เขาหันมายิ้มให้ ระหว่างรอข้าวน้ำพริกกะปิอยู่ ปริยกรยิ้มบางๆ แล้วเดินไปยังร้านน้ำปั่น สั่งให้ตัวเองแก้วหนึ่ง แล้วหันไปหาเขาเป็นเชิงถาม
“น้ำแตงโมกับน้ำเปล่าก็ได้”
เขาบอก แล้วเดินไปสั่งเกาเหลาร้านข้างๆ รอ ไม่กี่นาทีทั้งสองก็เดินไปนั่งโต๊ะไกลจากผู้คนมาก ปริยกรยังคงมองเขากินอย่างรวดเร็ว แสดงว่าหิวอย่างที่บอกไว้จริงๆ ของทุกอย่างตรงหน้า ถูกจัดการเรียบภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที จนอดทึ่งไม่ได้ ด้วยหุ่นอย่างเขา ไม่น่าจะกินเยอะได้ขนาดนี้
“ไปซื้อของกัน แล้วจะได้รีบกลับ ผมเหนื่อย! อยากมีคนนวดจะแย่แล้ว”
มือบางถูกจูงออกจากฟู๊ดคอรสอย่างรวดเร็ว
“คุณปาลจะซื้ออะไรคะ”
“ผมไม่! แต่คุณน่ะต้อง”
อีกครั้งที่หญิงสาวต้องทำตาปริบๆ ด้วยไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะต้องซื้อหาอะไร ในเมื่อมีหมดแล้ว ยิ่งเขาเดินเข็นรถไปยังแผนกเสื้อผ้าสตรีแล้วก็ยิ่งงง
“คุณต้องมีเสื้อผ้าทิ้งไว้คอนโดผมบ้าง เพราะต้องได้มาใช้บ่อยๆ อยู่แล้ว”
พอเขาเอ่ยออกมาก็ค่อยถึงบางอ้อ ตั้งใจจะเดินไปเลือกสีและแบบที่อยากได้ แต่กลับเห็นเขาหันมามองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แล้วตรงไปยังราวเสื้อผ้า คว้ามาใส่รถเข็นแบบไม่ต้องคิดนาน
เวลาไม่ถึงยี่สิบนาที ก็มีสารพัดชุดกองอยู่ในนั้นแล้ว แผนกต่อไปก็คือของใช้ประจำตัว รวมทั้งชุดชั้นในเขาก็คว้ามาให้แบบไม่ต้องถามไซท์ด้วยซ้ำ
“คุณใช้แบบไหนล่ะ นี่มั้ย!”
ในมือเขาคือกระปุกครีมบำรุง มีพนักงานสาวสวยยืนยิ้มและพร้อมจะให้คำแนะนำอยู่แล้ว ส่วนปริยกรนั้นยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรด้วยซ้ำ เขาก็หันไปหาพนักงานทันที
“ช่วยจัดไนท์ครีม เดย์ครีม ครีมกันแดด แล้วก็ครีมอะไรก็ได้ที่จำเป็นต้องใช้มาเลยครับ”
“ได้ค่ะ ไม่ทราบน้องผิวอะไรคะ มันหรือว่าแห้งหรือ...”
ปริยกรใช้เวลาตอบคำถามพนักงานขายไม่กี่นาที ก็มีสารพัดกระปุกอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
ราวชั่วโมง หลังออกจากห้างสรรพสินค้า รถของเขาก็มาจอดที่คอนโดหรูหราเรียบร้อยแล้ว เขาเหมาถุงทุกใบไปหิ้วไว้เอง แล้วเดินนำไปยังลิฟต์หน้าตาเฉย ทว่าปริยกรนั้นกลับทำหน้าไม่ถูก เมื่อมีสายตาผู้คนมองตามแทบทุกคู่ ไม่ต่างจากครั้งแรกที่มาเลยด้วยซ้ำ
ถึงห้องเขาก็เอาของไปวางไว้บนเตียงให้ แล้วหันมาทำท่าจะพูดอะไร แต่มือถือในกระเป๋าของเขาดังขึ้นก่อน เขามองหน้าจอก่อนจะกดรับ ปริยกรไม่รู้จะทำอะไรได้แต่ยืนอยู่ใกล้ๆ เตียง
แต่เขาก็หันมาหาแล้วทำปากพะงาบๆ มือชี้ไปทางห้องน้ำ นั่นทำให้เดาได้ว่าเขาสั่งให้ไปอาบน้ำ
หญิงสาวคิดว่าก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องอยู่ในห้องกับเขาให้อึดอัดใจเปล่าๆ เลยเปิดถุงบนเตียง ได้ชุดนอนกับชุดชั้นในที่ยังไม่ได้ซักมาถือไว้ ส่วนผ้าเช็ดตัวกับของใช้อื่นในห้องน้ำมีไว้หมดแล้ว
เมื่อหูแว่วเสียงเขาคุยโทรศัพท์อยู่ ทำให้รู้ว่าคงจะอีกนาน เลยถือโอกาสอาบน้ำนานไปด้วย เพราะเหนื่อยกับการดูตำรับตำรามาหลายวัน
