บทนำ

1794 Words
บทนำ เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่ม มาพร้อมอัศนีที่แล่นโลดบนผืนนภาพายุฝนกระหน่ำสาดไปทั่วทั้งวังหลวงของต้าเหลียง ประตูและหน้าต่างที่แต่เดิมก็ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ชนกระแทกกันอย่างแรงจนบังเกิดเสียงดังสนั่น แต่กลับมิอาจทำให้ผู้ที่อยู่ด้านในห้องรับรู้ความวิปโยคภายนอกได้เลย "โอ๊ย!" ความเจ็บราวกับถูกฉีกร่างบังเกิดขึ้นทันที ที่ ‘พริษาบวรวัฒน์’ มีสติหวนคืนกลับมาถึงจะยังไม่เต็มร้อย แต่ความเจ็บปวดดังกล่าวมันบังเกิดขึ้นรุนแรงที่จุดเร้นลับของสตรีมาพร้อมกับความอึดอัดราวกับจะหายใจไม่ออกก็พุ่งเข้ามาเล่นงานจนแทบขาดใจเสียแล้ว “อา...” ก่อนจะตามมาด้วยเสียงคำรามราวกับสัตว์บาดเจ็บของบุรุษผู้หนึ่งคิ้วของหญิงสาวพลันขมวดจนแทบจะชนกันทั้งที่ตนเองยังไม่ทันลืมตาเสียด้วยซ้ำ สมองของคนเพิ่งคืนสติกลับมาสับสนงงงวยไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นพริษาหรือ ‘เพรียว’ หญิงสาววัย35ปีก็รับรู้ได้ว่าขณะนี้ตนเองกำลังถูกคนชั่ว ‘ข่มเหง’ อย่างแน่นอน! พรึบ! พอนึกรู้ได้เช่นนั้นเพรียวจึงกระชากหนังตาสองข้างของตนเองเปิดขึ้นทันที แต่ภาพที่เห็นก็มีเพียงเงาร่างหนึ่งที่ดำทะมึนราวกับปีศาจร้ายกำลังขยับเคลื่อนไหววูบวาบอยู่เหนือร่างของตนเองเท่านั้น ยิ่งคนผู้นั้นขยับโยกกระแทกกระทั้นโหมกายใส่แรงลงมาหญิงสาวยิ่งเจ็บแสบและจุกแน่นจนร้องไม่ออก บัดซบ! นี่มันเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกัน? หญิงสาวพยายามนึกทบทวนว่าก่อนที่ตนเองจะหลับไปนั้นทำอะไรอยู่กันแน่ถึงสถานการณ์กำลังคับขันไม่ใช่เวลาจะมานึกอะไรแบบนี้แต่หากไม่นึกให้ออกว่าตนเองกำลังทำสิ่งใดอยู่ย่อมไม่อาจกระจ่างได้ว่าบัดนี้ตนเองมาเจอกับเหตุการณ์เฮงซวยนี้ได้อย่างไรแต่ยังไม่ทันได้ทำดังใจคิดพลันสติของเพรียวกลับดำดิ่งสู่ความมืดอีกครั้งเพราะถูกฝ่ามือใหญ่ของบุรุษเหนือร่างบีบลงมาที่ลำคอเต็มแรง! “เจ้ามันเป็นสตรีไร้ยางอายสมควรตายซ่งไฉ่หนิง!” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ได้ยินก่อนสติจะมืดมนผ่านไปนานเท่าใดก็สุดจะรู้ดวงตาเรียวรีทรงดอกท้อจึงค่อยขยับเปิดขึ้นช้าๆ ก่อนที่เพรียวจะกวาดมองบรรยากาศรอบกายด้วยสายตางุนงงอยู่หลายส่วนมองสภาพห้องเก่าแก่แต่ก็ดูโอ่อ่าและหรูหราที่ตลอดชีวิตสามสิบห้าปีของตนเองไม่เคยคุ้นอย่างยิ่งซึ่งความทรงจำสุดท้ายก่อนสติจะหมดไปคือตนเองกำลังจะตาย... ใช่แล้วหญิงสาวป่วยหนักและคงตายลงอย่างเดียวดายไปแล้วพอนึกออกและจำได้ว่าตนเองตายแล้วเพรียวจึงกระเด้งกายลุกขึ้นมานั่งด้วยสีหน้าแตกตื่นเพราะนอกจากหญิงสาวจะนึกได้ว่าตนเองตายไปแล้วเพรียวยังนึกได้อีกว่าตนเองถูกบุรุษชั่วช้าข่มเหง! “องค์หญิง! เร็วเข้าใครก็ได้อยู่ด้านนอกเร่งไปตามหมอหลวงว่าองค์หญิงไฉ่หนิงทรงฟื้นแล้ว” เสียงแรกดังขึ้น เสียงต่อไปก็ส่งต่อถ่ายทอดกันไปเป็นระยะฟังแล้วเพรียวถึงกับนิ่งอึ้ง ‘องค์หญิง’ อย่างนั้นหรือ? หันมองรอบข้างอีกครั้งก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศนี้ช่างดูเข้ากับฐานะองค์หญิงดังว่าจริงเสียด้วยเก่าแก่แต่ก็ดูหรูหราอลังการแต่บรรยากาศนั้นดูไปทางวัฒนธรรมของจีนโบราณอยู่ถึงแปดส่วน ...ที่นี่คือที่ไหนกัน ... ในขณะที่สมองและความทรงจำของเพรียวยังไม่เข้าที่เข้าทางกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า‘หมอหลวง’ทั้งชายและหญิงก็วิ่งกรูกันเข้ามาจนหญิงสาวตกใจแต่ไม่อาจขยับหนีไปไหนได้จำใจต้องยอมให้คนเหล่านั้นตรวจตนเองอย่างละเอียด ไม่นานยาถ้วยแล้วถ้วยเล่าก็ถูกยกตามเข้ามาก่อนที่ความง่วงนอนอย่างหนักจะเข้ากัดกินและกลืนสติของหญิงสาวไปอีกครั้งยังไม่ทันได้ซักถามใครสักคนว่าตนเองผ่านอะไรมาบ้างและมาโผล่ในที่แปลกประหลาดแห่งนี้ได้อย่างไร พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกรอบคราวนี้บรรยากาศรอบข้างก็เปลี่ยนเป็นยามราตรีไปอีกครั้งหนึ่งเสียแล้วม่านมุ้งถูกเอาลง หญิงสาวเรียกหาน้ำดื่มจากนางกำนัลที่พอจะนึกออกมาอีกฝ่ายชื่อนั้นมีนามว่า‘จงอี้ผิง’มาดื่มจนหมดไปสองถ้วยจึงกลับมานอนลงเช่นเดิมหากแต่หญิงสาวนั้นกลับมิอาจหลับตาลงได้อีกแล้วนั่นก็เพราะหนึ่งร่างกายเคล็ดขัดยอกจนหายใจก็ยังเจ็บปวด กับสองคาดว่าตนเองคงนอนหลับมากไปจนร่างกายไม่ต้องการพักผ่อนอีกแล้ว เธอคือนางสาว‘พริษา บวรวัฒน์’หรือ‘เพรียว’นั้นไม่ผิดแน่ เธอคือหญิงสาวตัวคนเดียวในเมืองใหญ่ที่เคยมีไฟและมีความฝันว่าตนเองจะก้าวหน้าจะร่ำรวยเพราะถูกพ่อเลี้ยงกับน้องชายและน้องสาวต่างบิดาดูถูกเหยียดหยามเอาไว้มาก หลังเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่6แล้วเธอจึงมุ่งหน้ามายังกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประเทศไทยที่ใครต่างก็พูดถึงว่าเป็นแหล่งหาเงินชั้นเลิศทุ่มเทให้กับการทำงานพิเศษและเรียนไปด้วยจนเรียนจบในเวลา4ปีก็ยิ่งทำงานอย่างหนักจนตนเองอายุ28ปีร่างกายอ่อนล้าเพราะทำงานหนักมาตลอดตั้งแต่อายุ18ปีแต่ความฝันก็ยังคงไม่เป็นจริงสักที ห้องพักยังคงต้องเช่ารถยนต์ที่ขับนั้นก็ยังต้องผ่อน หน้าที่การงานก็ยังคงย่ำเท้าอยู่ที่เดิมที่เพิ่มเติมก็คือเพื่อนชายคนสนิทแทนที่จะก้าวหน้าคบกันเป็นแฟนชายหนุ่มกลับถอยห่างจากไปเมื่อเธอมักเลือกงานมากกว่าเขาจากความสัมพันธ์ที่สมควรจะก้าวหน้าก็พลันจบลงเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นเธอจึงยิ่งทุ่มเทให้กับงานอย่างหนักขึ้นไปอีกเพราะคิดว่าตนเองนั้นพยายามไม่มากพอจนผ่านไปอีก5ปี เธออายุ33ปีไม่มีแฟนหรือแม้แต่คนคุยอีกเลย แต่ห้องพักก็ยังคงเช่าเขาอยู่อาศัยเช่นเดิมที่เพิ่มเติมก็คือรถยนต์ที่เคยขับและเคยผ่อนกลับถูกยึดไปแล้วเนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ หน้าที่การงานก็ยังคงไม่ก้าวหน้า เพราะสังคมในการทำงานมันไม่ได้สวยหรูดังที่หญิงสาวเคยฝันหวานเอาไว้ หากไม่มีปากมีเสียงก็ทำงานจนตายเจ้านายก็มองไม่เห็นผลงานที่เธอเพียรพยายามสร้างมันมาถึง10กว่าปีแต่จะทำอย่างไรได้เธอมาไกลมากแล้วไม่อาจย้อนกลับไปบ้านเดิมที่มีพ่อเลี้ยงชั่วรอคอยทับถมเธออยู่ได้เลย ถึงจะคิดได้ก็อยากจะเปลี่ยนสายงานสายไปเสียแล้วทำงานมาอย่างหนักอยู่ที่เดิมถึง12ปีแต่กลับไม่มีแม้แต่เงินเก็บนอกจากหนี้สินบัตรเครดิตที่พอกพูน พริษาในวัย33ปีอยากกลับบ้านนอกไปทำสวนทำไร่ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่หรูหราไม่ต้องร่ำรวยขอเพียงไม่มีหนี้สินเช่นทุกวันนี้ก็เพียงพอแล้วแต่มันติดก็แค่เธอไม่มีเงินจะไปเริ่มต้นใหม่หากไม่ไปอาศัยบ้านของมารดากับพ่อเลี้ยงซึ่งเธอไม่มีวันจะกลับไปแน่นอน! หากแต่ร่างกายของเธอที่ทำงานหนัก ไม่ได้พักผ่อนและกินอาหารขยะมาเนิ่นนานตั้งแต่วัยรุ่นจนเข้าสู่วัยทำงานทำให้เป็นโรคอ้วนมาตั้งแต่อายุขึ้นเลข3จนเมื่อหญิงสาวอายุครบ34เธอก็ป่วยด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) จนถูกเจ้านายใจเหี้ยมไล่ออกจากงานด้วยเหตุผลสวยหรูว่า ‘ให้คุณเพรียวหยุดพักรักษาตัวไปก่อนจนกว่าจะหายดี’ โดยไม่ได้รับเงินเดือนและสุดท้ายเธอก็จบชีวิตลงอย่างเดียวดายภายในห้องเช่าเท่ารูหนูในวัยเพียง35ปีเท่านั้น 2แต่ใครจะคิดว่าแทนที่ตนเองตายแล้วจะได้ไปสวรรค์หรือตกนรกไปตามวัฏสงสารของสัตว์โลกทั่วไปดังที่เคยได้ยินได้ฟังมาตลอดชีวิตวันนี้หญิงสาวกลับพบว่าตนเองมาโผล่ในโลกที่คล้ายนิยายซึ่งตนเองเขียนลงขายออนไลน์เป็นรายได้เลี้ยงชีพก่อนจะจบชีวิตลงเสียได้ เธอไม่ได้เกิดใหม่เป็นนางเอกหรือนางรองแต่ดันมาเกิดใหม่ในร่างของนางร้ายที่ชะตาอาภัพต้องตายอย่างอนาถ! ไม่ผิดขณะนี้เพรียวหรือพริษารับรู้แล้วว่าตนเองได้มาเกิดใหม่ในร่างของ‘ซ่งไฉ่หนิง’นางร้ายแสนจะโง่เขลาในนวนิยายเรื่อง‘จอมใจทรราช’ที่ตนเองยังเขียนไม่จบก็มาด่วนสิ้นใจจากโรคร้ายเสียก่อนหัวจะปวดเลยคราวนี้ ซ่งไฉ่หนิงผู้นี้เพรียวเขียนขึ้นมาเพื่อบีบบังคับให้พระเอกที่แต่แรกเป็นคนไม่เชิงว่าดีเรียกว่าพระเอกสีเทาแต่เขาไม่คิดช่วงชิงอำนาจจากผู้ใดหากยอมได้ก็ยอมคนที่กงหยวนฉียอมมากที่สุดก็คือฮ่องเต้แต่ซ่งไห่หยางก็ไม่ได้กดขี่ข่มเหงอีกฝ่ายจนกงหยวนฉีไม่ถึงกับไร้ปากไร้เสียงฉู่อ๋องนั้นขอแค่เพียงเขาได้อยู่กับสตรีอันเป็นที่รักเช่นหลินซีเหยาเขาก็จะไม่ทำร้ายผู้ใด จนเมื่อเขาถูกซ่งไฉ่หนิงองค์หญิงแสนเอาแต่ใจคิดวางยาปลุกกำหนัดก่อนที่อีกฝ่ายจะได้แต่งงานกับหญิงคนรักเพียงไม่นานจนทำให้เขากับนางเอกของเรื่องเช่นหลินซีเหยาต้องแยกจากกันไม่พอองค์หญิงตัวร้ายนางยังวางแผนจะกำจัดเสี้ยนหนามหัวใจเช่น‘หลินซีเหยา’ซึ่งแน่นอนว่าอีกฝ่ายย่อมเป็นนางเอกของเรื่องให้สิ้นซากอีกด้วยจนทำให้กงหยวนฉีสุดสิ้นความอดทนลุกขึ้นมาโค่นล้มราชวงศ์ซ่งจนสิ้นซาก แน่นอนว่าเพราะอีกฝ่ายคือพระเอกและหลินซีเหยาคือนางเอกแผนร้ายของนางร้ายเขาย่อมจะต้องทราบเรื่องก่อนที่ซ่งไฉ่หนิงจะลงมืออยู่แล้วตัวร้ายที่จับฉลากได้บทพระเอกก็เผยธาตุแท้วางแผนตลบหลังสังหารพระชายาแสนชิงชังของตนเองทั้งที่นางนั้นตั้งครรภ์บุตรของเขาอยู่โดยไม่ลังเลทันควัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD