ตอนที่ 7
สัมผัสนุ่มละมุนบริเวณริมฝีปากยังตราตรึงอยู่ เรื่องเมื่อครู่เป็นเรื่องน่าอายมากนอกจากฉันจะไม่ผลักเขาแล้ว ฉันยังจูบตอบเขาอีก
“บ้าจริง ทำไมทำตัวแบบนี้นะยัยมิเกล”
ฉันแตะริมฝีปากเบาๆ น่าแปลกที่ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับสัมผัสนี้เหลือเกิน ทั้งที่ฉันไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ เจอแค่ครั้งเดียวตอนเขามากินข้าวที่ร้านพี่มิลินเท่านั้น
“อ้าว มิเกลมายืนทำอะไรตรงนี้”
ฉันหันไปตามเสียงทักทายก่อนจะยิ้มให้บุคคลด้านหลัง เธอชื่อว่าพี่หวาน เป็นรุ่นพี่ชั้นปี 4 ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยก็มีพี่คนนี้แหละที่คอยช่วยเหลือฉันอยู่ตลอด เวลามีปัญหาอะไรฉันก็มักจะปรึกษาเธอ และได้วิธีแก้ปัญหาเหล่านั้นอยู่เสมอ
“สวัสดีค่ะพี่หวาน ไปไงมาไงเนี่ย”
“พี่แวะมาเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลน่ะ เลยแวะมาทานข้าวร้านพี่สาวเราสักหน่อย”
“อ๋อ วันนี้พี่มิลินปิดร้าน ไปกินราดหน้าร้านนู้นกันดีกว่า”
เมื่อวานมีออร์เดอร์ขนมกลีบลำดวนห้าร้อยกล่อง วันนี้พี่มิลินเลยต้องปิดร้าน ตอนแรกเธอจะดึงดันเปิดร้านด้วยซ้ำแต่ฉันไม่ยอมเพราะอยากให้เธอพักผ่อนมากกว่า
“เอาสิ”
เราทั้งคู่เดินจากหน้าบ้านฉันมาร้านราดหน้าซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก วันนี้คนในร้านไม่เยอะมาก พวกเราเลยได้อาหารค่อนข้างเร็ว
ฉันเขี่ยเส้นราดหน้าในจานพลางถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงปัญหาที่เข้ามารุมเร้าตอนนี้
งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี อีกสองอาทิตย์ก็ต้องจ่ายค่ารักษาแม่แล้วด้วย ฉันจะไปหาเงินสามแสนมาจากไหนละทีนี้
“เป็นอะไรรึเปล่ามิเกล”
“เจ๊ดูออกเลยเหรอ”
“ดูออกสิ ปกติแกกินจุจะตายแต่วันนี้เอาแต่เขี่ยเส้นไปมาเหมือนเด็กเบื่ออาหาร”
ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ วางช้อนลงแล้วซบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดอาลัย
ทำไมพระเจ้าไม่ประทานเฉพาะความสวยมาให้ฉัน ทำไมต้องประทานปัญหามากมายแบบนี้มาให้ด้วย
“ก็เรื่องงานแหละพี่”
“งานทำไม ช่วงนี้ทำงานเยอะไปอย่างนั้นเหรอ?”
“เยอะอะไรล่ะ ช่วงนี้ไม่มีเลยสักงานแม้กระทั่งครีมหอยทากตราแมวยังหลุดเลย”
คิดแล้วก็แค้นฟินิกซ์ ช่วงนี้กำลังเป็นช่วงรุ่งเรืองของฉันแท้ๆ แต่ทุกอย่างกับต้องมาพังลงเพราะผู้ชายเลวๆ ปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นจริง
หากเป็นเมื่อก่อนเรื่องราวอาจจะไม่ใหญ่โตขนาดนี้ ข่าวพวกนั้นคงไม่เผยแพร่ไปในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้ และยิ่งสมัยนี้ทุกคนสามารถรับข้อมูลจากสื่อได้อย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นจริงหรือไม่ อีกทั้งผู้คนยังแสดงความคิดเห็น วิจารณ์ต่างๆ นานาโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริง หรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่นเลยด้วย
“อย่าบอกนะว่า แกไม่มีงานเพราะไอ้ฟินิกซ์น่ะ”
“อือ”
ฉันพยักหน้ารับพลางทักเส้นเข้าปาก อยากจะร้องไห้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ต้องเก็บน้ำตาเอาไว้ เพราะในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ฉันจะมานั่งเสียใจ ฉันต้องหาทางออกให้ได้
“เอางี้มั้ย มาทำงานที่ร้านเฮียเก่งก่อน ช่วงนี้เฮียเขาต้องการเด็กเสิร์ฟอยู่”
ทำงานร้านเฮียเก่งอย่างนั้นเหรอ ร้านเฮียเก่งเป็นร้านเหล้าแถวมหาวิทยาลัยฉันซึ่งฉันเองก็ไปกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา คงไม่มีอันตรายใดๆ อีกอย่างถ้าฉันทำงานร้านเฮียเก่งแล้วนำเงินที่ได้มารวมกับเงินเก็บ ฉันอาจจะเก็บเงินครบตามกำหนดก็ได้
“จริงดิ ทำพี่ทำ”
“โอเค เดี๋ยวพี่บอกเฮียแกไว้ให้”
เมื่อพี่หวานรับปาก ฉันเลยรีบลุกจากเก้าอี้ เดินเข้าไปกอดเธอพร้อมทั้งโยกตัวเธอไปมาจนพี่หวานบ่น
“พอเลย ไม่ต้องมากอด”
“อิอิ กอดเพราะรักไงจ้ะ”
พี่หวานแบะปากใส่ ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อแต่ฉันยังคงกอดรัดเธออยู่อย่างนั้น ถ้าไม่มีพี่หวาน ตอนนี้ฉันคงยังหาทางออกไม่ได้แน่
“ว่าแต่แกจะทำยังไงเรื่องงาน ไม่แก้ตัวอะไรหน่อยเหรอ”
“แก้ตัวตอนนี้ก็มีแต่ยิ่งแย่ พี่ก็รู้ว่าคนในโซเชียลบางคนเป็นยังไง”
“ก็จริง ถ้าอย่างนั้นคงต้องรอให้เรื่องเงียบไปเองสินะ”
“อือ คงต้องเป็นแบบนั้นแหละ”
ทางนี้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ ยิ่งเราพูดไป คนก็ยิ่งหาว่าแก้ตัว อาจจะทำให้เรื่องเลวร้ายหนักขึ้นไปอีก
ฉะนั้นช่วงนี้ ฉันคงทำได้แค่เงียบไปก่อน ฉันไม่อยากมีปัญหามากไปกว่า ไม่อยากให้พี่มิลินและแม่รู้เรื่องนี้ด้วย ทุกวันนี้ก็ภาวนาอยู่ว่าไม่พวกเขาเห็นข่าวเรื่องของฉันเพราะฉันไม่อยากให้ปัญหาของฉันต้องกลายเป็นปัญหาของคนอื่นไปด้วย
มาเฟียหนุ่มกลับมาเคลียร์งานที่บริษัทด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม การที่เจ้านายมีความสุขนั้นดีอยู่หรอก แต่การมีความสุขจนเกินไปแบบนี้ทำให้ลูกน้องต่างเริ่มกลัว โดยปกติแล้วออสตินจะค่อนข้างเป็นคนดุและจริงจัง น้อยครั้งนักที่เขาจะมีอาการแบบนี้ หรือเมื่อเช้าเจ้านายของเขากินยาผิดมา
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
คุณนุ เลขาของออสตินเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักเนื่องจากที่ดินที่ออสตินสั่งให้พวกเขาไปกว้านซื้อมานั้น ยังไม่สามารถซื้อได้ตามกำหนดเวลา
“สวัสดีครับคุณชายรอง”
“คุณนุเข้ามาก่อนสิ นั่งเลย เอากาแฟหน่อยมั้ย”
ออสตินเอ่ยชวนด้วยท่าทางอารมณ์ดี เขากำลังทำกาแฟอยู่ที่เครื่องกาแฟแถมยังมีจิตใจอันดีแบบไม่ปกติหันมาถามคุณนุด้วย คุณนุหันไปทางนพด้วยสายตาเป็นคำถาม นพไม่มีคำตอบอะไรให้เขานอกจากจะพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าเท่านั้น
“ไม่เป็นไรครับคุณชายรอง”
“ทำไมไม่กิน!”
คุณนุสะดุ้ง รีบยืดตัวตรงและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“รับคาปูชิโนก็ได้ครับคุณออสติน”
“ก็เท่านี้”
ออสตินหันกลับไปทำกาแฟต่ออย่างอารมณ์ดี แตกต่างจากคุณนุที่นั่งหายใจไม่ทั่วท้อง ทำไมวันนี้คุณออสตินแปลกๆ หรือว่าเขารู้เรื่องที่เขาจะมารายงานแล้ว และกำลังใส่ยาพิษลงไปในกาแฟเพื่อลงโทษเขา
ขณะที่สมองคิดไปต่างๆ นานา ออสตินก็เดินมาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามคุณนุ
“ดื่มสิ”
ออสตินผายมือไปยังแก้วกาแฟตรงหน้าคุณนุ คุณนุมองแก้วกาแฟด้วยแววตาสั่นไหวก่อนที่เขาจะตัดสินใจลงไปคุกเข่าลงกับพื้น เข้าไปกอดขาออสตินไว้ พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“คุณชายรองอย่าฆ่าผมเลยนะครับ ผมผิดไปแล้ว”
“หือ?”
“ผมรู้ว่าคุณชายรองต้องใส่พิษในกาแฟเพื่อลงโทษที่ผมทำงานไม่สำเร็จ”
“ฉันดูเป็นคนเลวขนาดนั้นเลย?” คิ้วเข้มเลิกขึ้น เขาแค่มีเจตนาดีชวนลูกน้องดื่มกาแฟเท่านั้น ทำไมถึงได้กลายเป็นว่าเขากำลังจะฆาตกรรมลูกน้องตัวเองเสียได้
“ใช่ครับ ผมรู้ว่าคุณชายรองไม่มีความเมตตาต่อคนที่ทำงานไม่สำเร็จแต่ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยนะครับ”
“ฉันจะฆ่านายก็ตอนนี้แหละ กล้าดียังไงมาหลอกด่าฉันวะ”
“ผมเปล่านะครับคุณชายรอง”
“พอเลย ปล่อยๆ มีเรื่องอะไรก็พูดมา”
นพเข้ามาแยกตัวคุณนุออกห่างจากออสติน คุณนุกลับไปยืนก้มหน้าสงบเสงี่ยมอยู่ด้านข้างออสตินแล้วยื่นเอกสารเกี่ยวกับเรื่องที่ดินให้เขาดู
“คือเรื่องที่ดิน ตอนนี้ยังซื้อได้ไม่หมดเลยครับ”
“เรื่องแค่นี้เอง โวยวายอะไรเยอะแยะวะ”
“เรื่องแค่นี้?” สีหน้าคุณนุบ่งบอกได้ว่าเขาค่อนข้างตกใจในคำตอบของออสติน
ก่อนหน้านี้ออสตินเคยโมโหมากเรื่องที่เขาไม่สามารถซื้อที่ดินได้แต่ยังคงให้ขยายเวลาแต่ทำไมวันนี้ เขาถึงพูดว่า ‘เรื่องแค่นี้’ ได้ละ
“เออ ไปๆ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจัดการเอง อ๋อ เอาขนมไปกินด้วยสิ เอาไปแจกคนอื่นด้วยนะ”
“ขอบคุณครับคุณชายรอง” คุณนุพยักหน้าและรับขนมไปแบบงงๆ ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจแต่เขาเลือกที่จะไม่ถามอะไรต่อ
เมื่อหันไปมองหน้านพ ลูกน้องคนสนิทของออสติน นพก็ยังคงพยักหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆเหมือนเดิม
เมื่อคุณนุเดินออกไป ออสตินเลยหยิบขนมกลีบลำดวนขึ้นมากิน
“นพเดี๋ยวเอาขนมนี่ส่งไปให้ตระกูลใหญ่กับตระกูลเล็กด้วยนะ”
“ได้ครับคุณชายรอง”
นพพยักหน้ารับคำสั่ง วันนี้ออสตินสั่งขนมกลีบลำดวนมาจากร้านของมิลินห้าร้อยกล่อง เพียงเพราะว่าเมื่อวานเขาเห็นเพจร้านของมิลินลงโฆษณาขนมกลีบลำดวนซึ่งนางแบบที่ถือขนมกลีบลำดวนอยู่นั้นคือเจ้าของใบหน้าสวยละมุนอย่างมิลาน
หลังจากเห็นรูปโฆษณานั้น ออสตินก็รีบสั่งให้นพโทรไปสั่งขนมจากที่ร้านทันที
“วันศุกร์ทางร้านมีคัปเค้กสตรอว์เบอร์รีลงขายนะครับ”
นพส่งโทรศัพท์ให้ออสตินดู ภาพหญิงสาวกำลังอ้าปากกินคุกกี้นั่นช่างดูน่ารักเสียจริง ออสตินเลื่อนดูภาพอื่นๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นด้วยรอยยิ้มที่เขายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่หลายนาที
“ให้ผมสั่งอีกมั้ยครับ”
“มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบกินสตรอว์เบอร์รี”
“ขอโทษครับคุณชายรอง”
“สั่งมาสักสี่ร้อยชิ้นแล้วกัน จริงๆ กูไม่ได้อยากสั่งหรอกนะ แค่จะเอามาเลี้ยงในบริษัทเท่านั้น”
“ครับคุณชาย”
ออสตินรีบพูด เขาขยับเนกไทพร้อมกระแอมเล็กน้อย
“มันเป็นสิ่งที่ประธานบริษัทที่ดีควรทำใช่มั้ยล่ะ”
“แน่นอนครับคุณชายรอง”
———————