ในหัวก็ถามตัวเองไปด้วย ว่ามายืนอยู่จุดนี้ได้ยังไง จุดที่ต้องขายเรือนร่างแลกกับค่าเทอมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ พร้อมกับถามต่อไปอีกว่า จุดจบระหว่างตัวเองกับเขา จะไปอยู่ตรงไหน
แต่ก็แทบไม่ต้องคิดนาน ก็เห็นอยู่แล้วว่า ระหว่างกัน มีความแตกต่างราวฟ้าดิน ไม่มีทางจะมาบรรจบพบเจอกันได้
ผู้ชายอย่างเขา หน้าตาหล่อเหลา ฐานะร่ำรวย เรียกว่าหล่อเลือกได้ขนาดนี้ ไหนเลยจะมาสนลูกคนใช้อย่างเธอ แล้วไหนจะยังขายศักดิ์ศรีด้วยการเป็นสาวไซด์ไลน์อีก
คงไม่มีใครบ้ามากพอ จะยกย่องมาเป็นภรรยาไว้เชิดหน้าชูตาแน่ ยิ่งเขามีคุณแอลลี่เป็นคู่หมั้นด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ใหญ่
พอคิดถึงคนบ้านใหญ่ขึ้นมา ปริยกรถึงกับหมดอารมณ์สุนทรีย์ในการอาบน้ำทันควัน เลยรีบเช็ดเนื้อตัวแล้วคว้าชุดนอนผ้าซาตินสีชมพูมาใส่ ออกไปจากห้องน้ำ มือก็ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเพิ่งสระไปด้วย แล้วก็ยังคงเห็นเขาคุยไม่เลิก เลยเดินไปหิ้วถุงสารพัดกระปุกไว้วางไว้หน้าตู้เครื่องแป้ง
นี่ถือเป็นครั้งแรกก็ว่าได้ ที่คนอย่างปริยกรจะใช้เครื่องประทินผิวแบบครบชุดและราคาแสนแพง ที่ผ่านมาก็มีเพียงทาโลชั่น กับครีมบำรุงผิวหน้า ราคาไม่เกินสองร้อยบาท และใช้ได้นานหลายเดือน เห็นคิ้วตัวเองที่ถูกแจ้สกันให้ครั้งก่อนกำลังขึ้นหรอมแหรม ทำให้คิดถึงคำเตือนขึ้นมาได้
“เดียร์เป็นคนสวยนะ ถ้าผู้ชายอย่างคุณปาลสนใจจนขนาดต้องผูกปินโตแบบนี้ เดียร์ก็ไม่น้อยหน้าใครหรอก เจ้อยากจะบอกว่า ให้ดูแลรักษารูปร่างหน้าตาสวยๆ แบบนี้เอาไว้ให้อยู่กับตัวเองนานๆ ท่องไว้ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ต่อให้สวยยังไง ถ้าไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้าง ก็ไม่รอดหรอกนะ จำคำเจ้เอาไว้นะเดียร์...”
“อุ๊ย!”
ความคิดล่องลอยมีอันต้องหดหาย เมื่อสองแขนแข็งแรงของเขา สอดเข้ามาตรงเอวคอดอย่างรวดเร็ว ลำคอกลมกลึงก็ถูกเขาจูบไล้อย่างแผ่วเบา หญิงสาวจ้องมองเขาผ่านกระจกด้วยหัวใจสะท้านหวานไหว ในสัมผัสของผู้ชำนาญการ รู้ว่าจุดไหนจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกยังไง
“พร้อมจะนวดให้ผมหรือยัง”
คนถูกถามยังไม่ทันจะได้ตอบด้วยซ้ำ ก็ถูกช้อนตัวขึ้นอย่างง่ายดาย ไม่กี่อึดใจแผ่นหลังบาง ก็ทาบลงไปกับที่นอนนุ่มเรียบร้อยแล้ว มีเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาตามลงไปติดๆ จมูกโด่งกดลงไปกับพวงแก้มนุ่มอย่างแผ่วเบา
“คุณจะให้นวดตรงไหนก่อนคะ”
คนพร้อมจะทำหน้าที่แย้งน้อยๆ และด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ส่วนคนบ่นปวดเมื่อยนั้น จ้องมองใบหน้าสวยด้วยแววมีประกายหิวโหยฉายออกมา เขาก้มลงไปกระซิบแผ่วเบาตรงข้างหู
“ตอนนี้ขอนาบก่อนดีกว่า ไว้ค่อยนวดทีหลัง”
ดวงตาคู่สุกใสจ้องมองคนกระซิบบอกด้วยท่าทีเอียงอาย ในใจนั้นก็ยอมรับแบบไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เลยว่า ตอนเขายิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ แบบนี้ ช่างส่งให้หล่อเหลา จนแทบทำให้ลืมความทุกข์โศรกในชีวิตเลยก็ว่าได้