ตอนที่ 3 ไม่ร้องนะครับ

1736 Words
สายตาคมจับจ้องอยู่ที่หน้าจอแล็ปท็อปภายในห้องนอน นิ้วมือคลิกเมาส์สไลด์หน้าจอดูข้อมูลที่เพิ่งค้นหา จินต้องการรู้ว่า ในเคสที่ผู้ชายอายุน้อยกว่าผู้หญิง เป็นไปได้มากแค่ไหนที่จะคบกันยืนยาวไปตลอดชีวิต จากข้อมูลที่เจอ ก็มีเยอะพอสมควรที่อยู่กันจนแก่เฒ่า บางคู่อายุผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิงเป็นสิบปีก็มี ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจล้วน ๆ เมื่อเห็นแบบนั้นก็ยิ่งมั่นใจว่า หากตัวเองจีบปริมมาเป็นแฟนได้แล้ว ยังไงก็ต้องได้อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตแน่ ๆ จินรักเธอมาตั้งแต่ตอน มอ.ต้น รักพี่สาวคนสวยที่กล้าเข้ามาช่วยตอนที่เขาโดนเพื่อนในห้องรังแก ปริมลดาเป็นเหมือนฮีโร่ในสายตาของเขาเลยก็ว่าได้ หน้าตาสวยไม่พอ ยังจิตใจดีอีก ไม่รักก็บ้าแล้ว สายตาเหลือบไปเห็นเวลาที่อยู่บนหน้าจอ ตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ทำให้จินรีบร้อนปิดแล็ปท็อปและหยิบกุญแจรถออกไปจากห้องทันที ในทุก ๆ คืน เขาจะไปหาปริมลดายังร้านสะดวกซื้อที่เธอทำงานอยู่ แม้จะเห็นหน้าที่มหาวิทยาลัยเกือบทุกวันแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยากจะเห็นใบหน้าสวย ๆ นั้นก่อนนอนอยู่ดี รถเก๋งรุ่นธรรมดาขับด้วยความเร็วมุ่งหน้าไปตามท้องถนน ที่จริงรถยุโรปก็มี แต่จินไม่อยากจะใช้ขับไปเรียนเท่าไหร่ สาเหตุก็เพราะไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นที่สนใจของผู้หญิงคนอื่นมากนัก เขาอยากจะอยู่แค่ในสายตาของพี่สาวคนสวยคนเดียวเท่านั้น แค่นั้นก็พอแล้ว ครู่ใหญ่ รถก็มาจอดอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อที่มาเป็นประจำทุกคืน นัยน์ตาสีน้ำตาลมองเข้าไปข้างในร้าน แต่ก็ไม่เห็นปริมลดาอยู่ตรงเคาน์เตอร์อย่างเช่นทุกวัน เขากวาดมองไปรอบ ๆ บริเวณด้านนอก จนมาหยุดอยู่ที่มุมมืดข้างร้านที่เคยเห็นเธอทะเลาะกับใครบางคน และในคืนนี้ก็เช่นกัน ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงนั้น ท่าทางที่เห็นใครมองก็รู้ว่ากำลังทะเลาะกันแน่ ๆ “แทนว่า แทนไม่มีอะไรจะพูดกับปริมแล้วว่ะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองพูดออกมา สีหน้าท่าทางบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่แคร์ความรู้สึกของผู้หญิงตรงหน้าเลยสักนิด “แทนไม่มีอะไรจะพูดกับปริม เพราะว่าแทนมีคนอื่นแล้วไง ปริมเลยไม่มีความหมาย ใช่ไหมแทน” ต่างกับปริมลดา ที่น้ำเสียงสั่นเครือเพราะกำลังร้องไห้ไม่หยุด จู่ ๆ แทนไทก็มาหาเธอที่ร้าน แล้วบอกว่าคงคบกันต่อไปไม่ได้ เขาหายหน้าไปหลายวัน โผล่มาอีกทีก็บอกเลิกกันเสียอย่างนั้น ใครมันจะไปตั้งตัวทัน “แล้วปริมจะให้แทนทำยังไงวะ ก็แทนอยากเอา แต่ปริมไม่ให้” “ทำไมเห็นแก่ตัวอย่างนี้วะแทน” “ฟังนะปริม แทนเป็นผู้ชาย มีอารมณ์เป็นเรื่องปกติปะ” “เออ มันปกติ แต่ก็ไม่ควรนอกใจหรือเปล่าวะ” เธอพยายามข่มอารมณ์ พยายามที่จะพูดดี ๆ แล้ว แต่มันทนไม่ไหวจริง ๆ “ก็นี่ไง แทนรู้ว่าตัวเองเลว ก็เลยมาขอเลิกกับปริมนี่ไง” “เป็นผู้ชายที่โคตรห่วยเลยว่ะแทน” “เออ แทนยอมรับ ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้แหละ เราสองคนเลิกกัน” ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ แทนไทก็เดินออกไปแล้ว ทิ้งให้เธอยืนร้องไห้อยู่ที่เดิมคนเดียว ปริมลดาได้แต่ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ตัวเองรอบแล้วรอบเล่า แต่ไม่มีทีท่าว่ามันจะแห้งไปเลยสักนิด กลับกัน ยิ่งเช็ดน้ำตาก็ยิ่งไหล จินเห็นแบบนั้นก็รีบลงจากรถแล้วเดินมาหาเธอ สายตาคมมองดูคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง เห็นเธอเสียใจ เขาเองก็เสียใจไม่ต่างกัน “พี่ปริม” เสียงที่เอ่ยเรียกทำให้ปริมลดาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างช้า ๆ พอเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า น้ำตาก็ยิ่งไหลมากกว่าเดิม “ไม่ร้องนะครับ ไม่ร้องนะ” ฝ่ามือหนาถือวิสาสะดันศีรษะเล็กให้เข้ามาแนบกับอกกว้าง จินไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ยินว่าทั้งคู่คุยอะไรกันก็ตาม แต่ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไง สุดท้ายแล้ว คนเสียใจก็คือผู้หญิงตรงหน้าเขาอยู่ดี ปริมลดาซบหน้าร้องไห้กับอกแกร่งอยู่แบบนั้นหลายนาที ซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกให้เธอหยุดหรือขยับหนี แม้ว่าผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาจะเริ่มมองมาที่พวกเขาทั้งคู่แล้วก็ตาม สายตาของคนอื่นไม่ได้มีผลอะไรเลยสักนิด ตอนนี้จินสนใจแค่ความรู้สึกของเธอเท่านั้น “ขอโทษนะจิน” เมื่อร้องไห้พอแล้ว ปริมลดาก็ผละตัวออกแล้วเงยหน้ามองคนที่เธอซบหน้าร้องไห้อยู่นาน “ไม่เป็นไรครับ พี่ปริมสบายใจขึ้นก็ดีแล้ว” “พี่ไปทำงานก่อนนะ” “ครับ” จินตอบออกไป แล้วเดินตามร่างเล็กเข้าไปในร้านด้วย คืนนี้ก็เช่นเดิม เขาซื้อเพียงถุงยางอนามัยกลิ่นสตอเบอร์รี่เท่านั้น “มาซื้อทุกวันขนาดนี้ ไม่เหนื่อยทำบ้างหรือไง” ปริมเอ่ยถามขณะที่กำลังสแกนราคาสินค้า “ไม่เหนื่อยครับ เพราะผมไม่ได้ทำอะไร” คำตอบของเขาทำให้พี่สาวคนสวยต้องเงยหน้าขึ้นมามอง แค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่าเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด “ไม่ทำแล้วซื้อไปทำไม เอาไว้สะสม?” “รอใช้กับบางคนครับ” คราวนี้ดวงตาคู่สวยต้องรีบหลุบลงต่ำ เพราะในขณะที่เขาตอบคำถาม สายตาคมคู่นั้นกลับจับจ้องมาที่เธอไม่กะพริบ ราวกำลังจะบอกเป็นนัย ๆ ว่าบางคนที่พูดถึง คือเธอ “พี่ปริมจะกลับบ้านยังไงครับ” จินตัดสินใจเอ่ยถาม เขาไม่อยากให้เธอกลับคนเดียว เพราะดูจากอาการคงจะยังเศร้าอยู่แน่ ๆ “ก็เรียกแท็กซี่เหมือนทุกวันนั่นแหละ” “ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปส่งนะ” ปริมลดามองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก หรือว่าเขากำลังจีบเธออย่างที่นรีบอกจริง ๆ “ไม่เป็นไร อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเลิกงาน ไม่อยากรบกวน” “ผมไม่เคยคิดว่าพี่รบกวนนะครับ” ไม่เพียงแค่น้ำเสียงที่จริงจัง สายตาของจินเองก็จริงจังไม่ต่างกัน “แล้วจินจะรอพี่ยังไง” “เดี๋ยวผมหาร้านกาแฟแถวนี้นั่งรอก็ได้ พี่เลิกงานเมื่อไหร่ก็โทรหาผม” “ก็ตามใจ อยากไปส่งก็ไม่เกรงใจละกัน” ทันทีที่ได้ยินคำตอบ เขาก็ฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาสีน้ำตาลดูใสซื่อ เปล่งประกายความดีใจจนเห็นได้ชัด จนทำให้เธออดที่จะยิ้มตามไม่ได้ “งั้นผมไปหาที่นั่งรอนะครับ” ปริมลดาพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วจินก็รีบเดินออกจากร้านไปทันที เขาขับรถหาร้านกาแฟเพื่อจะได้นั่งรอเธออยู่ไม่นาน ก็พบคาเฟ่น่ารัก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านที่ปริมทำงาน พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ คืนนี้ไม่จำเป็นต้องรีบนอน ได้อยู่กับเธอนานอีกสักหน่อยถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เกือบตีสอง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น หน้าจอเป็นชื่อของปริมลดา เขารีบกดรับด้วยความดีใจ “พี่ปริมเลิกงานแล้วเหรอครับ” “อืม...อีกห้านาทีก็เลิกแล้ว จินออกมาเลยก็ได้” “ครับพี่ปริม ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” หลังจากวางสาย จินก็รีบขับรถกลับมายังร้านที่เธอทำงานอีกครั้ง นัยน์ตาสีน้ำตาลเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข ตลอดสามปีที่อังกฤษ เขาเฝ้าแต่คิดถึงพี่สาวคนสวยตลอดเวลา วันนี้ได้เข้าใกล้เธออีกนิดแล้ว รถยนต์จอดตรงหน้า ปริมลดาก็เปิดประตูขึ้นมานั่งข้างคนขับ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏให้เห็น แต่ดวงตาคู่สวยกลับเศร้าจนเขารู้สึกได้ “พี่ปริม” “หืม...มีอะไรเหรอจิน” “ทะเลาะกันบ่อยเหรอครับ” “ไม่บ่อยหรอก คงจะไม่ได้ทะเลาะกันอีกแล้วล่ะ” เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เชิดใบหน้าขึ้นเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล ต่อให้ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกาย แต่คนเราตกลงเป็นแฟนกัน มันก็เพราะมีความรู้สึกดี ๆ ด้วย พอเลิกกันไปความเสียใจก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ “ไม่ร้องนะครับพี่ปริม พี่ไม่เหมาะกับน้ำตาหรอก” นิ้วเรียวยาวยกขึ้นเช็ดหยดน้ำใสที่กำลังไหลริน ปริมลดาช้อนสายตามองชายหนุ่ม ที่ตอนนี้ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ ลมหายใจแทบจะประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่ทราบสาเหตุ จนต้องรีบเบือนหน้าหลบ “รีบไปเถอะ แม่พี่อยู่บ้านคนเดียวน่ะ พี่เป็นห่วง” มันเป็นเพียงข้ออ้างที่ให้จินเลิกสนใจเธอ เพราะใบหน้าและการกระทำของเขาทำให้หัวใจเต้นไม่ปกติ เจ้าหมาน้อยไม่เหมือนตอนอยู่ มอ.ต้นเลยสักนิด ทั้งโตขึ้น สูงขึ้น และดูดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ขนาดเธอที่เพิ่งเลิกกับแฟนมาหมาด ๆ ยังอดที่จะหวั่นไหวกับใบหน้าหล่อ ๆ นี้ไม่ได้เลย จินขับรถออกมาตามที่เธอบอกโดยที่ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรอีก แต่สายตาก็ยังคอยเหลือบมองคนที่เอนศีรษะพิงกับหน้าต่างรถเป็นระยะ “พี่ปริม ถ้าเสาร์อาทิตย์นี้พี่อยากไปเที่ยวบอกผมได้เลยนะ เผื่อจะสบายใจขึ้นบ้าง” เขาเลือกที่จะพูดออกไป ถึงแม้ไม่รู้ว่าเธออยากไปหรือไม่ “ขอบใจนะจิน” ก็รู้สึกดีที่มีคนคอยเป็นห่วง แต่หัวใจในตอนนี้มันก็ยังเจ็บอยู่ดี ///////////////////////////////////////////////////////
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD