อลิยาเดินไปชะเง้อดูประตูรั้ว เป็นรอบที่สามเมื่อได้ยินเสียงรถแว่วเข้าหู แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ใช่รถของคู่หมั้นสักที ในใจนั้นไหวหวั่นไม่น้อย กลัวว่าจะได้ไปคนเดียวเหมือนสองวันที่ผ่านมา
แม้จะรู้ว่าเขางานยุ่งจนไม่มีเวลาพักแค่ไหน แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ เพราะอยากให้เขาไปแจกการ์ดด้วยมากกว่า
แต่เพราะความรักที่มีให้เขาจนล้นหัวใจ จึงยอมรับได้ทุกเงื่อนไขที่เขาหยิบยื่นให้ ไม่ว่าเขาจะยกหน้าที่เลือกสรรทุกอย่างเพียงคนเดียวโดยให้เหตุผลว่า
‘พี่เลือกไปก็ไม่ตรงใจแอลลี่สักที งั้นพี่ยกให้เลือกเองทั้งหมดเลยจ้ะ อยากได้แบบไหนที่ตามใจหมด’
หากจะมองเผินๆ ก็สามารถทึกทักเอาได้ว่าเขาตามใจทุกอย่างจริงๆ แต่ถ้าจะให้คิดลึกๆ และเท่ากับเห็นเพื่อนคนอื่นแต่งงานแล้วช่วยกันเลือกกับแฟนแล้วนั้น ก็อดคิดไม่ได้ ว่าเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับงานแต่งเท่าที่ควรนัก
“ปาลยังไม่มาอีกเหรอจ๊ะลูก”
อังคณาเห็นสีหน้าลูกหงอยๆ ตอนเดินกลับมานั่งยังชุดรับแขกหรูหรา เลยทักด้วยใบหน้าเจือยิ้มน้อยๆ
“ยังเลยค่ะ”
“อีกตั้งห้านาทีกว่าจะถึงเวลานัด แม่ว่าแอลมากินของว่างรอก่อนแล้วกันนะ รถอาจจะติดก็ได้”
แม้จะไม่พอใจว่าที่เขยยังไง แต่อังคณาก็ฉลาดมากพอ จะไม่ทำให้ลูกคิดหนักเพิ่มไปอีก เลยพยักหน้าให้อ้วนรีบจัดของว่างมาเสิร์ฟก่อน
“รอบนี้อร่อยเหมือนเดิมมั้ยคะคุณแม่”
หญิงสาวจ้องมองข้าวตังหน้าตั้ง ที่แม่บ้านยกมาให้พร้อมกาแฟด้วยท่าทีเบื่อนิดๆ คนเป็นแม่รู้ดี แต่เลือกจะไม่ใส่ใจ
“อร่อยอยู่แล้วล่ะจ้ะ ของคุณยายเอมแม่ให้เยอะหน่อยนะ เพราะบ้านอยู่หลายคน”
อังคณาหมายถึงญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง ที่ลูกกำลังจะเอาการ์ดไปแจกและรับพรวันนี้
“เสียงรถพี่ปาลหรือเปล่าจ๊ะ”
ยังไม่ทันได้พูดจบด้วยซ้ำ ลูกสาวก็ดีดตัวขึ้นจากชุดรับแขกตรงไปชะเง้อคอมองทันที ใบหน้าสวยแต่งไว้อย่างพอดีและลงตัวหันมายิ้มให้แม่ แล้วหันไปยิ้มให้คนเดินเข้ามาในบ้าน
“สวัสดีครับคุณป้า”
ในมือก็หิ้วถุงมาด้วย
“สวัสดีจ้ะ แล้วนั่นหอบอะไรมาด้วยจ๊ะ”
“อ๋อ! กะหรี่ปั๊บครับ พอดีเด็กที่บ้านไปสระบุรี แม่เลยให้ซื้อมาเยอะ นี่ฝากคุณป้าครับ แล้วก็มีในรถให้เอาไปฝากคุณยายกับทุกคนที่จะเอาการ์ดไปให้ครับ”
“พี่ปาลมากินของว่างก่อนดีกว่าค่ะ แล้วค่อยออกไป”
มือบางสอดเข้าไปกับแขนคู่หมั้น แล้วรั้งให้ไปนั่งกับชุดรับแขก ก่อนจะพยักหน้าให้อ้วนรีบไปจัดมาเพิ่มอีก
“พี่ปาลกินของแอลก่อนก็ได้ค่ะ อร่อยนะคะ แอลกับคุณแม่เพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้เองค่ะ นี่ก็เตรียมเอาไว้ไปฝากคุณป้าด้วยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ปาลยิ้มรับน้ำใจคู่หมั้นสาวด้วยการยกชาขึ้นจิบ แล้วส่งของว่างในจานเข้าปากด้วยความหิว เพราะเช้านี้มัวแต่กินอย่างอื่นจนลืมเวลา กว่าจะคิดขึ้นได้ว่าต้องไปแจกการ์ดกับคู่หมั้นก็สายโด่งเด่ง
จนเอารถญี่ปุ่นไปส่งคนตัวเล็กไม่ทัน เลยต้องนั่งเมอร์เซเดรสมาด้วยกัน แล้วปล่อยให้ลงตรงตลาดตามคำขอ
“วันนี้คงไม่มีงานตัดหญ้าแล้วค่ะ เพราะอาทิตย์ก่อนตัดไปแล้ว เดียร์เลยจะทำหมูย่างให้แม่ ป้ามีกับลุงลีกิน เป็นการเลี้ยงขอบคุณที่คอยดูแลแม่ให้ตลอดเลย”
เขาจำใบหน้าสวยใสไม่ได้แต่งแต้มอะไรเอ่ยกับเขาก่อนลงรถ ด้วยความที่เขารู้สึกผิดไม่น้อย เพราะแย่งลูกสาวชาวบ้านมานอนกกนอนกอดแทบทุกคืน เลยอยากจะไถ่โทษด้วยการส่งเงินค่าหมูย่างไปให้
“ไม่เป็นไรค่ะ เงินที่คุณปาลโอนเข้าบัญชีเดียร์ยังไม่ได้กดมาใช้สักบาทเลยค่ะ”
“เอาไปเถอะ จะได้ไม่ต้องไปกดไง ถือว่าผมเลี้ยงก็แล้วกันนะ แล้วตอนเย็นจะไปกี่โมงก็โทรบอกนะ ผมจะให้เอกมารับตรงร้านนั้น”
เขาชี้ไปยังร้านกาแฟ ซึ่งเป็นจุดนัดหมายบ่อยครั้งเวลามารับเธอด้วยตัวเองไม่ได้
“โห! ตั้งห้าพันแน่ะ เยอะไปค่ะ”
“เอาไปเถอะ ถ้าใช้ไม่หมด คุณก็เอาไว้ซื้อของทำมื้อเย็นกินด้วยกันก็ได้ โอเคมั้ย”
“ค่ะ”
เขาจำภาพมือบางๆ ทั้งสองยกขึ้นพนมไหว้จนติดตา จากนั้นร่างเล็กๆ ก็ออกจากรถ เดินเข้าตลาดหายไปกับกลุ่มผู้คนที่มาจับจ่ายใช้สอยตามเคย แม้จะยังไม่อยากจากมาหรืออาจจะอยากเข้าไปช่วยซื้อของในตลาดด้วยสักแค่ไหน
แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีนัดกับคู่หมั้นไว้แล้ว เป็นนัดที่ไม่อาจจะเบี้ยวได้ ในเมื่อเบี้ยวมาสองครั้งติดๆ กันแล้ว
อลิยาก็ไม่เคยถามสักคำ ว่าเขาไปไหน ไปทำอะไร เจอหน้ากันทีไรก็มักจะยิ้มให้ ถามสารทุกข์สุกดิบด้วยสีหน้าและท่าทีเป็นห่วงเป็นใยยิ่ง ทำให้เขาเกรงใจ ไม่กล้าปฏิเสธอะไรถ้าไม่จำเป็น แ
ละความจำเป็นของเขาก็มักจะมาจากเรื่องงาน กับเรื่องที่ไม่อยากจากร่างเล็กๆ ทว่ามัดตัวเขาไว้ได้อยู่หมัดเท่านั้น
ระหว่างเตรียมของทำหมูย่างอยู่ในครัว ปริยกรต้องรีบไปมือถือเมื่อมันดังขึ้น ปรียากำลังช่วยลูกทำน้ำจิ้มอยู่นั้น มองออกไปยังหลังบ้านตรงลูกยืนคุยอยู่ เห็นท่าทีดีอกดีใจก็พลอยอยากรู้ไปด้วยว่ามีเรื่องอะไร เข้าใจว่าคงจะมีอะไรดีๆ ไม่งั้นลูกคงไม่ยิ้มอย่างนั้นแน่
“แม่จ๋า! เดียร์ได้งานแล้วจ้ะ แม่ดีใจกับเดียร์มั้ยจ๊ะ”
ลูกวิ่งมากอดแล้วก็หอมแก้มแม่ซ้ายทีขวาทีด้วยความดีใจ ส่วนแม่นั้นมีมากกว่าความดีใจเสียอีก เมื่อวันนี้มาถึง วันที่รอคอยมานานแสนนาน แลกกับความอดทนอดกลั้นและหยาดน้ำตา
เพื่อหวังจะส่งให้ลูกถึงฝั่งฝัน แม้จะมีหนทางอีกมากให้ต้องฝ่าฟัน แต่อย่างน้อยๆ ลูกก็ได้งานทำแล้ว ต่อไปก็คงจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้เป็นแน่
“ได้ที่ไหนล่ะลูก”