บทที่3.มันคือความทรงจำที่แสนวิเศษ

1509 Words
เสียงครางเบาๆ ผิวหน้าหวานเห่อร้อน ฉันพยายามกลั้นความหวามไหวที่โถมใส่ทุกทิศทาง แต่ไม่สำเร็จ ฉันครางกระเส่า ร่างกายบิดส่ายด้วยความเสียดสยิวฉันพยายามห้ามตัวเองให้มีสติ มีเสียงใครบางคนตะโกนอยู่ในหัว คนคนนั้นพยายามเตือนให้ฉันต่อสู้ แต่เวลานี้ฉันสูญสิ้นการควบคุมร่างกายตัวเองไปเสียแล้ว... ร่างกายของฉันไม่เชื่อฟังคำสั่ง สมองของฉันว่างเปล่า ร่างกายของฉันโอนอ่อนตามเขา แม้จะรู้เต็มอกว่าเขากำลังจะทำอะไรต่อไป... ผมเกี่ยวซับในตัวสุดท้ายด้วยปลายนิ้วร้อนๆ รั้งไส้ไก่ที่เกาะสะโพกผาย ร่นลงไปจนสุดปลายเท้า ก่อนจะเหวี่ยงไปไกลๆ เมื่อซับในชิ้นนั้นเกะกะสายตาสิ้นดี ผมกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เผลอกลั้นลมหายใจจนอากาศแทบหมดปอด ความอวบอิ่มตรงหน้าน่าหลงใหลเสียจนแทบหยุดไม่อยู่ กลีบดอกปิดสนิท!! รอยแยกอาบน้ำค้างจนฉ่ำเยิ้ม ผมถอนใจแรงๆ เพ่งมองกลีบดอกไม้งามด้วยสายตาตื่นตะลึง ผมสูดลมหายใจลึกๆ ยื่นมือสั่นๆ ออกไปแตะต้อง ผมไล้กลีบดอกอย่างถนอม สอดปลายนิ้วลงกลางกลีบดอกอย่างเบามือที่สุด...ผมตัวเกร็งกับปฏิกิริยาตอบกลับของดอกไม้ช่อนี้ ที่ฤทธิ์ไม่น้อยเลย ขนาดกลีบดอกแย้มบ้านรอรับการสัมผัส แต่เกสรด้านในกลับดึงดันที่จะต่อต้าน แรงดูดตอดเบาๆ นั่นทำให้ผมทรมานไม่น้อยเลย ฉันสะดุ้ง!! มีบางอย่างแทรกลึกเข้ามาในร่างกาย บางอย่างที่ร้อนผ่าวและแข็งเหมือนแท่งเหล็ก ฉันพยายามขยับตัวหนีความอึดอัดที่รุกราน พยายามโก่งสะโพกหนี แม้จะรู้เต็มอกว่าไร้ประโยชน์ แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ “ชูว์!!” เสียงปรามดังแผ่วๆ ข้างหู พร้อมกับลมหายใจร้อนๆ ที่ทำให้ฉันขนลุกซู่ ลืมแม้กระทั่งส่วนกลางร่างกายบอบบาง ที่มีบางอย่างแทรกลึกเข้ามา ฉันรู้สึกตัวอีกทีก็สายเกินกว่าจะกลับไปอยู่ที่จุดเดิมเสียแล้ว “ยะ อย่า” ฉันพยายามร้องบอกเขา เขาสนใจฟังเสียงของฉันที่ไหนล่ะ เขาดึงดันเดินหน้าเพิ่มความทรมานปนความซ่านสยิวให้ฉันต่อ เขากดนิ้วแข็งๆ นั่นลึกเข้าไปอีก ฉันตัวสั่นระริกเพราะทรมาน แล้วสะท้านไปทั้งตัว เมื่อนิ้วแข็งๆ นั่นไม่ได้ทำแค่แทรกเข้ามา เขาขยับนิ้วถี่ๆ ชักเข้าถอนออกรัวๆ ฉันเผลอตัวเปล่งเสียงครางกระเส่าออกมาจนได้ แถมร่างกายของฉันก็บัดซบน่าดู ฉันแอ่นตัวช่วงล่างตามติดนิ้วของเขาแบบหลงละเมอ ผมยิ้มเจ้าเล่ห์มองเธอที่นอนตัวอ่อนด้วยแววตาปริ่มความปรารถนา ผมปลดพันธนาการของตัวเองด้วยความเร่งรีบ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เลือดในกายเดือดพล่านทรมานปานใจจะขาด เพียงแค่สัมผัสแค่เพียงบางเบา หล่อนสร้างความรู้สึกน่าอัศจรรย์ได้แทบทุกสัดส่วน ไม่เคยคิดว่าตนเองจะคว้าของดีมาได้ จนกระทั่งปอกเปลือกหล่อนแล้วนั่นแหละ เขาถึงได้รู้ว่า ตรงหน้านี่หากไม่ใช่นางกินรี ก็นางฟ้าตกสวรรค์ดีๆ นี่เอง ผมถอนปลายนิ้วออกมาจากกลางกลีบอวบช้าๆ นำความเป็นตัวตนของตัวเองเข้าหาหล่อนแบบเนิบนาบ มือแข็งแรงตวัดเรียวขายาวเรียวเกี่ยวรอบสะโพกสอบ ก่อนจะกดตัวตนแข็งขึงแทรกลึกลงกลางกลีบดอกแบบช้าๆ “อย่า...ยะ อย่า” ฉันสะดุ้งเฮือก!! รีบขืนตัวไว้ สติที่หลุดหายไปก่อนหน้ากลับคืนมาทั้งหมด แต่คงสายไปเสียแล้ว... “อย่ากลัวไปเลย เชื่อฉันเถอะ นี่คือสิ่งสวยงามที่ฉันอยากให้เธอรู้จักไว้” ผมพูดเสียงปร่ามองสบนัยน์ตากลมโตของเธอ พร้อมทั้งกดเอวสอบแรงๆ แทรกลึกเข้าไปภายในร่างกายเธอจนสุดทางรัก “ไม่ มันเจ็บ ฉันไม่อยากรู้จัก ฉันจะตายอยู่แล้ว” ฉันร้องกรี๊ดออกมาด้วยความทรมาน กึ่งกลางร่างกายมีบางอย่างร้อนผ่าวและแข็งตึงจมดิ่งอยู่ตรงนั้น “อ่า!” ผมครางเบาๆ ร่างกายเล็กๆ ของเธอกำลังทำให้ผมเกือบตาย หล่อนแน่น!! หล่อนหอมหวานสุดที่จะห้ามใจจริงๆ “อย่าดิ้นนะ...ปล่อยตัวตามสบายเถอะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน” ผมยิ้มใส่ตาเธอ ฉันส่ายหน้าน้ำตาไหลพราก ยกมือขึ้นดันอกเขา พร้อมกับกัดฟันพูดเสียงขุ่น “ไม่ อย่ามายุ่งกับฉัน คุณกำลังทำร้ายฉันอยู่นะคะ” เขายิ้มอีกแล้ว แถมไม่หยุดสิ่งที่เขาทำอยู่ด้วย เขาขยับเคลื่อนตัวช้า สร้างความทรมานให้ฉันไม่น้อย ฉันอยากทำได้มากกว่าต่อว่าเขา อยากพลักให้เขากระเด็นหายไป แต่ที่ฉันทำได้คือ...ฉันดิ้นพราดๆ เสียดส่ายร่างกายกระตุ้นความปรารถนาของเขาเสียนี่ ผมกัดฟันกรามต้านความทรมานจากกระแสรัญจวน ฝืนตัวเองสุดฤทธิ์ไม่ให้โถมเข้าใส่หล่อนเหมือนอย่างที่ตัวเองต้องการ เพราะไม่ใช่แค่หล่อนที่เจ็บร้าวทรมาน ตัวเขาเองก็เช่นกัน เธอทั้งคับแน่นและตอดรัดเขาจนแทบจะหมดความอดทน เขาอยากเป็นวายร้ายกระโจนเข้าหาหล่อนอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ทำไม่ได้อย่าใจคิดนัก สีหน้าและแววตาของหล่อนหยุดความปรารถนาอันป่าเถื่อนของผม ผมพยายามทำความเข้าใจกับประสบการณ์ครั้งแรกที่หล่อนเผชิญหน้าอยู่ ผมอาจทำให้หล่อนขยาด หากประสบการณ์ครั้งนี้ไม่เหมือนกับจินตนาการของสาวแรกรุ่น “ไม่!! วิทเจ็บ ไม่เอาอย่ามาโกหก อ่ะ!! อูว์!!” เธอพึมพำพูดเสียงกระท่อนกระแท่น “เธอชื่ออะไรนะ” ผมถามกลับ กระแทกตัวหนักๆ เมื่อหล่อนทำเฉย “วิทชื่อวิทวลาค่ะ อย่า อย่าทำแบบนั้น” ผมส่ายศีรษะ ผมพยายามห้ามใจแล้วนะ นี่คือที่สุดที่ผมยอมได้ หากให้ผมถอนตัวเวลานี้ ผมคงจุกอกตายแน่นอน ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ ยกมือขึ้นปัดยอดอกอิ่ม จนเธอครางเสียงกระเส่า เธอยึดมือผมไว้ พร้อมกับที่ผมดึงสะโพกกลับช้าๆ ผมโจนจ้วงเข้าใส่สุดแรงจนเธอครางลั่น เพียงแค่ขยับร่างกายเธอก็ร้องครวญด้วยความซ่านสยิว ตอนนี้เธอคงไม่รู้สึกเจ็บแล้วสินะ “ไงวิท...จะให้ฉันไปต่อหรือ...หยุดแค่นี้ดี” ผมแสร้งถาม เพราะรู้ความต้องการของตัวเองและเธอดี ผมถามไปอย่างนั้นแหละ เพราะหากหล่อนสั่งให้หยุด!! ผมก็ไม่คิดจะฟังเวลานี้เอวผมเหมือนติดสปริง!! มันกระทั้นถี่ๆ แบบอัตโนมัติ คลื่นความร้อนหมุนวนเหมือนลูกข่าง อุณหภูมิห้องร้อนเหมือนอยู่กลางเตาอบแม้แอร์คอนนิชั่นทำงานเต็มที่ แต่หาได้ลดทอนความร้อนในร่างกายของคนทั้งคู่ได้เลย ฉันครางเสียงหวานพร่า ดังลอดออกมาจากกลีบปากอิ่มไม่หยุด แผ่นหลังของผมชื้นไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ ขณะที่ร่างกายผมขยับเคลื่อนที่เหมือนเครื่องจักร เตียงนอนสั่นกราวไฟพิศวาสถูกจุดแทบมอดไหม้ เปลวไฟร้อนแรงนั่นลามเลียคนทั้งคู่ ผมและเธอไม่สนใจอะไรอีกต่อไป รู้แค่ว่ากำลังตะเกียกตะกายไขว่คว้าบางอย่างที่มองเห็นลิบๆ “กรี๊ด!!” ฉันกรีดร้องเสียงแหลม ร่างกายกระตุกสั่น ลมหายใจหอบๆ ก่อนจะทรุดฮวบเมื่อไขว่คว้าสวรรค์มาอยู่ในกำมือตัวเองได้สำเร็จ ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ดีใจกับชัยชนะตัวเอง ผมส่งเธอถึงสวรรค์ดาวน์ดึงได้สำเร็จ ทีนี้ก็เป็นตัวเองที่จะต้องกระโจนตามหล่อนให้ทัน...ผมรวบเอวบางเข้าหาตัวแรงๆ กระตุกร่างกายอ่อนยวบเข้าหาตัวเร็วขึ้นก่อนจะทะยานขึ้นฟ้าตามหล่อนไปติด พร้อมกับที่...เมล็ดพันธุ์ชีวิตสาดใส่เธอจนหยดสุดท้าย... “อ๊าคคคคค...” ผมโก่งคอร้องโหยหวน เรือนกายโค้งงอ ลำตัวเกร็งกระตุก ก่อนจะทรุดฮวบลงบนอกอิ่ม หอบหายใจจนตัวโยน ผมพลิกตัวลงด้านข้าง ดันเรือนกายอวบอุ่นที่นอนหอบหายใจแรงๆ ออกห่าง และนอนแผ่หลากลางเตียงแบบหมดแรงเช่นกัน... ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกบอกไม่ถูก ฉันทรงตัวลุกขึ้นนั่ง “อูยยยย” การขยับตัวของฉันย้ำเตือนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่พวงแก้ม แค้นยิ้มให้ตัวเองหนึ่งกรุบ เปลือกตากะพริบถี่ๆ ไล่รอยน้ำตาที่รื้นขึ้นมาอีก ห้องว่างเปล่าเงียบกริบไร้ตัวตนของบุคคลอื่น ฉันรวบผ้าห่มขึ้นแนบตัว กวาดตามองไปรอบๆ จนสะดุดเข้ากับบางอย่างที่หัวเตียงนอน กระดาษสองชิ้นขนาดแตกต่างกัน มือสั่นๆ ของฉันเอื้อมไปหยิบมาดูใกล้ๆ มันชั่งเหมือนกับละครที่ฉันเคยเห็นผ่านตามาเหลือเกิน กระดาษชิ้นแรก คือนามบัตรของเขา ผู้ชายที่ป้ายรอยราคีไว้บนร่างกายฉัน อนันยช ศาตนันท์ CEO NS กรุ๊ป กับเช็คที่มีมูลค่าสูงหนึ่งใบ เขาตีราคาค่าตัวฉันด้วยจำนวนตัวเลขหกหลักเชียวนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD