อืม...ริมฝีปากอย่างนี้ล่ะที่ละเลียดชิมนางทั้งคืน เอ๊ะ...ไยอยู่ใกล้กันเยี่ยงนี้ ทำไมใบหน้าของเขาถึงเห็นได้ชัดเจนถนัดถนี่ยิ่งนัก
จ้าวจิ่นหลงที่เห็นสตรีนางหนึ่งรีบมุดเข้าใต้โต๊ะในทันทีเมื่อหันหน้ามาเห็นเขา เขาจึงไม่รอช้ารีบเดินเข้ามาแล้วมุดใต้โต๊ะตัวเดียวกันกับนางในทันที
เขาเห็นดวงตาสดใสของนางถึงแม้ว่าจะกำลังเปรอะเปื้อนไปด้วยม่านน้ำตา
เขาเห็นริมฝีปากของนาง
ริมฝีปากนี้ล่ะที่เขาจูบนางเมื่อคืน ทั้งคืน...
ชายหนุ่มหญิงสาวเพียงจ้องมองใบหน้าของกันและกันนิ่งงันอยู่ภายใต้โต๊ะตัวเดียวกันนั้นอยู่อึดใจ
เฉินเจียวเหมยกะพริบตาปริบๆ เพียงสองทีก่อนจะมีสติขึ้นมาในฉับพลันรีบออกจากใต้โต๊ะตัวเดียวกันอย่างฉับไว
จ้าวจิ่นหลงไม่รอช้า รีบตามออกมาในทันที
“ท่านเป็นใคร” หญิงสาวถามขึ้นอย่างตระหนกตกใจ
เสียงนี้ล่ะ ใช่เลย จ้าวจิ่นหลงพลันคิดแล้วรีบเอ่ย “ข้าคือ”
“หยุด!” เสียงห้ามปรามพลันดัง “หยุดเลย”
เฉินเจียวเหมยไม่ปล่อยให้เขาได้เอ่ยสิ่งใด ด้วยเพราะแน่ใจว่าเขาจะเอ่ยสิ่งใด
“ท่านกำลังป่วยใช่หรือไม่ นำยาไปแล้วกินเสีย” จบคำก็รีบหมุนตัวไปหยิบยาที่อยู่ใกล้มือแล้วส่งให้บุรุษตรงหน้าก่อนจะหมุนตัววิ่งหนีไปอย่างไว
จ้าวจิ่นหลงถึงกับยืนอึ้งไป
ฮึ่ม! นาง...นาง...
น่าตายนัก!
ภายในห้องพักห้องหนึ่งของโรงเตี๊ยมแห่งเดิม ร่างงามสง่าของจ้าวจิ่นหลงยังคงนั่งสงบเรียบนิ่งอยู่ในนั้น เขาเพียงนั่งนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น เมื่อได้รับฟังความจากลูกน้องของเขาที่ได้ไปสืบทราบมาให้ได้ยิน
ข่าวที่ได้รับฟังคำการรายงานจากลูกน้องของเขานั้น เป็นข่าวคราวประวัติความเป็นมาของสตรีนางหนึ่ง
นางผู้ซึ่ง...
ได้ตัวเขาแล้ว...
กลับไม่รับผิดชอบ!
“นางเป็นอดีตองค์หญิงของแคว้นเฉินแห่งนี้นามว่าเฉินเจียวเหมยพะย่ะค่ะองค์ชาย นางสร้างเรื่องจนถูกถอดยศสืบเนื่องมาจากไม่ยินยอมที่จะเป็นองค์หญิงบรรณาการพะย่ะค่ะ”
คำกล่าวรายงานยาวเหยียดของสายสืบประจำตัวแห่งจ้าวจิ่นหลงทำเอาจ้าวจิ่นหลงถึงกับเลิกคิ้วคมเข้มขึ้นอย่างฉงน
สายสืบยังคงเอ่ยคำอย่างต่อเนื่องไม่มีตกหล่น “ในปีนั้นเป็นปีที่นางจะต้องเดินทางไปเป็นองค์หญิงบรรณาการให้แก่องค์ชายนะ พะย่ะค่ะ”
“หืม...” จ้าวจิ่นหลงถึงกับส่งเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“องค์หญิงบรรณาการแห่งข้าเช่นนั้นหรือ”
“พะย่ะค่ะ” สายสืบก้มหัวรับคำอย่างมั่นอกมั่นใจ
จ้าวจิ่นหลงเริ่มหรี่ตาลงเพื่อคบคิดแลวิเคราะห์
ในปีนั้นเขาที่เป็นองค์ชายแคว้นจ้าวจะต้องเดินทางมาเชื่อมสัมพันธ์กับองค์หญิงบรรณาการของแคว้นเฉินเพื่อให้สัญญาสงบศึกเป็นที่สมบูรณ์ แต่ทว่า...เมื่อมาถึงแคว้นเฉินแล้ว กลับกลายเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ทั้งหลายที่ต่างพากันมารอต้อนรับเขา แทนที่จะเป็นองค์หญิง
ในปีนั้นฮ่องเต้แคว้นเฉินทรงให้เหตุผลว่าองค์หญิงที่มียังทรงอ่อนเยาว์เกินไป พวกนางยังคงอยู่ในวัยเพียงไม่เกินห้าหนาวเท่านั้น และต่อมาอัครเสนาบดีหลิวจึงได้นำตัวบุตรสาวของเขานามว่าหลิวหลีมาแนะนำตัวให้แก่เขา และนางก็ได้ทำการอุกอาจคุกเข่าขอร้องบิดาของนางต่อหน้าเขาว่าต้องการเพียงนายทหารคนหนึ่งคนเดียวเท่านั้น นายทหารท่านนั้นนามว่าจูหยวนจาง เขาเองก็รู้จัก แน่นอนว่าจูหยวนจางก็รู้จักเขา
นั่นจึงทำให้เขาลงสัญญานามสงบศึกมือเปล่าโดยไม่ได้สตรีบรรณาการกลับไป
จ้าวจิ่นหลงหรี่ตาคมเข้มสีนิลลงพลางคิด
เฉินเจียวเหมยอย่างนั้นหรือ?
องค์หญิงบรรณาการที่บังอาจหนีเขาไปอย่างนั้นหรือ
นางหนีเขาไปแล้วคราหนึ่ง อย่างนั้นหรือ
อันใดกัน?
ครั้งนั้นนางหนีเขาไปอย่างไม่ใยดีก็ว่าหนักหนาพอตัวอยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้...
นางหนีเขา
ทั้งๆ ที่...
นาง...
นาง...
ฮึ่ม! ยิ่งคิดยิ่งอับอาย เสียเชิงชายอย่างยิ่งยวด
นางเป็นสตรีชนิดใดกัน
ไยถึงทำกับเขาได้ถึงเพียงนี้
เขาที่เป็นถึงบุรุษผู้สูงศักดิ์
เขาที่มีรูปร่างสง่างามสมส่วน
เขาที่มีใบหน้าหล่อเหลาเหนือชาย
เขาที่มีดีทุกอย่างทุกด้านเหนือบุรุษทั้งหลาย
แต่นาง...
นางกลับทำกับเขาเยี่ยงนี้
ได้อย่างไรกัน?
เมื่อจ้าวจิ่นหลงคิดได้อย่างนั้น คิ้วคมเข้มพลันขมวดเข้าหากันมุ่น ใบหน้าได้รูปคมคายพลันตึงเครียด รูปร่างสง่างามสมส่วนพลันกระตุกลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง ก่อนเอ่ยสั่งการด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทรงพลัง
“ข้าจะต้องไล่ล่านางให้มาเป็นชายาของข้าให้จงได้”
จบคำจ้าวจิ่นหลงเพียงยกยิ้มมุมปากสีแดงสดอย่างเจ้าเล่ห์ดุดัน ด้วยมาดของผู้สูงศักดิ์เปี่ยมพลังเหลือร้าย
ภายในโรงหมอของเฉินเจียวเหมย
หญิงสาวยังคงนั่งต้มยาห้ามครรภ์อย่างหมายมาดไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากวิ่งหนีบุรุษผู้หนึ่งอย่างนึกอับอายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ก่อนจะวิ่งวกวนกลับเข้ามายังโรงหมอแห่งนี้
นางดื่มไปแล้วหลายหม้อ แต่นางก็ยังคงต้องดื่มต่อไป
ดื่มจนกว่านางจะมั่นใจว่านางจะไม่ตั้งครรภ์อย่างแน่นอน
อา...
บุรุษอะไร
ช่างมีเรี่ยวแรงมากมายมหาศาล
เขากระทำการอย่างนั้นกับนางอยู่จนตลอดเกือบทั้งคืน
ทำอยู่หลายครั้งหลายครา
ทำแล้วทำอีกอยู่นั่นล่ะ
ฤทธิ์ของยาสูตรพิเศษก็ช่างเหลือร้าย
ไยนางถึงเป็นหมอที่เก่งกาจปานนี้กัน ผสมยาที่มีอิทธิฤทธิ์ร้ายแรงเยี่ยงนั้น ได้อย่างไร...