CHAPTER 2 “หน้าที่การงาน”

2479 Words
Rarita café บรรยากาศครึกครื้นภายในร้านเป็นภาพที่พบเห็นได้จนชินตา ‘ริต้า’ เจ้าของร้าน Rarita café เดินลงมาจากชั้นบนของร้านซึ่งเป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัวของเธอ เพื่อมาเช็คความเรียบร้อยเช่นทุกวัน ร้านกาแฟแห่งนี้เปิดมาได้เกือบ 6 ปีแล้ว ริต้าเปิดร้านนี้ขึ้นด้วยเงินเก็บของตัวเองที่มี หลังจากเรียนจบและรับงานเป็นช่างภาพอิสระตามสายที่เรียนมาได้เกือบปี เธอก็ตัดสินใจซื้อตึกนี้เพื่อเปิดกิจการ โดยใช้พื้นที่ของร้านเป็นสตูดิโอสำหรับทำงานและพักอาศัยไปด้วยในตัว ตัวร้านเป็นอาคารพาณิชย์สามชั้นครึ่ง 2 คูหาติดกัน ตั้งอยู่บนทำเลใกล้กับมหาวิทยาลัยที่ริต้าเรียน โดยชั้น 1 และชั้นลอยของร้าน จัดแบ่งให้เป็นพื้นที่ร้านกาแฟ ในชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่สตูดิโอสำหรับถ่ายงานและห้องทำงาน ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นพื้นที่พักอาศัยของเธอเอง “ปุณ เดี๋ยวเรียกอัดกับฝ้าย ขึ้นไปคุยกับพี่ที่ห้องทำงานหน่อยนะ เราด้วย” ริต้าเรียกปุณมาแจ้ง ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปรอในห้องทำงานชั้นบน ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก... เสียงเคาะประตูเป็นสัญญาณขออนุญาตดังขึ้น ตามด้วยพนักงานทั้งสามคนเดินเข้ามาด้านในห้อง “นั่งเลยจ่ะ พี่เรียกมามีทั้งคำถามและเรื่องที่จะแจ้งนะ” ริต้าเดินจากโต๊ะทำงานมานั่งรวมกับคนอื่น ๆ ที่โต๊ะประชุม “เรื่องแรก เปิดเทอมที่จะถึงนี้ ฝ้าย จะขึ้นปี 4 แล้ว พี่ถามเราก่อนเลยว่าจะลาออกไปเตรียมเรื่องเรียนมั้ย หรือจะทำงานต่อ เพราะปี 4 จะค่อนข้างหนักอยู่” เนื่องด้วยร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมง และพนักงานที่ทำงานอยู่ จะมีพนักงานประจำแค่ 2 คน ส่วนคนอื่น ๆ จะเป็นนักศึกษาที่เรียนอยู่และต้องการทำงานพิเศษเพื่อหาค่าใช้จ่ายช่วยครอบครัว ทำให้ริต้าต้องมีการจัดระเบียบเวลาการเข้าทำงานใหม่ในแต่ละเทอม เพื่อให้ลงตัวกับการเรียนของเด็กแต่ละคน โดยจะแบ่งพนักงานเป็น 2 กะ โดยมีปุณและอัดที่เป็นพนักงานประจำ คอยควบคุมดูแลให้การจัดการภายในร้านสามารถทำได้ต่อเนื่องไม่ขาดตอน “ฝ้ายคงทำต่อค่ะพี่ริต้า เพราะหน่วยกิตส่วนใหญ่เก็บเกือบครบแล้ว เหลือหลัก ๆ คืองานวิจัย ฝ้ายคิดว่าฝ้ายไหว ยิ่งปี 4 ค่าใช้จ่ายยิ่งเยอะ ฝ้ายทำต่อดีกว่า” ฝ้ายยิ้มให้ริต้าที่ยิ้มตอบกลับมา “โอเค ปี 4 ปีนี้มีสองคน อีกคนแจ้งพี่มาแล้วว่าจะออก ถ้าฝ้ายไม่ออก งั้นก็รับเพิ่มมาแทนแค่คนเดียว เดี๋ยวเปิดเทอม อัดจัดการเรื่องประกาศรับคนเพิ่มเลย นัดวันได้แล้วแจ้งพี่อีกที แล้วเดี๋ยวเรามาคุยพร้อมกัน” อัดพยักหน้าพร้อมรับคำสั่งจากริต้า “ส่วนเรื่องที่จะแจ้ง เดี๋ยวปุณกับอัดรับเรื่องไว้แล้วไปแบ่งงานกันนะ เรื่องแรกพี่ขอปรับระบบการเช็คสต็อกของหน่อย จากเดิมทุก 2 อาทิตย์ พี่ขอปรับเป็นเช็คทุกอาทิตย์ เพราะของบางรายการสั่งเข้ามาไม่ทัน ติดวันหยุดบ้าง ติดเรื่องขนส่งบ้าง โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟ อันนี้เช็คทุกวันได้ยิ่งดี เราสองคนรู้ปริมาณที่ใช้ต่อวันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น กะเวลาแล้วแจ้งพี่แต่เนิ่น ๆ นะ” ริต้ากำชับกับทั้งสองคน “ส่วนเรื่องที่สอง พรุ่งนี้พี่นัดช่างที่จะเข้ามาติดกล้องวงจรปิดไว้ พี่จะทำระบบใหม่ แต่รายละเอียดพี่คุยกับช่างไว้หมดแล้ว เดี๋ยวพี่จะแจ้งเราไว้ด้วย ใครก็ได้ดูแทนพี่หน่อย พอดีมีงานด่วนเข้ามากะทันหัน” “เดี๋ยวปุณดูให้ครับ พี่ริต้าส่งรายละเอียดมาให้ปุณได้เลย แล้วชั้นบนติดด้วยมั้ยครับ” ปุณถามริต้ากลับ “ชั้นสามติดแค่ตรงบันไดทางขึ้นไปจ่ะ ด้านในไม่ติด” ปุณพยักหน้ารับ “อ่อ แต่ในห้องนี้ติดนะ เดี๋ยวพี่ทิ้งกุญแจไว้ให้ปุณ” “เรื่องสุดท้าย อันนี้ถามเราสองคน” ริต้าหันไปมองปุณและอัด “อยากมีวันหยุดมั้ย เพราะสองคนทำงานทุกวันไม่ได้พักเลย ถ้าเราอยากหยุด พี่จะรับพนักงานประจำเพิ่มอีกคน จะได้มาสลับกันได้” ปุณกับอัดหันมองหน้ากัน “เอาจริง ๆ ผมยังไงก็ได้ครับ แล้วแต่พี่ริต้าเลย เพราะหยุดไปผมก็ไม่ได้ไปไหนอยู่ดี” อัดออกความเห็น “ปุณก็เหมือนพี่อัดเลย แต่ถ้ารับมาเพิ่มอีก คนจะเยอะไปมั้ยครับ” ปุณถามริต้ากลับ “ถ้าเรื่องค่าใช้จ่ายพี่ไม่ติดนะ” ริต้าหยุดคิด “งั้นเอาแบบนี้ ตอนประกาศรับพาร์ทไทม์เพิ่ม เราประกาศรับพนักงานประจำไปด้วยอีกคน อันนี้รับมาเทรนก่อน ในอนาคตเผื่อเราเกิดเหตุสุดวิสัยต้องหยุด จะได้มีคนรันแทนได้” ปุณกับอัดพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของริต้า “งั้นตามนี้จ่ะ ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวพี่ตามลงไป” เมื่อทั้งสามคนกลับลงไป ริต้าก็กลับไปเคลียร์เอกสาร ก่อนที่จะถือโน๊ตบุ๊คคู่กายเดินลงไปทำงานด้านล่างต่อ Line PhotoGang ริต้า : รวมพลที่ร้านได้กี่โมงจ๊ะสาว ๆ มีงานด่วน กอหญ้า : ด่วนที่ว่านี่คือ ด่วนแค่ไหนอ่ะ ริต้า : งานพรุ่งนี้จ่ะ ไพลิน : โอ้โห ด่วนจริง เดี๋ยวออกไปเลย : ไม่เกิน 10 นาที กอหญ้า : @ไพลิน แวะรับเค้าด้วย ขี้เกียจเอารถไป ไพลิน : ได้ค่ะคุณหนู ริต้า : รอที่ร้านนะ มุมเดิม ริต้านั่งรอเพื่อน ๆ ไม่นาน ทั้งสองคนก็มาถึง ไพลินและกอหญ้า เป็นเพื่อนสนิทของริต้าตั้งแต่เรียนมัธยม ทั้งสามคนเลือกสอบเข้ามาเรียนคณะเดียวกันและมหาลัยเดียวกัน เพียงแต่เรียนคนละสาขาเท่านั้น “มาแล้ว ต้องรีบคุยเลยมั้ย หรือกินก่อนได้” ไพลินถามเมื่อทิ้งตัวลงนั่งเรียบร้อย “สั่งก่อน เค้าหิว เดี๋ยวค่อยคุยระหว่างรอ” กอหญ้าตอบแทน “พี่ ๆ รับอะไรดีครับวันนี้” ปุณเดินมารับรายการจากทั้งสองคน “พี่เอาชาเขียว 1 แก้ว แล้วก็เค้กแครอทจ่ะ ส่วนของลินเอาอเมริกาโน่เย็นไม่หวานเหมือนเดิม ลินเอาขนมมั้ย” ไพลินส่ายหน้าแทนคำตอบ “ของพี่ขอดริปเคนย่าเพิ่มอีกแก้วจ่ะ” ริต้าหันไปบอกรายการกับปุณ “ชาเขียว 1 เค้กแครอท 1 อเมริกาโน่เย็นไม่หวาน 1 แล้วก็ดริปเคนย่า 1 นะครับ เดี๋ยวปุณเอามาให้ครับ” ปุณทวนรายการก่อนจะเดินไปเตรียมเครื่องดื่มและขนมให้ทั้งสามคน “มาระหว่างรอ” ริต้าพับหน้าจอลงเพื่อคุยงานกับเพื่อนทั้งสองคน “งานพรุ่งนี้เป็นถ่าย pre-wedding นะ กล้องหลักจะเป็นริต้าเอง ของกอหญ้าขอเป็นกล้องเสริม เก็บบรรยากาศเบื้องหลัง แล้วก็ของลินจะเป็นวีดีโอ” ริต้าอธิบายรายละเอียดงานให้ทั้งสองคน “วีดีโอเบื้องหลังหรือวีดีโอจริงจัง” ไพลินถามเพิ่มเติม “ทั้งสองอย่างเลย จะมีเก็บเบื้องหลังระหว่างที่ริต้าถ่ายภาพนิ่ง แล้วก็มีถ่ายวีดีโอสำหรับทำ presentation ด้วย” ริต้าลงรายละเอียดเพิ่มเติม “ต้องเตรียมผู้ช่วยมั้ย สถานที่กว้างรึเปล่า” ริต้าส่ายหน้าแทนคำตอบ “พี่แดนบอกว่าจะช่วยลินในส่วนของวีดีโอ เพราะงานเร่งกลัวเราจะหาคนช่วยไม่ทัน” ไพลินพยักหน้ารับ “ก็จริง เร่งจริง งานใหญ่ด้วย” กอหญ้าเสริม “งั้นก็มาเจอกันที่นี่ก่อน เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ เดี๋ยวไปพร้อมกันคันเดียวเลย ตีห้านะมีถ่ายแสงเช้า” ริต้านัดแนะเวลากับเพื่อน “เดี๋ยวให้ลินไปรับเค้าก่อน แล้วค่อยมาพร้อมกัน” กอหญ้าสรุป “ค่ะคุณหนู จริง ๆ กอหญ้าไม่ต้องซื้อรถหรอกเนอะ ขับนับครั้งได้เลย” ไพลินแอบเหน็บเพื่อน “หรือจะกลับไปเอาของแล้วมาค้างที่นี่ จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก” ริต้าเสนอทางเลือก “ก็ดีนะ ไม่ได้ปาร์ตี้ชุดนอนนานแล้ว” กอหญ้าเห็นด้วย “ไม่มีปาร์ตี้ค่ะคุณหนู ไปทำงานแต่เช้า ถ้าปาร์ตี้จะได้นอนกี่โมงคะ” ไพลินยกมือยีหัวกอหญ้าเบา ๆ “โอเค งั้นตามนี้เนอะ” เมื่อตกลงกันได้ ทั้งสามคนก็นั่งคุยเรื่องรายละเอียดของงานกันอีกเล็กน้อย เสร็จเรียบร้อย ไพลินและกอหญ้าก็แยกกลับไปเตรียมตัว โครงการคอนโดพญาไท บอยเดินทางมาถึงหน้าไซท์งานเพื่อคุยกับหัวหน้าทีมช่าง เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านในออฟฟิตชั่วคราว ก็เจอเพียงไม้ที่นั่งรออยู่คนเดียว “ยังไม่มาอีกหรอ” บอยถามขึ้น “เมื่อกี้มารอบนึงแล้วพี่ เห็นพี่ยังไม่มา เลยขอไปห้องน้ำ เดี๋ยวคงมา” บอยพยักหน้ารับ “ครั้งที่แล้วที่คุย จบดีมั้ย” ไม้พยักหน้า “ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันนะพี่ เค้าก็ตอบรับว่าจะปรับให้ดีขึ้น รับปากว่าจะเอาคนเข้ามาเพิ่ม ทดแทนส่วนที่ล่าช้าไป แต่ตอนนี้คือมันไม่มีอะไรคืบหน้าเลย” “สวัสดีครับคุณบอย ขอโทษที่ให้รอ” หัวหน้าช่างเดินเข้ามาในออฟฟิต “พี่น่าจะรู้แล้ว ว่าผมจะมาคุยเรื่องอะไร” หัวหน้าช่างพยักหน้าแทนคำตอบ “แต่ผมไม่ได้จะมาเอาคำตอบแบบเดิมนะครับ เมื่อเช้าในที่ประชุมพวกผมลงความเห็นแล้วว่า ถ้าภายในสองวันหน้างานยังไม่มีความคืบหน้า หรือปริมาณช่างที่เข้ามายังไม่เหมาะสมกับหน้างาน ทางผู้บริหารจะยกเลิกสัญญาและไม่มีการชดเชยหรือค*****นประกันใด ๆ ทั้งสิ้น” หัวหน้าช่างหน้าเสียทันทีหลังจากได้ยิน “คุณบอย ทำกันขนาดนี้ เท่ากับกดดันผมทางเดียวเลยนะครับ ปัญหาทางผมเองก็เยอะ ลูกน้องเก่าก็ออกไปหลายคน ลูกน้องใหม่ก็ฝีมือไม่ได้ ทำไปแก้ไป ไหนจะเรื่องใบอนุญาตอีก ถ้าผมต้องใช้เวลาแก้ปัญหา ภายในสองวัน ผมจะไปหาคนที่ไหนมาอัดงานให้พวกคุณได้ครับ” หัวหน้าช่างพยายามหาเหตุผลมาแย้ง “ผมไม่ได้ให้คุณแก้ปัญหาในสองวัน แต่ผมให้เวลาคุณแก้ปัญหามาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วนะครับ คุณไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรให้ผมเห็นเลย” ไม้เถียงกลับ “ใจเย็นไม้” บอยเบรกลูกน้อง “พี่บอกว่าผมกดดันพี่ แต่ลูกค้าก็กดดันผมเหมือนกันนะครับ โครงการนี้ทุกฝ่ายรู้ดีว่าเวลาค่อนข้างบีบ เราหลุดจาก schedule ที่วางไว้ไม่ได้เลย แต่นี่มันหลุดมา 2 week เลยนะพี่ มันจะไม่ทันเอา ผมรอพี่แก้ปัญหาไม่ได้หรอก” บอยอธิบายเหตุผลกลับไป “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง ผมเลือกทางไหนไม่ได้เลย จะรับปากก็ไม่ได้ เพราะผมรู้ว่าไม่มีคน ถ้าไม่ทำต่อก็ขาดทุน มีแต่เสียกับเสีย” หัวหน้าช่างหมดทาง “ผมให้โอกาสพี่เร่งแก้ปัญหาสองวัน ผมให้ได้เท่านี้จริง ๆ ถ้าผมเห็นความพยายามในการแก้ปัญหาภายในสองวันนี้ พี่จะได้ทำโครงการนี้ต่อ แต่ถ้าไม่ก็คงต้องหยุดเท่านี้ หวังว่าพี่จะพยายามนะครับ” บอยสรุป “เดี๋ยวผมขอเข้าเช็คงานเลยแล้วกัน ไหน ๆ ก็มาแล้ว เผื่อจะมองเห็นทางแก้ เชิญครับ” ไม้พาบอยเดินตรวจงานและดูปัญหาที่เกิดขึ้นหน้างาน โดยมีหัวหน้าช่างเดินตามไปด้วยอีกคน “งั้นพี่กลับก่อนนะ เดี๋ยวต้องวนกลับไปรับไอ้เหนืออีก ยังไงพรุ่งนี้สาย ๆ รายงานความคืบหน้าให้พี่อีกที” บอยกำชับลูกน้อง ก่อนจะเดินออกจากออฟฟิตไปที่รถ เพื่อเตรียมตัวไปรับลูกน้องอีกคนที่บริษัท บอยมาถึงบริษัทก่อนเวลานัดไม่นาน ในขณะที่จอดรถเตรียมหยิบโทรศัพท์โทรหาลูกน้อง ก็เงยหน้าไปเห็นลูกน้องเดินออกมาพอดี จึงบีบแตรให้สัญญาณไป “อ่าวพี่!! ผมก็นึกว่า BM สาวที่ไหนมาบีบแซว คันเดิมไปไหนอ่ะ ทำไมขับซะหรูเชียว” เหนือแซวรุ่นพี่ขณะที่เปิดประตูเข้ามานั่งในรถ “พี่สาวยืมไป เลยเอารถพ่อมาใช้ก่อน” บอยหักพวงมาลัยกลับเข้าถนนหลัก หลังจากเหนือขึ้นรถเรียบร้อย “พี่กินข้าวยังเนี่ย” เหนือหันมาชวนคุย “ยัง ตั้งแต่เช้ามีกาแฟแก้วเดียวเนี่ย วุ่นวายชิบ เข้าไปไซท์พญาไทมา สงสัยต้องเปลี่ยนทีมจริง” บอยบ่นให้เหนือฟัง “เห็นพี่ไม้บ่นทุกวัน ดีนะโชว์รูมผมแทบไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าคุมโครงการใหญ่แบบนั้นคงเครียดน่าดู” เหนือทำท่าขยาด “อีกนานเราอ่ะ คุมโครงการเล็ก ๆ ไปก่อน ไม้มันคุมโครงการใหญ่มาหลายที่แล้ว พอมาเจอปัญหาแบบนี้ยังแย่ ถ้าเราขึ้นไปคุมโครงการใหญ่ตั้งแต่ยังใหม่แบบนี้ ตายแน่นอน” เหนือพยักหน้าเห็นด้วย บอยขับรถเลี้ยวเข้าไปจอดที่ออฟฟิตเล็ก ๆ หน้าโครงการ ก่อนจะพากันเดินเข้าไปดูความคืบหน้างานด้านใน “อย่างที่เห็นตอนนี้ก็ไม่ได้ติดอะไร พรุ่งนี้ระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดจะเข้าติดตั้ง พร้อมกับงานกระจกทั้งหมด พี่มีติดตรงไหนมั้ย” เหนือพาบอยเดินดู พร้อมอธิบายรายละเอียดแต่ละจุดให้ฟัง “เท่าที่ดูก็ยังไม่มีนะ แต่มันดูไม่มีปัญหาเกินไปมั้ยวะ” บอยเดินหาจุดบกพร่องที่อาจจะเกิดได้ “อ่าวพี่ ก็ผมเก่งไง ปัญหาเลยไม่มี” เหนือคุยอวดตัวเอง “น้อย ๆ หน่อย เดี๋ยวเจอปัญหาแล้วจะหนาว” บอยเตือนรุ่นน้อง “อันนี้ตามกำหนดการไม่ติดปัญหาอะไรใช่มั้ย มีส่วนไหนที่ยังไม่ได้ติดต่อมั้ย” บอยถามขึ้น ขณะเดินตรวจ “ไม่มีครับ ผมนัดช่างแต่ละชุดไว้แล้ว ทุกอย่างคอนเฟิร์ม ต้องรอดูว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรระหว่างนี้มั้ย ถ้าไม่มีก็เสร็จตามกำหนดการแน่นอนครับ” เหนือรายงาน “โอเค งั้นมีปัญหาตรงไหนแจ้งพี่แล้วกัน ฝากอัพเดทรูปหน้างานลงกรุ๊ปให้ด้วย อ่อ...วันทดสอบระบบรักษาความปลอดภัยแจ้งพี่ล่วงหน้าด้วยนะ พี่จะเข้ามาดูเอง” เหนือจดรายละเอียดตามที่บอยกำชับ ทั้งสองคนพากันเดินเช็ครายละเอียดรอบ ๆ ทั้งด้านนอกและด้านใน จนครบเรียบร้อยทั้งหมด ก็พากันเดินทางกลับเข้าบริษัทไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD