ตอนที่ 4 (2)

695 Words
แสงแดดสาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาจนต้องควานมือเปะปะหาหมอนมาปิดทว่าข้างกายกลับไม่มีหมอนอย่างเช่นเคย อัศวเมฆินทร์ลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมองรอบเตียงก็เห็นว่าหมอนอีกใบตกแอ้งแม้งอยู่บนพื้น ช่างมัน ง่วงจะแย่ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย ผ้าห่มนี่แหละตัวช่วยชั้นดี เขายกขึ้นมาคลุมโปงนอนหลับต่อไร้แสงอะไรมารบกวน “…” อากัปกิริยาขี้เซาเหมือนเด็กสามขวบไม่อยากตื่นไปโรงเรียนนั้นค่อนข้างขัดตาผู้ดูแลคนใหม่เป็นอย่างมาก เช้านี้ผู้ดูแลมือใหม่คนสวยอยู่ในชุดกางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวแสนธรรมดายืนมองชายคนรักขี้เซานอนต่อทั้งที่ตอนนี้เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว วารสาพอจะรู้คิวงานเขาจากลุงชิดที่ว่าแม้เขาจะไม่ได้ไปโรงแรมเองแต่ก็จะมีช่วงเวลาที่เลขาฯ ของคุณเต็มเดือนเอางานมาให้ทำที่นี่ส่วนแม่ว่าที่คู่หมั้นของเขานั้นมักจะมาแค่ช่วงบ่ายถึงช่วงเย็นๆ ของทุกวันเพราะต้องทำงาน ค่อนข้างหึงหวงแต่ก็ไม่แสดงออกมาให้ใครเห็น รีบแยกจากลุงชิดมาเตรียมอาหารเตรียมน้ำไว้ให้อัศวเมฆินทร์ได้นอนแช่หลังรู้มาว่าเขาผ่าตัดแล้วสามารถเดินเหินได้เหมือนคนปกติเก้าสิบเปอร์เซ็นเพียงแต่เขาประชดชีวิตไม่ยอมเดิน คุณเต็มเดือนจ้างนักกายภาพบำบัดมาดูแลเขาก็ไม่ยอมรับบอกหายดีเดินเองได้แล้ว เหอะ! หล่อนกลับคิดว่านักกายภาพบำบัดไม่ใช่คำตอบนักคุณเต็มเดือนน่าจะส่งจิตแพทย์มาพบเขามากกว่า จะได้หายขาดจากโรคใจปอดนี้สักที “คุณเมฆคะ สายแล้วนะตื่นเถอะค่ะ” รุดกายเข้าไปปลุกทว่าชายหนุ่มไม่ยอมตื่นเพียงครางประท้วง “ฮื่อ…” “คุณเมฆคะ” ยื่นมือออกไปเขย่าแขนเขาเบาๆ เขาเฉย หล่อนเลยต้องเขย่าแรงมากขึ้น ทว่า… “ว้าย!!” วารสาหวีดร้องลั่นเมื่อคนที่คิดว่ายังไม่ตื่นดึงผ้าห่มลงมาเอื้อมมือกอดรัดเอวคอดรุนแรงส่งผลให้เสียหลักทิ้งกายลงมาบนแผ่นอกกำยำ มิหนำซ้ำเขายังกอดหล่อนแน่นเลิกคิ้วขึ้นท้าทาย นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างห่อปากเป็นรูปตัวโอวางทาบสองอุ้งมือบนแผ่นอกเพื่อยันกายขึ้น “คุณเมฆปล่อยสานะคะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” “อุตส่าห์เข้ามาอ่อยถึงในนี้จะปล่อยให้โง่ทำไม” เขาดูแคลนด้วยน้ำเสียงและสายตา เรียวปากสวยเม้มแน่นพอกันกับพวงแก้มนวลร้อนผ่าวจนต้องกลอกสายตามองไปทางอื่น เจ็บอะไรก็ไม่เท่าเจ็บใจที่ถูกคนที่ตัวเองรักดูถูกดูแคลน อดทน… หากยังอยากดูแลเขาต้องอดทนเข้าไว้นี่เพิ่งก้าวแรกเท่านั้นเอง วารสาบอกกับตัวเอง จัดการขุดหลุมฝังทุกความรู้สึกก่อนส่งรอยยิ้มบางๆ ยวนยั่วเขา “สาแค่จะมาปลุกคุณเมฆเท่านั้นเพราะเห็นว่าสายแล้ว ไม่ได้เข้ามาอ่อยค่ะ รู้แล้วก็ปล่อยสาสิคะ หรือคุณเมฆแค่แกล้งพูดยั่วในใจคิดอยากให้สาอ่อยจริงๆ” “ผู้หญิงบ้า!” เขาถลึงตาใส่ ค่อนข้างร้อนตัวรีบปล่อยท่อนแขนทั้งสองออกจากเอวเล็ก ออกจะเสียดายเล็กน้อยที่แม่คนตัวหอมยันกายลุกจากเตียงแทบจะในวินาทีนั้น เสี้ยววินาทีเห็นหล่อนนิ่วหน้าเหมือนเจ็บอะไรสักอย่างแต่มันก็เท่านั้น เขาไม่คิดใส่ใจหรือแสดงความเป็นห่วงออกนอกหน้านอกตาอยู่แล้ว “…” “ยืนยิ้มบ้าบออะไรอยู่คนเดียว ออกไปเลยนะอีกชั่วโมงค่อยเข้ามาใหม่ฉันอยากนอนต่ออีกสักงีบ” “ไม่ได้ค่ะ” ยิ้มหวานเช่นเคยอยู่ในท่วงท่าการยืนแสนเรียบร้อยทำให้อัศวเมฆินทร์ชักจะหัวเสีย ดวงหน้าหล่อเหลางอหงิกผมเผ้าชี้ฟู แต่ไม่ว่าจะดูในอิริยาบถไหนเขาก็หล่อเสมอในสายตาของวารสา แน่สิ… สำหรับผู้หญิงแล้วแฟนตัวเองย่อมหล่อเสมอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD