EP 8

1155 Words
“อ้อ! ถ้ายังไงพี่จะให้จี๊ดพาไปขัดเนื้อขัดตัวไว้นะ ลูกค้าพี่มีแต่ระดับๆ ทั้งนั้น จะไปพาไปเสนอแบบกากๆ กะโบโลไม่ได้หรอก ไว้ยังไงจะโทรบอกอีกที ตอนนี้ก็รอลุ้นละกันว่าจะได้ค่าเวอร์ เท่าไหร่ แต่พี่จะพยายามดันให้ได้มากสุดๆ ก็แล้วกัน” “ค่ะพี่” จี๊ดกับพิมลแขรับคำพร้อมกัน ส่วนคนถูกตราหน้าว่ากากๆ กะโปโลนั้นไม่เอ่ยอะไร แค่ยกมือไหว้พี่โมแจ้สตามคนอื่นเท่านั้น “งั้นเราไปส่งแล้วกันนะ ว่าแต่บ้านอยู่ไหนกันบ้างล่ะ” อีกครั้งที่ปริยกรไม่ได้เอ่ยอะไรกับจี๊ด ผู้ที่ตัวเองเคยคิดเหยียดหยามในใจเอาไว้ ว่าจะไม่มีทางเดินตามรอยเพื่อนต่างคณะคนนี้แน่ แต่ไม่คิดไม่ฝัน ว่าจะต้องกลืนคำพูดของตัวเอง   ประตูห้องประชุมใหญ่ถูกเปิดผางออก โดยผู้ช่วยหนุ่มอย่างเอกภพ เขาผายมือข้างที่ไม่มีแฟ้มให้อตินุช ผู้เป็นเลขานุการเดินออกมาก่อน ตามติดด้วยเจ้าของส่วนสองร้อยแปดสิบหก ในชุดสูทสีเทาลายทางเส้นสีดำเล็กๆ ผู้เป็นรองประธานบริษัท ทีวีซี อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านพลาสติกและยาง มีบริษัทลูกสิบหกบริษัท ส่งออกกว่าร้อยประเทศ ซึ่งวันนี้ทำเขาหน้าที่แทนประธานผู้พ่อ เปิดปิดการประชุม ซึ่งอยู่ในระหว่างเที่ยวต่างประเทศกับแม่ “พี่แมวครับ ผมรบกวนขอกาแฟแก่ๆ อีกสักแก้วนะครับ” ปาล ตั้งวัฒนาชัยชาญ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เพราะเหนื่อยล้าสะสมมาหลายวัน อตินุชหันกลับไปมองเจ้านาย ผู้คร่ำเคร่งกับงานแล้วก็ยิ้มให้ด้วยความเห็นใจ “ได้ค่ะ” “ผมด้วยนะคุณแมว” เอกภพหอบเอกสารเดินตามเจ้านายตรงไปยังห้อง ก็ร้องขอด้วย เพราะรู้ดีว่าต้องนั่งวางแผนงานด้วยกันไปจนค่ำมืด กว่าจะได้กลับบ้าน เจ้านายหนุ่มนั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างคนเหนื่อยอ่อน ดวงตาคู่คมกล้าปิดลงช้าๆ ในหัวก็คิดไปด้วย ว่าตั้งแต่เช้ากระทั่งตอนนี้ ทำอะไรมาบ้าง ทำไมถึงได้หมดเรี่ยวแรงขนาดนี้ ก็พบว่าตัวเองนั้น บินจากฝรั่งเศสถึงตอนเช้า ก็ไม่ได้กลับบ้าน ตรงไปคอนโดอาบน้ำแต่งตัวทำงานต่อ ประชุมอันยาวนานกับการรับรองลูกค้าวีไอพีแทนพ่อ แล้วต่อด้วยประชุมรอบบ่ายอีก “กาแฟได้แล้วค่ะสองหนุ่ม” อตินุชมักจะแซวแบบนี้เสมอมา แม้เอกภพจะอายุเยอะกว่าถึงสามปี ส่วนเจ้านายนั้นอ่อนกว่าตัวเองถึงสิบปี แต่ก็รักทั้งสองเสมือนญาติสนิท เพราะทำงานร่วมกันมานานแล้ว “แมวมีท๊อฟฟี่เค้กให้คนละสองชิ้นด้วยนะคะ จะได้มีแรงทำงานต่อค่ะ” เสียงเลขาเอ่ยแผ่วเบา “โอ้ว! ขอบคุณครับคุณเลขาคนสวย” เอกภพส่งเสียงใสไปหา ส่วนเจ้านายนั้นยังคงนั่งปิดเปลือกตานิ่งๆ อยู่แค่นั้น ทำให้เลขาเดาได้ว่าคงอยากพัก เลยรีบเดินถือถาดเปล่าไปหาประตู “เย็นนี้ผมมีนัดที่ไหนบ้างครับ” แต่ก็ต้องหันกลับมา เมื่อเจ้านายยังคงนั่งปิดเปลือกตาอยู่นิ่งๆ ถามขึ้นก่อน อตินุชยิ้มอย่างเอ็นดูระคนเห็นใจให้ก่อนตอบ “ไม่มีแล้วค่ะ นอกจากไปกินข้าวกับคุณแอลลี่ที่บ้านตอนสองทุ่มค่ะ” “ฮื๊อ!!!” คนเป็นเจ้านายส่งเสียงยานๆ ออกมาแค่นั้น คนเป็นเลขาก็เดาได้แล้ว ว่าเหนื่อยและไม่ประสงค์จะคุยอะไรต่ออีก เลยรีบออกจากห้อง ส่วนสองหนุ่มก็ขลุกกันอยู่ในห้องเป็นนาน กว่าจะออกมากันทั้งสองคน “ทุ่มหนึ่งแล้วนะคะคุณปาล เดี๋ยวไปไม่ทันนัดคุณแอลลี่หรอกค่ะ ถ้างอนมา แมวไม่หาช่อดอกไม้ไว้ให้ไปง้อนะคะ” อตินุชแซวน้อยๆ แล้วเดินไปเปิดประตูห้องเจ้านาย เพราะจะเก็บกวาดให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้าน ซึ่งมักจะทำประจำอยู่แล้ว “ครับ” ปาลยิ้มเหนื่อยๆ แล้วพยักหน้าให้ผู้ช่วยเป็นการขอบคุณ ที่มักจะอยู่ทำงานด้วยค่ำมืด ก่อนจะเดินไปหาลิฟต์กดลงไปชั้นล่าง มีอำนวย ผู้เป็นคนรถคู่กายขับซีตรอง ซีหก สีดำมันปลาบมารอรับตรงหน้าประตูตึกทันที เพราะตารางงานของเจ้านายจากเลขาทุกวันว่าจะไปไหน เวลาเท่าไหร่แล้ว   จากตอนแรก จี๊ดรับปากกับแจ้ส ว่าจะขับรถมาส่งสองสาวจนถึงบ้าน แต่เอาเข้าจริงๆ ก็บอกว่ามีธุระด่วน ปริยกรกับพิมลแขเลยต้องลงกลางทาง แล้วต่างแยกย้ายนั่งรถเมล์กลับแทน มาถึงปากซอย ปริยกรก็ยืนหันรีหันขวาง เพราะยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะซื้อมื้อเย็นสำหรับตัวเองกับแม่ร้านไหนดี สุดท้ายก็ได้ข้าวต้มปลาคนละถุง แบงค์ร้อยในกระเป๋า ซึ่งเป็นใบสุดท้ายก็ต้องจ่ายไป ยังรู้สึกอุ่นใจอยู่บ้างที่ได้ห้าพันจากพ่อมา แม้จะไม่ใช่จำนวนที่ต้องการ แต่อย่างน้อยๆ ก็ต่อชีวิตตัวเองกับแม่ได้ไปอีกหลายวัน ส่วนค่าเทอมนั้น ความหวังทั้งหมดอยู่ที่พี่โมแจ้สเพียงคนเดียว ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ‘แล้วเธอก็จะเสียสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตไปด้วยนะ’ ในใจนั้นระลึกถึงจุดนี้อยู่เสมอมา แต่ก็หมดปัญญาจะแก้ไขอะไร หรือหันหน้าไปพึ่งพาใครได้อีกแล้ว ในเมื่อพ่อแท้ๆ ที่มีเงินมากมายไว้เลี้ยงลูกเมียหลวงให้กินอยู่อย่างสุขสบาย มีรถดีๆ ขับ ได้ไปร่ำเรียนเมืองนอกเมืองนากันทุกคนไม่คิดจะสนใจลูกเมียน้อยคนนี้ “เดียร์! อย่าคิดมากเลยนะ เราเสียสาวให้แฟนตั้งแต่เรียน ม. ต้นให้มันฟรีๆ แถมยังต้องจ่ายค่าหมูย่างเกาหลีกับค่าโรงแรมเองอีก ครั้งต่อไปเราก็ต้องนอนกับมันฟรีๆ แล้วต้องจ่ายค่าข้าวให้มันด้วย เราก็ยังยอมเพราะรัก สุดท้ายมันก็เลิกกับเราไปหาคนอื่น ส่วนแฟนคนที่สอง ก็ได้เราฟรีๆ และเราก็ต้องจ่ายค่าข้าว ค่าโรงแรมให้มันอีก นั่นก็เพราะรักมันและสุดท้ายมันก็ทิ้งเราไปเหมือนกัน” “แล้วไหนจะมาไอ้แฟนคนที่สามอีก มันนอนเอาเราตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสาม มันไม่เคยรับผิดชอบอะไรเลย มิหนำซ้ำยังมาขอเจียดเงินเราไปจ่ายค่าเทอมอีก สุดท้ายมันก็ทิ้งเราไปอีก เห็นไอ้พวกบ้านี้ กับพ่อห่วยๆ ของเราแล้ว บอกตรงๆ นะเดียร์ ว่าเราไม่คิดจะสนใจจะเก็บความสาวไว้ให้ผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้นแล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD