“เริ่มต้นใหม่ มองหาอะไรใหม่ ๆ ทำบ้าง เลิกส่องดาวเหนือในโซเชียล ดาวเหนือไม่มีวันกลับมา ไอ้ไฟไม่มีทางปล่อยดาวเหนือหลุดมืออีก ยิ่งตอนนี้ทั้งสองมีลูกด้วยกันพวกเขาไม่มีวันเลิกกัน มึงยอมรับความจริงได้แล้ว”
“กูรู้” รู้ รู้ตลอด แต่เพื่อนพูดปากจะฉีกก็ไม่เคยทำตาม กี่ปีมาแล้วที่ไอ้ลมมันรักแค่ดาวเหนือคนเดียว เผลอไม่ได้เป็นต้องคิดถึงตลอด บางวันนั่งดูคลิปที่เคยถ่ายกับดาวเหนืออยู่ครึ่งค่อนวัน
ถ้ามีคนมาทำให้ไอ้ลมลทมดาวเหนือได้ก็คงจะดี ตอนนี้ดาวเหนือเดินห่างไปไกล แต่ไอ้ลมยังเดินวนอยู่ในความทรงจำเดิม ๆ ไม่ยอมไปไหน
“มึงรู้มึงก็ควรเดินหน้าต่อ โลกนี้ไม่ได้มีแค่ดาวเหนือที่ทำให้มึงความสุข”
“...”
“ไปเลี้ยงรุ่นกัน อย่างน้อยก็เปิดหูเปิดตาหน่อย มึงไม่ได้ก้าวขาออกจากสวนนานแล้ว”
“...ดูก่อน”
“จะดูห่าเหวอะไรอีก ไม่ต้องดูอะไรแล้ว”
“เผื่อมีงาน”
“อย่ามาอ้าง ถ้าอ้างงานงานมึงมีเต็มไปหมด มึงหยิบจับอะไรก็อ้างงานทั้งนั้น”
“...เออ ไปก็ไป” ตอบตกลงเพราะขี้เกียจจะฟังไอ้ทีมันพูด มันพูดมาหลายชั่วโมงแล้ว เซ้าซี้ไม่เลิก เบื่อจะฟัง ก็แค่ไปเลี้ยงรุ่น ไปแค่แป๊บ ๆ ค่อยแอบกลับ เลี้ยงรุ่นอะไรกัน ไม่คิดว่ามันจะสนุกหรอกน่า
หนึ่งเดือนต่อมา ณ งานเลี้ยงรุ่น
งานเลี้ยงรุ่นมันก็เท่านั้น แค่กลุ่มเพื่อนนัดสังสรรค์ พูดคุยเรื่องชีวิต ไม่พ้นซุบซิบนินทาสายลมที่เคยตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อหลายปีก่อน สายลมปลีกตัวออกมานั่งมองท้องฟ้านอกร้านเพียงลำพัง เขาเหนื่อยจะตอบคำถามที่เพื่อนสมัยเรียนชอบเข้ามาถาม ‘เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง’
ดูจากสีหน้าไม่รู้หรือไงว่ากูยังไม่โอเค จะถามให้ใจกูช้ำเพื่ออะไร ไม่รู้จะทักอะไรก็แค่พูดสวัสดีแล้วหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาชนก็สิ้นเรื่อง จำเป็นอะไรต้องอยากรู้ว่าใจกูยังไหวไหม
“เบื่อเหรอ” เสียงหวานดังมาจากทางด้านหลัง ไม่จำเป็นต้องหันไปมองเพราะเสียงรองเท้าเจ้าของคำถามกำลังเดินมาทางเขา เธอนั่งลงตรงที่ว่างข้างเขา โน้มเอียงตัวเพื่อสบตากับเขาจากนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ย “จำเราได้ไหม”
“ไม่” สายลมปรายตามองเพียงนิดก็แหงนหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้าเหมือนเคย
ทว่าไม่ทันได้เห็นท้องฟ้า ตอนนี้เขาเห็นเพียงหญิงสาวที่มีใบหน้าสะสวย เธอขยับเข้ามาใกล้ตัวเขามาก ๆ เพื่อให้เขามองแค่เธอ ไม่ต้องสนใจท้องฟ้า ใบหน้าสวยผลิยิ้มแล้วเอ่ย “เราฟ้า ฟ้าประทาน”
จำไม่ได้ก็แนะนำตัวเองก็ได้ เดี๋ยวก็นึกออกเอง
“อืม” สายลมขยับตัวหนี แล้วจำเป็นต้องรู้เหรอ เขาที่มีช่วงผ่านผู้หญิงมาเยอะมาก จำไม่ได้เว้ยว่าใครเป็นใครหน้าตายังไงชื่อว่าอะไร
ฟ้าประทานกลับมานั่งข้างสายลมแล้วก็พูด “สายลมจำสัญญาของเราได้ไหม”
“เรารู้จักกันขนาดต้องสัญญาเลย?” สายลมหันมองคนข้าง ๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากแล้วเลิกสนใจเธอ คำสัญญาของเขาเขาแทบจะนับครั้งได้ว่าเคยให้ใครไว้บ้าง
“ถ้า 30 แล้วเราต่างยังไม่แต่งงาน เราสองคนมาแต่งงานกันนะสายลม” ฟ้าประทานเอ่ยถึงคำสัญญาเมื่อ 17 ปีก่อน
สายลมค่อย ๆ หันกลับมามองเธออีกครั้งครั้งนี้ตั้งใจมองอย่างถี่ถ้วน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาเคยได้ยินคำขอที่พิลึกแบบนี้ แล้วเขาในวัยเด็กก็ดันตอบตกลง “ยัยขี้นก”
“ใช่สิ คิดว่าเราเป็นใครล่ะ ก็บอกแล้วว่าชื่อฟ้า ฟ้าประทาน” มันน่าไหม ไอ้เราก็คิดว่าจำกันได้ แหม แล้วฉายาเนี่ยจำได้แม่นเลยนะ ขี้นกตกใส่หัวครั้งเดียวโดนล้อไปสิบชาติเลยมั้ง
“โทษที นึกว่าคนอื่น”
“เข้าใจ สาวเยอะก็งี้แหละ” ใบหน้าสวยส่งยิ้มหวาน เธอพูดหยอกล้อไม่ได้ใส่ใจอะไร
“แล้วเป็นยังไงบ้าง หายหน้าไปเลย”
“จบ ม.ต้น พ่อแม่เราก็ย้ายไปอยู่กับย่าทางใต้อะ เรียนที่นั่น ใช้ชีวิตที่นั่น”
“ไม่ได้กลับมาเหรอ”
“กลับมาสิ นี่ไงเรากลับมาเลี้ยงรุ่น” ทุกครั้งที่เธอตอบคำถามใบหน้าของเธอจะมีแต่รอยยิ้ม
“หมายถึงก่อนหน้านี้” ขณะที่ใบหน้าเขาไร้ความรู้สึก
“ไม่อะ ไม่มีความจำเป็นต้องมา”
“ทำไมปีนี้มา”
“มาหาสายลมไง”
“บ้า มาหาทำไม”
“เราส่องโซเชียลสายลม…”
“…”
“เรารู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับสายลมแล้ว”
“แล้วทำไม สงสารเหรอ” หึ ชีวิตไอ้ลมนี่มันน่าสงสารน่าสมเพชจริง ๆ
“เปล่า”
“งั้นอะไร”
ก่อนจะตอบคำถามของสายลมฟ้าประทานยกแก้วกระดกดื่มเหล้าที่ถือติดมือมา ดื่มเพื่อเรียกความกล้า เคยได้ยินคำโบราณว่าด้านได้อายอด ต้องด้านเข้าไว้ยัยฟ้า “เรามาเพื่อทวงคำสัญญา มาแต่งงานกันเถอะสายลม”
“…” เมื่อก่อนยัยนี่น่ะบ้า ไม่คิดว่าวันเวลาผ่านมาเกือบ 20 ปีก็ยังบ้าเท่าเดิม บางทีอาจจะบ้ายิ่งกว่าเดิม