วันต่อมา...
คอนโด SN
ตอนนี้ฉันกลับมาที่คอนโดของตัวเองแล้วหลังจากนอนกับหมอบิ๊กไซต์อีกคืนนึงและได้จับแค่มือจริง ๆ =_= รอบนี้เขาไม่ยอมจัดการให้ฉันนอนนิ่งด้วยการวางยานอนหลับใส่ฉัน! หลังจากที่กินข้าวเย็นไปฉันก็หลับเป็นตายจนเช้าอีกวันเลยละ โดยฉันก็ถามเขาว่าทำไมฉันง่วงจังเขาก็เฉลยอย่างหน้าตายว่าวางยานอนหลับฉัน เหอะ ๆ ต่อให้ไม่วางนาฉันก็นอนเฉย ๆ อยู่แล้วไม่ทำอะไรหรอกน่า ชิ!
“สวยเริ่ดเหมือนเดิม^^” ฉันส่องกระจกก่อนจะชมตัวเองพร้อมรอยยิ้ม ฉันเป็นแบบนี้เสมอก่อนจะออกจากบ้านเป็นการให้กำลังใขตัวเองก่อนจะออกไปทำอะไร ฉันแนะนำนะทุกคนเวลาจะทำอะไรให้ ๆ กำลังตัวเองเสมอบอกว่าตัวเองสวย ตัวเองเก่ง ก่อนจะให้คนอื่นชมเราต้องชมตัวเองก่อนและมีความมั่นใจเข้าไว้
หมับ! เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วฉันก็คว้ากุญแจรถออกมาเพื่อไปเรียน หมอบิ๊กไซต์ให้คนเอารถฉันกลับมาจากสนามแข่งรถของคุณเวหาแล้ว น่ารักมากกกก
Rrr
และขณะกำลังขับรถออกมาเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังและเมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์ขึ้นมาใจฉันก็ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย
“สะสวัสดีค่ะ”
(คุณซันนี่ตอนนี้คุณน้ำเพชรอาการทรุดลงรบกวนคุณซันนี่มาที่...) ติ๊ด!
บรื้นนนนนนนนนน!!!!
ฉันไม่รอให้ปลายสายพูดจบฉันเหยียบคันเร่งโดยไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้จะเร็วแค่ไหนหรือแซงใครบ้าง ผ่ากี่ไฟแดงใจฉันร้องรนไปหมดอย่างไปถึงที่นั่นโดยเร็ว ทำไมละ...ทำไมอาการถึงทรุดเมื่อไม่กี่วันก่อนยังดีอยู่เลย
“ฮึก! แม่คะ...แม่รอซันหน่อยนะ” ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะเหยียบคันเร่งแบบไม่กลัวตาย ตอนนี้ฉันไม่เหลือใครแล้วนอกจากแม่แล้วตอนนี้ท่านก็กำลังจากฉันไปอีกเหรอ?
“มะไม่นะ ฮึก! แม่ต้องอยู่กับซัน!!”
โรงพยาบาล SS
เอี๊ยดดดด!!
ปึก!! ฉันลงจากรถก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องพักของแม่ไม่สนใจว่าตอนนี้ตัวเองจะสวมรองเท้าอะไรทั้งนั้น เวลาแบบนี้คนเราทำได้ทุกอย่างนั้นแหละ
“ฮึก!!” ปัง!
“ 1! 2! 3! ฮับ!!” ฉันเปิดประตูเข้าไปภาพตรงหน้าคือหมอกำลังพยายามปั้มหัวใจของแม่อยู่ ฉันเอามือปิดปากพยายามกลั้นเสียงร้องไห้เพราะกลัวว่าแม่จะได้ยิน แม่ไม่ชอบให้ฉันร้องไห้เท่าไหร่นัก
“คุณซันนี่มาแล้วเหรอคะเดี๋ยวรอข้างนอกก่อนนะคะ” พยาบาลคนนึงหันมาเห็นฉันก็บอกให้ออกไปข้างนอก
“มะไม่ค่ะ ฮึก!! ฉันจะอยู่ด้วยมันเกิดอะไรขึ้นคะทำไม?! ฮึก!! ทำไมแม่เป็นแบบนี้ไหนหมอบอกว่าอาการแม่ทรงตัวไปในทางที่ดีขึ้นไงคะ?!” หมับ! ฉันจับตัวของพยาบาลก่อนจะถาม
“ตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบค่ะแต่หยุด ๆ คนไข้ก็หยุดหายใจไป ยังไงตอนนี้คุณซันนี่ออกไปรอด้านนอกก่อนนะคะ...”
ติ๊ดดดดดดดดดดด~
เสียงคลื่นหัวใจของแม่หยุดเต้นทำให้ร่างกายของฉันชาไปทั้งตัว...
“มะไม่นะ แม่!!!” พรึ่บ! ฉันผลักพยาบาลก่อนจะเดินเข้าไปหาแม่ของฉันที่ตอนนี้นิ่งสนิทไม่มีปฏิกิริยาอะไรทั้งนั้น
“ฮึก!!ฮืออออ!!แม่!!แม่ได้ยินซันไหม ฮึก!! แม่กลับมาหาซันนะซันขอโทษ!!ซันขอโทษคุณแม่ขา~”ฉันกอดร่างของแม่ก่อนจะร้องไห้ออกมา
“ซันขอโทษ ฮืออออออ” ตุบ! ฉันทิ้งตัวลงพื้นเย็น ๆ ของโรงพยาบาล
“คุณซันนี่คะ!!!” พยาบาลเข้ามาช่วย
“ฮึก ๆ”
“หมอขออนุญาตขานเวลาเสียชีวิตนะครับ นางน้ำเพชร ได้เสียลงเวลา 10 นาฬิกาจุด 21 วินาที”
“ซันขอโทษ....ซันขอโทษนะแม่ ฮือออ” ทั้งหมดมันเป็นเพราะฉันเอง
เพราะฉันเอง!!!
“คุณซันนี่ค่ะ!!!” สมองฉันหยุดทำงานทันทีเพราะร้องไห้อย่างหนักเพราะแบบนี้แม่ของฉันเลยไม่ชอบให้ฉันร้องไห้เท่าไหร่เพราะถ้าร้องไห้เยอะฉันจะสลบทันที
“ซื้อเยอะขนาดนี้ใส่หมดเหรอลูกสาวแม่?” ฉันกำลังคุยกับแม่ขณะที่ช้อปปิ้งเสร็จแล้ววันนี้ฉันเลิกงานเร็วเลยชวนแม่มาช่วยเลือกเสื้อผ้าหน่อย แม่ฉันชอบแฟชั่นมากกกก ทำบ่นแต่ส่วนมากก็เป็นตัวเองทั้งนั้นแหละที่ช่วยฉันเหลือ
“หมดสิคะซันมีงานทุกวันน้าจะใส่ซ้ำได้ยังไง?” หมับ! ฉันกอดแขนของแม่เพราะว่าจะข้ามถนนห้างสรรพสินค้าไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อกินข้าวร้านประจำของเราสองแม่ลูก
“งานเยอะขนาดนี้เหนื่อยไหมลูก?”
“ไม่เลยค่ะซันชอบทำงานนี้มากกก^^”
“ถ้าชอบก็ดีแล้วจ้ะ” แม่ยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน
“แม่อายใครไหมที่มีลูกเป็นพริตตี้อะ?” ลูกคนอื่นเขาเป็นหมอเป็นพยาบาลกันทั้งนั้นบางคนสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ส่วนแม่ฉันเป็นดีไซน์เนอร์โดยมีฉันเป็นนางแบบ อิอิ
“ไม่นะ จะอายทำไมมันเป็นสุจริตไม่ได้ไปโกงใครสักหน่อนแถมยังได้แต่งตัวสวยอีกแม่ชอบให้ซันนี่ให้เสื้อผ้าสวย ๆ นะ”
“ดีใจจังเลยที่ซันมีแม่น่ารัก ไฟเขียวแล้วค่ะเวลาค่ะเราข้ามกันเถอะซันหิวแล้ววว” ฉันบอกแม่เมื่อสัญญาณไฟข้ามถนนเปลี่ยนสีแล้ว
“จ้า ๆ ”
บรื้นนนนนนนนนนนนน!!!!!
“กรี๊ดดดด!”
“ซันน” ปึก!!จู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็วแม่ผลักฉันออกไปอย่างแรงก่อนจะเกือบโดนรถคนนั้นชน
เอี๊ยดด!!!
“แม่ค่ะ!!!!” ฉันเรียกแม่เสียงดังเมื่อเพราะเมื่อกี้เกือบโดนชนแล้ว
“อุ๊ย! ขอโทษนะพอดีรถมันแรง...” ตุบ!!!
“แม่!!!แม่!!!” ฉันไม่ได้สนใจสิ่งที่แต๊งค์กิ้วพูดเพราะว่าแม่ของสลบล้มลงไปอย่างแรงทำให้หัวกระแทกพื้นและที่สำคัญแม่ของฉันเป็นโรคหัวใจ
“แม่!!ช่วยด้วยค่ะ!!!ช่วยแม่หนูด้วย!!แม่อย่าเป็นอะไรนะ!!!” ขวับ! ฉันหันไปมองแต๊งค์กิ้วอย่างโกรธแค้นเพราะรู้ว่าเธอจงใจแกล้งฉันแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้วต้องพาไปโรงพยาบาล
ฉันลืมตามองเพดานสีขาวสะอาดตาฉันฟื้นขึ้นมาสักพักแล้วแต่ฉันไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกเลยด้วยซ้ำความทรงจำเก่า ๆ ไหลเข้ามาในหัวสาเหตุที่ทำให้แม่ฉันเป็นอย่างนี้ หลังจากเหตุการณ์นั้นแม่ฉันก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเพราะว่าสมองขาดอากาศไปชั่วขณะและบวกกับโรคหัวใจที่กำเริบไหนจะสมองที่กระทบกระเทือนอย่างแรงเพราะว่าช่วยฉันเอาไว้แม่เลยต้องเป็นแบบนั้น แล้ววันนี้แม่ก็ได้จากฉันไป...
“ฮึก!!ฮืออออออ” ฉันปล่อยน้ำตาออกมาอีกครั้งอย่างหนักหน่วงเมื่อคิดได้ว่าตอนนี้ฉันไม่มีแม่อยู่แล้ว ทั้งหมดเพราะว่าฉันแก้แค้นแต๊งค์กิ้วจนยัยนั่นมาแกล้งแบบนั้นสุดท้ายคนที่เจ็บปวดก็คือฉันเอง หลายคนคงสงสัยทำไมฉันต้องเอาคืนยัยนั่นขนาดนั้นทั้งที่แค่แย่งแฟน นี่แหละเหตุผล...ของเรื่องราวทั้งหมด
“ฮึก!” ฉันแก้แค้นคนพวกทั้งนั้นแต่เป็นแม่ของฉันเองที่มารับกรรมแทน ไม่สิ!!คนพวกนั้นต่างหากที่ต้องมารับกรรม!!
ฉันก้าวขาลงจากเตียงของโรงพยาบาลก่อนจะเดินไปที่ห้องควบคุมของโรงพยาบาลเพื่อดูว่าก่อนแม่ฉันจะอาการมีใครมาหาหรือเปล่าเพราะก่อนหน้านี้หมอบอกเองว่าอาการของแม่กำลังดีขึ้นมีแนวโน้มว่าแม่จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งแล้วทำไม...ทำไมมันเป็นแบบนี้ได้
ห้องควบคุม
“เชิญครับคุณซันนี่” ฉันไปบอกหมอประจำแม่เพื่อให้เขาพามาเพราะเจ้าหน้าที่คงไม่ยอมเปิดให้ดูง่าย ๆ หรอกฉันบอกเหตุผลกับหมอเขาก็พาฉันมาที่นี่
“ขอบคุณนะคะ ฉันขอดูช่วงเวลาก่อนแม่ฉันจะช๊อกได้ไหมคะว่ามีใครมาเยี่ยมหรือเปล่า?” ฉันถามเจ้าหน้าที่เขาก็พยักหน้าก่อนจะเปิดภาพหน้าห้องวงจรปิด
“นี่ครับเป็นผู้หญิงคนนี้...”
“ฉันขอไฟล์ภาพได้ไหมคะ?” ฉันบอกกับเจ้าหน้าที่
“ได้ครับเดี๋ยวผมจัดการให้เพราะแบบนี้อาจจะเป็นจงใจฆ่าก็ได้ คุณอย่าลืมไปแจ้งความนะครับ” เจ้าหน้าที่บอกกับฉัน
“ค่ะ...” ฉันตอบแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องควบคุมและเดินกลับไปเพื่อจัดการเรื่องของแม่
“ไปไหนมา?” กึก!! ขาของฉันหยุดนิ่งเมื่อเจอคนตรงหน้า
“มาที่นี่ได้ยังไงคะ?” ฉันถามเสียงสั่นร่างกายที่พยายามเข้มแข็งกลับมาอ่อนแอเหมือนเดิม
“ฉันถามว่าไปไหนมาฉันไปจัดกาเรื่องแม่เธอแปบเดียวเอง ทำไมซนอย่างนี้ซันนี่”
“ฮึก!!ทะทำไมต้องดุกันด้วยยยย ฮือออออ” หมับ!!หมอบิ๊กไซต์ดึงฉันไปกอดเอาไว้
“ขอโทษไม่ได้ดุแค่เป็นห่วง....”