็วพร้อมคว้าโทรศัพท์มือถือของเธอรีบเปิดเครื่องทันที            และทันทีที่ระบบมือถือพร้อมทำงานปลายนิ้วรีบกดหมายเลขปลายทางตรงไปที่เซี่ยงไฮ้ทันใด พลางยืนรอสายอย่างใจจดใจจ่อและทันทีที่ปลายสายรับ            “ฉันหลันฮวาพูดมีอะไร! เกิดเรื่องอะไรกับพ่อ!”เธอกรอกเสียงถามไปตามสายอย่างรวดเร็วก่อนจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายตอบกลับมา            “หัวหน้าใหญ่เสียชีวิตแล้วคุณหนู รีบกลับเซี่ยงไฮ้โดยด่วนเลยครับ”            “ห๊ะ!”เธออุทานออกมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น            ตุบ!!! โทรศัพท์มือถือหลุดร่วงลงจากมือของเธอโดยพลันครั้นได้ยินคำตอบจากปลายสายบอกกลับมา                “พ่อตายแล้วอย่างนั้นเหรอ!”ไป๋หลันฮวายืนพึมพำเสียงเบาด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน เมื่อหัวหน้าใหญ่ของแก๊งค์สามพยัคฆ์ไป๋โหย่งอี๋ บิดาของเธอเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD