เสี่ยวทั้ง 16 คนแซ่หลี่อีก 2 แซ่มู่อีก 3 กลายเป็นชุมชนขนาดย่อม นั่งพูดคุยกันอยู่อีกพักใหญ่ พร้อมกับช่วยกันทำอาหารมื้อพิเศษที่ได้เครื่องปรุงและผักแปลกตามาเพิ่มเติม รวมทั้งเสี่ยวหลงยังซื้อน้ำตาลปั้นก้อนเล็กๆ มาให้เด็กทั้ง 14 คนได้กินกันอีกคนละชิ้น ทำให้อาหารมื้อเย็นเต็มไปด้วยความอบอุ่น สามเสี่ยวที่เพิ่งกลับมาเห็นชีวิตของน้องรุ่นหลัง มีไข่ มีผัก มีเสื้อผ้าและถุงเท้าสวมใส่ พวกเขาถึงกับร่ำไห้กล่าวขอบคุณสามพี่น้องสกุลมู่ รวมทั้งสองปู่หลานสกุลหลี่กันซ้ำแล้วซ้ำอีก เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดของแต่ละคนที่ต้องมาอยู่ที่อารามดับทุกข์ด้วยกันแม้คนทั้งห้าจะลำบากไม่น้อยแต่กลับมีน้ำใจคิดดูแลน้องๆ ที่น่าสงสารเหล่านี้ รวมทั้งตัวพวกเขาเองด้วย รุ่งเช้าวันต่อมาท่านปู่หลี่ที่มักจะตื่นขึ้นมาเป็นคนแรกในยามเหม่า (05.00-06.59) ก็ต้องมานั่งตัวแข็งเป็นรูปสลักอยู่ในโรงครัว สองพี่น้องฝาแฝดเสี่ยวไช่และเสี่ยวหยูจัดการเร